Karan' s Part
ติ้ง~
เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเบา ๆ พร้อมกับข้อความที่โชว์ขึ้นบนหน้าจอ
Noodee: พี่การันต์คะ
เพียงแค่สายตาเหลือบเห็นข้อความที่โชว์ขึ้นบนหน้าคอโทรศัพท์มือถือที่มาจากแอ็กเคานต์ที่แทบไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านข้อความที่ถูกส่งมาจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็น น้องสาว ของผมทันที
Karan: ว่าไงคะคนสวย
ผมกดพิมพ์ข้อความส่งกลับไปหาเธอด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้หนูดีทักหาผมแบบนี้ได้
Noodee: หนูดีมาเที่ยวกับเพื่อนแต่ไม่มีโต๊ะเลยค่ะ
Karan: คนสวยอยู่ที่ไหนคะ?
Noodee: อยู่ที่ร้านพี่รันต์
Noodee: (send photos)
รูปที่หนูดีส่งมาทำให้ผมรีบลุกพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้ทำงานทันที สองเท้ารีบก้าวเดินออกจากห้องเพื่อลงไปหาเธอที่อยู่ด้านล่าง ที่บรรยากาศตอนนี้อัดแน่นไปด้วยผู้คน ไม่รู้ว่าการ์ดปล่อยให้เธอกับเพื่อนเข้ามาได้ยังไง ทั้งที่ที่นี่จะเข้าได้ก็ต่อเมื่อเป็นสมาชิกของคลับเท่านั้น
ผมเพ่งสายตามองหาหนูดีอยู่นาน ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นเปิดดูรูปที่เธอส่งมาเพื่อหาจุดโฟกัส พอเห็นว่าเป็นโซนเคาน์เตอร์บาร์ก็ไม่รอช้ารีบเดินเบียดผู้คนตรงไปยังจุดหมายทันที
"หนูดี" ผมเอ่ยเรียกคนตัวเล็กที่ยืนชะเง้อคอมองหาอะไรบางอย่างอยู่
"พี่การันต์" คนตัวเล็กหันมายิ้มเรียกชื่อผมด้วยความดีใจ
"เข้ามาได้ยังไงคะ?" ผมขมวดคิ้วถามพลางมองการแต่งตัวของเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
คนตัวเล็กอยู่ในชุดเสื้อสายเดี่ยวเอวลอยสีดำ กับกระโปรงยีนส์สั้นที่มีลูกเล่นเป็นสายโซ่ตรงช่วงเอวด้านข้างทั้งสองด้าน การแต่งตัวของเธอดูธรรมดาทั่วไปไม่ได้มีอะไรที่ดูโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ความธรรมดาของเธอทำให้ผมเผลอจ้องมองไม่วางตา หน้าอกอวบใหญ่ที่ล้นทะลักออกมานอกเสื้อพอหมิ่นเหม่ ไหนจะเอวคอดกิ่วกับหน้าท้องที่แบนราบของเธอ บวกกับสะโพกผายเล็กน้อยทำให้รูปร่างของเธอดึงดูดสายตาเป็นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้เห็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวแต่งตัวแบบนี้
"พี่รันต์! พี่การันต์คะ"
แรงเขย่าที่แขนทำให้ผมได้สติ รีบดึงสายตาตัวเองออกจากหน้าอกคนน้องแล้วแสร้งกระแอมในลำคอเบา ๆ เพื่อเป็นการกลบเกลื่อน ก่อนจะแอบลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อรู้สึกได้ถึงอาการคอแห้งผาก
"เมื่อกี้คนสวยพูดว่าอะไรนะคะ"
"นี่ไม่ฟังที่หนูดีพูดเลยเหรอคะ" เธอทำหน้ายู่ใส่ผมอย่างขัดใจเหมือนที่ชอบทำเป็นประจำ
น่ารักชะมัดเลย
"พี่ได้ยินไม่ถนัดค่ะ" แก้ตัวไปก่อน เพราะผมไม่ได้ยินที่เธอพูดเลยต่างหากล่ะ มัวแต่มอง…นั่นแหละ ก็ผมไม่เคยเห็นน้องแต่งตัวแบบนี้มาก่อนนี่
"หนูดีบอกว่าหนูดีอ้อนพี่การ์ดหน้าประตูให้พี่เขาอนุญาตให้หนูดีกับเพื่อนเข้ามา แต่หนูดีไม่รู้ว่าที่นี่ต้องเป็นสมาชิกถึงจะมีโต๊ะไว้รองรับ" คนตัวเล็กตอบคำถามผมอีกครั้ง
แต่เหมือนว่าคำตอบเธอจะสะดุดหูผมตรงคำว่า 'อ้อนพี่การ์ดหน้าประตู' นี่แหละ
แล้วเธออ้อนพวกมันแบบไหนกันวะ พวกมันถึงได้ยอมให้เธอกับเพื่อนเข้ามาได้
"แล้วเพื่อน ๆ คนสวยไปไหนคะ" ผมถามเมื่อมองดูรอบ ๆ แล้วไม่เห็นเพื่อนเธอยืนอยู่ด้วยกัน
จะว่าไม่เห็นคงไม่ใช่สิ เพราะผมไม่รู้จักหรือเคยเจอเพื่อนเธอมาก่อน เลยไม่รู้ว่าคนไหนคือเพื่อนของเธอ
"พิงค์กับแอลไปเข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ" คนตัวเล็กตอบก่อนจะชี้ไปที่ด้านหลังของผมแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง
"นั่นไงคะ มาพอดีเลย"
ผมหันกลับไปมองตามมือเล็กแล้วต้องขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามานั้นมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
"นี่เพื่อนหนูดีเองค่ะ นี่พิงค์ นั่นแอลค่ะ" หนูดีแนะนำเพื่อนให้ผมรู้จักทันที
"สวัสดีค่ะ" คนชื่อพิงค์ยกมือไหว้ทักทายผม ส่วนอีกคนที่ชื่อแอลนั้นมองผมนิ่ง ๆ ไร้การทักทาย
ไอ้เด็กนี่วอนซะแล้วสิ ไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่เลยสักนิด
"เรามีเรื่องต้องคุยกันนะคะคนสวย" ผมเลิกสนใจไอ้เด็กที่ชื่อแอลแล้วหันกลับมาพูดกับคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้น แต่ก็ยังคงมีหางเสียงกับเธอยู่เหมือนอย่างปกติ
"มีเรื่องอะไรงั้นเหรอคะ?" หนูดีเอียงคอถามด้วยแววตาใสซื่อ
"เยอะแยะเลยค่ะ เรื่องแรกเลยคือเรื่องที่คนสวยหนีเที่ยว"
"หนูดีเปล่านะ! ทุกครั้งที่ออกมาหนูดีบอกคุณพ่อกับคุณแม่ตลอด" คนตัวเล็กรีบเถียงกลับปากยื่นอย่างไว
"ทุกครั้ง?" ผมขมวดคิ้วทวนคำพูดเธอ
นี่เธอออกมาเที่ยวสถานที่แบบนี้บ่อยอย่างนั้นเหรอ?
"ใช่ค่ะ ทุกครั้งที่ออกมาหนูดีขออนุญาตพ่อกับแม่ตลอด" คนตัวเล็กยังคงยืนยันคำเดิมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ไม่รู้ว่าคำพูดเธอนั้นเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน แต่การที่เธอแต่งตัวแบบนี้ออกมาจากบ้าน เขามั่นใจว่ายังไงแม่เขาก็ไม่อนุญาตให้เธอออกมาแน่ เว้นแต่ว่าคนตัวเล็กจะออกมาแต่งตัวข้างนอก
"อีกเรื่อง…"
"พี่รันต์อย่าพึ่งดุสิ ช่วยหาโต๊ะให้หนูดีกับเพื่อนก่อนนะคะ นะๆๆ" ไม่ทันที่ผมจะพูดจบด้วยซ้ำ คนตัวเล็กก็ทำหน้ายู่พลางเดินเข้ามาเกาะแขนอ้อนให้ผมหาโต๊ะให้
ในใจอยากจะไล่ให้กลับไปด้วยซ้ำ แต่พอเห็นแววตาออดอ้อนของเธอแล้วก็ใจอ่อน อีกอย่างเพราะไม่อยากให้เธอกลับกับเพื่อนของเธอที่เป็นผู้ชาย ถึงจะมีผู้หญิงด้วยก็เถอะ ผมเองก็หวงน้องสาวตัวเองเหมือนพี่น้องบ้านอื่น ๆ เหมือนกันนั่นแหละ
"ตามมาค่ะ" พูดจบผมก็เอื้อมมือไปจับมือน้องให้เดินตามทันที
ยิ่งเริ่มดึกมากเท่าไหร่ผู้คนยิ่งเริ่มเยอะขึ้นเท่านั้น กว่าผมจะพาเธอกับเพื่อนขึ้นมานั่งที่โซนวีไอพีของร้านได้ก็เล่นเอาหงุดหงิดไม่น้อย
"พี่รันต์ช่วยสมัครสมาชิกให้หนูดีกับเพื่อนหน่อยสิคะ" คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นบอกเมื่อทุกคนนั่งลงที่โซฟา โดยที่ผมยังยืนอยู่ข้างโซฟาเดี่ยวตัวที่เธอนั่ง
"ไม่ได้ค่ะ" ผมปฏิเสธทันทีอย่างไม่เสียเวลาคิด
ขนาดไม่มีสมาชิกเธอยังมีความสามารถพาเพื่อนเข้ามาได้ขนาดนี้ แล้วถ้าผมยอมให้สมัครได้ไม่มากันทุกวันเลยหรือไง
"คนใจร้าย"
"ไม่ได้คือไม่ได้ค่ะ กลับบ้านไปเราต้องเคลียร์กันยาวนะคนสวย"
"หึ"
เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นมาเบา ๆ จากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทำให้ผมต้องรีบตวัดสายตามองไปยังเจ้าของเสียงหัวเราะเมื่อกี้นี้ ก่อนจะขมวดคิ้วจ้องมองหน้าไอ้เด็กเวรนั่น
"มึงหัวเราะอะไร" ผมถามอย่างเอาเรื่อง แต่คำตอบที่ได้กลับมามีเพียงแค่การไหวไหล่เล็กน้อยเท่านั้น
ไอ้หมอนี่ วอนไม่เลิกซะแล้ว
หมับ!
"สวัสดีค่ะการันต์"
ไม่ทันที่ผมจะได้ตอบโต้เพื่อนของหนูดี อยู่ ๆ ก็มีคนเดินเข้ามาควงแขนทักทายผมเสียงหวาน
"บีน่า?" ผมขมวดคิ้วเรียกคนที่เดินเข้ามาควงแขนผมด้วยความงุนงง
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะ วันนี้คุณนัดบีน่าไว้นะ" บีน่า หนึ่งในคู่ขาของผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่พอใจเล็กน้อย
ใช่! พอมีเรื่องของหนูดีเข้ามาผมลืมไปเลยว่าวันนี้ตัวเองนัดบีน่าไว้
"เดี๋ยวพี่มานะคะ" ผมหันกลับมาบอกกับคนตัวเล็กที่เงยหน้าทำแก้มพองลมใส่ผมอยู่ด้วยท่าทางไม่พอใจ ก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทางทันทีที่ผมพูดจบ
เมื่อเห็นว่าคนน้องไม่ได้พูดอะไรเอาแต่หันหน้าหนีไปอีกทางผมก็รีบพาบีน่าเดินออกมาจากโต๊ะทันที
หวงน้องก็หวง ยิ่งน้องมีเพื่อนผู้ชายมาด้วยผมยิ่งหวง แต่ก็กลัวว่าจะทำให้คู่ขาคนโปรดอย่างบีน่าไม่พอใจ ขอไปเคลียร์กับคู่ขาก่อนเถอะ แล้วจะกลับมานั่งเฝ้าน้องสาวคนสวยทั้งคืนเลยคอยดู