ชำระหนี้เมียคืนเดียว บทที่3.ตายซะดีกว่า อยู่ไปก็ไร้ค่า

1576 Words
“อ๋อ! ถ้าฉันเป็น เอ่อ..กะ...อะไรนั่น แสดงว่าพี่ชายก็ไม่ต่างอะไรกับแมงดาสินะ เห็นเกาะเมียกินไปวันๆ งานการไม่คิดจะทำ...แดกเข้าไปค่ะเหล้านั่นน่ะ มันคงจะช่วยให้พี่เจริญขึ้นและกลายเป็นคนดี...ไอ้พวกขยะสังคมเอ๋ย! ดีแต่สร้างมลพิษ ไม่ได้ก้มมองปลายตีนตัวเองเล๊ย! คิดว่าใหญ่จนคนอื่นต้องกลัวเหรอไงว่ะ? บอกตรงๆ ค่ะ ฉันไม่เคยแล... และไม่คิดต่อปากต่อคำกับพวกพี่ให้เสียเวลา กลับเข้าไปอยู่ในกะลา แล้วก็เห่าหอนตัวเองไป๊!” มันตั้งท่าเหมือนจะถลาเข้ามาหา และอัปสรก็ตั้งท่ารับ วันนี้เธอตัดสินใจตาย! ไม่กลัวมันล่ะ จะขอสู้เป็นครั้งสุดท้าย ทนมานานจนทนไม่ไหว ...ไอ้พวกเวรตะไลพวกนี้ ดีแต่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า… ไอ้มนุษย์เส็งเคร็งเหลือบไรสังคม พอเห็นคู่ปรับตั้งท่าสู้ มันเลยต้องรีบคิดใหม่ ตัวเองเมาจนตาลาย เดินแทบจะไม่ไหว หากเข้าปะทะกันตรงๆ เกรงว่าตัวเองอาจจะเสียเปรียบ มันจึงชะงัก...เอาเป็นว่าปล่อยมันไปก่อนเถอะ! วันหน้าค่อยหาโอกาสใหม่ อีนี่ไม่มีทางไปไหนหรอก...จนกรอบเสียขนาดนั้น “ฝากไว้ก่อนเถอะโว้ย!” มันยกมือขึ้น ชี้หน้าอัปสรแล้วจึงรีบหมุนตัวเดินหนี คว้าขวดเหล้ามากอดไว้แนบอก แล้วเดินตุปัดตุเป๋คลำทางกลับห้องพักของตัวเอง “ไอ้เชี่ย...ชิ!” อัปสรเบ้ปาก...เธอเดินกลับห้องและตั้งหน้าตั้งตากินอาหารที่หอบหิ้วมาอย่างมีความสุข เงินในกระเป๋าของเธอหมดเกลี้ยง... ไม่มีเหลือสักบาท... เมื่ออัปสรจงใจใช้... เธอจะตายมันวันนี้แหละๆ ไหนๆ ปัญหาก็รุมเร้าหนักทุกทาง จนไม่มีพื้นที่พอให้หายใจ หนี้ท่วมหัว! และไม่มีปัญญาหาทางออก ไม่มีงานทำ ตกงานเพราะถูกไล่ออก...ไม่มีเงินเหลือสักบาทติดก้นกระเป๋า เงินก้อนสุดท้ายเธอพึ่งจะจ่ายค่ารถแท็กซี่ เป็นการตามใจตัวเองครั้งแรกในรอบ6 เดือน “วู้ๆ อร่อยแท้ เห้อ! ...อัปสรเอ๋ยแกได้นอนตายตาหลับแล้วแหละวันนี้... ได้กินอาหารอร่อยเต็มคราบ แล้วก็ไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัวเรื่องเงินๆ ทองๆ” หญิงสาวทิ้งตัวนอนหงายสอดมือรองใต้ศีรษะ สายตามองฝ้าเพดานที่เต็มไปด้วยคราบสกปรก เพราะมันผ่านวันเวลามานานปี จนสีเดิมที่ทาทับไว้หลุดร่อน เผยให้เห็นเนื้อแท้ด้านใน สภาพรอบตัวเสื่อมโทรม และมันไม่ใช่สิ่งที่อัปสรเคยชิน แต่เธอกลับต้องทน เมื่อเธอกลายเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ “เธอนั่นยัยอัปสรใช่ไหม?” หญิงสาวนึกถึงเหตุการณ์ล่าสุดของตัวเอง กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนตอนที่อยู่เมืองไทย “ใช่! ฉันอยากพาพวกแกมาดูไง ไม่น่าเชื่อเนอะ นางฟ้าตกสวรรค์เสียแล้ว อิๆ” เสียงคุยดังมาเข้าหู เธอรู้...คนทั้งกลุ่มจงใจพูดให้เธอได้ยิน เมื่อแต่ละนางคือคู่อริ...คนที่เคยเขม่นกันในสมัยเรียนช่วงเวลาที่เธอเคยอู้ฟู่ พวกหล่อนๆ ไม่ได้หวังดีแน่ เธอรู้? “สภาพดูไม่จืด นี่นะเหรอคุณหนูนางฟ้า...ต๊ายตาย! น่าอนาถเนอะเธอ” ใครอยากพูดอะไร? พูดไปได้เลย! เมื่อมันคือความจริง เวลานี้เธอเป็นแค่พนักงานไม่มีสิทธิ์ไปต่อปากต่อคำกับลูกค้า ไอ้ผู้จัดการขี้ฉ้อยิ่งจ้องจะหาทางไล่เธอออกอยู่ด้วยสิ อัปสรกำมือแน่นแล้วก็ท่องในใจ ‘ทน’ เธอต้องทนได้ “เธอๆ พวกเราอยากสั่งอาหารเพิ่ม มาทางนี้หน่อยค่ะ” สาวคนหนึ่งในกลุ่มโบกมือเรียกอัปสร หญิงสาวรวบรวมความกล้า...สูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอดแล้วจึงเดินไปรับออร์เดอร์ และพยายามไม่สนใจเสียงซักถามจากอดีตเพื่อนๆ “อัปสร...นี่เธอเองเหรอ? ฉันนึกว่าตัวเองตาฝาด” แหมๆ หากเป็นเมื่อก่อนอัปสรคงตอกกลับจนเจ้าหล่อนหน้าหงาย แต่เวลานี้เธอไม่มีสิทธิ์...เพราะมันอาจจะทำให้เธอตกงานและถูกไล่ออก “กี๊ฟนี่เอง... เธอก็แปลกไปนะ ไปโมฯ หน้าที่เกาหลีมาเหรอจ๊ะ เธอเลยไม่ค่อยเหมือนเมื่อก่อนเลย ฉันจำแทบไม่ได้แหนะ” แต่ก็อดไม่ได้เลยลองแย็บๆ ไปเสียหน่อย กิษราถลึงตาใส่ ใช่สิเธอไม่ได้สวยหยาดฟ้ามาดินอย่างแม่อัปสรนางฟ้าดาวโรงเรียนนี่ ในอดีต...ไม่ว่าจะมีงานอะไรก็แล้วแต่ที่โรงเรียน อัปสรมักจะถูกเลือกเป็นคนแรกเสมอ เมื่อหล่อนทั้งสวยและรวย หล่อนเป็นดาวเด่น แต่ตอนนี้น่ะเหรอ...เหอะ! หญิงสาวกวาดตามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างดูแคลน สภาพของหล่อนนั้นเน่าสิ้นดี กิษราไม่จำเป็นต้องอิจฉาตาร้อนอัปสรอีกต่อไป เมื่อตัวเธอยกเครื่องใหม่มาหมดทั้งตัว สวยสะคราญไม่แพ้อัปสรหรอก... ถึงจะเป็นของปลอมแต่ก็หุ้มทองจนผู้ชายมองข้ามข้อด้อยข้อนี้ “สวยใช่ไหมล่ะอัปสร...ฉันหมดสตางค์ไปแค่4-5 ล้าน ป๊ากับแม่ฉันยังยุให้ไปแก้ใหม่เลย รู้สึกจมูกมันเบี้ยวๆ ไปนิด” เธอยกแก้วน้ำเย็นเฉียบขึ้นจิบ ปรายตามองอดีตเพื่อนหมิ่นๆ “อืม...สวยดี...เธอเรียกฉันมาเพื่ออยากบอกแค่นี้เหรอ” “เปล่า! ฉันแค่อยากใช้บริการที่นี่ให้คุ้ม อาหารอร่อยถูกปากดีน่ะ เธอน่าจะรู้นี่...ถึงมันจะแพง แต่ฉันกับเพื่อนๆ ก็มีสตางค์จ่าย” “คุณลูกค้าจะสั่งออร์เดอร์เพิ่มไหมคะ? ...เลือกกันตามสบายเลยค่ะ ทางร้านเรายินดีบริการ” อัปสรรีบสะกดอารมณ์โกรธลง เธอรู้ว่าพวกเขาจงใจแกล้งเธอ “เธอดูแลพวกฉันดีๆ ล่ะ ตอนเช็กบิล... ฉันกับเพื่อนๆ จะให้ทิปเธอหนักๆ นะอัปสร ฉันรู้...ว่าเธอต้องใช้เงิน” ข่าวดังกระหึ่มเมือง เรื่องบิดาของอัปสรล้มละลาย เขาหนีหนี้...และหายตัวไป บางคนว่าตาย... บางคนว่ายังอยู่แต่...กิษรารู้สึกสะใจ! นางหงส์แสนหยิ่งผยองปีกหัก...ถลาร่วงลงในปลักโคลนตม คราบน้ำครำสกปรกจับตามเนื้อตามตัวจนหมดสง่าราศี แม้จะสวยใสสะโอดสะองแต่ก็ไม่มีใครแล เมื่อหล่อนแบกหนี้ไว้ท่วมหัว…แม้ญาติๆ หล่อนยังถีบหัวส่ง แล้วใครหน้าไหนล่ะจะมอง... “ขอบคุณค่ะ” อัปสรทำได้แค่นั้นจริงๆ เธอกดเล็บลงไปในเนื้อตรงอุ้งมือ และท่องย้ำๆ คำว่า ‘ทน’ ไว้ในใจ “อิๆ ...” เสียงหัวเราะเย้ยหยัน...ยังตามมาหลอกหลอนเธอ ใครๆ ก็รุมดูถูก แล้วเธอจะอยู่บนโลกใบนี้เพื่ออะไร? เธอเหนื่อยและท้อเต็มทน “แม่จ๋า พ่อจ๋า อัปสรลานะคะ” เธอผุดลุกขึ้นนั่ง... คว้ากระปุกยามากำไว้จนแน่น เอ่ยปากลาบิดา มารดา แล้วจึงเทยาทั้งสองกระปุกไว้ในอุ้งมือ เธอขอพักตัวพักใจในโลกนี้ เจอกันใหม่ชาติหน้า เธอสัญญาว่าจะไม่เหลวไหลอีก... “พวกแกว่าไงนะ?” นิโคไลเหวี่ยงเอกสารในมือลงบนพื้น...เขาตวาดเสียงขุ่น และถลึงตาใส่บรรดาลูกสมุน เมื่อลูกหนี้คนหนึ่งเบี้ยว! หล่อนไม่ส่งทั้งต้นทั้งดอก แถมยังหายตัวไป เขาเดือดจัด...โกรธแทบกระอักเลือด ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับเขามาก่อน หล่อนกล้าดียังไง “คุณนิโคไลครับ...คือๆ” “พูดมาเร็วๆ ... ก่อนที่ฉันจะโมโหแล้วลากพวกแกไปสับเป็นชิ้นๆ” ชายหนุ่มคำรามลั่น ไม่เคยโมโหอะไรเท่าครั้งนี้มาก่อน “เธอย้ายกับประเทศไทยไปแล้วครับ เรากำลังจะตามล่าหาตัวเธอ แต่บังเอิญคุณรู้เรื่องเข้าเสียก่อน” “เธอ? ผู้หญิงเหรอไงวะ แล้วพวกแกปล่อยเธอกลับไปได้ยังไง” “จู่ๆ เธอก็หายตัวไปครับ กว่าเราจะสืบรู้เธอก็กลับไปแล้ว แถมที่อยู่ที่เธอให้ไว้...กลายเป็นของธนาคาร เพราะกำลังถูกยึด...แต่เราตามเจอตัวเธอแล้วล่ะครับ เรากำลังจะไปตาม...คุณก็เรียกมาเสียก่อน” มันอธิบายเสียงลนลาน เพราะในเวลานี้ดวงตาของนิโคไลกำลังลุกโพลงไปด้วยไฟโทสะ “ฉันจะไปเอง... หล่อนต้องเจอกับฉัน คนที่กล้าคิดจะเบี้ยวหนี้นิโคไล หล่อนจะต้องได้รับบทเรียน คนอื่นๆ จะได้ไม่กล้าทำเหิมเกริมเหมือนหล่อน!” เสียงทุ้มต่ำพูดช้าๆ เขาต้องการจัดการกับลูกหนี้รายนี้ด้วยตัวเอง เป็นการเขียนเสือให้วัวกลัว ต่อไปจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำขึ้นอีก “ครับ...” ลูกสมุนน้อมรับคำสั่ง และพร้อมปฏิบัติการ เขานึกขยาดแทนอัปสร เพราะหากนิโคไลลงมือเอง... หล่อนคงไม่ตายดี เมื่อเจ้าหนุ่มไร้ความเมตตา เขาไม่มีหัวใจ! ไทยแลนด์… “นี่เหรอที่อยู่อยู่ของยัยนั่น?” ชายหนุ่มลดกระจกด้านข้างลง เขาแหงนใบหน้ามองอาคารสูงหลายสิบชั้นด้วยแววตาหยามหยัน สถานที่เสื่อมโทรม... ของคนชั้นล่าง เป็นตึกแถวที่สร้างห้องพักเหมือนรังมด แออัด... และเบียดเสียด เต็มไปด้วยผู้ใช้แรงงาน “ครับ...คุณนิโคไล...คุณรออยู่นี่แหละครับ ผมจะขึ้นไปลากตัวหล่อนลงมาเอง” “ไม่! ฉันจะไปด้วย...” ชายหนุ่มปฏิเสธ เขาเปิดประตูผ่าง และก้าวลงมายืนบนพื้นด้านล่าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD