2.ตัวตนแท้จริง

2183 Words
สิบสี่วันจากนั้นมาทุกอย่างในไตรภิรมย์​ก็เริ่มค่อยๆมีลูกค้ามามาพักเป็นประจำ​มิขาด​ แขกที่ไม่เคยพบก็ได้พบสำหรับ​ไตรภิรมย์​ อย่างไรก็ดีกวงก็หนักใจอยู่เรื่องหนึ่งนั้นคือนายชาติคนนี้​ ตั้งแต่เขาสังเกตการณ์​พฤติกรรม​ของ​มนุษย์​เพศชาย​ผู้นี้ก็สังเกตได้ว่าเขาทำตัวลับๆล่อๆ​ คอยส่งจดหมายไปให้คนนู้น​เดี๋ยวให้จดหมายให้คนนี้​ วันดีคืนดีดั่งเช่นวันนี้​ บ่ายของวันนี้ดูช่างครึกครื้น​มาก​ เพราะไม่ได้มีแค่แขกชาวญี่ปุ่น​เท่านั้น​ เพราะยังมีแขกชาวเยอรมัน​มาร่วมแจมด้วย​ ชาวเยอรมัน​ผู้นี้มาโรงแรม​เมื่อเช้านี้​ เขานั้นเดินทางมาจากพม่า​ มาที่ฐานสร้างเครื่องบินเพราะอยากจะยลโฉมเครื่องบินพลังไฟฟ้า​ ใช้พลังงานจากไฟฟ้า ชื่อJC-192 อย่างไรก็ดีกวงที่กำลังคิดถึงเรื่องของชาติจึงเหม่อลอยจนผู้เป็นเมียต้องบิดเนื้อจนรู้สึกตัว " โอ๊ย! " " ไอ้แป๊ะ! ลื้อเหม่ออะไรวะ" กวงที่จึงกล่าวแก่เมียของตนด้วยความรู้สึก​ที่สังเกตนายชาติต่อภรรเมียของตน "ช่วงสองทาทิตย์​ที่ผ่านมา​ คุณชาติเขาหมกตัวอยู่แต่ในห้อง​ นานๆทีถึงจะออกมากินข้าวที่ห้องอาหาร​ อั๊วว่าเขาต้องมีพฤติการณ์​แอบแฝงอะไรแน่เลยวะยายซิ้ม​" นางกำเล๋งที่ฟังคำพูดของผัวก็ทำหน้าขมวดคิ้ว​ย่นจนเห็นริ้วรอยบนใบหน้า​ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมสามีของเธอถึงพูดเช่นนั้น​ ตอนนั้นเอง​ ชาติก็เดินออกมาจากห้องพัก​ เขาเดินมาที่โต๊ะเตรียมเครื่องดื่มแล้วสั่งเครื่องดื่มกับกวงว่า " ขอตองเอสหนึ่งแก้ว​ " ตองเอส​ คือเหล้าที่ผสมอย่างหละเท่ากัน​ คือนารีแดง​ เบียร์​ดำ​ และเหล้าขาว​ เหล้าตองเอสนี้คือเหล้าผสมที่ปรากฏแค่ร้านนี้เท่านั้น​ มันถูกเขียนขึ้นด้วยฝีมือการชงเหล้าของกวงที่ได้ผสมมันด้วยความบังเอิญ และมันรสดีจริงๆ ชาติที่รับแก้วตองเอสนั้นจึงกระดกหมดแก้วราวกับดื่มน้ำเปล่า​ ดูเหมือนว่าเขานั้นกำลังกลัดกลุ้มสิ่งใดในโลกอยู่เป็นแน่​ ตอนนั้นเองมีนายทหารชาวเยอรมัน​มาหาเขาด้วยความเมา​ หนุ่มเลือดนาซีคนนั้นตามที่น่าจะอธิบายรูปลักษณ์​ เขาเป็นนายทหารชั้นยศพลเรือตรี​ เขามาทำอะไรตอนนี้ผมยังไม่ทราบ​ ที่แน่ๆคือพลเรือตรีผู้นี้มากะลิ่มกะเลี่ยชาติ​อย่างไม่อาย​ ชาติทำทีนิ่งไป​ นายทหารผู้นั้นเห็นเข้าก็กำเริบใจจึงจับแขนข้างซ้ายนั่น​ ไม่รู้ด้วยจิตประสาทกระตุก​หรือวิญญาณ​มาเข้าสิง​ ชาติที่ถูกจับแขนก็สะบัดแขนอย่างแรง​ ชาติมองนายทหารนาซีที่ถูกปฏิเสธ​จึงเกิดฉุนสุดอารมณ์​จึงถามด้วยภาษาเยอรมัน​อย่างเคืองๆ​ นายทหารนาซีพูดด้วยน้ำเสียงดุ "Wie arrogant!?(หยิ่งนักรึไงวะ!?)" ชาติมองจ้องเขม็งชายนาซีคนนั้นอย่างกินเลือดกินเนื้อ นายทหารนาซีพูดกับชาติด้วยอารมณ์​โมโห​สุดที่จะกล่าว "Ich frage, bist du so arrogant!? Warum antworten Sie mir nicht!!?(ฉันถามว่าแกหยิ่งนักรึไง!? ทำไมถึงไม่ตอบฉัน!!)" ชาติได้แต่เงียบ​ สายตาของชาติยังคงจ้องเขม็งอย่างไม่วางตา​ นายทหารชักหัวเสียประสม​กับความเดือดดาล​ เส้นเลือดปูดเกร็งตามขมับ​ ฤดูกาล​ในบริเวนฐานอู่เครื่องบินนั่นอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว​ ช่วงบ่ายสี่โมงเย็น​ อุณหภูมิ​ในตอนนั้นอยู่ในช่วงยี่สิบสององศา​ ลมพัดมาเอื่อยๆกำลังเย็นสบาย​ แต่บัดนี้​ ร้านอาหารในโรงแรมไตร​ภิรมย์​ตึงเครียด​ เหงื่อหลายหยดปรากฏ​บนใบหน้าของนายทหารนาซีผู้นั้น​ นายทหารนาซีทุบโต๊ะบาร์ของร้านเสียงดังปัง "Fragte ich antwortete nicht!!(ฉันถามแกไม่ตอบรึไงวะ!!)​" "....." "Du bist dumm, verdammt!(แกเป็นใบ้เหรอไอ้สวะ!)​" ชาติที่ยังคงนิ่งทำให้นายทหารเยอรมัน​ผู้นี้หมดความอดทน​ เขาจึงจะใช้มือตบหน้าชาติ​ แต่ชาติขว้าแขนมาหักราวกับหักดุ้นฟืนจนนายทหารเยอรมัน​ร้องมาอย่างเจ็บปวด​ แล้วชาติก็จับนายทหารคนนั้นทุ่มลงพื้นแล้วเอาขวดเหล้าตีหัว​ เท่านั้นยังไม่พอเขายังเอาขวกที่แตกเป็นปากฉลามแทงใบหน้านายทหารจนมีรอยเลือดไหลเป็นทาง​ แล้วเขาก็โยนนายทหารทะลุเฉลีงของโรงแรมออกนอกไป​ เพื่อนทหารที่เห็นจึงได้ล่าถอยไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมา​ อีกคราวหนึ่ง​นั้นเองเมื่อหลายวันต่อมา​ มนโดะที่ทราบข่าวเรื่องวิวาทก็ได้เดินทางมาที่โรงแรม​ ซึ่งเป็นเวลาที่โรงแรมให้คนซ่อมเฉลียงนั้นอยู่​ มนโดะที่เห็นกวงกำลังยกกับข้าวมาให้คนงานจึงได้ถามว่า " ไงหละคุณกวง​ โรงแรมคุณนี่คงจะต้องซ่อมอีกหลายชั่วโมงกว่าจะเสร็จนี่ใช่มั้ย?" " ครับท่าน​ ​ " มนโดะที่อดนึกถึงชาติไม่ได้จึงได้กว่าวแก่กวงว่า " นี่กวง​ ผมจะบอกอะไรนะ​ คุณคนที่อยู่ห้องหนึ่งนี่เขาเป็นคนอารมณ์​ร้อนแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนะ​ เดิมนี่เขาเป็นข้าราชการ​คนหนึ่งในสังกัด​ ต่อมาไปวิวาท​จนได้รับเสียหายแกก็หนีไปไหนต่อไหน​ นี่ยังโชคดีที่แกอยู่ที่นี่ บางที่การปล่อยให้เขาอารมณ์​เย็นในที่สงบมันก็คงดีมิใช่น้อย..." ทันใดนั้น​ชาติก็ได้ออกมาพอดี​ เขาได้พูดกับกวงว่า "ขอข้าวผัดสองจาน​ ขนมปังหนึ่งแถว​ ไข่ลวกหก​ เอาน้ำส้มเข้ามาในห้องด้วย​ เดี๋ยวผมไปส่งโทรศัพท์​หาแม่ของผมก่อน" แล้วเขาก็เดินออกไปทำธุระ​ ปล่อยให้กวงยืนงงอยู่ตรงนั้น​ มนโดะที่เห็นเขานิ่งไปจึงได้เรียกสติด้วยการตบไหล่เบาๆ " นี่! ไปทำกับข้าวตามที่เขาสั่งได้แล้ว! " แล้วมนโดะจึงเดินจากตรงนั้นไป กล่าวฝ่ายของชาติ ที่ได้เดินทางไปที่ตู้โทรศัพท์​ เขาได้เข้าไปที่นั่นเพื่อแจ้งแก่คนทางบ้านทราบ​ เมื่อเขาได้กดโทรสายเจ้าหน้าที่ปลายสายจึงถามเพื่อทราบความ "คุณผู้ใช้จะโทรไปหาหมายเลขอะไรคะ" " โทรไปที่จังหวัดพระนคร​ 1098 ครับ" สักพักหนึ่ง​ ปลายสายที่ได้รับซึ่งเป็นผู้หญิง​วัยกลางคนจึงถามว่า " ฮัลโหล​ ใครพูดสายคะ" " แม่จ๋า​ นี่ผมเองนะ​ แม่​ แม่ได้รับเงินที่ส่งไปรึเปล่า" หญิงผู้เป็นมารดาที่ได้ทราบเช่นนั้นจึงได้กล่าวไปด้วยวิตกกังวล​ว่า " ชาติลูกแม่! ลูก​ ลูกอยู่ที่ไหนกัน​ รู้มั้ยหลายเดือนมานี้แม่เป็นห่วงชาติมากนะรู้มั้ย!" ชาติที่ได้ฟังจึงตอบเพื่อให้อีกฝ่ายคลายใจว่า " แม่จ๋ะ​ แล้วแม่ได้รับเงินรึเปล่า​ แม่สบายดีมั้ย​ แล้ว​ แล้วชมกับชิดน้องผมหละเป็นยังไงบ้างครับ" เมื่อชาติได้หยอดเหรียญ​บาทแล้วเธอจึงกล่าวว่า " แม่สบายดี​ ตอนนี้ได้รับเงินนั้นแล้ว​ น้องแกสองคนยังสบายดี​ ชมนาด​ก็ไปสโมสร​ ชิดวิชัยก็ไปทำบัญชี​ที่ห้าง ชาติ​ ชาติกลับมาหาแม่เถอะนะ​ แม่ไม่อยากให้ชาติไปตกระกำลำบาก​ที่อื่นอีก​ แม่ขอหละ" ชาติจึงได้กล่าวเป็นประโยคสุดท้ายว่า " แม่ครับ​ ผมคงจะอยู่กับแม่ไม่ได้แล้ว ผมฆ่าคุณอา​ ผมทำลายบ้านของท่านเจ้าคุณ​ อีกไม่นานพวกตำรวจคงตามผมมาแน่​ แต่ไม่เป็นห่วงไปนะครับ​แม่​ ผมมีของดีอยู่​ ผมไม่พลาดท่าได้ง่ายๆหรอกครับ​ แค่นี้ก่อนนะครับ​" แล้วชาติก็ตัดสายวางหูโทรศัพท์​แล้วเดินออกไปจากที่นั่น​ หารู้ไม่ว่านาง​กิมบอน้องนายกวงได้แอบฟังอยู่ด้านหลัง ช่วงสัปดาห์​มานี้​หลังจากซ่อมโรงแรมเสร็จ​ กลับพบว่าไม่มีคนมาพักโรงแรมนี้เลยเว้นแต่ชาติคนเดียว​ มีเพียงลูกค้าที่มากินข้าวที่นี่เพียงหน่วยรายเท่านั้น​เอง​ ด้วยความไม่ชอบมาพากลนี่เองเล๋งจึงเดินไปหาผัวแล้วกล่าวว่า " นี่ไอ้แป๊ะ​ อั๊วว่าต้องเป็นเพราะนายชาติ​แน่ๆเลยนะที่เป็นตัวซวยให้กิจการ​ของเราไม่ขยับไปไหน​ ดูซิ​ นี่ยอดรายได้ของเรา​ยังไม่ถึงหลักพันเลย" อากวงจึงกล่าวแก่เมียของตนว่า " ก็ร้านเรามันพึ่งซ่อม​ ไม่ค่อยมีแขกมันก็เรื่องธรรมดา" เล๋งทำฮึดฮัด " ก็​ ก็ไม่รู้หละ! ยังไงๆลื้อก็ต้องไล่อาคุณชาติไปจากที่นี่ให้​ได้​ อั๊วได้ข่าวจากอีกิมน้องลื้อว่าอีตาชาตินี่แกฆ่าคนด้วย! แล้วคนที่ถูกฆ่านะก็คืออาของตัวเอง! ดูซิ​ อาแท้ๆยังฆ่าได้แล้วเราจะเหลือเหรอ!" กวงที่รำคาญเมียของตนเต็มทนจึงกล่าวตัดบทว่า " เอ้อ!ๆ​ อั๊วไปไล่คุณชาติเขาก็ได้​ บอมีไก๊เอ๊ย!" กวงหนีเมียที่กำลังค้อนปะหลับปะเหลือก​ เขาเดินมาที่ห้องหนึ่งแล้วเคาะประตู​เรียก " คุณชาติครับคุณชาติ" ชาติทำเสียงอ่อนลง​ บอกกล่าวด้วยความสุภาพ " เชิญเข้ามาครับ​ ประตู​ไม่ได้ล็อก" กวงจึงพลักประตูแล้วกล่าวด้วยท่าทีที่ไม่สบายใจ " เอ่อ...คุณชาติครับ" ชาติที่อ่านหนังสือแล้วเห็นว่ากวงเข้ามาก็เข้าใจว่ากวงมาเก็บค่าห้องจึงเดินมาจ่ายเงินให้ " อ้อ!​ นี่ครับเงิน​ เอ่อ...เงินสำหรับที่พักอีกหนึ่งเดือนครับ" กวงที่เห็นแล้วจึงได้กล่าวว่า " เอ่อ...คุณครับ​ มันจำเป็นเหลือเกินที่เราจะต้องบอกคุณว่า​ เราขอเชิญคุณออกจากโรงแรมครับ" ชาติที่ได้ฟังก็ตกใจมิใช่น้อยจึงได้ถามเขาว่า " เดี๋ยวก่อนๆ! ผมมีความผิดอะไรเหรอที่ผมอยู่ที่นี่​ ถ้าเรื่องทำร้านพังผมก็จะจ่ายให้! นี่​ ผมให้อีกสามเท่า จะเรียกร้องกี่เท่าผมก็ยินดีจ่าย​ แต่ขอร้องเถอะนะ​ ให้ผมอยู่ที่นี่อีกหน่อย​ อีก​ส​องอาทิตย์​ อีกเพียงสองอาทิตย์​ให้ผมอยู่นี่​ แล้วผมจะย้ายไปในทันที!" กวงที่อดสงสารชาติไม่ได้เขาจึงได้แต่เดินออกมาโดยที่ไม่กล่าวอะไร​ต่อ​ นางเล๋งที่เห็น​ผัวของตนเดินออกมาก็ถามว่า "เป็นไงหละอากวง​ ลื้อเชิญคุณชาติเข้าไปรึยังหละ" กวงได้แต่ถอนหายใจ "เขาวิงวอนอั๊วพร้อมให้เงินอีกสามหมื่นนี่​ เฮ้อ! ​ บอกตรงๆอั๊วไล่เขาไปไม่ได้จริงๆ​ เหมือนมีลางสังหรณ์​ว่าไม่ควรไล่เขาไป" เล๋งที่ทราบว่าผัวของตนไม่เชิญชาติออกไปก็กล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจพลางอ่านหนังสือพิมพ์​ " ลื้อนี่น่า! ทำไมถึงใจอ่อนผิดที่ผิดเวลาอย่างนี้นะ​ ลื้อไม่สงสัยบ้างเหรอว่าเขาจะเป็นอาชญากร​ เขาเป็นไอ้เสือ​ เขา..." แต่แล้ว​ นางเล๋งก็ได้ชะงักงันเพราะข่าวหน้าหนึ่งที่นางได้อ่านดังต่อไปนี้เพราะมีหน้าของชาติติดอยู่ที่พาดหัวข่าวด้วย! [ประกาศ​จับด่วน]​ เจ้าของนาฬิกาวิเศษ!!! เมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง​ ข้าพเจ้า​ได้ทราบข่าวเรื่องของบ้านพระยาวิไลรักษา​ถูกบุรุษ​ที่คิดว่าสูญหาย​ไปเมื่อสิบปีก่อนกลับมาทำลายบ้านหลังนี้​ เมื่อข้าพเจ้า​นำสายความไปสืบก็รู้ต้นสายปลายเหตุ​ กล่าวคือ​ พระยาวิไล​รักษา​มีสมาชิกนักทดลองและนักวิชาการ​วิทยาศาสตร์​อยู่สองคน​ คือหลวงชิ​นกร​ได้ให้จมื่นชาติไปทดลองแล้วมีปัญหา​จนจมื่นชาติหนีไปเป็นสิบปี​ ต่อมาเมื่อจมื่นชาติกลับมาก็เห็นว่าคนรักของเขาแต่งงานกับเพื่อนจึงโกรธ​ ใครจะเชื่อในตอนนี้​ จมื่นชาติใช้นาฬิกาที่ตนประดิษฐ์​ทำลายคฤหาสน์​ของท่านเจ้าคุณ​จนย่อยยับ​ นอกจากนี้จมื่นชาติยังได้ปิตุฆาต​พ่อเลี้ยง​ของตนจนตาย​ แล้วยังนำความลับเรื่องวิจัยงานของตนไปขายแก่สองชาติคือญี่ปุ่น​และสหรัฐ​จนเกิดศึกสงคราม​เครื่อง​จักรกลที่อ่าวฮาวาย​ และตอนนี้เขาได้ขอยศจากทางการให้แต่งตั้งตนเป็นพระยาพัฒนไพศาล​ แต่ว่าตอนนี้ทางการขอแรงจากทุกฝ่าย​ หากจับพระยามีชื่อคนนี้ได้จะได้รับเงินสี่แสนบาท​ เพราะพระยาคนนี้ได้สร้างโทษจนทางการไม่อาจปล่อย​ตัวได้​ ผู้ใดพบว่าพระยาผู้นี้อยู่ที่ใดจะได้ค่าแจ้งข่าวสี่พันบาท 》■■■{[02:00]}■■■《 โปรดติดตามตอนต่อไป หากชอบก็กดหัวใจ หากใช่ก็กดติดตาม หากให้ยอดอ่านงามๆก็ต้องกดแชร์ แต่ถ้าอยากให้นิยายดังแน่ๆก็ช่วยอ่านกันด้วยนะครับ ??????
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD