หมายเหตุ นักเขียน
นิยายเรื่องนี้ผู้เขียนได้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการของตนเอง ไม่อิงประวัติศาสตร์ หลักความเป็นจริง สถานที่ ขนบธรรมเนียมประเพณี และตัวละครไม่มีอยู่จริง รวมถึงมีฉากอีโรติกรวมอยู่ด้วย วอนผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน นิยายเรื่องนี้เหมาะกับผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้น (อายุ 18 ปี ขึ้นไป) และใช้คำราชาศัพท์เพียงบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากหากใช้ฉบับเต็มรูปแบบอาจจะส่งผลให้ผู้อ่านรู้สึกติดขัด และเข้าใจยาก หรือน่ารำคาญจนเกินไป
ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวนักเขียนเองยินดีรับฟังข้อเสนอแนะ คำติ หรือคำชมเพื่อปรับปรุงแก้ไขในผลงานเล่มต่อไป
[พื้นที่เพื่อความบันเทิง ละเว้นดราม่ากันนะคะทุกคน]
•••
๑๐
ยอมเสียที
ข่าวองค์รัชทายาทอ่อนโยนกับสตรีเพียงหนึ่งเดียวแพร่สะพัดออกไปบ้างก็เป็นเรื่องจริง บ้างก็มีเสริมเติมแต่งขึ้นมา ซึ่งเรื่องทั้งหมดเกิดจากความตั้งใจขององค์รัชทายาทเอง เขาต้องการเร่งรัดให้งานแต่งงานของเขาเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดเพราะถึงแม้ว่าท่าทีของเป่าเป้ยจะดีกับเขามากขึ้นแล้วแต่เขาก็ยังไม่วางใจ แม่นางน้อยผู้นี้วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่นสนุกไม่นึกถึงเรื่องที่จะต้องร่วมหอลงโรงกับเขาแม้เพียงเสี้ยว นางมาช่วยงานเขาได้ไม่เท่าไหร่ก็ตีสนิทกับคนในวังไปมากมายแถมยังเป็นกันเองกับทุกคน เล่นเอาเขาปวดหัวไปเลย ในเมื่อห้ามปรามนางไม่น่าจะได้แล้วเขาจึงต้องมาห้ามปรามกับคนของเขาเอง
"ข่าวออกไปตั้งมากมายขนาดนี้แล้ว นางไม่คิดจะเดือดร้อนบ้างหรือไง"
"เออ…"
"ว่าอย่างไรเล่า องครักษ์ตง"
"หรือว่า ข้ายังปล่อยข่าวโคมลอยไม่พอ เอาอย่างนี้แล้วกันเจ้าไปปล่อยข่าวอีก บอกไปจนถึงว่านางเป็นใครไปเลยน่าจะดีที่สุด"
"พ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์ตงก้มรับคำสั่งจากนั้นก็เร่งออกไปปล่อยข่าวตามรับสั่งขององค์รัชทายาท ในเมื่อหลังจากวันนั้นแล้วนางก็ดูเหมือนจะสนิทใจกับองครัชทายาทมากขึ้น แต่กลับไม่เป็นฝ่ายเอ่ยปากถามเรื่องการแต่งงานสักนิด
จากวันนั้น วันที่มีข่าวโหมประโคมมาเข้าหูของเจียวจิ้นหลายต่อหลายเรื่องจนเขาไม่กล้าที่จะออกจากจวนอยู่แล้ว หากไม่ติดว่าจะต้องออกประชุมราชการที่โถงพระโรงกับองค์ฮ่องเต้แล้ว เขาก็ไม่อยากจะแบกหน้าออกไปให้คนเข้ามาถามกันมากมาย
"บุตรีของไทฝูไม่ใช่หรือ คนที่องค์รัชทายาทประกาศออกมาว่าจะแต่งเป็นพระชายา"
"แต่ไทฝูเคยแจ้งเอาไว้ว่าจะแต่งเข้าเป็นสนมเท่านั้นนี่"
"น่าอิจฉาไทฝูไป๋เหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าบุตรีของท่านใช่เล่ห์กลอันใดทำให้องค์รัชทายาทลุ่มหลงถึงเพียงนี้"
"แล้วองค์ฮ่องเต้ว่าอย่างไรบ้าง"
"พระองค์จะว่าอย่างไรได้ พระองค์ทรงอยากให้องค์รัชทายาทแต่งพระชายาอยู่นานแล้ว แต่องค์รัชทายาททรงปฏิเสธมาโดยตลอด ครั้งนี้คงสมใจพระองค์แล้ว"
"ใช่ๆ ยิ่งเป็นลูกสาวของไทฝู คนสนิทของพระองค์คงยิ่งวางใจ"
"แต่ข้าได้ยินมาว่าบุตรีคนนี้ของไทฝูเป็นคนเก็บเนื้อตัวแถมยังไม่ฉลาดเสียด้วย"
"ชู่ๆ ไทฝูเข้ามาแล้ว"
เสียงครหาเรื่องนี้ดังขึ้นในท้องพระโรง องค์รัชทายาทที่ยืนอยู่ในมุมหนึ่งก็กดยิ้มพึงพอใจเมื่อได้ยินเสียงครหาเช่นนี้ ไทฝูก็คงทนไม่ได้จนต้องถามถึงเรื่องการอภิเษกอย่างแน่นอน
"ซีฮัน ข่าวที่ว่าเจ้าจะแต่งบุตรีของไทฝูเป็นชายาเป็นความจริงหรือเปล่า" ฮ่องเต้เซวี่ย ซีห่าวเอ่ยถามบุตรชายของตนด้วยใบหน้ายิ้มๆ อย่างมีนัย องค์รัชทายาทเองก็ก้มหน้าน้อมรับอย่างเต็มใจ
"จริงหรือ ไหนว่าเจ้าเกลียดนาง ทำไมถึง…"
"ความรู้สึกก่อนหน้านี้กับตอนนี้ไม่เหมือนแล้วนะเสด็จพ่อ"
"ดี ดียิ่ง ฮ่าๆ ฮ่าๆ ข้าดีใจยิ่ง" เสียงหัวเราะดังกึกก้องไปทั่วทั้งท้องพระโรง ขณะที่เหล่าขุนนางต่างก็งงว่าฮ่องเต้ซีห่าว มีเรื่องอะไรให้น่าขันขนาดนี้
"ข้าจะส่งสินสอดไปให้"
"เดี๋ยวก่อนพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ"
"ทำไม หรือว่านางยังไม่ปลงใจ" พระองค์ก็รู้ข่าวมาบ้างเรื่องที่หลังๆ มานี้บุตรชายของตนทำเรื่องอะไรไว้บ้าง ทั้งส่งคนคอยตามนาง เรียกนางเข้ารับใช้ในวัง ตามนางไปงานเทศกาล และปล่อยข่าวโคมลอยเพื่อเร่งรัดว่าที่เจ้าสาว พระองค์รู้ทั้งหมด
"เออ…"
"ฮ่าๆ เจอตอซะแล้ว ซีฮันเอ๊ย"
งานราชการบุตรชายคนนี้ของพระองค์ก็เก่งกาจและรอบคอบ งานทัพจับศึกบุตรชายของพระองค์ก็เก่งเหนือใคร มีอีกคนที่เก่งกาจพอกัน องค์ชายเจ็ด คนนี้เจริญรอยตามซีฮันได้อย่างดีเลยทีเดียว ว่าราชการกันเรียบร้อย เหล่าขุนนางต่างก็กลับกันไปแล้ว ในขณะที่ไทฝูกำลังกลับก็ถูกฮ่องเต้ซีห่าวเรียกเอาไว้
"เจียวจิ้น"
"พ่ะย่ะค่ะ"
"ไม่มีใครอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนี้ก็ได้"
"พ่ะย่ะค่ะ"
"ดูเหมือนว่า ซีฮันของข้า จะถูกใจอาเป้ยลูกสาวของท่านอย่างจริงใจ อย่างไรเสียท่านก็กลับไปพิจารณาเร่งรัดให้หน่อยไม่ได้หรือ"
"เออ"
"ข้ารู้ว่าท่านรู้สึกผิดบาปกับลูกสาวท่าน แต่ไม่ช้าก็เร็ว ก็ต้องอภิเษกกันอยู่ดี" คำพูดของฮ่องเต้ทำเอาเจียวจิ้นวิตกกังวลเขากลับมาถึงจวนก็เห็นบุตรีของตนกำลังนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาชมจันทร์ เห็นความสนุก ความสดใส ความซุกซนที่อยู่ในดวงตาคู่นั้นของบุตรีคนเล็ก
"ท่านพ่อ"
เสียงเรียกของบุตรีทำให้เขาหลุดออกจากห้วงความคิด ก่อนจะเดินเข้าไปหาลูกสาวของตนแล้วนั่งลงเคียงข้างนาง
"เป้ยเป้ย"
"เรื่องแต่งงานหรือท่านพ่อ"
"เจ้า"
"ท่านพ่อโดนกดดันมาใช่มั้ย" เขาเม้มปากแน่นไม่อยากจะผลักภาระนี้ไปให้นางเลย เขาเองก็ยังอยากจะเห็นความสดใสของนางแบบนี้ไปเรื่อยๆ หากนางไม่ต้องออกเรือนไปเลยก็คงดี
"แต่งก็แต่ง ข้าไม่ชอบเห็นท่านพ่อเป็นทุกข์"
"เป้ยเป้ยๆ นี่เจ้า"
"ถึงแม้ว่าข้าจะยังอยากอ้อนท่านพ่ออยู่แบบนี้ แต่หน้าที่ของบุตรคือต้องทดแทนคุณบิดามารดาไม่ใช่หรือ"
"ข้า… ขอโทษ" สองคนพ่อลูกนั่งดูดาวชมจันทร์กันไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งคืนกระทั่งถึงยามโฉ่ว
•••
พิธีอภิเษกสมรสยิ่งใหญ่ราวกับประกาศให้ฟ้ารู้ดินรู้ ทุกคนในใต้หล้าในแผ่นดินนี้รับรู้ว่าองค์รัชทายาทเซวี่ย ซีฮัน มีพระชายาเรียบร้อยแล้ว เหล่าพสกนิกรต่างกู่ร้องยินดีบ้างก็จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง บ้างก็ร้องรำทำเพลงเพราะเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง องค์รัชทายาทโหดเหี้ยมผู้นั้น กำลังจะเปลี่ยนไปเพราะสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่พระองค์นับเป็นพระชายา
สตรีก่อนหน้าข่าวว่าพระองค์ไม่เคยแตะต้อง ไม่เคยจัดงาน ไม่เคยไปหา แม้แต่ใบหน้าหรือชื่อพระองค์ก็ยังจำไม่ได้ แต่แม่นางผู้นี้ บุตรีโง่ของไทฝูที่เป็นผู้ครอบครองดวงใจเพียงดวงเดียวของพระองค์
นิยายรักในรั้วของราชวังถูกเล่าขานกันไปปากต่อปาก บัดนี้ ไม่มีแล้วองค์รัชทายาทโหดผู้ที่ถือดาบมากกว่าพู่กัน บัดนี้มีเพียงองค์รัชทายาทที่จับมือสตรีที่เป็นพระชายามากกว่าดาบกับพู่กันเสียอีก
"ข้าดีใจยิ่ง ที่เจ้ายอมร่วมหอกับข้า ข้าดีใจยิ่งที่เจ้ายินยอมอยู่เคียงข้างข้าตราบนี้ไปจนนิรันดร์"