“แล้วไง! เป็นเชลยแล้วไง แล้วไม่ใช่เชลยคนนี้เหรอไงที่ทำให้เธอมาแหกปากพ่นน้ำลายใส่หน้าอยู่ได้ในตอนนี้”
“อ๋อ!!! นี่คิดจะทวงบุญคุณใช่มั้ย”
“ไม่ใช่!!! ฉันต้องการแค่ให้เธอสารภาพมาว่าทำอะไรกับเอ็ดเวิร์ดของฉัน”
“อยากรู้มากใช่มั้ย! ได้!!! งั้นฟังให้ดีๆนะ...ฉันกับเขาเรามีเซ็กส์กันไง เขาคิดว่าฉันเป็นเธอไง พอฉันบอกว่าฉันคือใคร เขาก็เป็นอย่างที่เธอเห็นไง บ้าไปเลย...” จู่ๆน้ำใสก็รู้สึกเหมือนว่าร่างกายถูกฟ้าผ่า
กึก กึก กึก จัสมินถอยหลังกราดยาวในทันทีเมื่อจู่ๆ แววตาของ น้ำใสก็เปลี่ยนไปจนน่าขนลุก “ผู้ชายข้า...ใครกล้าแตะ เธออยากตายมากใช่มั้ยจัสมิน!” น้ำใสโมโหจริงๆ
“นี่!!! เธอคิดว่าฉันกลัวเธอมากเหรอไง...เอาสิงั้นเรามาสู้กัน ใครชนะได้เอ็ดเวิร์ด”
“นี่เธอ! เขาเป็นของเธอเหรอไง เธอมีสิทธิอะไรมาพูดแบบนี้ ถอนคำพูดของเธอเดี๋ยวนี้นะ!” ปึก อุ้ย!!! จัสมินถูกน้ำใสดันจนชิดผนัง และยังถูกล็อคคอด้วยแขนเล็กๆที่แข็งแรงเกินขนาดที่ตามองเห็นจริงๆ
แปะ แปะ แปะ “นี่นี่นี่ จะทะเลาะกันทำไม” เสียงดังจากคนตัวเล็กทำให้จัสมินและน้ำใสหันไปมองพร้อมกันทันที
“คนอย่างเธอจะมาเข้าใจอะไร!!!” จัสมินเสียงดังใส่ซานต้ากลับไปทันที เพี๊ยะ! โอ้ย!!! และเธอก็ต้องร้องออกมาเมื่อถูกน้ำใสตบแปะที่หน้าผาก อย่างแรง
“นี่! ทำอะไรของเธอเนี่ย!!!...โอ้ย! นี้มันเรื่องอะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย!”
“เขาเป็นพี่ สัมมาคารวะรู้จักมั้ย และฉันด้วยถึงเราจะอยู่กันคนละฝั่งแต่การที่ฉันมาที่นี่เพราะฉันตั้งใจมาช่วยเธอ เธอที่เป็นน้องสาวฉันหรือเป็น พี่สาวช่างเถอะ! เธอก็ควรต้องมีสัมมาคารวะกับฉันด้วยเพราะฉันเป็นผู้มีพระคุณของเธอ”
……จัสมินนิ่ง ซานต้าเองก็ไม่ต่างไปจากจัสมิน ความรู้สึกของการเป็นครอบครัวจู่ๆมันก็จุกอกทั้งสองแปลกๆ
“เอ่อ! ฉันไปหาเอ็ดเวิร์ดก่อนแล้วกัน...ออ” ก่อนที่น้ำใสจะผละออกไป เธอหันกลับมาที่จัสมิน “ต่อไปอย่าสวมรอยเป็นฉันอีก เพราะเราคือคนละคนกัน อย่าดูถูกตัวเอง เธอก็มีดีในตัวเองไม่ใช่เหรอ”
น้ำใสเดินจากมาด้วยหัวใจที่บอบช้ำอีกครั้ง เมื่อกี้เธอรู้สึกถึงสายสัมพันธ์บางอย่าง แบบนี้หรือเปล่านะที่เขาเรียกกันว่าเลือดค้นกว่าน้ำ แต่เธอก็ยังไม่อาจให้อภัยเรื่องที่จัสมิน...“โอ้ยยยย!!!!...อยากจะฆ่าน้องสาวตัวเองจริงๆ” เสียงตะโกนที่ดังลั่นสะท้อนกลับเข้ามาถึงคนที่ถูกพาดพิง
“ยายนี่! รู้สถานะตัวเองบ้างมั้ยเนี่ย” จัสมินพึมพำ
“พี่สาวเธอ น้องสาวฉัน เธอน่ารักดีนะ” จู่ๆซานต้าก็เปรยออกมา
“ว่าแต่เธอรายงานต่อหัวหน้าไปแล้ว เขาว่ายังไงบ้าง”
“พรุ่งนี้เขาจะส่งคนเข้าสมทบมากขึ้นอีกเท่าหนึ่ง”
“ขอโทษนะ เพราะความเอาแต่ใจของฉันแท้ๆ”
“ขอโทษฉันคนเดียวเหรอ...” ซานต้าได้แต่มองตามแผ่นหลังบอบบางของอีกคนที่จากไป “ไปหลอกเขาแบบนั้นจะดีเหรอ”
“ช่างปะไรใครจะสน! แฟนตัวเองถ้าไม่เชื่อใจเขา ก็เรื่องของหล่อน” ซานต้าอดยิ้มออกมาไม่ได้...
“เอ็ดเวิร์ด เอ็ดเวิร์ดคุณได้ยินฉันมั้ย” เสียงที่คุ้นเคยเรียกสติคนที่สลบไปนานให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณ! คุณนั่นเอง น้ำใส”
“จำฉันได้แล้วใช่มั้ย”
“ทำไมต้องจำใหม่ละ...ก็ไม่เคยลืมคุณ” น้ำใสเอียงคอมองคนตรงหน้าทันที แม้เขาจะพูดแบบนั้นออกมา แต่แววตาและสีหน้าเขาแสดงออกอย่างไม่ปิดบังเลยว่าเขาไม่ได้หมายความอย่างที่พูด
“ขอโทษนะคะ เพราะฉันแท้ๆคุณจึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้”
“ใช่! เพราะคุณ...เพราะถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาที่นี่ รู้ตัวก็ดีแล้ว...เชื่อใจในความรักที่ผมมีให้แล้วใช่มั้ย”
“เอ็ดเวิร์ดคุณนะ!...มันบ้า! ที่นี่อันตรายมากคุณก็ยังอุตส่าห์มา...และอีกอย่างฉันไม่เคยสงสัยความรักที่คุณมีให้กับฉัน”
“คุณก็รู้อยู่แล้วว่าผมต้องมาไม่ใช่เหรอ ทิ้งเครื่องหมายนำทางไว้ซะขนาดนั้น” น้ำใสแย้มยิ้มออกมา เพราะจู่ๆหัวใจเธอก็ชุ่มฉ่ำ
“ว่าแต่ตอนนี้คุณมีแผนจะออกจากที่นี่หรือยังคะ”
“ผมจัดการไปเรียบร้อยแล้ว...พยายามอย่าอยู่ห่างผม” น้ำใสพยักหน้าแม้เธอจะไม่รู้ว่าแผนที่ว่านั่นคือแผนอะไรแต่ความเชื่อมั่นในตัวเขาทำให้เธอไม่จำเป็นต้องการความกระจ่างในเรื่องนี้ หน้าที่ตอนนี้ของเธอคือทำตามที่เขาสั่ง เพราะเธอดื้อกับเขามานานมามากแล้ว “น้ำใส...พวกเธอเป็นพี่น้อง กับคุณ”
“ค่ะรวมถึงปลาดาวด้วยซึ่งจริงๆแล้วโค้ดเนมของเธอคือทานตะวัน...” น้ำใสให้รายละเอียดเท่าที่เธอรู้มาให้เขาได้ฟังทั้งหมด...
“ถ้าพวกเธอไม่รอดคุณจะโทษผมมั้ย”
เฮ้ยยยย... “ก็ขอเพียงแค่ว่าคุณอย่าเป็นคนลงมือกับพวกเธอเองจะได้มั้ยคะ ถ้ามันเป็นลูกหลงฉันจะทำใจยอมรับมันให้ได้ มันไม่ใช่ความผิดของพวกเธอเลย...คุณเข้าใจฉันใช่มั้ยคะ” เอ็ดเวิร์ดพยักหน้าและเสมองไปทางอื่น เขามีบางอย่างที่ไม่อาจบอกเธอได้...
ในวันรุ่งขึ้นน้ำใสเห็นชายร่างสูงเต็มไปหมด ซานต้าแม้จะปล่อยให้เธออยู่เพียงลำพังกับเอ็ดเวิร์ดทั้งวันทั้งคืน แต่หล่อนก็ยังไม่วายต้องมาเจาะเอาตัวอย่างเลือดของเขาไป “อย่ามามองฉันแบบนั้น...ฉันใจดีแค่ไหนแล้วที่ให้พวกเธอสองคนได้อยู่ด้วยกัน”
“ทำไมต้องเอาเลือดเขาไปด้วย”
“บอกไปเธอก็ไม่เข้าใจ” ซานต้าหันไปมองเอ็ดเวิร์ดที่นิ่งสงบ ยามที่เขามีน้ำใสอยู่ข้างกายเขาจะดูสงบมาก เพื่อไม่ให้มีใครต้องตายอีก เธอจึงต้องให้น้ำใสอยู่กับเขา เพราะคนของเธอตายได้แต่เอ็ดเวิร์ดห้ามตาย เพราะถ้าเขาตายเธอก็ต้องตายด้วย นั่นแหละคำสั่งของเบื้องบน!
น้ำใสแสดงสีหน้าไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และในอีกวันก็เป็นเหมือนเดิม ซานต้าเข้ามาเจาะเลือดอีกแล้ว และมีบางอย่างที่ค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ คือเขา เอ็ดเวิร์ดของเธอ ทุกครั้งที่เขาตื่นขึ้นมาเขาจะสีหน้าเคร่งเครียดและเขาก็เงียบลงเรื่อยๆ แม้เธอจะเข้าใจว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกเธอจะมาพูดคุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในวันต่อๆมานอกจากซานต้าที่โผล่เข้ามาเอาตัวอย่างเลือดแล้ว เอ็ดเวิร์ดก็เริ่มหลบสายตาเธอ และเมื่อคืนเธอก็ต้องรู้สึกตัวที่จู่ๆเขาก็นอนกระสับกระส่ายเหมือนคนที่กำลังตกอยู่ในฝันร้าย
“คุณเป็นอะไรไป...” มีแต่เสียงพูดที่เป็นคำถาม แต่คำตอบกลับเป็นการส่ายหน้าไปมา นับวันเอ็ดเวิร์ดก็พูดน้อยลงทุกทีไม่ใช่เขาเลย และซานต้ายังเข้ามาเจาะเลือดทุกวันแต่ก็ไม่เคยมีคำตอบอะไรให้กับเธอเลย เหมือนทุกๆครั้ง
“ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ” ซานต้ากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ หลังจากที่เธอทำการวัดค่าผลเลือดของเอ็ดเวิร์ดมาสี่วัน นอกจากค่าผลเลือดที่แปลกแล้ว เธอก็ไม่ได้มีการพูดคุยหรือซักถามอะไรจากเอ็ดเิวร์ดเลย ทำไมนะเหรอ! เพราะเธอรู้ว่าให้เอ่ยให้ถามอะไรไปเธอก็ไม่ได้ความจริง และตอนนี้เธอก็กำลังสงสัยว่ามันเกิดอะไรกับเขากันแน่ ร่างกายเขากำลังเปลี่ยนค่าของเลือดที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนกรุ๊ปเลือดที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ใช่ว่ากรุ๊ปเลือดในร่างกายคนจะเปลี่ยนไม่ได้ แต่เขาไม่ได้รับการปลูกถ่ายเลือดใหม่หรือป่วยจนต้องมีการปลูกถ่ายไขกระดูดเสียหน่อย ในวงการแพทย์คงตื่นเต้นกันน่าดู ถ้ารู้ว่าการเปลี่ยนคลื่นล้างสมองใหม่ทางด้านความคิดกำลังส่งผลให้คนนั้นเปลี่ยนสภาพร่างกายเป็นคนใหม่ด้วย แต่ก่อนหน้านี้เธอก็เคยทดลองกับคนหลายคนก็ไม่เคยมีใครเป็นแบบเขา ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ไปได้ เอ็ดเวิร์ดมีอะไรที่แตกต่างจากตัวทดลองก่อนหน้านี้ของเธอกันนะ...โอ้ย! อยากรู้แต่จะรู้ได้อย่างไรกัน