ถึงห้อง มนต์มีนาก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำโผไปที่อ่างล้างหน้า วักน้ำขึ้นลูบสองแก้ม แต่ความผ่าวร้อนที่ใบหน้ากลับไม่จางหายใต้แสงไฟสีนวล แก้มทั้งสองกลายเป็นสีระเรื่อเพราะพิษคำพูดของเขา ผ่านมาหลายวัน หากแต่ทุกถ้อยคำและการกระทำของพิชยะในวันนั้นกลับยังก้องอยู่ในความรู้สึก ไม่อาจสลัดออกได้แม้วินาทีเดียว “เป็นอะไรหรือเปล่ามีน ช่วงนี้ใจลอยบ่อยนะ” เสียงของพิชชาทำให้มนต์มีนาหลุดออกจากภวังค์ “เปล่า เรากำลังคิดอยู่ว่าจะไปฝึกงานที่ไหน” “แล้วบริษัทที่คิณแนะนำล่ะ” อคิณมีญาติเป็นเจ้าของบริษัทออกแบบมีชื่อเสียงพอสมควร เลยชักชวนให้มนต์มีนาไปฝึกงานที่นั่น จากที่อคิณเล่า บริษัทของญาติผู้นี้เน้นเปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกงานได้แสดงความสามารถ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอต้องการ และทางนั้นก็ยินดีต้อนรับเด็กนักศึกษา “ก็กำลังคิดอยู่” สีหน้าของหญิงสาวไม่สู้ดีนักเมื่อพูดถึงเรื่องฝึกงาน “คิดอะไรอีก ดีจะตาย ไม่ต้องเหนื่อยหาที่ฝึกงา