เช้าวันต่อมาดารินลืมตาตื่นด้วยความรู้สึกปวดร้าวและหนักอึ้งไปทั้งตัวทำให้ เธอครางเบาๆ แสงสว่างจ้าที่มากเกินไปจนต้องขยี้ตาแต่ว่าสายน้ำเกลือ มือมีเฝือก ขาขยับไม่ได้อีก
“เรื่องจริงเหรอเนี่ย!” เธอคิดว่าแค่ฝันร้ายแต่เมื่อดูสภาพตัวเองแล้วมันไม่ใช่เลย เหตุการณ์ทั้งหมดคือเรื่องจริง
“โอ๊ย...หิวน้ำ!” ไม่มีใครอยู่เฝ้าเลยเหรอ เฮ้อ…ชีวิตน่าสมเพชจังเลยนะ เธอค่อยๆขยับตัวขึ้นนั่งกำลังจะหยิบขวดน้ำที่หัวเตียงด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดเลย
“ริน! เฮียคิดว่าหลับอยู่ซะอีก” เขาเข้ามาพร้อมแพทย์พอดี
“เฮียโย!” เพราะเขานั่นแหละเธอถึงมีสภาพแบบนี้
หมอมาตรวจอาการเธอไม่นานก็ออกไปพร้อมบอกเกี่ยวกับอาการที่ไม่น่าเป็นห่วงมาก แล้วแขนสามารถถอดเฝือกอ่อนออกได้ก็ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ส่วนขาก็น่าจะเดือนกว่าๆ
เธอจะต้องใช้ชีวิตยังไงดีละต่อจากนี้
“ยังเจ็บแผลอยู่ไหม?” แค่เขาเห็นสายตาน้องสาวก็รู้แล้วว่ายังโกรธเรื่องเมื่อวานนี้อยู่
“เฮียจะไปไหนก็ไปอย่ามายุ่งกับรินอีก!” เธอไม่อยากจะเห็นหน้าเขาและไม่อยากจะได้ยินคำพูดอะไรทั้งนั้น เธอมีสภาพนี้เพราะเขาคนเดียว แล้วไหนจะเรื่องรถอีกยิ่งคิดยิ่งเครียด
“ให้เฮียดูแลดีกว่านะ”
“ไม่! เฮียออกไปเลยถ้าไม่ไปรินจะดึงสายน้ำเกลือออก!” เธอเกลียดเขามาก เธอไม่ต้องการจะเห็นหน้าแม้แต่จะหายใจร่วมกันเธอก็ไม่ต้องการแล้ว เธอขยับตัวออกถึงแม้จะเจ็บแต่เธอจะไม่ยอมให้เขาโดนตัวได้หรอก
“โอเค เฮียออกไปก็ได้” เขายอมถอยเองจะดีกว่าให้ดารินต้องทำร้ายตัวเอง ลำพังที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็มากเกินไปแล้ว
วาโยตัดสินใจจัดจานข้าวต้มพร้อมด้วยน้ำวางไว้ให้บนโต๊ะเลื่อนให้เธอได้กินอาหารสักนิด มันใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกผิดนะ เขาพร่ำโทษตัวเองตลอดทั้งคืนที่ทำให้ดารินเป็นแบบนี้
“อ้าวเฮียโยรินฟื้นยัง?” มิ่งมาพร้อมกับแฟนสาวพร้อมกับหอบกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมเพื่อนสนิท
“ฟื้นแล้วกินข้าวอยู่แล้วมากันทำไม”
“ก็มาเยี่ยมเพื่อนไงเฮีย เอ่อ...แล้วรินมันโกรธเฮียโยปะ?” มิ่งถามเพราะจะหาทางช่วยไม่ได้คิดจะซ้ำเติมอะไรเลย เรื่องโดนต่อยเมื่อวานเขาไม่ได้คิดอะไรมากเพราะรู้เหตุผลคนหึงอยู่
“เดี๋ยวผมกล่อมมันให้” แค่ดูสีหน้ามิ่งก็รู้แล้วว่าต้องมีเรื่องกันเพิ่มแน่นอน แต่ตอนนี้อยากเจอเพื่อนมากกว่า
“เออ”
ดารินนั่งดูหนังแล้วกินข้าวคนเดียว โทรศัพท์ก็ไม่มีให้เล่นอีก เธอควรจะเอายังไงดีกับสถานการณ์แบบนี้ ถ้าออกจากโรงพยาบาลต้องไปอยู่ด้วยกัน โอกาสหลีกเลี่ยงที่จะพบเจอกันก็ยากมากเพราะเธอเดี้ยงไปทั้งตัวแบบนี้ ว่าแต่บิ๊กไบค์ที่ตัดหน้าเธอจะเป็นยังไงบ้างนะ
“ไงอีรินใกล้ตายรึยังวะ?”
“ไอ้เชี้ยมิ่งนี่กูเพื่อนมึงนะ!” มาคนเดียวไม่พอต้องเอาแฟนมาอีก ไอ้มิ่งแม่งไม่สงสารคนโสดเลย
“โอ้โห้! สภาพดูไม่จืดนี่หว่า มากูป้อนเองจะได้แดกง่ายๆ” เห็นเพื่อนกินข้าวแล้วมันขัดหูขัดตาจริง
“เฮียโยของมึงเดินหน้าจ๋อยเชียว มึงทะเลาะกันอีกเหรอ?”
“ก็เพราะเฮียโยปะล่ะที่ทำกูเป็นแบบนี้” ถ้าเขาไม่ขับรถตามไล่จับ ตามจะเอาชนะเธอคงต้องมาเสียหลักแบบนี้หรอก
“อีรินผู้ชายหล่อรวยเพอร์เฟคขนาดนี้แถมยังรักเดียวใจเดียวมึงยังจะเล่นตัวอีกเหรอ ระวังคนมาคาบไปแดกก่อนล่ะ” มิ่งอดจะแซะเพื่อนไม่ได้ที่มองข้ามของดีไป
“ไอ้มิ่งแต่เฮียโยเป็นพี่กูนะ แล้วที่สำคัญกูเกลียดเฮียด้วย” เมื่อก่อนว่าเกลียดแล้วแต่ตอนนี้เธอเกลียดมากกว่าเดิมเสียอีก
“มึงลองมองเขาเป็นผู้ชายธรรมดาดิแล้วมึงจะรู้เอง” ก็นั่นแหละที่ผู้ชายด้วยกันจะมองกันออก แล้วเฮียโยก็แสดงออกชัดเจนทุกอย่างแบบไม่มีการอ้อมค้อมแม้แต่น้อยเลย
“ผู้ชายธรรมดา?”
“เออ! เขารักมึงจะตายห่าอยู่แล้ว มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอ?”
วาโยยืนแอบมองภาพบาดใจตรงหน้ามือกำหมัดแน่นอยากจะต่อยเพื่อนดาริน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะตอนนี้เธอยังโกรธเขาอยู่ ที่ตรงนั้นควรเป็นเขาสิที่ได้ทำไม่ใช่เป็นเพื่อนผู้ชายคนอื่น
เขาอยู่แบบนี้ไม่ได้ต้องไปที่อื่นดับอารมณ์หึงหวง
เกือบเย็นที่เฮียโยหายไปเลย เธอสั่งงดอาหารโรงพยาบาลหลังจากที่รสชาติไม่ถูกปากสักนิด ในตอนนี้เธอลองเขย่งเท้าจะเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลมากเกินไป แต่แค่เท้าแตะพื้นก็เจ็บแปลบไปหมดทั้งขาจนน้ำตาแทบไหลเลย
“อย่าดื้อนะริน!” วาโยเข้ามาเห็นเลยมาอุ้มเธอแทนเห็นดารินอ้าปากจะพูดเขาเลยพูดดักเอาไว้ก่อน
ดารินจะโกรธเกลียดเขายังไงก็ได้แต่ตอนนี้อย่าดื้อก็พอ เขารู้แหละว่าเธอไม่ยอมง่ายๆหรอก แต่ก็จะไม่ยอมแพ้เหมือนกัน เธอเจ็บเพราะเขาแค่นี้มันมากพอแล้ว
ตลอดชีวิตไม่เคยจะทำร้ายเธอสักนิด ครั้งนี้มันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพราะเขาคนเดียว ดารินอาจจะเกลียดเขามากกว่าเดิม แต่เขาจะใช้โอกาสในระหว่างที่เธอยังทำอะไรไม่ได้เพื่อทำให้หวั่นไหวจนเปลี่ยนความคิดมารักเขาเอง
หวังว่าความรักของเขาจะเข้าถึงใจเธอบ้างนะ!
“ขอบคุณ”
“เสร็จแล้วบอกนะเฮียรอหน้าห้องน้ำ” เขาวางเธอลงคิดว่าดารินอาจจะอยากใช้เวลาส่วนตัวบ้าง
ดารินปิดประตูล็อกจัดการถอดเสื้อผ้าดูร่างกายของตัวเองเห็นรอยช้ำเป็นจ้ำจนหน้ากลัวในบางจุด โดยเฉพาะหัวไหล่ที่ม่วงเชียว เธอล้างหน้าให้สดชื่นแต่เสื้อถอดได้แต่ใส่ไม่ได้อะ
“เฮียโยอยู่ไหม?” คนเดียวที่สามารถช่วยถ้าไม่จำเป็นจะไม่ยอมร้องขอเด็ดขาด
“เสร็จแล้วเหรอเฮียเข้าไปนะ” เขากำลังจะเปิดประตูแต่เธอร้องห้ามเสียงดังลั่น
“อย่าพึ่ง!! เฮียหลับตาเข้ามารินโป๊อยู่” เหลือมือข้างเดียวที่ว่างเธอรีบยกมากุมเสื้อไว้กลัวว่าเขาจะเห็นอะไรเข้า
“เฮียช่วย อะ! หลับตาแล้ว” เขามองเห็นนะว่าเสื้อถอดออกแล้วผูกเชือกคืนไม่ได้ วาโยหลับตาแล้วค่อยๆจับเชือกของเสื้อผู้ป่วยมาทีละเส้นผูกกันอย่างช้าๆ ขนาดหลับตายังรู้เลยว่าผิวสวยนี้ต้องขาวเนียนมากแน่ๆ แล้วที่สำคัญมือเขาไปโดนหน้าอกเธอหน้าครั้งมันนุ่มเชียวละ
ครั้งนี้ถือว่าเขาได้กำไรเยอะเลย
“เสร็จแล้วเด็กดื้อ” ดารินยังหน้าบึ้งตึงเหมือนเดิม เขาต้องทำยังไงเธอถึงจะยิ้มจะหัวเราะบ้าง
“ขอบคุณ” ดารินตอบเสียงกระแทก
“รินยกเลิกอาหารโรงพยาบาลเหรอไอ้มายมันพึ่งบอกเฮีย” ดารินยังปรกติกับทุกคนยกเว้นเขาที่เธอทำหน้าบึ้งกว่าเดิม แต่ก็แปลกที่เธอไม่ด่าไม่ไล่เหมือนเมื่อช่วงเช้า
นับเป็นความน่ากลัวนะตอนผู้หญิงเงียบแบบนี้
เธอยอมให้เขาประคองมาที่เตียงแล้วนั่งเล่นโทรศัพท์ที่พึ่งได้มาจากพี่มายแล้วกดเขี่ยอะไรไปเรื่อย แอบมองเฮียโยที่กำลังปอกผลไม้ให้เธออยู่เงียบๆ
เฮียโยรักเธอจริงเหรอหรือว่าแค่อยากได้เฉยๆ
เธอไม่รู้หรอกว่าทำไมความรักถึงเปลี่ยนเขาได้ขนาดนี้ เธอเองก็สับสนเหมือนกันเพราะสิ่งที่เขาทำให้ทุกวันก็รู้สึก แต่ความเกลียดตอกย้ำให้รู้ว่าเขาคิดแต่เรื่องเลวๆกับเธอทั้งนั้น
พี่น้องรักกันไม่ได้เธอต้องจำเอาไว้สิ
“กินผลไม้หน่อยนะเฮียป้อน” ดารินชอบอะไรเขาจำได้หมด อย่างเธอชอบแตงโมเขาก็ออกไปหาซื้อแล้วยังมาปอกเปือกออกหั่นเป็นชิ้นๆให้อีก เขาไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครสักคนเลยนอกจากน้องสาวคนนี้คนเดียว
มันน่าแปลกอีกแล้วที่ดารินไม่ดื้อยอมกินผลไม้ที่เขาป้อนให้แต่ก็ไม่ยอมคุยกับเขาสักคำ ให้ตายเถอะ! มันอึดอัดยิ่งกว่าตอนโดนไล่ออกจากห้องอีกนะ ตอนนี้แค่ดารินด่าก็ยอมเลย
“รินเฮียขอโทษนะ” เขาจับมือเธอมาจูบเบาๆ
“…” เธอไม่น่าฟังไอ้มิ่งมันพูดเลยเพราะตอนนี้มันรู้สึกแปลกๆพิกล ไอ้มิ่งไอ้เพื่อนชั่วมันทำให้เธอสับสนมาก
“คุยกับเฮียสักคำนะ จะด่าก็ได้แต่อย่าเงียบได้ไหม?” เขาควรจะเอายังไงต่อจากนี้ดี
“…” เธอเงียบไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกอะไรสักหน่อย เธอแค่ปวดแผลปวดมากแล้วกินยาไปแล้วก็ยังไม่ดีขึ้นเลย เธอไม่อยากจะพูดจะคุยอะไรกับเขาเพราะเดี๋ยวจะปวดหัวเอาได้
เธอดูหนังไปเพลินๆยังไม่รู้สึกหิวข้าวเย็นคงเพราะกินแตงโมเยอะไปหน่อย พี่มายกับพี่ปืนก็มาเยี่ยมแล้วนั่งคุยกันเบาๆ
“พี่มายช่วยพยุงรินเข้าห้องน้ำหน่อย”
“เอ่อ...จะดีเหรอรินให้เฮียโยช่วยดีกว่านะ”
“มาเฮียช่วยเองดีกว่า” เขาเป็นคนเดียวที่จะดูแลเธอต่อให้ดารินไม่เรียกหรือไม่พูดด้วยเขาก็จะเสนอหน้าและเสนอตัวเข้าช่วยแบบนี้แหละ
บอกให้มาพยุงแต่มาอุ้มซะงั้น! ดารินเบะปากมองบนกับใส่เขาก่อนจะจัดการตัวเองในห้องน้ำให้เรียบร้อย คืนนี้เธอมั่นใจว่าเขาต้องนอนเฝ้าแน่นอน คนอย่างเฮียโยเหรอจะให้คนอื่นเข้าใกล้เธอมากกว่าตัวเขาไม่มีทางซะหรอก
จะว่าไปแบบนี้ก็สบายดีนะแบบนี้
แต่ก็น่าเบื่อ
ดารินเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อมีคนมาคอยป้อนข้าวและยังรู้ดีว่าเธอไม่กินผักอีก เฮียโยคอยป้อนเธอคำกินเองคำแต่ไม่ยอมเปลี่ยนช้อนคงกะจูบทางอ้อมใช่ไหมละ
“นี่น้ำ” เธอดูดน้ำเสร็จเขาก็ยังจะเช็ดปากให้เธออีก
“พอไม่ดื้อก็น่ารักมากนะริน” เธอไม่คุยกับเขาเลยสักคำเดียว แต่ยอมร่วมมือกันหมดไม่ว่าเขาจะป้อนน้ำ ป้อนข้าว ป้อนขนมหรือแม้แต่พยุงไปห้องน้ำก็ได้หมด มันดีนะแบบนี้ ยิ่งถ้าดารินจะยอมยิ้มให้สักทีหนึ่งจะยิ่งดีเข้าไปใหญ่
คืนนี้เขานอนเฝ้าดารินแต่อยากยั่วให้เธอด่าสักนิดเพราะอยากได้ยินเสียงบ้าง พออาบน้ำเสร็จแล้วใส่แค่พันเช็ดตัวออกมาแต่งตัวข้างนอกกะว่าจะแก้ผ้าโชว์เด็กน้อยซะหน่อย
“กรี๊ด…ไอ้โรคจิต!!” เธอปิดตาตัวเองแทบไม่ทันคนบ้าอะไรมาแก้ผ้าตรงนี้ เธอจะเป็นตากุ้งยิงไหมละเนี่ย!
“หึ! ยอมหลุดเสียงออกมาจนได้นะเด็กดื้อ” วาโยใส่กางกางนอนขาสั้นเรียบร้อยแล้วถึงได้เดินเข้ามาใกล้เธอ น้องสาวของเขายังอ่อนหัดเรื่องนี้เหมือนเดิมเลย
“รินเฮียแต่งตัวเสร็จแล้ว” เขามั่นใจว่าดารินจะต้องหันกลับมาด่าเขาแน่แล้วนั่นแหละโอกาสดีที่จะได้จูบ
“ไอ้...อื้ออ…” เพียงแค่ริมฝีปากบดเบียดดูดแรงๆเธออ้าปากออกตามใจเขาแล้ว ลิ้นที่แทรกเข้ามาสร้างความปั่นป่วนหวาบหวามอย่างหนักมากขึ้น เธอโต้ตอบอย่างคนอ่อนประสบการณ์ลืมตัวไปกับจูบอ่อนหวานเหมือนว่าเฝ้ารอมานาน
เขาผละจูบออกมาสบตาสวยแล้วจูบซ้ำอีกครั้ง
และจูบซ้ำอีกครั้ง
ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่เขาจูบเธอไม่หยุดเหมือนหิวกระหาย ลิ้นอุ่นชื้นสร้างความปั่นป่วนไปทั้งหัวใจ สัมผัสหวาบหวามล่อลวงให้โต้ตอบตามใจเขาทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะชี้นำไปทางไหนเธอก็พร้อมตามไปแบบไร้สติจะคิดต่อต้านได้เลย
เขาผละจูบออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างและแววตาอบอุ่น
ให้ตายสิ! ใจสั่นไปหมดแล้วนะ