สิบสี่วันจากนั้นมาทุกอย่างในไตรภิรมย์ก็เริ่มค่อยๆมีลูกค้ามามาพักเป็นประจำมิขาด แขกที่ไม่เคยพบก็ได้พบสำหรับไตรภิรมย์ อย่างไรก็ดีกวงก็หนักใจอยู่เรื่องหนึ่งนั้นคือนายชาติคนนี้ ตั้งแต่เขาสังเกตการณ์พฤติกรรมของมนุษย์เพศชายผู้นี้ก็สังเกตได้ว่าเขาทำตัวลับๆล่อๆ คอยส่งจดหมายไปให้คนนู้นเดี๋ยวให้จดหมายให้คนนี้ วันดีคืนดีดั่งเช่นวันนี้ บ่ายของวันนี้ดูช่างครึกครื้นมาก เพราะไม่ได้มีแค่แขกชาวญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะยังมีแขกชาวเยอรมันมาร่วมแจมด้วย ชาวเยอรมันผู้นี้มาโรงแรมเมื่อเช้านี้ เขานั้นเดินทางมาจากพม่า มาที่ฐานสร้างเครื่องบินเพราะอยากจะยลโฉมเครื่องบินพลังไฟฟ้า ใช้พลังงานจากไฟฟ้า ชื่อJC-192 อย่างไรก็ดีกวงที่กำลังคิดถึงเรื่องของชาติจึงเหม่อลอยจนผู้เป็นเมียต้องบิดเนื้อจนรู้สึกตัว
" โอ๊ย! "
" ไอ้แป๊ะ! ลื้อเหม่ออะไรวะ"
กวงที่จึงกล่าวแก่เมียของตนด้วยความรู้สึกที่สังเกตนายชาติต่อภรรเมียของตน
"ช่วงสองทาทิตย์ที่ผ่านมา คุณชาติเขาหมกตัวอยู่แต่ในห้อง นานๆทีถึงจะออกมากินข้าวที่ห้องอาหาร อั๊วว่าเขาต้องมีพฤติการณ์แอบแฝงอะไรแน่เลยวะยายซิ้ม"
นางกำเล๋งที่ฟังคำพูดของผัวก็ทำหน้าขมวดคิ้วย่นจนเห็นริ้วรอยบนใบหน้า เธอไม่เข้าใจว่าทำไมสามีของเธอถึงพูดเช่นนั้น ตอนนั้นเอง ชาติก็เดินออกมาจากห้องพัก เขาเดินมาที่โต๊ะเตรียมเครื่องดื่มแล้วสั่งเครื่องดื่มกับกวงว่า
" ขอตองเอสหนึ่งแก้ว "
ตองเอส คือเหล้าที่ผสมอย่างหละเท่ากัน คือนารีแดง เบียร์ดำ และเหล้าขาว เหล้าตองเอสนี้คือเหล้าผสมที่ปรากฏแค่ร้านนี้เท่านั้น มันถูกเขียนขึ้นด้วยฝีมือการชงเหล้าของกวงที่ได้ผสมมันด้วยความบังเอิญ
และมันรสดีจริงๆ
ชาติที่รับแก้วตองเอสนั้นจึงกระดกหมดแก้วราวกับดื่มน้ำเปล่า ดูเหมือนว่าเขานั้นกำลังกลัดกลุ้มสิ่งใดในโลกอยู่เป็นแน่ ตอนนั้นเองมีนายทหารชาวเยอรมันมาหาเขาด้วยความเมา หนุ่มเลือดนาซีคนนั้นตามที่น่าจะอธิบายรูปลักษณ์ เขาเป็นนายทหารชั้นยศพลเรือตรี เขามาทำอะไรตอนนี้ผมยังไม่ทราบ ที่แน่ๆคือพลเรือตรีผู้นี้มากะลิ่มกะเลี่ยชาติอย่างไม่อาย ชาติทำทีนิ่งไป นายทหารผู้นั้นเห็นเข้าก็กำเริบใจจึงจับแขนข้างซ้ายนั่น ไม่รู้ด้วยจิตประสาทกระตุกหรือวิญญาณมาเข้าสิง ชาติที่ถูกจับแขนก็สะบัดแขนอย่างแรง ชาติมองนายทหารนาซีที่ถูกปฏิเสธจึงเกิดฉุนสุดอารมณ์จึงถามด้วยภาษาเยอรมันอย่างเคืองๆ นายทหารนาซีพูดด้วยน้ำเสียงดุ
"Wie arrogant!?(หยิ่งนักรึไงวะ!?)"
ชาติมองจ้องเขม็งชายนาซีคนนั้นอย่างกินเลือดกินเนื้อ นายทหารนาซีพูดกับชาติด้วยอารมณ์โมโหสุดที่จะกล่าว
"Ich frage, bist du so arrogant!? Warum antworten Sie mir nicht!!?(ฉันถามว่าแกหยิ่งนักรึไง!? ทำไมถึงไม่ตอบฉัน!!)"
ชาติได้แต่เงียบ สายตาของชาติยังคงจ้องเขม็งอย่างไม่วางตา นายทหารชักหัวเสียประสมกับความเดือดดาล เส้นเลือดปูดเกร็งตามขมับ ฤดูกาลในบริเวนฐานอู่เครื่องบินนั่นอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ช่วงบ่ายสี่โมงเย็น อุณหภูมิในตอนนั้นอยู่ในช่วงยี่สิบสององศา ลมพัดมาเอื่อยๆกำลังเย็นสบาย แต่บัดนี้ ร้านอาหารในโรงแรมไตรภิรมย์ตึงเครียด เหงื่อหลายหยดปรากฏบนใบหน้าของนายทหารนาซีผู้นั้น นายทหารนาซีทุบโต๊ะบาร์ของร้านเสียงดังปัง
"Fragte ich antwortete nicht!!(ฉันถามแกไม่ตอบรึไงวะ!!)"
"....."
"Du bist dumm, verdammt!(แกเป็นใบ้เหรอไอ้สวะ!)"
ชาติที่ยังคงนิ่งทำให้นายทหารเยอรมันผู้นี้หมดความอดทน เขาจึงจะใช้มือตบหน้าชาติ แต่ชาติขว้าแขนมาหักราวกับหักดุ้นฟืนจนนายทหารเยอรมันร้องมาอย่างเจ็บปวด แล้วชาติก็จับนายทหารคนนั้นทุ่มลงพื้นแล้วเอาขวดเหล้าตีหัว เท่านั้นยังไม่พอเขายังเอาขวกที่แตกเป็นปากฉลามแทงใบหน้านายทหารจนมีรอยเลือดไหลเป็นทาง แล้วเขาก็โยนนายทหารทะลุเฉลีงของโรงแรมออกนอกไป เพื่อนทหารที่เห็นจึงได้ล่าถอยไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมา
อีกคราวหนึ่งนั้นเองเมื่อหลายวันต่อมา มนโดะที่ทราบข่าวเรื่องวิวาทก็ได้เดินทางมาที่โรงแรม ซึ่งเป็นเวลาที่โรงแรมให้คนซ่อมเฉลียงนั้นอยู่ มนโดะที่เห็นกวงกำลังยกกับข้าวมาให้คนงานจึงได้ถามว่า
" ไงหละคุณกวง โรงแรมคุณนี่คงจะต้องซ่อมอีกหลายชั่วโมงกว่าจะเสร็จนี่ใช่มั้ย?"
" ครับท่าน "
มนโดะที่อดนึกถึงชาติไม่ได้จึงได้กว่าวแก่กวงว่า
" นี่กวง ผมจะบอกอะไรนะ คุณคนที่อยู่ห้องหนึ่งนี่เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนะ เดิมนี่เขาเป็นข้าราชการคนหนึ่งในสังกัด ต่อมาไปวิวาทจนได้รับเสียหายแกก็หนีไปไหนต่อไหน นี่ยังโชคดีที่แกอยู่ที่นี่ บางที่การปล่อยให้เขาอารมณ์เย็นในที่สงบมันก็คงดีมิใช่น้อย..."
ทันใดนั้นชาติก็ได้ออกมาพอดี เขาได้พูดกับกวงว่า
"ขอข้าวผัดสองจาน ขนมปังหนึ่งแถว ไข่ลวกหก เอาน้ำส้มเข้ามาในห้องด้วย เดี๋ยวผมไปส่งโทรศัพท์หาแม่ของผมก่อน"
แล้วเขาก็เดินออกไปทำธุระ ปล่อยให้กวงยืนงงอยู่ตรงนั้น มนโดะที่เห็นเขานิ่งไปจึงได้เรียกสติด้วยการตบไหล่เบาๆ
" นี่! ไปทำกับข้าวตามที่เขาสั่งได้แล้ว! "
แล้วมนโดะจึงเดินจากตรงนั้นไป
กล่าวฝ่ายของชาติ ที่ได้เดินทางไปที่ตู้โทรศัพท์ เขาได้เข้าไปที่นั่นเพื่อแจ้งแก่คนทางบ้านทราบ เมื่อเขาได้กดโทรสายเจ้าหน้าที่ปลายสายจึงถามเพื่อทราบความ
"คุณผู้ใช้จะโทรไปหาหมายเลขอะไรคะ"
" โทรไปที่จังหวัดพระนคร 1098 ครับ"
สักพักหนึ่ง ปลายสายที่ได้รับซึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคนจึงถามว่า
" ฮัลโหล ใครพูดสายคะ"
" แม่จ๋า นี่ผมเองนะ แม่ แม่ได้รับเงินที่ส่งไปรึเปล่า"
หญิงผู้เป็นมารดาที่ได้ทราบเช่นนั้นจึงได้กล่าวไปด้วยวิตกกังวลว่า
" ชาติลูกแม่! ลูก ลูกอยู่ที่ไหนกัน รู้มั้ยหลายเดือนมานี้แม่เป็นห่วงชาติมากนะรู้มั้ย!"
ชาติที่ได้ฟังจึงตอบเพื่อให้อีกฝ่ายคลายใจว่า
" แม่จ๋ะ แล้วแม่ได้รับเงินรึเปล่า แม่สบายดีมั้ย แล้ว แล้วชมกับชิดน้องผมหละเป็นยังไงบ้างครับ"
เมื่อชาติได้หยอดเหรียญบาทแล้วเธอจึงกล่าวว่า
" แม่สบายดี ตอนนี้ได้รับเงินนั้นแล้ว น้องแกสองคนยังสบายดี ชมนาดก็ไปสโมสร ชิดวิชัยก็ไปทำบัญชีที่ห้าง ชาติ ชาติกลับมาหาแม่เถอะนะ แม่ไม่อยากให้ชาติไปตกระกำลำบากที่อื่นอีก แม่ขอหละ"
ชาติจึงได้กล่าวเป็นประโยคสุดท้ายว่า
" แม่ครับ ผมคงจะอยู่กับแม่ไม่ได้แล้ว ผมฆ่าคุณอา ผมทำลายบ้านของท่านเจ้าคุณ อีกไม่นานพวกตำรวจคงตามผมมาแน่ แต่ไม่เป็นห่วงไปนะครับแม่ ผมมีของดีอยู่ ผมไม่พลาดท่าได้ง่ายๆหรอกครับ แค่นี้ก่อนนะครับ"
แล้วชาติก็ตัดสายวางหูโทรศัพท์แล้วเดินออกไปจากที่นั่น หารู้ไม่ว่านางกิมบอน้องนายกวงได้แอบฟังอยู่ด้านหลัง
ช่วงสัปดาห์มานี้หลังจากซ่อมโรงแรมเสร็จ กลับพบว่าไม่มีคนมาพักโรงแรมนี้เลยเว้นแต่ชาติคนเดียว มีเพียงลูกค้าที่มากินข้าวที่นี่เพียงหน่วยรายเท่านั้นเอง ด้วยความไม่ชอบมาพากลนี่เองเล๋งจึงเดินไปหาผัวแล้วกล่าวว่า
" นี่ไอ้แป๊ะ อั๊วว่าต้องเป็นเพราะนายชาติแน่ๆเลยนะที่เป็นตัวซวยให้กิจการของเราไม่ขยับไปไหน ดูซิ นี่ยอดรายได้ของเรายังไม่ถึงหลักพันเลย"
อากวงจึงกล่าวแก่เมียของตนว่า
" ก็ร้านเรามันพึ่งซ่อม ไม่ค่อยมีแขกมันก็เรื่องธรรมดา"
เล๋งทำฮึดฮัด
" ก็ ก็ไม่รู้หละ! ยังไงๆลื้อก็ต้องไล่อาคุณชาติไปจากที่นี่ให้ได้ อั๊วได้ข่าวจากอีกิมน้องลื้อว่าอีตาชาตินี่แกฆ่าคนด้วย! แล้วคนที่ถูกฆ่านะก็คืออาของตัวเอง! ดูซิ อาแท้ๆยังฆ่าได้แล้วเราจะเหลือเหรอ!"
กวงที่รำคาญเมียของตนเต็มทนจึงกล่าวตัดบทว่า
" เอ้อ!ๆ อั๊วไปไล่คุณชาติเขาก็ได้ บอมีไก๊เอ๊ย!"
กวงหนีเมียที่กำลังค้อนปะหลับปะเหลือก เขาเดินมาที่ห้องหนึ่งแล้วเคาะประตูเรียก
" คุณชาติครับคุณชาติ"
ชาติทำเสียงอ่อนลง บอกกล่าวด้วยความสุภาพ
" เชิญเข้ามาครับ ประตูไม่ได้ล็อก"
กวงจึงพลักประตูแล้วกล่าวด้วยท่าทีที่ไม่สบายใจ
" เอ่อ...คุณชาติครับ"
ชาติที่อ่านหนังสือแล้วเห็นว่ากวงเข้ามาก็เข้าใจว่ากวงมาเก็บค่าห้องจึงเดินมาจ่ายเงินให้
" อ้อ! นี่ครับเงิน เอ่อ...เงินสำหรับที่พักอีกหนึ่งเดือนครับ"
กวงที่เห็นแล้วจึงได้กล่าวว่า
" เอ่อ...คุณครับ มันจำเป็นเหลือเกินที่เราจะต้องบอกคุณว่า เราขอเชิญคุณออกจากโรงแรมครับ"
ชาติที่ได้ฟังก็ตกใจมิใช่น้อยจึงได้ถามเขาว่า
" เดี๋ยวก่อนๆ! ผมมีความผิดอะไรเหรอที่ผมอยู่ที่นี่ ถ้าเรื่องทำร้านพังผมก็จะจ่ายให้! นี่ ผมให้อีกสามเท่า จะเรียกร้องกี่เท่าผมก็ยินดีจ่าย แต่ขอร้องเถอะนะ ให้ผมอยู่ที่นี่อีกหน่อย อีกสองอาทิตย์ อีกเพียงสองอาทิตย์ให้ผมอยู่นี่ แล้วผมจะย้ายไปในทันที!"
กวงที่อดสงสารชาติไม่ได้เขาจึงได้แต่เดินออกมาโดยที่ไม่กล่าวอะไรต่อ นางเล๋งที่เห็นผัวของตนเดินออกมาก็ถามว่า
"เป็นไงหละอากวง ลื้อเชิญคุณชาติเข้าไปรึยังหละ"
กวงได้แต่ถอนหายใจ
"เขาวิงวอนอั๊วพร้อมให้เงินอีกสามหมื่นนี่ เฮ้อ! บอกตรงๆอั๊วไล่เขาไปไม่ได้จริงๆ เหมือนมีลางสังหรณ์ว่าไม่ควรไล่เขาไป"
เล๋งที่ทราบว่าผัวของตนไม่เชิญชาติออกไปก็กล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจพลางอ่านหนังสือพิมพ์
" ลื้อนี่น่า! ทำไมถึงใจอ่อนผิดที่ผิดเวลาอย่างนี้นะ ลื้อไม่สงสัยบ้างเหรอว่าเขาจะเป็นอาชญากร เขาเป็นไอ้เสือ เขา..."
แต่แล้ว นางเล๋งก็ได้ชะงักงันเพราะข่าวหน้าหนึ่งที่นางได้อ่านดังต่อไปนี้เพราะมีหน้าของชาติติดอยู่ที่พาดหัวข่าวด้วย!
[ประกาศจับด่วน]
เจ้าของนาฬิกาวิเศษ!!!
เมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง ข้าพเจ้าได้ทราบข่าวเรื่องของบ้านพระยาวิไลรักษาถูกบุรุษที่คิดว่าสูญหายไปเมื่อสิบปีก่อนกลับมาทำลายบ้านหลังนี้ เมื่อข้าพเจ้านำสายความไปสืบก็รู้ต้นสายปลายเหตุ กล่าวคือ พระยาวิไลรักษามีสมาชิกนักทดลองและนักวิชาการวิทยาศาสตร์อยู่สองคน คือหลวงชินกรได้ให้จมื่นชาติไปทดลองแล้วมีปัญหาจนจมื่นชาติหนีไปเป็นสิบปี ต่อมาเมื่อจมื่นชาติกลับมาก็เห็นว่าคนรักของเขาแต่งงานกับเพื่อนจึงโกรธ ใครจะเชื่อในตอนนี้ จมื่นชาติใช้นาฬิกาที่ตนประดิษฐ์ทำลายคฤหาสน์ของท่านเจ้าคุณจนย่อยยับ นอกจากนี้จมื่นชาติยังได้ปิตุฆาตพ่อเลี้ยงของตนจนตาย แล้วยังนำความลับเรื่องวิจัยงานของตนไปขายแก่สองชาติคือญี่ปุ่นและสหรัฐจนเกิดศึกสงครามเครื่องจักรกลที่อ่าวฮาวาย และตอนนี้เขาได้ขอยศจากทางการให้แต่งตั้งตนเป็นพระยาพัฒนไพศาล แต่ว่าตอนนี้ทางการขอแรงจากทุกฝ่าย หากจับพระยามีชื่อคนนี้ได้จะได้รับเงินสี่แสนบาท เพราะพระยาคนนี้ได้สร้างโทษจนทางการไม่อาจปล่อยตัวได้ ผู้ใดพบว่าพระยาผู้นี้อยู่ที่ใดจะได้ค่าแจ้งข่าวสี่พันบาท
》■■■{[02:00]}■■■《
โปรดติดตามตอนต่อไป หากชอบก็กดหัวใจ หากใช่ก็กดติดตาม หากให้ยอดอ่านงามๆก็ต้องกดแชร์ แต่ถ้าอยากให้นิยายดังแน่ๆก็ช่วยอ่านกันด้วยนะครับ
??????