กานต์ยืนอยู่หน้าเครื่องซักผ้า ศึกษาวิธีใช้ด้วยการอ่านปุ่มสวิตช์ต่างๆ อยู่พักใหญ่ กดมั่วบ้างไม่มั่วบ้าง แต่สุดท้ายก็ใช้งานมันได้ เขาหยิบเสื้อผ้าทำงานของออสตินใส่ลงไปในเครื่องทีละตัว ก่อนจะต้องนิ่งงันไปเมื่อมือคว้าเอาเสื้อเชิ้ตที่ออสตินถอดส่งมาให้มาถือไว้ในมือ
ถึงตอนนี้กลิ่นหอมนั่นก็ยังติดอยู่เลย
กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ขณะเดียวกันก็มีกลิ่นของไม้แห้งที่ให้อารมณ์ผู้ชายแข็งกระด้างแต่เรียบง่าย กานต์ชอบกลิ่นนี้ มันทำให้หัวของเขารู้สึกโปร่งโล่งสบาย ไม่มีเหตุผลหรอกว่าทำไมถึงชอบ ที่รู้ๆ เขาอยากจะได้กลิ่นมันชัดๆ อีกครั้ง
มือยกเสื้อเชิ้ตตัวนั้นขึ้นจรดปลายจมูก สูดลมหายใจเข้าปอด กลิ่นสารสกัดดอกไม้สารพัดอบอวลอยู่ในโพรงจมูก เย้ายวนให้เด็กหนุ่มเคลิบเคลิ้มไปกับกลิ่นนั้นจนลืมไปสิ้นว่าตอนนี้ตัวเองต้องทำอะไร
กลิ่นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น...
กลิ่นหอมยั่วยวน...
กลิ่นของความนิ่งขรึม ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายอ่อนโยน...
“ทำอะไร”
เสียงทุ้มทำให้กานต์สะดุ้งสุดตัว หลุดออกจากภวังค์ รีบลดมือลงทันใดก่อนจะหันไปเห็นเจ้าของเสียง เท่านั้นก็พลันหน้าซีดเผือดไปหมด
“มะ...ไม่ได้ทำอะไรครับ”
“เหรอ” ออสตินครางรับอย่างไม่เชื่อ เมื่อครู่นี้เขาเห็นอยู่เต็มๆ สองตาว่าเจ้าลูกเลี้ยงของเขาทำอะไร ก่อนจะเอนตัวพิงกับขอบประตู กอดอกว่าอย่างจับผิด “แต่เมื่อกี้ฉันเห็นเธอดมเสื้อของฉัน”
ได้ยินแค่นั้น คนถูกจับได้ก็เหงื่อแตกซิก คิดไม่ออกเลยว่าจะแก้ตัวอย่างไรดีเมื่อถูกจับได้คาหนังคาเขาแบบนั้น
“ดมทำไม”
เห็นว่ากานต์ไม่พูด ออสตินก็ถามออกมาอีก ขณะที่กานต์แสดงอาการล่อกแล่กออกมาอย่างไม่ปกปิด
จะให้เขาบอกได้ยังไงว่ากลิ่นที่ติดอยู่บนเสื้อของออสตินน่ะมันยั่วยวนใจจนทำให้เขาอดใจไม่ไหวขนาดนั้น
“ว่าไง มาแอบดมเสื้อของฉันทำไม”
คำถามคาดคั้นมาอีกแล้ว
“คือผม...” กานต์หมดสิ้นคำแก้ตัว ก่อนจะสารภาพออกไปอย่างจำนน “ผมชอบกลิ่นของแด๊ดดี้ครับ”
“กลิ่นของฉัน?”
สีหน้าของออสตินมีเครื่องหมายคำถามอันใหญ่แปะหรา ขณะที่เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ
“ใช่ครับ”
“เธอหมายถึงกลิ่นน้ำหอมใช่ไหม”
กานต์พยักหน้ารับไปอีกที คราวนี้ออสตินถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
“แล้วทำไมไม่บอกว่าชอบกลิ่นน้ำหอมนี้ มาแอบยืนดมเสื้อฉันอย่างนั้น ไม่รู้สึกว่าแปลกๆ บ้างหรือไง”
แปลกสิ แปลกมากด้วย เขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าวันหนึ่งจะมายืนดมเสื้อของพ่อเลี้ยงเพราะทนต่อแรงต้านทานของกลิ่นหอมยวนใจไม่ไหวแบบนี้
“มาสิ ไปที่ห้องฉัน”
กานต์ถึงกับเบิกตาโพลง
จู่ๆ ก็ชวนไปที่ห้อง หรือว่า...!?
“ฉันจะได้เอาน้ำหอมให้เธอ”
โธ่...
ไม่รู้ว่ากานต์ควรจะโล่งใจหรือเสียดายดี แต่เขาก็พยักหน้ารับ จากนั้นก็บอกตัวเองว่าไม่ควรคิดอะไรไปไกลขนาดนั้น เพราะคนตรงหน้าเขาคือผู้มีพระคุณ และมีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยง แต่จิตใต้สำนึกที่พร่างพรายขึ้นมาชั่วครู่ของเขาก็คิดแบบนั้นจริงๆ กานต์ไม่เคยชื่นชมผู้ชายคนไหนมากถึงขนาดนี้มาก่อนเลย ทว่าการชื่นชมของเขาก็ทำให้สับสนอยู่ไม่น้อย
มันเป็นความชื่นชมหรืออะไรกันแน่...เพราะมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเทิดทูนคนตรงหน้าอย่างเดียวเท่านั้น มันกลับทำให้เลือดในกายของเด็กวัยรุ่นอย่างเขาร้อนรุ่มอย่างไม่รู้สาเหตุไปด้วย
พอดึงสติตัวเองกลับมาได้ กานต์ก็อยากจะตบหน้าตัวเองนัก
กล้าคิดอย่างนั้นไปได้ยังไงกัน! อีกอย่างนะ พ่อเลี้ยงคงจะไม่คิดอะไรกับลูกเลี้ยงหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าลูกเลี้ยงเป็นผู้ชาย...
กานต์เดินตามออสตินขึ้นไปชั้นสอง ก้าวเข้าห้องนอนของเขาเมื่อเจ้าของห้องเชื้อเชิญ
“นั่งสิ”
เด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียง สายตาจับจ้องตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่เดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้า ก่อนที่จะหยิบน้ำหอมออกมาสองสามขวด
“กลิ่นที่เธอชอบ หมายถึงกลิ่นที่ฉันฉีดไปวันนี้ใช่ไหม”
กานต์พยักหน้า “แล้วก็กลิ่นที่คุณใช้เมื่อวานด้วยครับ”
ออสตินชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็นึกออก
“อืม กลิ่นเดียวกัน”
วางขวดน้ำหอมที่ไม่ใช่กลับคืนที่เดิม ถือเพียงขวดที่ใช่ออกมาเพียงขวดเดียวเท่านั้น จากนั้นก็มาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ กับเด็กหนุ่ม
“กลิ่น ODIN OO AURIEL ของแบรนด์ ODIN เป็นกลิ่นที่ให้อารมณ์สัมผัสของวัฒนธรรมตะวันออกกลางและเอเชีย เป็นสารสกัดของผลไม้ตระกูลเบอร์รี กุหลาบและมะลิ บังเอิญฉันได้เชิญไปงานเปิดตัว ก็เลยได้กลับมาเป็นของขวัญชุดใหญ่ ฉันให้เธอขวดนึง มีที่ยังไม่ได้เปิดใช้อยู่ในตู้”
จากนั้นก็ทำท่าจะลุกไป ทว่ากานต์กลับโพล่งขึ้นมาก่อน
“เอาขวดนี้ก็ได้ครับ”
ออสตินเลิกคิ้วสูง “แต่ขวดนี้ฉันใช้ไปแล้วนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมคงไม่ได้ใช้อะไรมาก แค่ชอบกลิ่นมันเฉยๆ ไม่ได้คิดจะใช้”
คำพูดนั้นทำให้คนฟังขมวดคิ้วน้อยๆ ก่อนจะว่าสวนขึ้นมา
“น้ำหอมถ้าไม่ได้ใช้ก็ไม่เรียกว่าน้ำหอมสิ ส่งมือมา” พลันออกคำสั่ง
กานต์มองใบหน้าคร้ามอย่างชั่งใจ แต่แล้วก็ยอมยื่นมือข้างหนึ่งออกไปตรงหน้าโดยดี ออสตินคว้าข้อมืออีกฝ่าย ก่อนที่จะฉีดน้ำหอมลงบนข้อมือ ครู่หนึ่งก็ยกขึ้นจรดที่ปลายจมูก สูดดมกลิ่นหอมนั่น
ลมหายใจอุ่นร้อนจากจมูกโด่งเป็นสันระเรื่อยไปตามผิวเนื้อของเด็กหนุ่ม กานต์แทบจะหยุดหายใจ ยิ่งสายตาเหลือบมองสำรวจที่มือใหญ่ของออสตินซึ่งจับข้อมือเขาอยู่ กานต์ก็ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากทีเดียวที่จะควบคุมสติของตัวเองให้ปกติ
มือข้างนั้น...เต็มไปด้วยแนวเส้นเลือดที่ดันผิวหนังขึ้นมา สิ่งนั้นขับให้เสน่ห์ความเป็นบุรุษเพศของออสตินกำจายไปทั่ว ยิ่งมอง กานต์ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของชายหนุ่มตรงหน้า พลันก็ต้องขบกรามแน่นเมื่อมีความรู้สึกประหลาดแวบขึ้นมาในหัว
อยากจะกัดแขนนั่นจัง...
“กลิ่นนี้เข้ากับเธอดี”
ก้อนเนื้อในอกของกานต์เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงนุ่มทุ้ม ความรู้สึกอยากกัดนั่นไม่จางหายไปไหน แต่ก็คืนสติกลับมาได้อยู่บ้าง
“เธอไม่ชอบเหรอ?” ออสตินถามเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มข้างหน้าเอาแต่เงียบ
กานต์สบดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลที่จ้องมองเขานิ่งอย่างคาดคั้น ก่อนจะเผยอริมฝีปากตอบ
“ชอบครับ”
รู้สึกว่าทั้งริมฝีปากและลำคอของเขาแห้งผากไปหมดเพราะเอาแต่กลืนน้ำลายทุกครั้งที่มองออสติน ขณะที่คนถามไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติของเด็กหนุ่มเลย ถามออกมาอีกครั้ง
“แต่เธอทำท่าทางเหมือนไม่ชอบ”
“คือผม...”
“ความจริงมันก็เป็นกลิ่นเดียวกับฉันนั่นแหละ เพียงแต่เวลาที่น้ำหอมสัมผัสกับผิวหนังหรือเหงื่อ กลิ่นมันก็จะเพี้ยนไปบ้างตามแต่กลิ่นกายของแต่ละคน”
พูดไป ออสตินก็คลายฝ่ามือออกจากข้อมือของคนตรงหน้า ฉีดน้ำหอมใส่ข้อมือตัวเองบ้าง รอสักครู่แล้วก็ยื่นออกไปตรงหน้า
“กลิ่นอาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่มันก็คือกลิ่นเดียวกัน”
กานต์มองข้อมือของออสตินนิ่งสลับกับใบหน้าของเจ้าของด้วยความไม่เข้าใจ
“ดมสิ”
ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าออสตินยื่นแขนมาข้างหน้าทำไม ก่อนที่เด็กหนุ่มจะใช้สองมือประคองมือใหญ่ข้างนั้นขึ้นไปจรดที่ปลายจมูก
กลิ่นหอมหวนยั่วยวนใจทำให้สติของเขาฟุ้งซ่านอีกครั้ง ความปรารถนาในส่วนลึกของจิตใจบางอย่างพุ่งพล่าน เขาแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะอ้าปากกัดท่อนแขนแน่นๆ นั้น สะกดความต้องการของตัวเองจนขบกรามเสียปวดไปหมด สิ่งที่ทำได้คือการไล้ปลายจมูกไปตามผิวเนื้อของออสติน
ตอนนี้กานต์เข้าใจได้แล้วว่ากลิ่นหอมที่ยั่วยวนเขาให้เผลอเคลิบเคลิ้มไป มันไม่ใช่กลิ่นของน้ำหอมยี่ห้อนี้หรอก แต่มันเป็นกลิ่นของผู้ชายตรงหน้า
เป็นกลิ่นของออสติน สเวน...
กลิ่นของแด๊ดดี้หอม...
“กลิ่นเหมือนกันใช่ไหม”
สติถูกกระชากกลับมาอีกครั้งจนได้ กานต์สะดุ้งโหยง รีบปล่อยมือจากอีกฝ่ายทันที พอคิดได้ว่าเมื่อครู่เผลอทำอะไรลงไป ในใจก็ภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าหลายต่อหลายครั้งว่าขออย่าให้ออสตินจับได้ว่าเขาคิดอะไรไปไกลกับพ่อเลี้ยงคนนี้ สวรรค์คงเห็นใจเด็กหนุ่มไม่ประสาต่อโลกอย่างเขาอยู่ไม่น้อย ออสตินถึงได้พูดขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้นฉันยกให้เธอขวดนึง ถือซะว่าเป็นของขวัญต้อนรับเธอแล้วกัน”
กานต์รับขวดน้ำหอมมาถือ เขาก้มหน้ามองขวดแก้วในมือที่บรรจุของเหลวเกือบเต็มพลางเม้มริมฝีปากแน่น ขณะที่ออสตินถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“ชอบไหม”
“ชอบครับ”
“ชอบก็ดี กลิ่นโปรดของฉันเลย หวังว่ามันจะเป็นกลิ่นโปรดของเธอเหมือนกัน”
ใช่...ต่อจากนี้มันจะเป็นกลิ่นโปรดของเขา
กลิ่นของแด๊ดดี้...
จะเป็นน้ำหอมกลิ่นโปรดของเขาตั้งแต่วันนี้...