6

1197 Words
กระทั่งเครื่องบนเริ่มเคลื่อนตัว และลอยสูงเหนือท้องฟ้า หญิงสาวนึกถึงหลายสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เธอทำพลาดมากมาย บางครั้งอยากแก้ไขโดยเฉพาะเรื่องราวกับชายหนุ่มที่เป็นรักแรก รวมถึงความรักครั้งล่าสุดที่เพิ่งเธอขว้างแหวนแต่งงานใส่หน้าผู้ชาย เพราะเขาแอบไปทำเด็กรับใช้ในบ้านท้อง! ขณะที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยซึ่งทำให้หัวใจบอบช้ำหนัก พนักงานสาวบนเครื่องบินก็ประกาศบางอย่างด้วยน้ำเสียงเครียดจัด อีกทั้งมีเสียงกรีดร้องรอบข้างจนเธอตื่นตระหนกไปด้วย จากนั้นเธอต้องประสาทเสีย สติเหมือนจะไม่อยู่กับเนื้อตัว พอหน้ากากออกซิเจนหล่นลงมาตรงหน้า เธอจึงรีบคว้ามันไว้ ทว่ายังไม่ทันได้สวมก็มีสิ่งที่น่าพรั่นพรึงตามมา “เครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉิน!” นั่นคือสิ่งที่ลู่ฟางรับรู้ แล้วความกลัวสุดขีดก็เข้าครอบงำเธอ ถังมู่เหรินยื่นมือให้หลี่หวางชิงจับ แต่นางส่ายหน้าปฏิเสธ ขณะเดียวกันหญิงสาวพยายามเก็บอาการของตนเอาไว้ สิ่งที่ต้องย้ำเตือนตัวเองบ่อยครั้งนับแต่ทะลุมิติเข้าในนี้คือนางไม่ได้ฝัน ไม่ได้อยู่ในซีรีย์เรื่องใด ทว่าทั้งหมดนี้เป็นโลกคู่ขนาน ทุกคนมีเลือดเนื้อ มีลมหายใจ ที่สำคัญนางจะตายง่ายๆ เหมือนที่เคยอ่านผ่านตาไม่ได้ หลี่หวางชิงผู้นี้ จะต้องอยู่จนวาระสุดท้าย และแก้แค้น คนที่จับนางฝังทั้งเป็นพร้อมลูกน้อยในท้อง!! “ช่วงนี้ ข้าสนใจผ้าไหม ภาพวาด รวมถึงอาหาร จึงต้องการเปิดตลาด การค้าสักเล็กน้อย” เจ้าบ้านถังน้อยฟังหลี่หวางชิงกล่าว ก็พยักหน้าตาม แต่เขายังอดแปลกใจไม่ได้ นางเป็นสตรีอายุน้อย อีกทั้งยังไม่ออกเรือนจะสนใจค้าขายไปเพื่อการใด “คุณหนูสี่ อยากได้ร้านสำหรับทำการค้าหรือ” “ถูกต้อง ค้าอยากทำธุรกิจ!” “เรื่องนี้ใต้เท้าหลี่ ล่วงรู้หรือไม่” “ฮิๆ ๆ เพราะข้าอยากปกปิดไว้เป็นความลับ จึงต้องไหว้วานท่าน” จ้านปี่อี้ได้ยินอย่างนั้น นางรู้สึกว่าตนไม่ควรสมควรล่วงรู้สิ่งใดที่หลี่หวางชิงจะกล่าวกับถังมู่เหริน “คุณหนูสี่ เช่นนี้ข้าควรขอตัว” “อย่างเพิ่งจากไปไหน การค้านี้สำคัญมาก และที่ให้น้องเล็กอยู่ด้วยเพราะเจ้าจะเป็นพยานของข้า เพื่อให้เจ้าบ้านถังน้อยเก็บเรื่องที่เราคุยกันในวันนี้เป็นความลับ ลับชนิดที่เรียกว่าสุดยอด” “หมายความว่า” เสียงของถังมู่เหรินดังขึ้น เขาหรี่ตามองหลี่หวางชิง อย่างไม่ค่อยพอใจ “พวกท่านทั้งสองคน มีเรื่องที่ร่วมกันทำก่อนหน้านี้ และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็จะปรากฏเป็นก้อนซาลาเปานุ่มนิ่มขาวอวบ!” จ้านปี่อี้หน้าซีดเผือด หากหลี่หวางชิงไม่เข้าไปประคองไว้ ร่างของนางคงล่วงลงจากม้านั่งหิน “คุณหนูสี่ล่วงรู้เรื่องนี้” “โลกนี้มีความลับใดกันที่ข้าไม่อาจสืบความ ยิ่งปิดบัง ข้ายิ่งกระจ่างแจ้ง” หลี่หวางชิงเอ่ยจบก็อมยิ้มในสีหน้า หากขณะเดียวกันถังมู่เหริน เริ่มเก็บอาการไม่ไหว เขาชอบสตรีนางนี้อยู่มิน้อย แต่นางกลับแสดงชัดเจนว่ากำลังพยายามใช้เรื่องเด็กในท้องของจ้านปี่อี้มาข่มขู่เขา เพื่อที่นางจะได้ทำการค้าในนามของสกุลถัง สตรีอายุน้อยหากมีไหวพริบเช่นนาง นับว่าหายาก ทว่ากลับใช้ความฉลาดที่มีเพื่อควบคุมเขา นางคิดสั้นเสียแล้ว! “คุณหนูสี่ ที่ท่านให้บ่าวส่งจดหมายไปหาข้าก็เพราะเรื่องนี้กระมัง” หลี่หวางชิงยิ้มหวานหยดให้อีกฝ่าย “ถูกต้อง สตรีเช่นข้าใช่จะอยากเกี้ยวบุรุษด้วยกลอน หรือภาพวาด ที่นัดเจ้าบ้านถังน้อยมา ก็เพื่อธุรกิจของเราโดยเฉพาะ” คำพูดของหลี่หวางชิงทำให้ถังมู่เหริน หน้าแดงก่ำ ส่วนจ้านปี่อี้นั้นไร้ปากเสียง ได้แต่ก้มหน้ามองพื้น ใบหน้าอ่อนเยาว์ของถังมู่เหรินเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คุณชายเจ้าสำราญคล้ายถูกกระตุกหนวดงามๆ แต่เขายังยิ้มอย่างมีไมตรีต่อหลี่หวางชิง สาวงามที่มีพิษสงและยังกล้าท้าทายเขาเช่นนี้ นางคืออาหารแสนหอมหวานยั่วใจ “ช่างประเสริฐ แต่คุณหนูสี่ต้องรู้ไว้ หากเล่นกับไฟ มันอาจลวกมือได้” หลี่หวางชิงหัวเราะน้อยๆ จริตนางและสีหน้าแจ้งชัดว่าไม่ได้อ่อนต่อโลก “บังเอิญข้าใส่ถุงมือเอาไว้ อีกทั้งไฟกองนี้ของเจ้าบ้านถังน้อย คงไม่มีกำลังมากพอที่จะทำให้ข้าเผาไหม้ ที่สำคัญ...” หญิงสาวว่า และมองไปยังหน้าท้องของจ้านปี่อี้ กิริยานางแจ้งความประสงค์อย่างไม่ปิดบัง “อีกไม่กี่เดือน... ก้อนซาลาเปาก็จะออกมาลืมตาดูโลก เรื่องนี้จะเก็บไว้นานสักแค่ไหน ปากคนย่อมยืดยาว...” “ฮ่าๆ ๆ พูดสิ่งใดกัน” ถังมู่เหริน หาได้ยอมรับสิ่งใดที่เกิดขึ้นกับจ้านปี่อี้ และนั่นทำให้นางหน้าซีดสลด สองมือบีบกันแน่น ดูเหมือนสตรีน้อยผู้นี้กำลังได้รับความทุกข์ใหญ่หลวง ทั้งกายและใจ “อย่าได้กล่าวเป็นอื่น สวรรค์ล่วงรู้ ข้ารู้ ใจท่านกับน้องอี้ ยิ่งตระหนักถึงกว่าผู้ใด” หลี่หวางชิงขี้เกียจเล่นละครต่อ นางกล่าวอย่างตรงไปตรงมา กระนั้นก็ลอบมองสีหน้าของจ้านปี่อี้ตลอด สตรีเมื่อถูกจับได้ว่าตั้งครรภ์ก่อนกำหนด และฝ่ายชายยังไม่ยอมรับเรื่องเช่นนี้น่าอับอาย “อย่าได้กล่าวถึงสิ่งที่ไม่ใช่ธุระวันนี้ของคุณหนูสี่เลย” เมื่อชายหนุ่มเอ่ยเช่นนั้น หลี่หวางชิงจึงเลิกสนใจเด็กในท้องของจ้านปี่อี้ นางเปิดแผนที่ซึ่งคัดลอกมาจากห้องทำงานของพี่ชายคนโต กลางให้ถังมู่เหรินดู แจ้งเขาอย่างชัดเจนว่าต้องการร้านขายของในเมืองที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปราวๆ หนึ่งร้อยห้าสิบลี้ “เมือง...เยี่ยนกวาน” หญิงสาวชี้ไปที่แผนที่ พร้อมนึกถึงภาพในใจ มีบางฉากในซีรีย์ที่เกิดขึ้นที่นั่น เป็นสถานที่ซึ่งนางอ่านพบในบท และผู้จัดการถ่ายรูปมาให้ดู บอกว่าใช้เป็นที่เปิดกองซีรีย์อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมระบุว่าเมืองเยี่ยนกวาน มีการถ่ายทำหลายฉากสำคัญเพราะเป็นสถานที่งดงาม ทั้งเป็นเมืองเก่าแก่ มีความอุดมสมบูรณ์ อากาศไม่หนาวจัดหรือร้อนเกินไป นอกจากนั้นยังมีท่าเรือติดต่อกับต่างประเทศ “คุณหนูสี่คิดดีแล้ว” “ย่อมเป็นสิ่งที่ข้าพึงพอใจ” เมื่อคุยสิ่งต่างๆ กับถังมู่เหรินเรียบร้อย หลี่หวางชิงก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษ นางออกจากศาลต้าฟู่ในอีกครึ่งชั่วยามต่อมา ก่อนกลับเข้าจวนบิดา นางแวะร้านขายเครื่องประดับ และขนมหวานด้วยความสุข
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD