05
#หลงเมียครั้งที่ห้า
“โอะ! อยากฮะ! น้องครามอยากเจอคุณพ่อที่สุดในโลกเลย”
!!!
ฟึ่บ!
สิ้นเสียงน้องคราม คนที่แกล้งหลับกระเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งหลังตรงดิ่งทันที ก่อนจะพบว่ามีสายตาสองคู่กำลังจ้องมองมาที่ตนเอง พอได้มาเห็นกับตาแบบนี้...
คงจะมีแค่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มหวาน ๆ นั่นล่ะมั้งที่ลูกได้เธอมา นอกนั้นไม่ว่าจะนัยน์ตาเฉี่ยวคมหรือจมูกที่โด่งคมเป็นสันคงจะได้คุณหมอตรงหน้ามาเต็ม ๆ
ดวงตาคู่สวยผินมองลูกชายตนเองกำลังเคี้ยวแป้งขาว ๆ จนแก้มตุ่ย ก่อนจะค่อย ๆ ช้อนตาขึ้นไปมองคุณหมอตัวสูงที่กำลังยืนป้อนขนมเข้าปากลูกชายแต่กระนั้นอีกคนก็จ้องมองกันด้วยใบหน้าเรียบนิ่งแบบที่เจ้าตัวชอบทำ
“คะ คุณ”
“ยุงหมอฮะหม่ามี๊ น้องครามจ้า ๆยุงหมอภามเรียบร้อยแล้วฮะ”
พันดาวมองลูกชายตนเองที่พูดไปพร้อมกับยิ้มหวานไป แต่กระนั้นก็ยังอ้าปากรับก้อนแป้งสีขาวเข้าปากเรื่อย ๆ ดวงตาคู่สวยมองน้องครามกับนายแพทย์หนุ่มตรงหน้าสลับไปมา ก่อนจะพักหยุดไว้ที่ใบหน้าคมคายที่เลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ
ภวินทร์สบสายตากับหญิงสาวตรงหน้าไม่ลดละ จมูกเชิด ๆ นั่นส่งผลให้เจ้าตัวดูดื้อรั้นไม่น้อย สายตาที่มองมายังเขาเต็มไปด้วยคำถามราวกับมีเรื่องอะไรในใจแต่ทว่ากลับไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาสักประโยค
“ผมตามมาดูเคส...มันเป็นหน้าที่” คนหน้านิ่งโป้ปดออกไปคำโต
หน้าที่บ้าหน้าที่บออะไรกัน แค่อยากเจอหน้าอีกคนถึงขั้นต้องเพ้อเจ้อขนาดนี้เชียวหรือไอภาม ถ้าพวกไอพอร์ชรู้มีหวังโดนคำว่าตอแหลกรอกหูยาวเป็นเดือนแน่ ๆ
ถ้าจะให้พูดตามตรง...แค่อยากเจออีกครั้ง อ่า...ไม่รู้สิ อยู่ดี ๆ ในใจก็ว้าวุ่นราวกับกลัวว่าสองแม่ลูกตรงหน้าจะหายไปจนไม่ได้พบเจอกันอีก มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดชะมัด
พันดาวพยักหน้าตอบรับน้อย ๆ ก่อนดึงสายตากลับมามองลูกชายตนเอง นึกแปลกใจไม่น้อยว่าคุณคนนี้มีดีอะไรกันนะ...น้องครามถึงไม่ร้องไห้สักแอะ ซ้ำยังพูดคุยสนิทสนมไม่มีทีท่าว่าจะกลัวเลยสักนิด ราวกับรับรู้ได้ว่าคุณหมอคนนี้คือพ่อตนเอง
กริ๊ง ๆ ๆ
“...ครับ ผมฝากออฟเดรน แล้วก็ส่งซีที สแตท”
ความเงียบภายในห้องถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์เครื่องหรูของนายแพทย์หนุ่ม พันดาวลอบมองร่างสูงที่กำลังคุยกับปลายสายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หัวคิ้วชนกันน้อย ๆ น่าจะมีเคสเร่งด่วนเข้ามากะทันหัน
ติ๊ด!
“ครามครับ...พอดีลุงมีธุระด่วน เดี๋ยวลุงแวะมาเยี่ยมใหม่นะ”
หลังจากที่กดวางสาย ภวินทร์ผินหน้ากลับมามองหนูน้อยก่อนจะเอ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงและสายตาที่อ่อนลงกว่าเดิม พันดาวใจกระตุกเมื่อได้ยินสรรพนามที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่
“ธุระหยอ อืออออ ได้ฮะ! ยุงภามสู้ ๆ น้า” เด็กชายตัวน้อยเอียงคอทำหน้าฉงนก่อนจะพูดให้กำลังใจออกมาพร้อมกับชูกำปั้นน้อย ๆ ข้างที่มีเฝือกขึ้นมาตรงหน้า
“หึ...ขอบคุณครับ”
ภวินทร์หัวเราะในลำคอ ส่งมือหนาขึ้นไปยีเส้นผมสีอ่อนของเจ้าตัวอย่างนึกเอ็นดู ทั้งที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันแท้ ๆ ทำไมกลับรู้สึกเอ็นดูและผูกพันธ์มากมายขนาดนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้
“ผมติดเคส...ไว้จะมาหาใหม่” พันดาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกคนหันมาบอกกันก่อนจะตอบอีกคนไปด้วยน้ำเสียงผะแผ่ว
“...ค่ะ”
พันดาวลอบมองลูกชายตนเองที่มองตามคุณหมอหน้านิ่งเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วยจนลับสายตา ไม่ทันไรก็ชะเง้อมองหากันซะแล้ว เธอขอเห็นแก่ตัวตักตวงความสุขระยะสั้นให้น้องคราม พอลูกหายดีเมื่อไหร่เราก็จะกลับไปใช้ชีวิตสองคนแม่ลูกตามเดิม
ดูเหมือนว่าเขาจำเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ...แต่ก็ดีแล้วล่ะ ไม่งั้นเรื่องราวคงจะวุ่นวายไม่น้อย หายหน้าหายตาไปสามปี อยู่ ๆ จะมาบอกว่าน้องครามคือลูกของคุณคงจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ อีกอย่างเธอไม่ได้มีเจตนาเรียกร้องให้อีกฝ่ายรับผิดชอบกัน...ไม่ต้องการเลยสักนิด
ปล่อยให้น้องครามเข้าใจ...ว่าคุณพ่ออยู่ในที่ไกลแสนไกลนั่นแหละคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถึงแม้บางครั้งคำพูดที่ว่าไม่มีพ่อจะวกกลับเข้ามาทำร้ายน้องครามจนสร้างแผลใจให้เจ้าตัวไม่น้อย แต่เธอก็พยายามอธิบายให้ลูกฟังอย่างเข้าใจ
น้องครามเป็นเด็กดี...เธอเชื่ออย่างนั้น
ก๊อก ๆ ๆ
แอ๊ด!
เสียงเคาะประตูหน้าห้องผู้ป่วยดังขึ้นก่อนตามด้วยเสียงเปิดปิดประตู ขาเรียวสูงของนายแพทย์หนุ่มสาวเท้าเดินเข้ามาในห้องตรงปรี่มายังเตียงผู้ป่วยที่มีเด็กน้อยนั่งเล่นรถของเล่นคนเดียว
น้องครามเงยหน้ามองต้นเสียง เมื่อเห็นบุคคลที่เพิ่งมาใหม่ก็ยิ้มแฉ่งออกมาอย่างดีใจจนเห็นฟันกระต่ายสองซี่...ยุงภามมาหาตามที่บอกจริง ๆ ด้วย ภวินทร์ส่งมือไปลูบสัมผัสศีรษะทุยเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยออกมา
“เล่นอะไรอยู่ครับ...หื้ม ไม่ปวดมือหรือไง”
“ไม่ปวดแล้วฮะ...นี่ รถซิ่งบรื้น ๆ หม่ามี๊คนสวยซื้อให้ฮะ” น้องครามพูดขึ้นพลางไถรถของเล่นในมือไปกับเตียง
“แล้วหม่ามี๊คนสวยไปไหนครับ”
(tbc)