bc

THE​ WRISTWATCH​ BAD PERSON​ นาฬิกา​ท**น​

book_age16+
1
FOLLOW
1K
READ
drama
bxg
like
intro-logo
Blurb

เทคโนโลยี​ คือสิ่งอำนวยความสะดวก​แก่มนุษย์​ชน​ แต่เทคโนโลยี​คือดาบสองคม​ มีทั้งคุณอนันต์​และ​โทษมหันต์

ณ​  คืนวันหนึ่ง​  มีแขกปริศนามาพักที่โรงแรมไตรภิรมย์​  ปรากฏ​ว่าเจ้าของโรงแรมเห็นพฤติการณ์​ไม่น่าไว้วางใจจึงให้เมียแจ้งตำรวจ​  หารู้ไม่​ว่า​มัน​จะ​เป็น​อย่างไรในอนาคต...

เทคโนโลยี​นั้นเอาไว้ช่วยให้มนุษย์​อำนวยความสะดวก​ต่างๆ​  แต่ว่าเทคโนโลยี​นี่แหละคือดาบสองคม​  หากใช้เพื่อสนองความบ้าคลั่ง​ในตัวเอง​  ผลลัพธ์​อาจแก้ไข​ไม่ได้อีก... 

เมื่อเขาถูกทรยศ​  เรื่องเลวร้ายจึงได้เริ่มต้น​ขึ้น!!!... 

chap-preview
Free preview
Chapter.1 คนแปลกหน้า
ปีพ.ศ.2486 ณ​ ​ ฐานทัพอู่สร้างเครื่องบิน​ ไทย-ญี่ปุ่น​ ที่นี้​ คือฐานสร้างเครื่องบิน​ขนส่งแก่ทหารญี่ปุ่น​ ภายใต้การสนับสนุน​ของขุนมิตรสัตยาและกองทหารอากาศ​ญี่ปุ่น​ ถึงแม้ว่าญี่ปุ่น​จะเป็นฝ่ายอักษะ​ แต่ที่นี้​ ทหารญี่ปุ่น​ทุกนายเป็นมิตรต่อชาวบ้าน​ ชาวบ้านก็ยำเกรง​ต่อกองกำลังของเหล่าทหารญี่ปุ่น​ ก็เลยผูกมิตร​ไว้ดีกว่า​ หัวหน้ากองทหารอากาศ​นี้คือพลอากาศเอก​ มนโดะ​ ทากาโมโต้​ มีนิสัยสุขุม​ ฉลาด​ โอบอ้อมอารี​กว่าทหารญี่ปุ่น​คนใด​ และยังพูดภาษาไทย​ได้ดีเพราะเคยอยู่ที่ไทยนับสิบๆปี​ และตอนที่อยู่ไทยก็อยู่หมู่บ้าน​นี้ด้วย​ คนในพื้นที่ก็สนิทกันแต่นั่น​ อย่างไรก็ดีก็มีบางอย่างที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่พอใจกันบ้าง​ อย่างหนึ่งคือการเอาชาวยุโรป​มาใช้แรงงานอย่างหนัก​ ถึงอย่างนั้นชาวบ้านก็เอากับข้าวมาต่อลมหายใจ​ของทาสชาวอาทิตย์​อุทัย​ ทหารญี่ปุ่น​เหล่าก็ไม่ห้าม​ ดูเหมือน​ว่าทหารทุกนายของหน่วยนี้จะใจดีไปเสียทุกคน​ แต่อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีเรื่องให้ปวดหัวคือ​ เฮียกวง​กับเจ้กำเล๋งเจ้าของร้านไตรภิรมย์​ ร้านนี้นอกจากจะขายอาหารและเหล้ายาปลาปิ้งแล้ว​ ยังเป็นโรงแรมจำเป็นจำนวนสามห้อง​ ถือว่าเป็นห้องพักที่ดีทีเดียวหากจะพัก​ แต่ถ้าจะพักจริงก็คงจะต้องเสียมากกว่าโรงแรม​อื่น​ เพราะโรงแรมนี้หากจะพักค้างคืนก็ต้องเสียห้าสิบบาท​ หากอยากจะพักหนึ่งวันต้องเสียถึงหนึ่งร้อยบาท​ ค่าอาหารต่างหาก​ ที่สุดของโรงแรมนี้คือสองคนเจ้าของโรงแรมที่ขี้งกเห็นแก่ได้​ ทหารญี่ปุ่น​หลายนายต้องเสียเงินคนละร้อยสองร้อย​เพราะความเห็นแก่ตัว​ของเฮียกวงและเจ้กำเล๋ง​ ในคืนวันหนึ่ง​ ณ​ ทางถนนอันเปียกชุ่ม​ไปด้วยสายฝนตกกระหน่ำ​ ชายหน้าคมคนหนึ่งได้ขี่ม้า​เหาะมาที่โรงแรมไตรภิรมย์​นั้น​ เมื่อขับม้าจอดมาที่โรงม้าของโรงแรม​ เขาก็ถือหีบกระเป๋าแข็งสองใบเข้ามาที่ร้านอาหารของโรงแรม​ ในร้านอาหาร​ของโรงแรม​ที่ครึกครื้น​ไปด้วยดนตรีทั้งเปียโน​ กีตาร์​ กลองทอม​ เครื่องเป่า​ กำลังเล่นเพลงอย่างสนุกสนาน​ แขกที่มาร้านอาหาร​มีทั้งไทยและญี่ปุ่น​ บ๋อยโรงแรมทั้งหนุ่มสาวต่างบริการแขกมือเป็นระวิงเมื่อเล่นเพลงจบ​ ชายหน้าคมคนที่ได้กล่าวมาข้างต้นก็เดินเปิดประตูเข้า​มา​ใน​ร้าน​ จากที่ครึกครื้น​กันก็เงียบลงในทันตา​ เพราะแขกที่มานั้นดูไม่เหมือนคนต่างจังหว​ัด​ ชายหน้าคมคนนั้นเดินมาที่โต๊ะบาร์ของร้านแล้วกล่าวแก่เฮียกวงว่า "ที่นี้มีห้องพักมั้ย" เฮียกวงที่บริการเครื่องดื่มแก่ชาวบ้านสองคนก็ตอบไปให้เครื่องดื่มไปอย่างคล่องแคล่ว​ " มีครับ​ๆ​ ​ ยังว่างอยู่ครับ" ชายหน้าคมจึงขอห้องด้วยสีหน้าตายเสียงเย็นชาว่า "งั้นฉันขอห้องที่ดีที่สุด" เฮียกวงตอบภาษาไทยชัดแจ๋ว "ห้องที่ดีที่สุดก็ทั้งสามห้องนั่นแหละครับ" ชายหน้าคมชะงักเล็กน้อย​ ชาวบ้านคนหนึ่งทักชายหน้าคมคนนั้น " เฮ้​ ถ้าคุณไม่กลัวหมดตูด​หละก็อย่าพักที่นี้เชียวนะ" ชายหน้าคมหันหน้าไปมองชายคนที่ทักแล้วหันหน้ากลับมาอย่างไม่ใส่ใจ​ เฮียกวงค้อนชายคนนั้นปะหลับปะเหลือก " เค้าเป๋​ ไอ้จ๋อง​ ลื้ออย่าเสือก!​ " แล้วเฮียกวงก็ได้เรียกเมียของตนด้วยเสียงดัง " อากำเล๋ง​ อากำเล๋ง! อีกำเล๋ง!!" เมื่อถูกเรียกเช่นนั้น​ หญิงจีนที่กำลังทำอาหารก็ชะโงก​หน้าออกมาโผล่มองข้างนอก " ว่าไงไอ้แป๊ะ​ " เฮียกวงชี้มือไปที่ชายหน้าคมคนนี้ "ช่วยจัดห้องพักให้เขาที​ จัดอย่างดีที่สุดเลยนะ​ จัดให้...จัด..ให้....." เฮียกวงสงสัย​ชื่อของชายหน้าคมคนนี้จึงถามด้วยเสียงเบาๆ " เอ่อ...พี่ชาย​ พี่ชายชื่ออะไรมิทราบ" เขาตอบเบาและสั้น " ชาติ​ ชื่อชาติ​ " เฮียกวงจึงบอกเมียด้วยเสียงดังว่า " อาเล๋ง​ ลื้อช่วยคุณชาติให้มีที่พักดีๆ​ จัดอย่างดีที่สุดเลย​ ไปจัดการไป" เมื่อคนเป็นผัวกล่าวเช่นนั้น​ นางเล๋งจึงได้พาชาติไปที่ห้องเลขหนึ่ง​ นางเล้งได้เข้าไปทำความสะอาด​แล้วบ่นแก่ชาติว่า "คุณคงไม่รู้อะไรนะ​ พักนี้แขกไม่ค่อยมีใครมาพัก​ คุณว่าไงถ้าจะบอกว่าค่าเช่าต่อวันราคาร้อยบาท" ชาติที่มองออกไปนอกบังตาตอบสั้นๆ " ไม่ค่อยแพงนะ​ " นางกำเล๋งพูดต่อพลางจัดห้อง "ใจจริงพวกเรานะอยากคิดวันละแปดสิบ แต่เศรษฐกิจ​อย่างนี้มันต้องเอาแพงไว้ก่อน​ เพราะอะไรๆก็แพง​ ทั้งค่าน้ำมันก๊าด​ ค่าน้ำประปา​ ค่าไม้ค่าฟืน ค่ากับปลาอาหาร​ ค่าซ่อมบำรุง​ แค่สามห้องมันก็ไม่พอใช้จ่ายแล้ว​ ถ้าวันหน้าของราคาถูกลงเราคงได้สร้างห้องอีกแน่" ชาติที่เหม่อมองไปข้างนอกจึงตอบสามคำ " ก็ดีนะ​ " นางกำเล๋งที่จัดห้องเสร็จแล้วจึงเดินมาบ่นข้างหลังชาติ " นี่คุณ​ค่ะ​ ถ้ามีอะไรจะเรียกใช้ก็บอกได้นะ​ จะให้ทำกับข้าวอะไรก็บอกได้นะ" ชาติหันหลังไปหาเจ้เล๋งแล้วสั่งอาหารหลายอย่างด้วยท่าทีที่กระฉับกระเฉง​ขึ้น "ถ้างั้นเอาข้าวผัดหมูกรอบหนึ่งจาน​ ยำกุ้งมะนาวจาน​ แล้วก็เกาเหลาเนื้อจาน​ ​ จัดมาที่ห้องผมนะ" เมื่อได้รับคำสั่งมาเช่นนั้น​ นางเล๋งจึงรีบเดินเข้าครัวในทันที​ ชาติที่ได้อยู่คนเดียวจึงนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมถอนใจยาว " เฮ้อ...ในที่สุดก็หยุดเรื่องวุ่นวายได้พักหนึ่ง​ " เพียงแค่คิดไปเท่านั้น​ ชาติจึงมองห้องของตนจึงเห็นว่ามีหนังสือหลายเล่ม​ เขาจึงหยิบหนังสือเรื่องหนึ่งออกมา​ มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับนิคมเครื่องบินรบนั้นเอง​ เขาอ่านหนังสือได้สามเล่มทั้งเล่มที่กล่าวไปข้างต้น​ อีกเล่มคือหนังสือการ์ตูนตลก​ เล่มสุดท้ายคือนิยายของน.ดลโขงเรื่องหนึ่ง​ อ่านไปเพียงครึ่งเล่ม​ ​ เสียงเคาะประตู​ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของเมียเจ้าของโรงแรม " คุณชาติค่ะ​ กับข้าวคุณได้แล้วค่ะ" ชาติค่อยๆเดินมาอยู่ที่ประตู​ เขาเปิดมาให้เล๋งยกอาหารยกลงบนโต๊ะ​ เธอเห็นว่ามีแต่กับข้าว​ ​ น่าจะมีเครื่องดื่มเธอจึงถามว่า "แล้วเครื่องดื่มคุณเอาอะไรค่ะ" ชาติที่เห็นเธอจึงตอบแล้วพูดเรื่องเงินว่า " เอาครีมโซดาผสมมะนาวมาเหยือกหนึ่ง​ เอาเบียร์​มาขวดหนึ่ง​ ค่าใช้จ่ายเดี๋ยวผมจะจ่ายในวันพรุ่ง​นี้เช้า" เล๋งมองชาติแล้วจึงว่า " ค่ะ​ " แล้วเล๋งก็เดินออกไปข้างนอก​ เธอปิดประตู​แล้วจึงเดินออกมาหากวงผู้เป็นผัว​ เธอพูดกับแขกของเธออย่างนี้ครับ " นี่ตาแป๊ะ​ แกนี่รับทรัพย์​ตอนดึกแฮะ​ ดูตาชาติคนนี้ซิ​ ดูท่าแกคงเป็นผู้ดีเก่า​ น่าจะมีเงินเยอะแน่เลย" กวงที่ฟังเมียพูดแล้วไม่ได้ความจึงกล่าวว่า " ลื้อนี่มันหน้าเงินจริงๆ​ ​ เดี๋ยวเถอะ​ ลื้อกับอั๊วก็คงได้เดือดร้อนเพราะตาชาติคนนี้แน่" " ลื้อนี่! ​ " เจ้เล๋งค้อนปะหลับปะเหลือก​ เพราะเธอไม่คิดหรอกว่าคนเงียบๆอย่างชาติจะทำอะไรได้ เช้าต่อมา​ ชาติได้เดินออกมาเอาเงินร้อยสีแดงจำนวนปึกหนึ่งส่งให้กวงที่กำลังเช็ดโต๊ะแล้วถามเขาว่า "ห้องอาบน้ำไปทางไหนรึคุณ​ ที่นี้มีแต่ห้องส้วมเท่านั้นเอง" กวงจึงตอบบอกทางในขณะที่กำลังนับเงินว่า " อ๋อ​ ถ้าคุณจะอาบน้ำคุณต้องเดินไปที่ฐานสร้างเรือแล้วกัน​ ที่นั้นเขามีโรงอาบน้ำอนุญาต​ให้คนภายนอกเข้าไปอาบน้ำได้​ คุณก็ไปอาบน้ำที่นั้นแล้วกัน" เมื่อไม่มีทางอื่น​ เขาจึงจะไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำนั่น​ ​ แต่เขาไม่มีสบู่จึงได้ขอซื้อสบู่กับกวง​ " นี่เฮีย​ มีสบู่ขายมั้ย" " มีครับๆ​ " แล้วกวงก็หยิบเอาสบู่มาให้​ ชาติหยิบเหรียญมาสองสลึงแล้วแลกกับสบู่ของกวงแล้วเดินไปที่โรงอาบน้ำของฐานสร้างเครื่องบิน ホワイトドラゴン ณ​ โรงอาบน้ำในนิคมอู่ฐานสร้างเครื่องบินแห่งหนึ่ง​ ที่นี้นั้นคือโรงอาบน้ำที่ชาวบ้านที่พอจะมีอัฐมีเบี้ยและทหารญี่ปุ่น​มาใช้กัน​ ชาติเดินเข้ามาที่ฝั่งผู้ชายแล้วหยิบธนบัตรสิบบาทให้คนดูแลโรงอาบน้ำ​ แล้วเข้าก็เข้าไปถอดเสื้อผ้าแล้วนุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวเข้าไปในโรงอาบน้ำเข้าไปที่อ่างอาบน้ำ เมื่อได้เข้าไปแล้วเขาก็ได้นั่งฟอกสบู่​ คนที่ใช้บริการอาบน้ำ​อยู่ที่นั้นนับว่าไม่เยอะมาก​ แต่ก็ถือได้ว่ามีเยอะพอสมควร​ หนึ่งในผู้ใช้บริการ​อาบน้ำ​ กำลังนั่งอยู่ในอ่างน้ำ​ เขาคือมนโดะ​ ทากาโมโต้​ ที่มาใช้บริการ​อาบน้ำที่นี้นั่นเอง​ เขามองผู้ใช้บริการแปลกหน้าผู้นี้ไปมา​ แล้วจึงหยิบผ้าเช็ดตัว​มาปิดช่วงล่างไว้​ แล้วจึงลุกขึ้นเดินไปหาชาติที่กำลังถูตัวด้วยสบู่​ พล.ทอ.เอกมนโดะพิจารณา​ใบหน้าของชาติก็คิดขึ้นได้ว่าเขาคือใคร​ จึงได้เจรจา​เป็นภาษาอังกฤษ​ด้วยท่าทีตื่นๆ " you​ you​ The one who went to smother Luang Shinkorn's wedding, right?( คุณ​ คุณใช่มั้ยที่ไปป่วนงานสมรสของคุณหลวงชินกรใช่มั้ย)​" ชาติที่ได้ยินก็ทำหน้าตื่น​ ​ ถามเขาด้วยน้ำเสียงกระชาก "You know who I am! To have come and befriend me!?(นี่คุณรู้ด้วยเหรอว่าผมเป็นใคร! ถึงได้มาทำตีสนิทกับผม!?)" พล.ทอ.เอกมนโดะ​ทำหน้ายิ้มลอยไปลอยมา "It's the news that you're going to ruin that wedding until Praya vilaiheals Ruined It's so famous that I don't know how. I was also a guest at that wedding.(ก็ข่าวที่คุณไปทำลายงานสมรสนั่นจนบ้านของท่านพระยาวิไลรักษาพังพินาศ​มันดังขนาดนั่น​ผมจะไม่รู้ได้ยังไง​ อีกอย่างผมก็ได้เข้าร่วมเป็นแขกของงานแต่งนั้นด้วย)​" ชาติถามพล.ทอ.เอกอย่างห้วนๆด้วยอารมณ์​ไม่สบอารมณ์​ "So what's the matter with me?(แล้วมีเรื่องอะไรมาคุยกับผม)" มนโดะจึงพูดอย่างหน้าตาเฉย "I can't have a conversation with those who have made a contribution to both countries.(ก็ผมจะสนทนากับผู้ทำประโยชน์​แก่ประเทศสองฝ่ายไม่ได้เชียวรึ)" ชาติที่ทนฟังไม่ได้ก็ตวาดเป็นภาษาญี่ปุ่น​ว่า "*がおかしい!! **に**!! **と*わないでください。 *です!!(บ้า!! บ้าที่สุด!! คุณอย่าพูดอย่างนี้อีกนะ​ ผมไม่ชอบ!!)​" มนโดะชะงักที่ชาติได้พูดภาษาของตนตอกหน้าเขา​ เขาถามเป็นภาษาไทยอย่างยิ้มๆ " คุณ​ คุณพูดภาษาของผมได้ด้วยเหรอ?" ชาติจึงตอบไปอย่างสมเหตุผล​ "ถ้าคุณพูดไทยได้​ ผมก็พูดญี่ปุ่น​ได้" แล้วชาติก็บ่นว่า " ฮืม... หนีมาตั้งหะนี้แล้ว​ ยังมีคนมากวนใจอีกโว้ย" แล้วชาติก็ตักน้ำในขันที่ไหลจาก หลังจากที่อาบน้ำ​เสร็จ​ ชาติจึงเดินออกมา​แล้วเอาสิ่งหนึ่งออกมา​ นั่นคือเช็คเงินฉบับหนึ่งออกมาจากกระเป๋า​กางเกง "เช็คเงินธนาคารทหารมิตรไทย​ 28,000บาท" นั่นเป็นจำนวนเงินเดือนที่เขาได้รับจากทางกองทัพญี่ปุ่น​ที่ได้จากทอ.เอกมนโดะ​ เขามองไปที่ข้อความใบนั้นแล้วมองไปที่ธนาคาร​มิตรไทยแล้วจึงเดินไปที่นั่น​ หารู้ไม่ว่าเฮียกวงได้แอบมองดูเขา​อยู่..... "นายชาติ​เขาเข้าไปทำไมกันวะ​ ที่นั่นมีอะไร" 》■■■={[01.00]}=■■■《 ครับก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมได้คิดขึ้นไว้ก่อน​ หากอยากต่อกด.1 พักก่อนกด2.​ ขอบคุณ

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ระบบสร้างผู้กล้า

read
1K
bc

บุตรเขยเด่นพิเศษ

read
23.3K
bc

King! เกิดใหม่อีกครั้งกับการแย่งชิง

read
1K
bc

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย

read
1K
bc

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

read
1K
bc

ระบบเปลี่ยนแปลงพรสวรรค์

read
1K
bc

Primeval period.อาถรรพ์โลกล้านปี

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook