“ผมจะทนไม่ไหวแล้วนะวิลเลียม” มาวินพูดขณะกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ถ้าปัดมือเล็กนั่นออกไปแล้วให้เขากอดรัดกัดผิวเนื้อนวลเนียนได้หรือเปล่า แม่เจ้าโว้ย...อกอวบใหญ่น่ากินจริง ๆ ไม่รู้ว่าตรงนั้นจะใหญ่ด้วยหรือเปล่า ตอนที่เขาบุกรุกแล้วสองขาเรียวรัดรอบเอวมันจะเป็นยังไงกันนะ โอ๊ย! จะทนไม่ไหวแล้วโว้ย!
“สาวชาวบ้านป่าอกใหญ่น่ากัดน่าเอาแบบนี้หมดทุกคนหรือเปล่าวะเนี่ย” มาวินยื่นลิ้นออกมาไล้เลียริมฝีปากขณะมองสองสาวอย่างหื่นกระหาย
“อดทนรอไปอีกหน่อยสิ ผมอยากรู้ว่าสองสาวนั่นกำลังทำอะไรกันแน่”
“หมายความว่ายังไงคุณพันไมล์” ธาดาถามออกไป ปกติเขาก็ไม่ค่อยสนใจพวกผู้หญิงมากเท่าไหร่ พวกเธอเรื่องมาก ต้องคอยตามเอาอกเอาใจ พอไม่ได้ดั่งใจก็อาละวาดกรีดร้องทำให้เขารำคาญมากกว่าจะมีความสุข ชีวิตเขาจึงเลือกที่จะเดินทางในป่าเพื่อค้นหาข้าวของที่มันมีค่ามีราคาเอาไปไว้ขายพวกเศรษฐีใหม่
“คนที่มีความคิดคงจะไม่มาแก้ผ้าจนเกือบเปลือยอาบน้ำกลางป่าที่จะมีชาวบ้านผ่านมาเห็นเข้าแล้วลากไปทำไม่ดีด้วยกลางวันแบบนี้หรอกนะ” วิลเลียมบอกขณะกวาดสายตามองไปจนทั่วเพื่อสำรวจดูว่าจะมีใครหลบซ่อนกายอยู่บ้าง
“แถวนี้ไม่มีใครเลย...มีแต่สองสาวนั่น” พันไมล์พูดขณะสายตาจับจ้องที่สาวคนตัวเล็กว่าแต่อกราวกับแตงโม ปลายยอดสีชมพูถูกหยอกล้อจนเขารู้สึกปวดร้าวร่างกายไปหมดแล้ว
“คุณละวิลเลียม เห็นอะไรบ้าง” ธาดาถามทั้งที่เริ่มรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ แล้วเหมือนกัน พวกเขาเดินทางนับรวมกับลูกหาบก็เกือบจะยี่สิบคน แต่เป็นไปได้ยังไงที่มีเพียงแค่พวกเขาสี่คนที่หลุดหลงผ่านม่านควันสีขาวมาจนพบกับสองสาวนั่นที่ตอนนี้เขาเริ่มกลัวแล้วว่าเธออาจจะไม่ใช่คน!
“คงไม่ใช่หรอกมั่ง” มาวินพูดอย่างไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไหร่ มันก็จริงที่พวกเขาเดินทางเข้ามาในป่าที่ลึกมากจนแทบจะไม่มีใครเคยเข้ามาถึง ในป่าที่อะไรก็มีได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ระหว่างให้เลือกระหว่างเสี่ยงกับความตายแต่ได้มีอะไรกับสองสาวนั่น บอกเลยว่าเขาเลือกที่จะอยู่กับพวกเธอทั้งสองคนมากกว่าจะกลับไปแล้วทำมาหากินไม่เกิด ขยันทำงานแทบตาย แต่สุดท้ายก็มีแต่หนี้สินพอกพูนราวกับดินที่มันถูกทับถมจนนูนเป็นภูเขาขนาดเล็ก
“คุณละพันไมล์ จะเอายังไง” วิลเลียมถาม ด้วยว่าตัวเขาจะอยู่กับสองสาวหรือกลับบ้านเมืองของตนเองก็มีค่าเท่ากัน ที่นั่นไม่มีใครที่เขาเชื่อใจได้เลยสักคน ที่อยู่รายล้อมรอบตัวก็เห็นจะมีเพียงแค่ศัตรูที่คอยแต่จะทำร้ายอย่างเดียว แต่กับแม่สองสาวชาวบ้านป่า หากไม่มีปัญหาอะไรก็...น่าจะพออยู่กันได้นาน
“ผมแล้วแต่พวกคุณ ถ้าจะมีความสุขก็ต้องมีด้วยกัน ในเมื่อมาด้วยกันแล้วเวลาจะกลับก็ควรจะกลับไปด้วยกัน”
ธาดาพูดขึ้นทั้งที่เขาตัดสินใจได้ตั้งแต่ที่เห็นสองสาวแล้ว ตัวเขา...มีปัญหาทางด้านร่างกาย ตอนที่อยู่ในเมือง เป็นคนที่สามวันดีสี่วันไข้ แต่ไปตรวจจนละเอียดแล้วก็ไม่พบอะไร เขาถึงขั้นลองไปหาพวกหมอดูที่เก่ง ๆ ที่พวกเขาก็บอกไม่ได้ว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ แต่หลังจากที่เขาเดินทางมากับทุกคนในครั้งนี้ ที่เคยปวดหัว เคยเป็นไข้ เคยหน้ามืดตาลายเป็นลมโดยที่หาสาเหตุไม่พบหรือว่าปวดท้องอย่างรุนแรงจนต้องกินยาแก้ปวดทีละหลายเม็ดแต่อาการก็เพียงแค่ทุเลาเท่านั้น แต่เมื่อเหยียบย่างเข้ามาในป่า อาการเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย
แต่พันไมล์ก็ไม่ได้ตอบ เพราะเขาถูกสองสาวชาวบ้านป่าเล่นงานกลับจนอยากจับแม่ตัวเล็กอกใหญ่มาจัดการให้มีแต่เสียงร้องครวญครางจะแย่แล้วเหมือนกัน!
“ทำ...ทำอย่างนี้มันจะดีหรือจ๊ะพี่...พี่สร้อยจ๋า” ฟองจันทร์ถามเสียงสั่นเมื่อถูกพี่สาวสั่งให้ลุกขึ้นยืนด้วยความเขินอาย ถึงเธอยังมีกางเกงชั้นในตัวเล็กปิดกายอยู่ แต่...เมื่อเปียกน้ำมันก็บางแนบไปกับผิวเนื้อจนปกปิดสิ่งใดไม่ได้ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนลำขาเรียวยาวแล้วยังจะให้เธออ้าขาออกให้กว้าง พร้อมกับบอกให้เอาสองแขนไพล่ไปด้านหลังวางลงบนสองขาของพี่สาวแล้วเธอก็ต้องเอนตัวไปด้านหลังด้วย
“ทำอย่างนี้แล้วคนพวกนั้นที่พี่บอกว่ามาถึงแล้ว...คนที่จะมาเป็นผัวของเราจะออกมาจากที่ซ่อนจริง ๆ หรือจ๊ะพี่สร้อยจ๋า” ฟองจันทร์เอ่ยถามอีกครั้ง เพราะท่าที่นั่งอยู่นี้มันทำให้อกของเธอนูนสูงขึ้น ถ้ามีคนหลบซ่อนอยู่ตามที่พี่สาวบอก คนพวกนั้นก็เห็นร่างกายของเธอจนหมดแล้วนะสิ เป็นอย่างนี้แล้วเธอจะเอาผู้ชายพวกนั้นมาเป็นผัวได้ยังไงกันล่ะ
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คำทำนายของแม่หมอไม่เคยพลาดเลยนะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ถูกมาตลอด”
“แล้วที่แม่หมอบอกว่าฉันกับพี่จะเป็นเหมือนกับพี่จันทร์ เราสองคนพี่น้องจะมี...มีผัวถึงสองคน มันก็จะเป็นจริงด้วยหรือจ๊ะ แล้วเราสองคนตัวเล็กนิดเดียว จะรับมือกับผัวถึงสองคนด้วยกันไหวได้ยังไงกันละจ๊ะ”
ฟองจันทร์น้องน้อยผู้ช่างสงสัย...ในทุกเรื่องถามออกไป ถึงเธอจะตัวเล็ก แต่พี่สาวก็มีขนาดใกล้เคียงกัน จะให้เธอนั่งอยู่บนขาพี่สาวตลอดไปคงไม่ได้ ตอนนี้เธอก็เลยต้องเคลื่อนตัวลงไปนั่งใกล้ ๆ แล้วหยิบเอาก้อนหินขนาดพอเหมาะมือก่อนจะขยับไปนั่งด้านหลังของพี่สาวที่หันหน้าสู้กับสี่ชายหนุ่มวัยกลัดมันที่แอบซ่อนจ้องมองอยู่ด้วยหัวใจที่เต้นแรงเร็ว
“พี่ทับกับพี่นักรบตัวใหญ่ราวกับหมี พี่จันทร์ยังสู้ไหวเลย ไหนจะแม่หมออีกล่ะ พี่ชายที่อยู่ด้วยมีถึงห้าคนที่ตัวใหญ่กว่าหมีด้วยซ้ำ อยู่กับแม่หมอมาตั้งแต่พี่อายุสิบสาม ฟองก็สิบเอ็ด ตอนนี้ฟองก็สิบเจ็ด ส่วนพี่ก็ครบสิบเก้าวันนี้ อยู่กันยาวขนาดนี้แม่เฒ่ายังสวยใสราวกับเด็กสิบแปดอยู่เลย พี่ ๆ ทั้งห้าก็ยังหนุ่มแน่นไม่เห็นมีใครแก่เฒ่าไม่ไหวเลยนะ” ถึงตอนนี้จะหลายปีแล้วแท้ ๆ แต่ทั้งห้าคนยังดูเหมือนหนุ่มวัยรุ่นที่มีแต่ความแข็งแกร่งอยู่เลย
“เชื่อเถอะว่ายังไงฟองก็รับมือกับผัวทั้งสองคนไหว” สร้อยระย้าหัวเราะเสียงใสขณะลูบไล้มือไปบนท่อนแขนกลมกลึงของตนเองแผ่วเบา
“พี่กลับคิดว่า เมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ แค่สองคนจะไม่พอรับมือกับความเร่าร้อนของฟองนะสิ แม่หมอพูดว่าของฟองนะ...ใหญ่มหาเสน่ห์เลยนะ ผัวจะรัก ผัวจะลุ่มหลงใหลจนไปไหนไม่รอด อีกอย่าง...ยาของแม่หมอดีแค่ไหน ขนาดพี่ชายทั้งห้าคนยังไปไหนไม่รอดเลย แล้วของพี่กับฟองแค่สองคนเองนะ จะไม่ไหวได้ยังไงกันล่ะ”