EP.06 ฝรั่งหล่อ

1063 Words
“กลัวอะไร.. เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกันแล้ว” สาวน้อยหน้าใสแต่แต่งตัวได้เปรี้ยวมากๆ กรอกภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำลงไปในโทรศัพท์ทำให้เบนจามินที่กำลังเดินผ่านหันขวับมองมาในทันที ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่สาวเจ้าหันมาเช่นกัน “แก.. หนูปลา แค่นี้ก่อนนะ ฉันเจอฝรั่งหล่อว่ะ หล่อได้ใจแมวเหมียวมากๆ เออ.. เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน ฉันจะฟังแกทุกอย่างที่แกอยากพล่าม เออ.. แค่นี้ก่อนนะ” วิฬาร์ส่งยิ้มที่คิดว่าน่ารักแบบสุดๆ ไปให้คนที่เธอหมายตา ซึ่งฝรั่งสุดหล่อในความคิดของเธอก็อมยิ้มตอบกลับมาให้ จนเธออยากจะบินตามเขาไปถ้าไม่ติดที่จะต้องขึ้นเครื่องภายในครึ่งชั่วโมงนี้อยู่แล้ว แต่..วินาทีเดียวก็มีค่าถ้าเธอจะคิดทำ “ขอโทษค่ะ ฉันรู้ว่ามันไม่สุภาพ แต่ฉันอยากรู้จักคุณค่ะ” ภาษาอังกฤษตามสำเนียงเป๊ะถูกส่งออกไปพร้อมใบหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋อรอฟังคำตอบจากเขา ซึ่งจนแล้วจนรอดเธอก็ยังได้เพียงรอยยิ้มของเขาเท่านั้น แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกไปเขาก็เป็นฝ่ายยกมือห้ามพร้อมกับเอ่ยพูดเสียเอง ซึ่งแน่นอนเธอหูผึ่งรอฟังอยู่แล้ว “พูดไทยก็ได้ครับ ผมเป็นคนไทย แต่ไม่ค่อยมีใครพูดไทยกับผมมากนักนอกจากที่บ้าน” “คะ..คนไทย คนไทยหรือคะ อย่าบอกนะคะว่าจะไปเมืองไทยเหมือนกัน” “ครับ.. ผมจะไปเมืองไทย” “อึ๊ย..ดีใจค่ะ ดีใจมากๆ คุณคะ! การที่ฉันขอทำความรู้จักผู้ชายก่อน ไม่น่าเกียจใช่ไหมคะ แต่เนอะ ทำไปแล้วนี่ งั้นคนไทยด้วยกันอย่าถือสานะคะ” “ครับ ผมเข้าใจ เพราะว่าผมเป็นฝรั่งที่หล่อมากกกก..” รอยยิ้มและคำพูดชวนเสน่ห์กำลังล้อเลียนคำพูดของเธอ “แหะ แหะ.. ก็ธรรมดาค่ะ คนหล่อใครๆ ก็อยากมอง ชื่อแมวนะคะ แล้วคุณ..” “เบนจามิน เรียกว่าเบนเฉยๆ ก็ได้ครับ” “อ๋อ.. เบนเฉยๆ อิอิ.. ล้อเล่นค่ะ” ตลอดไฟว์จากลอนดอนมากรุงเทพฯ วิฬาร์รู้สึกเบิกบานราวดอกไม้แรกแย้ม และก็ไม่ใช่เพียงเธอเท่านั้นเพราะเหล่าแอร์โอสเตสของสายการบินนี้ก็ดูจะชุ่มฉ่ำราวดอกไม้ได้น้ำกันทุกคน เพราะนานทีจะมีผู้โดยสารหล่อลากดินแบบนี้มาขึ้นเครื่อง ซึ่งนั่นวิฬาร์ขัดใจสุดๆ เพราะที่นั่งของเธอในชั้นประหยัดกับเขาในชั้นเฟิร์สคลาสทำให้ไม่ได้พูดคุยต่อ ทั้งที่ก่อนขึ้นเครื่องเธอก็จ้อไปซะเยอะแล้ว แต่เธอก็ยังมาดหมายว่าถึงเมืองไทยเมื่อไรเธอจะต้องได้เบอร์โทรของเขาอย่างแน่นอน “ไม่ง่วงหรือครับ” “อืม..นิดหน่อยจ้ะ” “กังวลอะไรหรือเปล่าครับ พี่ปราง..ดูไม่ค่อยสบายใจ” “พรุ่งนี้พี่มีประชุมแต่เช้า ก็เลยเครียดๆ” คำตอบของเธอทำให้หัวคิ้วเข้มต้องขมวดเข้าหากัน เพราะเมื่อช่วงบ่ายปรางทิพย์เป็นคนบอกเขาเองว่า พรุ่งนี้เธอมีสัมภาษณ์พนักงานบัญชีตอนเช้า 10 โมง หลังจากนั้นเธออาจจะไปเดินดูความเรียบร้อยในห้างนิดหน่อย จากนั้นจนถึงเย็นเธอก็ว่างสำหรับเขา แต่ตอนนี้ทำไมคำตอบของปรางทิพย์จึงตรงกันข้าม..เพราะอะไร “มีอะไรอยากให้ผมช่วย ไม่สิ.. พี่ปรางคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมหรอก เอาเป็นว่ามีอะไรอยากระบายไหมครับ อ้อมแขนและอกอุ่นของผมพร้อมที่จะให้พี่ปรางพักเหนื่อยได้เสมอ” คำพูดติดตลกแต่เธอรู้ว่าเขาจริงใจ คำที่เขาเอ่ยออกมามีผลต่อความร้อนที่วิ่งวูบวาบอยู่ที่หน่วยตาสวยคู่นี้ยิ่งนักจนเธอไม่อาจที่จะฝืนได้ไหว ต่อให้เข้มแข็งเพียงใดท้ายที่สุดเธอก็เป็นผู้หญิง และโดยเฉพาะเป็นผู้หญิงที่โหยหาความรัก โหยหาความเข้มแข็งที่จะมาทลายเกราะป้องกันตัวเองของเธอ และพร้อมที่จะโอบประคองให้เธอรู้สึกปลอดภัยได้ตลอดที่จังหวะหัวใจยังเต้นอยู่ “พี่ปราง! ร้องไห้ทำไมครับ มีอะไร บอกผมสิครับ! มีอะไร! พี่ปรางร้องไห้ทำไม” น้ำเสียงร้อนรนของอรินกับกิริยาโอบประคองร่างเปลือยเปล่าของเธอขึ้นมาแนบซบอกแกร่งของเขา พลางลูบหลังลูบไหล่แบบแสนรักแสนอาทรนักหนายิ่งทำให้ปรางทิพย์สะอื้นไห้มากยิ่งขึ้น ยิ่งเขาอ่อนโยนเธอก็ยิ่งพ่ายแพ้ต่อหัวใจตัวเอง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าระหว่างเขากับเธอคือการแลกเปลี่ยนและไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ แต่เธอก็ยังแอบคิดแอบหวังให้หัวใจเจ็บ “พี่ปรางครับ.. ใครทำให้พี่เจ็บ พี่ปรางบอกผมสิครับ ผมจะจัดการให้ ใครที่มันทำร้ายพี่ บอกผมสิครับ” อรินเจ็บปวดหัวใจยิ่งนัก แม้เขาไม่อาจจะรักปรางทิพย์ได้แบบหนุ่มสาว แต่ความผูกพันระหว่างเขาและเธอมีค่ามากกว่าคำนั้น แรกเริ่มเขาสงสารที่เธอทนทุกข์เพราะเสียคนรักไป จนกลายเป็นความไว้ใจที่ได้พบเจอกัน และเมื่อจังหวะชีวิตสอดประสานกันอย่างลงตัว ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกสบายใจที่ได้ใกล้ชิดเธอ แต่เมื่อเขาเลือกที่จะกลับเมืองไทยเพื่อทำธุรกิจสักอย่างให้หลีกพ้นจากอาชีพที่จำเป็นต้องทำเพื่อแลกกับค่าอยู่ค่าเล่าเรียน ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาก็ไม่ได้สิ้นสุดตาม ทว่ายังคงสอดประสานยาวนานจนถึงเดี๋ยวนี้ “พี่ปรางครับ โธ่!.. อย่าร้องไห้เลยนะครับ หรือผมเอง ผมทำอะไรให้พี่ปรางไม่พอใจหรือเปล่า หรือพี่ปรางโกรธผม” “อริน..” ปรางทิพย์พยายามกลั้นก้อนสะอื้นเมื่อเขากำลังโทษตัวเอง “อรินไม่ผิด พี่เองที่เป็นคนผิด” “ผิดอะไรกันครับ พี่ปราง! พี่ปรางผิดอะไรครับ! บอกผมสิครับ อย่าเพิ่งโทษตัวเอง” น้ำเสียงร้อนรนและดวงตาห่วงหาที่เขาแสดงออกทำให้ความอดทนของปรางทิพย์สิ้นสุด เธอไม่อาจกักเก็บความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกแล้ว หากต้องหลบซ่อนความรู้สึกนี้ไว้อย่างเจ็บช้ำ สู้เธอบอกเขาและยอมรับผลที่จะตามมาดีกว่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD