ตอนที่ 6 : ค่าน้ำค่านม
เจ้าของร่างบางในเดรสคอสี่เหลี่ยมเข้ารูปสมส่วนนั่งลงบนโซฟาหลุยส์ในห้องรับแขกกว้างขวาง เธอเก็บขาชิดติดกันรวบกระโปรงยาวคลุมหัวเข่าอย่างระวังกิริยา วางกระเป๋าหนังใบใหญ่ที่สามารถใส่ทั้งเอกสารและโน้ตบุ๊คเครื่องเล็กลงบนโต๊ะ โดยมีแม่บ้านสาวใหญ่วัยห้าสิบปีเข้ามาให้การต้อนรับ
“เดี๋ยวป้าไปบอกคุณท่านให้นะคะ คุณณดานั่งรอก่อนนะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณป้า”
ณดาพยักหน้าเบา ๆ พอคุณป้าแม่บ้านร่างอ้วนท้วมเดินหายไปแล้วกลับมาบอกว่าท่านยังทำธุระส่วนตัวไม่เสร็จ และเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงที่เธอต้องนั่งรอในห้องรับแขก! โดยไม่ได้แตะต้องน้ำส้มและขนมคุกกี้ น้ำใจจากคุณป้าแม่บ้านบนโต๊ะกระจกเคลือบมุกสลักลายสวย เพราะกำลังคิดอยู่ว่าเจ้าของบ้านทำอะไร
คิดดีไม่ได้เลยณดาเอ๊ย...
หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบวาบประหลาด เมื่อภาพความทรงจำผุดขึ้นมา
ห้องที่เธอจะต้องเดินผ่านบ่อยครั้งคือห้องของของคุณพ่อในชั้นสองเพื่อไปห้องเจ้านายสาว เสียงครวญครางซ่านสยิวของสาว ๆ ที่เคยได้ยินผ่านช่องของประตู ต่อให้เธอจะไม่กล้าชะโงกหน้าเข้าไปมองใครทำกิจกรรมเข้าจังหวะกัน คงรู้ว่าพวกเขาน่าจะเมามันน่าดู...
ไม่ดีแน่ ๆ ล่ะ... ในหัวสมองของเธอคิดแต่เรื่องไม่ดี
คุณท่านอนันต์ร้อนแรงเกินไป... เธอเคยพูดเรื่องนี้กับเจ้านายสาวครั้งหนึ่ง ไม่ได้เป็นเรื่องโกหกหรือการพูดเพื่อประจบสอพลอ ณดาพูดเรื่องจริง!
หญิงสาวนั่งหน้าตาคร่ำเครียด หยิบโน้ตบุ๊คขึ้นมาเคาะแป้นพิมพ์สติไม่อยู่กับเนื้อตัว พยายามทำสมองเลิกฟุ้งซ่าน จนร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทปรากฏตัว ทรงผมรวบเสยเผยหน้าผากกว้างดูหล่อเหลาแต่หัวจรดเท้า มาดคมเข้มของคุณพ่อที่เป็นคนละคนทำให้เธอชะงักนิ่ง
“รอผมก่อนนะ... มีเอกสารเยอะมาก ๆ ครับ”
ก็คงต้องรอแหละค่ะบอส!
เธอยิ้มรอเอกสารที่ว่า ซึ่งแม่บ้านสองคนช่วยยกมาในไม่กี่นาที แฟ้มเล่มใหญ่ถูกนำไปให้นายสารถีพร้อมเจ้าของบ้านที่เดินนำหน้าไป เขาหยิบเสื้อสูทบนราวเสื้อบริเวณหน้าบ้านพาดไว้บนท่อนแขนเป็นล่ำสัน
“เอกสารส่วนใหญ่อยู่ที่ทำงานนะครับ วันก่อนผมบอกคุณแป๋วให้มายกไปเพราะผมไม่ไว้ใจใครแต่ว่าแกยังไม่สะดวก แกว่าจะมาวันนี้ผมให้คุณดาเอาไปไว้บนโต๊ะผมก่อนเลยละกัน ค่อยกลับมาจัดตารางนัดหมายช่วงเย็น มีทานข้าวกับคู่ค้าแล้วช่วงกลางคืน... ผมไม่นอนดึกมากนะครับ เว้นบางวันถ้าจำเป็นต้องไปจริง ๆ”
“ค่ะคุณอนันต์” ณดาพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม ก้มหน้าลงจดทุกอย่างลงในแท็บเล็ต
วันนี้เธอสวมเสื้อสูทตัวใหญ่ยาวประสะโพกเป็นเสื้อแฟชั่นคลุมไหล่ทิ้งชายยาว หญิงสาวแต่งตัวอย่างมีกาลเทศะ ด้วยความรู้สึกเกรงใจสถานที่ทั้งคฤหาสน์หลังละสองร้อยห้าสิบล้าน จากที่เคยใส่ชุดทำงานอะไรก็ได้ ยังกลัวคนจะมองว่าให้ท่าเจ้าของบ้านหากว่าแต่งตัวล่อแหลมจนเกินไป
ในสายตาของหนุ่มใหญ่แล้วก็คงจะดี เขาพาเธอขึ้นรถนั่งข้างกันข้างหลังเพื่อที่จะอธิบายรายละเอียดงานต่าง ๆ ที่เธอจะต้องทำมันในแต่ละวัน
“งานกลางคืนจำเป็นสำหรับการทำธุรกิจให้ Success ผมต้องเอาใจนักธุรกิจหุ้นส่วนหลายคน ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นผู้ชายทั้งนั้นมันหนีงานกลางคืนไม่พ้น ปกตินายภีมจะเป็นคนช่วยผมจัดการ ตอนนี้ผมจะให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของเลขาฯ เพราะว่าภามกับภีมจะขึ้นมาทำส่วนบริหารกับลูกวี…”
“ค่ะคุณอนันต์”
หญิงสาวรับคำสั่งทุกอย่างภายใต้ความคาดหวังของอีกคนว่าเธอจะทำมันได้ อนันต์ยังไม่ลืมเรื่องเมื่อวันก่อน
“เดือนนี้ผมจะโอนให้พิเศษค่าล่วงเวลาแล้วก็... ที่ผมล่วงเกินคุณไปละกัน”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณ...”
“ให้ก็รับ...” เสียงดุ ๆ ของเขาทำให้ณดารู้สึกเกรงใจกับการรับเงินสองต่อ แต่ถึงจะพูดไปคนฉลาดอย่างท่านประธานก็คงไม่คิดอย่างเธอ...
“จะให้รับก็รับได้ค่ะ ดาแค่สงสัยว่าค่าอะไร?”
หนุ่มใหญ่ทำขยิบตาเหมือนหงุดหงิดใจแต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะพูด
“ค่ากอด... กับค่าน้ำค่านมไงครับ”
“ดาจำได้ว่าจับมือคุณอนันต์ไว้ทัน นมณดายังปลอดภัยดีทั้งสองข้างคงไม่จำเป็นต้องคิดเงิน ส่วนค่ากอด... คุณวีก็เคยกอดดา เพื่อนร่วมงานก็เคยกอด ฝรั่ง... กอดกันตามธรรมเนียมเรื่องปกติ คุณอนันต์จะให้ดาพิเศษค่าอะไรหรือคะ?”
“ล่วงเวลา... โอที” เขาแก้ตัวข้าง ๆ คู ๆ ฟังไม่ขึ้นเลย หญิงสาวเพียงยิ้มพลางบอกอย่างใจเย็น
“คุณวีจ่ายให้แล้วค่ะ โบนัสล่วงเวลาให้ถึงเที่ยงคืนคูณตามจำนวนชั่วโมงทุกวัน ถ้าวันไหนกลับก่อนก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าดารับเงินคุณอนันต์ มันจะไม่งามเลยนะคะ คนอาจมองดาเป็นเด็กในสังกัดท่านค่ะ”
ณดาปฏิเสธสินน้ำใจของเขาด้วยท่าทางแน่วแน่ และคำพูดของเธอก็มีเหตุผล ทั้งที่เงินพิเศษให้เลขาฯ คนไหนก็เอา บางครั้งเขาช่วยเหลือนันทกานต์ค่าเทอมบุตร ใส่ซองให้ค่าคลอดลูกพิเศษไม่เห็นจะมีใครคิดอย่างเธอว่าเลย
จนปัญญาจะเถียง... ตัวเขายังรู้สึกผิดไม่น้อยจึงต้องตัดสินใจ
“ถ้าอย่างนั้นผม... เลี้ยงข้าวคุณดาสักมื้อแล้วกัน”
“ยินดีค่ะ ดารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณอนันต์จะเลี้ยงข้าวณดา ดาทานเก่งนะคะ”
“ทานเก่งก็ดีครับ ผมไม่ชอบคนทานข้าวเหลือ... ลูกสาวผมเลี้ยงมาไม่เคยกินทิ้งกินขว้าง ผมให้ทานได้ทุกอย่าง แพงแค่ไหนผมจ่ายได้ครับ”
“คุณวีณาเป็นเจ้านายที่เพอร์เฟค เป็นผู้ดี... ดีที่สุดในชีวิตของณดาเลยค่ะ เพราะคุณพ่ออบรมดีแบบนี้เองนะคะ ดาภูมิใจที่ได้เป็นลูกน้องคุณวี... คุณวีสั่งอะไรดาพร้อมถวายชีวิตเยี่ยงสุนัขผู้ซื่อสัตย์เลยค่ะ”
ณดาน่ารัก! ประจบประแจงเก่งเสมอต้นเสมอปลาย แววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมบอกว่าเธอไม่ได้โกหก
หนุ่มวัยสี่สิบห้า... เป็นเสือผู้หญิงกินเด็กทุกวันไม่รู้สึกอะไรเลยสิแปลก ทว่าเธอคงไม่รู้ถ้าเพราะเขาไม่มีวันพูดมัน เขาประสานมือไว้บนหน้าตักในสีหน้านิ่งเรียบ
“อืม... เรื่องบริษัทจัดหาคู่อะไรนั่น... ว่ายังไง?”
“คุณวีให้ยกเลิกแล้วค่ะ”
“วันนี้ลูกสาวผมไปไหนกับตาภีมล่ะ?”
“ไม่ทราบค่ะคุณอนันต์”
“สนิทกันไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่รู้ล่ะครับ”
“ดาไม่ทราบจริง ๆ ค่ะคุณวีไม่ได้บอกดาไว้ว่าจะไปไหน ขอประทานโทษด้วยค่ะ”
ณดาเก็บความลับเก่ง! หรืออาจเกิดเรื่องคลางแคลงใจระหว่างคนในครอบครัว แล้วทำไมคุณพ่อไม่ไปถามลูกสาวเองแต่มาถามเลขานุการ...
ความเงียบเกิดขึ้นในห้องโดยสารที่ต่างคนมองออกไปทางหน้าต่างแทน สภาพการจราจรติดขัดทำให้ติดอยู่บนถนนร่วมชั่วโมงกว่าจะมาถึงบริษัท ในขณะที่ต่างคนต่างทำงานของตนไป มีบ้างที่คุณพ่อจะถามเรื่องลูกสาวแต่คงไม่มากนัก ซึ่งณดาเลือกคำตอบได้ดี เธอยังเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
เธอไม่ได้รู้ตัวสักนิดว่าถูกจ้องมองทุกอิริยาบถ เสื้อผ้าหน้าผมถูกใจสมเป็นเลขาฯ ที่ควงไปไหนได้ไม่อายใคร กระทั่งขนตาเป็นแพงอนใต้เครื่องสำอางอ่อนยามกะพรือขึ้นลงเบา ๆ เพื่อเพ่งพิจารณางานในมือ ลิปสติกสีเชอร์รีผ่านริมฝีปากบางกระจับ เหมือนตุ๊กตาบลายด์ในลุคสาวมั่นพนักงานออฟฟิศ
อนันต์รู้ตัวแล้วแน่ ๆ ล่ะว่าเขาอยากได้เธอมานอนกอดเล่นเหมือนคนอื่น แม้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง! เขาไม่นิยมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกน้องเพราะกลัวปัญหาจะตามมา แต่สายตาที่สบตาแต่ละครั้งก็ดันเปิดเผยความรู้สึกไปเสียหมด กระทั่งใกล้ถึงจุดหมายปลายทาง
“เลิกงานรีบกลับบ้านไปหาแฟนหรือเปล่าล่ะครับ? จะทานข้าวกันพรุ่งนี้ไหม”
“ดาไม่มีแฟนค่ะ ดาแล้วแต่คุณอนันต์...”
“ผมไม่ได้คิดอะไรนะเพราะผมไม่อยากเป็นสมภาร งานส่วนงาน เรื่องส่วนตัวคือนอกเวลางานครับ”
เมื่อเจ้านายขีดเส้นไว้ชัดเจนขนาดนั้น ณดาก้มศีรษะรับอย่างมีมารยาท
“ค่ะคุณอนันต์ ขอบพระคุณที่เมตตาณดาค่ะ ดาจะตั้งใจทำงานค่ะ”
รอยยิ้มหวานบนวงหน้างามซื่อบริสุทธิ์เป็นอาวุธของณดามาตั้งแต่วันแรกที่สมัครงาน เท่านั้นที่ทำร้ายหัวใจหนุ่มวัยทองผู้อยากกลายร่างเป็นสมภารให้รู้แล้วรู้รอด
ณดาก็คงจะไม่รู้ตัวอีกตามเคย...