“กติกามีอยู่ว่า…ถ้าเป็นผู้ชายจับได้กระดาษใบนี้ต้องจูบกับยัยฟินน์ต่อหน้าทุกคน แต่ถ้าเป็นผู้หญิงจับได้…ต้องไปจูบพี่ชายของยัยฟินน์ที่นั่งอยู่ตรงโน้น”
ทุกคนต่างพากันอึ้งหลังจากได้ฟังกติกาพิเรนทร์ ๆ ที่หนึ่งในพวกเขาเป็นคนคิดขึ้นมา ก่อนจะหันไปมองแขกรับเชิญพิเศษของกติกา ลุ้นว่าเจ้าตัวจะยอมมาร่วมสนุกด้วยหรือจะลุกขึ้นมาอบรมพวกตน
เพราะตามกติกานั่นแปลว่า มนต์มีนาจะต้องเข้าไปจูบพิชยะต่อหน้าของทุกคน
“ใครคิดกติกานี้วะ” หลังจากตรวจสอบข้อความในกระดาษแล้วพิชชาก็จ้องหน้าทีละคน ไม่เห็นด้วยที่พวกเพื่อนดึงคนอื่นเข้ามาเอี่ยวโดยไม่ยอมบอกตนหรือขออนุญาตพิชยะก่อน แต่ก็ไม่มีใครรับสารภาพ
“ถ้ามีนไม่อยากทำก็จับใหม่ได้นะ” พิชชาพูดขึ้น
“เฮ้ย! ได้ไง กติกาเป็นกติกาดิวะ” หนุ่มนักศึกษาคนหนึ่งแย้งขึ้นกลางวงก่อนจะรีบชูสามนิ้วเมื่อถูกเจ้าของวันเกิดเล็งสายตามาที่ตนเอง
“กูเปล่านะเว้ยฟินน์กูไม่ได้เป็นคนคิดกติกานี้นะเว้ย จะให้กูไปสาบานวัดไหนหรือสาบานต่อหน้าศาลพระภูมิบ้านมึงตอนนี้เลยก็ได้”
“มึงก็อย่าซีเรียสสิวะฟินน์ พี่มึงยังไม่เห็นจะว่าอะไรเลย เอางี้งั้นก็จับใหม่ แต่ตามกติกาคนที่ถูกจับชื่อขึ้นมาแล้วไม่ทำตามรอบหน้าก็เล่นไม่ได้แล้วนะ เอาไงมีน”
นั่นสิ เอาไงดี
ร่างบางยื่นนิ่งขณะกำลังใช้ความคิดอย่างหนักหน่วง สงสัยเจ้าที่ท่านคงจะนอนหลับแล้วเลยไม่ได้ยินคำอธิษฐานของเธอ
หรือไม่เธอก็อาจจะพูดยาวและเร็วจนเกินไปตายายในศาลพระภูมิเลยฟังไม่ได้ศัพท์ มือเธอเลยจับไปโดนกติกาบ้า ๆ นี้
จะทำอย่างไรดีในเมื่อเธอยังจำความรู้สึกในตอนนั้นได้ไม่ลืม หัวใจที่มันเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาข้างนอก แววตาลุ่มลึกของพิชยะในตอนนั้น สายตาที่สร้างความสับสนให้หัวใจของเธอว้าวุ่นจนยากจะสงบลงได้
ตอนที่เธอเห็นพิชยะเข้าไปพูดคุยอย่างสนิทสนมกับเพื่อน ๆ ของเธอ โดยที่ฐานะทางบ้านของแต่ละคนดีกว่าเธอหลายร้อยเท่า
กับเธอเขาไม่แม้จะเข้ามาทักทาย ทำราวกับคนแปลกหน้ากัน
แม้ว่ามนต์มีนาจะยังไม่ได้คำตอบว่าระหว่างพิชยะกับรสสราเลิกรากันไปหรือยัง แต่เธอก็พอจะได้คำตอบหนึ่ง…
เขาไม่ได้ชอบเธอ ทั้งหมดก็เป็นแค่หมาหยอกไก่
แต่จะทำยังไงได้…ในเมื่อเธอจำเป็นต้องใช้เงิน เงินตั้งสองหมื่นห้าใช่จะหามาได้ง่าย ๆ ซื้อล็อตเตอรีก็เฉียดหน้าเฉียดหลังมันทุกงวด
“ว่าไงมีน พวกเรารอคำตอบอยู่นะ” คนหนึ่งกดดันเธอขึ้น แต่ทุกคนก็กำลังรอเธออยู่จริง ๆ เพราะถ้าเธอไม่ยอมรับกติกาก็จะได้จับกันใหม่
“นั่นสิ ทำไม่ได้ก็แค่สละสิทธิ์แต่กติกานี้ต้องหย่อนกลับลงไปในกล่องเหมือนเดิมนะเว้ย” สาวนักศึกษาอีกคนออกความเห็น หล่อ ๆ แบบนั้นแม่จะจับจูบให้ปากบวมไปเลย
“ตกลง เรารับคำท้า”
“หา! แน่ใจเหรอมีน” พิชชาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเพื่อน ต่อให้จะเป็นแค่เกม ๆ หนึ่งก็เถอะ ซึ่งหมอธนาก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
หนอย…ไอ้ฟัน นั่งนิ่งเป็นปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหมเลยนะมึง
“นั่นน่ะสิ ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เห็นต้องทำเลยนี่” นาทีนี้คงไม่มีใครจะใจร้อนไปกว่าหมอธนารวมถึงนักศึกษาหนุ่มอีกคนก็ร้อนใจไม่ต่างกัน
“สละสิทธิ์เถอะมีน อย่าเล่นกติกาบ้าๆ นี่เลยคนมันก็ชอบสนุกไปเรื่อย” เขาคนนี้ชื่อ อคิณ เรียนวิศวะ รู้จักกับพิชชาตอนรับน้องปีหนึ่งหลังจากนั้นก็สนิทกันเรื่อยมาจึงถูกเชิญให้มาร่วมงานด้วย
อคิณเป็นผู้ชายตัวสูง ใบหน้าคมคิ้วเข้ม เป็นที่รู้จักและหมายปองของสาว ๆ ในมหาฯลัยแต่ก็ไม่เคยคบใครจริงจัง
จนเมื่อสองเดือนก่อนหน้านี้อคิณได้ขอให้พิชชาเป็นแม่สื่อในการช่วยเขาจีบมนต์มีนา และสัปดาห์ที่แล้วหนุ่มวิศวะก็เพิ่งจะสารภาพความรู้สึกแล้วขอมนต์มีนาเป็นแฟนต่อหน้าเพื่อน ๆ ในคณะ และตอนนี้อคิณก็ยังรอฟังคำตอบอยู่
ทุกคู่สายตาจับจ้องมาที่มนต์มีนา บางคนอยากให้มนต์มีนาสละสิทธิ์ แต่บางคนก็เข้ามาเชียร์ให้มนต์มีนาทำตามกติกาด้วยความคึกคะนอง
สาวนักศึกษาบุกจูบหนุ่มหล่อที่เป็นถึงคุณหมอ น่าอัดคลิปไว้จะตายไป
“เฮียโอเคไหมอ่ะ” พอถูกเพื่อนกดดันเข้า พิชชาก็ตะโกนไปถามความสมัครใจของพี่ตัวเอง ในใจอธิษฐานต่อพระภูมิเจ้าที่ ดลใจให้พิชยะตอบปฏิเสธ
ทว่าตอนนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านกิจธาดาวงศ์น่าจะเข้านอนหมดแล้วอย่างที่มนต์มีนาตัดพ้อไปก่อนหน้า พิชยะถึงได้นึกสนุกอย่างเล่นเกมนี้ด้วย
“เห็นแก่ที่วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวสุดที่รัก จะยอมเสียเวลาสักวันก็ได้” ใบหน้ายังคงเรียบเฉย ดวงตาคมคายปราศจากความเจ้าเล่ห์แสนกล ทั้งที่จริงแล้วพิชยะแทบจะรอจุมพิตจากมนต์มีนาไม่ไหว
อยากรู้ว่ารสจูบของเธอจะพัฒนาขึ้นจากคราวที่แล้วไหม