ครืด~ ครืด~
นอนดูซีรี่ย์ไปซักพักสายเรียกเข้าจากยัยคะนิ้งก็ดังขึ้น ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูอย่างชั่งใจ ทำไมช่วงนี้มันถึงได้โทรมาหาฉันบ่อยจัง ทั้งที่ปกติเวลาโทรมาถ้าไม่ชวนเที่ยวก็คงเรื่องงานแค่นั้น
"อือ ว่า" ฉันกดรับสายแล้วปรายตามองคนที่นั่งทำงานอยู่เล็กน้อย
(แกอยู่ไหน หอมั้ย) เสียงยัยนั่นดูตื่นเต้นแปลกๆ
"อืม มีอะไร"
(ฉันเห็นรถพี่คิวจอดหอแก เขาไปหาใคร แกเห็นมั้ย)
พอยัยคะนิ้งพูดจบฉันก็นิ่งเงียบไป แต่หัวใจมันดันเต้นแรงขึ้นมา
(ยัยเตย ฟังฉันอยู่มั้ย)
"ฟัง"
(แล้วแกรู้มั้ย เห็นพี่เขาหรือเปล่า)
"ไม่เห็น อยู่แต่ในห้อง" ฉันตอบแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่งมือเล็กๆชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศยี่สิบเอ็ดองศา
(เออๆ ถ้าเห็นบอกด้วยนะ อยากรู้ว่าไปหาใคร) พูดจบยัยนั่นก็กดวางสายไปทันที
"เพื่อนเธอเหรอ" อยู่ๆพี่คิวก็ถามออกมาแล้วหัวเราะในลำคอ ทั้งที่ตัวเองกำลังทำงานอยู่และมองแต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่พิมพ์อะไรไม่รู้เต็มไปหมดสลับกับหน้าโปรแกรมบางอย่างที่น่าจะเกี่ยวกับสาขาที่เขาเรียนอยู่
"อืม"
"โกหกเพื่อนไม่ดีนะ" คราวนี้เขาพูดแล้วหันมายิ้มแบบกวนๆ "รักเพื่อนไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องโกหก"
"บางที่พี่คิวก็เป็นอะไรที่อยู่เหนือคนปกติ รู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะตัวเองยังจะมาว่าคนอื่น เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งก็ไม่รู้" ฉันพูดไปด้วยความหงุดหงิดไม่รู้จะจัดการกับผู้ชายคนนี้ยังไงดี
"พยายามแล้ว" เขาตอบเสียงเรียบแล้วนั่งทำงานต่อเหมือนไม่ใส่ใจ
"พยายามแล้วจะมาหาทำไมอีก แต่เตยก็โง่เองแหละที่เปิดประตูให้พี่เข้ามา" ฉันพูดแล้วถอนหายใจออกมาเหมือนหาทางออกไม่ได้
"หมายถึงฉันพยายามจะไม่ยุ่งกับเพื่อนเธอแล้ว แต่เพื่อนเธอตื้อ"
พูดแบบนี้อีกแล้ว พูดเหมือนให้ความหวัง แต่ฉันไม่ได้หวังอะไรจากเขาซักหน่อยทำไมต้องเก็บมาคิดฟุ้งซ่านด้วยนะ
"งั่นก็เลิกยุ่งกับเตยคงง่ายกว่า" เพราะถ้าเทียบกันยัยคะนิ้งคงชอบเขามากกว่าฉันที่ไม่รู้ตัวว่าตอนนี้รู้สึกยังไงกับเขา
"..." พี่คิวไม่ตอบ เขานั่งเงียบทำงานต่อ ฉันจึงหันกลับมาดูซีรี่ย์ จนเวลาล่วงเลยไปเกือบหนึ่งทุ่มพี่คิวก็ลุกขึ้นไปแต่งตัวแบบเดิม
"ไปแต่งตัวไป" เขาหันมาบอกฉันแล้วพับจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คลงแต่ไม่ได้เก็บมันใส่กระเป๋า
"แต่งทำไม" ฉันเอี้ยวตัวมาถามคนที่ยืนอยู่ปลายเตียง ขณะที่ตัวเองนอนดูซีรี่ย์อยู่เหมือนเดิม
"ไปกินข้าว ไม่หิวเหรอ"
"พี่ไปเองเถอะ" ฉันบอกแล้วหันตัวกลับมากดเล่นต่อ
"ถ้าไม่ลุก..." พูดไม่ทันจบเขาก็ขยับลงมาคร่อมฉันไว้จากด้านหลังก่อนจะนอนทับตัวฉันเอาไว้จนขยับไปไหนไม่ได้
"พี่คิว! ไอ้บ้าลุกออกไปนะ!"
"จะไปมั้ย ถ้าไม่ไปจะเอาตอนนี้เลย" ไปพูดเปล่ามือยังสอดเข้ามาในเสื้อสายเดี่ยวของฉันก่อนจะเลื่อนมาบีบหน้าอกอีก
"พี่คิว!" ฉันพยายามจะขัดขืนแต่ตอนนี้แทบจะขยับไม่ได้เพราะเขาล็อกตัวฉันไว้จากด้านหลัง
"สงสัยอยากให้เอาก่อน" คนด้านหลังเลื่อนมือลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็วทำทีจะเกี่ยวกางเกงขาสั้นของฉันลงอีก
"อื้อ!! ไอ้บ้าปล่อยเลย จะลุกแล้ว ปล่อย!" ฉันดิ้นคลุกคลักอยู่ใต้ร่างของพี่คิว หนักก็หนักขยับตัวไม่ได้อีกเกลียดที่สุดเลย!!
แล้วเขาก็ยอมลุกออกจากตัวฉันไปยืนข้างเตียง เสยผมขึ้นก่อนจะเท้าเอวมองฉันที่กำลังทำหน้าบึ้งใส่
สุดท้ายฉันก็จำยอมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มันดีกว่านี้แล้วออกจากห้องไปกินข้าวกับเขาจนได้
"ไปไกลๆ ที่ใครไม่รู้จัก" ฉันบอกตอนที่นั่งอยู่บนรถที่เคยนั่งมาแล้วครั้งหนึ่ง ในคืนวันไนท์แสตนของฉัน
แต่ดูเหมือนตอนนี้จะไม่ใช่ซะแล้ว เพราะไอ้บ้านี่มันดันติดใจฉันจนต้องตามติดชีวิตนักศึกษาอย่างฉันอยู่
"บอกร้านมา" เขาบอกแล้วหันมามองหน้า ซึ่งตอนนี้มันก็ยังบูดบึ้งอยู่ "ทำหน้าดีๆ"
"ไปย่าน XXX เลย"
"ไกลขนาดนั้นไม่ไปกินต่างจังหวัดเลยล่ะ" เขาบ่นแต่ยังคงขับรถไปเรื่อยๆ และสุดท้ายก็จอดที่ร้านบะหมี่ร้านหนึ่งที่คนเยอะพอสมควรแต่ไม่ใช่ย่านมหาวิทยาลัยเรา
"ยืมหมวกนะ" ฉันเอื้อมมือไปหยิบหมวกเบาะหลังแล้วสวมไว้
"กลัวใครเห็นขนาดนั้น" พี่คิวเลิกคิ้วสงสัยคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
"อืม เปิดเผยไม่ได้ เตยไม่ใช่พี่ที่จะควงใครก็ได้ออกสื่อ" ฉันตอบแล้วเปิดประตูลงจากรถพี่คิวก็เปิดประตูตามมา
ที่จริงฉันยังไม่อยากมีปัญหากับใครตอนนี้ ไม่ว่าจะเพื่อนหรือผู้หญิงคนอื่นของพี่คิว
"เอาอะไร" พี่คิวถามแล้ววางแก้วน้ำที่เขาเพิ่งไปกดมาให้
"เตยเอา...หมี่แห้งหมูกรอบ ไม่เอาหมูแดง ไม่เอาผักโรยหน้า" ฉันบอกแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเล่น มองไปรอบๆก็ไม่มีนักศึกษาเลย
ดีแล้วจะได้ไม่มีเรื่องให้คิดมาก
Sun : กินข้าวยัง
ข้อความของซันแจ้งเตือนขึ้นมาบนจอ ฉันจึงเลื่อนลงมาแล้วกดเข้าไปตอบ
Toeyhom: กำลัง
เขาทักมาตลอดตั้งแต่วันนั้น ฉันก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง พอรู้ตัวอีกทีก็เหมือนจะได้คุยกับเขาทุกวันไปแล้ว แต่ก็แค่ไม่กี่ประโยคในแต่ละวัน
Sun : เมื่อไหร่จะได้เลี้ยงข้าว
เขาก็เหมือนจะพยายามให้ฉันไปเจอ ก็ปกติของคนที่กำลังจีบเราล่ะมั้ง แต่ฉันยังไม่พร้อมเลยบ่ายเบี่ยงมาตลอด
Toeyhom : ไว้ตอนหิวข้าวพร้อมกันนะ
ฉันตอบไปแบบนั้นก่อนจะกดออกจากหน้าแชทนั้น พี่คิวก็เดินกลับมาพอดี เขานั่งลงแล้วก็มองหน้านิ่งๆแต่ฉันก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ
"พรุ่งนี้เรียนกี่โมง"
"บ่าย"
พอขึ้นปีสามก็ดูเหมือนตารางเรียนจะสบายขึ้นเพราะตอนปีหนึ่งปีสองฉันเก็บวิชาหนักๆไปหมดแล้ว และอัดเต็มที่จนช่วงนั้นแทบไม่ได้เที่ยวไหนเลย
"มีอะไร" ฉันเงยหน้าจากมือถือแล้วมองคนที่จ้องหน้าอยู่ อย่างกับกลัวฉันจะหายตัวไป
"พรุ่งนี้ตื่นเช้าได้มั้ย"
"ไม่ชอบตื่นเช้า" ฉันบอกแล้วหลบสายตานั่นกลับมามองมือถือต่อ
"งั้นก็ลองตื่นซักวัน" พูดจบบะหมี่ที่สั่งก็มาเสริฟ์พอดี ฉันจึงไม่ได้ถามต่อว่าทำไมเพราะตอนนี้เริ่มหิวมากแล้ว
พอกินข้าวกันเสร็จพี่คิวก็พาฉันกลับ แต่...มันไม่ใช่ทางกลับหอฉัน!
"จะไปไหนอีก"
"ไปเอาเสื้อผ้า"
ฉันอ้าปากค้างจะด่าแต่พี่คิวก็ทำสายตากลับมาเหมือนจะบอกว่าถ้าพูดอะไรออกไปเขาจัดการฉันแน่นอน
"ทำแบบนี้ทำไม" ฉันได้แต่พูดเบาๆเพราะความไม่เข้าใจ เขากำลังจะจริงจังกับฉันเหรอ แต่เขาไม่ได้ตอบอะไรฉันเลย ขับรถไปจอดหน้าคอนโดตัวเองแล้วบอกให้รอยู่ในรถ
จะหนีไปตอนนี้เลยดีมั้ย
แต่ถ้าหนีไปก็ต้องลำบากเรียกรถอีกเพราะมันไม่ใกล้หอฉันเลย เผลอๆพี่คิวจะลงมาซะก่อน และต่อให้หนียังไงเขาก็ตามไปเจอที่หอ
สุดท้ายฉันก็ต้องเลือกที่จะนั่งรอเขาในรถแบบเดิมจนกระทั่งเขากลับมาพร้อมกระเป๋าเป้ที่มีเสื้อผ้าอยู่ในนั้น
"ถามหน่อยทำไมต้องไปนอนห้องเตย"
"เหงา" นี่คือคำตอบที่ทำเอาฉันอยากจะกระชากคอเขาเข้ามาแล้วฟาดหน้าซักที "นอนกับเธอสนุกกว่า"
"พี่ไม่ไปนอนกับคนอื่นล่ะ ที่เขาอยากนอนด้วย" ฉันพูดแล้วมองคนข้างๆอย่างไม่เข้าใจ
"ใครดี เพื่อนเธอมั้ย" พี่คิวเท้าแขนไว้กับเบาะแล้วยื่นหน้ามาถามฉันจนต้องเอียงตัวหลบ
"แล้วแต่พี่"
"ผู้หญิงพูดว่าแล้วแต่แปลว่าไม่อยากให้ทำ" เขายิ้มแล้วค่อยๆเคลื่อนรถออกไป ฉันหมดปัญญาจะเถียงกับคนแบบพี่คิวแลัว พูดอะไรไปก็ไม่ชนะผู้ชายอะไรหน้าด้านหน้าทน
"ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เตยแน่นอน ถ้าเตยพูดว่าแล้วแต่คืออยากทำอะไรก็ทำ เตยไม่สนใจ" ฉันตอบแล้วหันหน้าออกทางหน้าต่างอีกรอบ