“บอสมองบัวแบบนั้นทำไม” เธอขมวดคิ้วถามยังไม่รู้ตัวว่าร่างกายไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม ก่อนจะขยับเข้าหาเขาอีกหนึ่งก้าว
“...” แต่คนมองยังตกอยู่ในอาการตะลึง ริมฝีปากแห้งผากกับความสวยของคนตรงหน้า กลิ่นหอมจากกายบางกำลังกระตุ้นกำหนัดอย่างหนัก
“บอสขา ได้ยินบัวไหม”
“…”
“บอส”
“คุณกำลังโป๊”
“โป๊? กรี๊ดดด บอสออกไปเลยนะ”
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
ชายหนุ่มรีบเดินออกไปอย่างเร็วพร้อมกับความตื่นเต้น ใจดวงโตเต้นตึกตักเหมือนมีกลองนับร้อยตีรัวอยู่ข้างใน ภาพความเย้ายวนเมื่อสักครู่ยังติดตา ถึงเขากับเธอจะเป็นคนคุ้นเคยแต่นั่นมันนานมาแล้ว
ส่วนหญิงสาวก็รีบวิ่งไปหาผ้าขนหนูมาพันตัวด้วยความขวยเขิน ไม่ได้ตั้งใจจะยั่วเขาเลยแต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้ว่าเขามีอารมณ์…
บัวบูชามองดูตัวเองในกระจก แล้วแผนการอ่อยผู้ก็ผุดขึ้นมาในหัวราวกับดอกเห็ด งานนี้บลูเวลไม่รอดมือเธอแน่ จากนั้นก็เดินออกไปหาชายหนุ่มที่กำลังนั่งรออยู่บนโซฟาห้องรับแขก
“บอสมาหาบัวทำไมคะ” หญิงสาวทิ้งตัวลงตรงข้ามชายหนุ่ม ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน แต่ชุดที่ใส่ไม่ได้อ่อนโยนต่อใจคนมองทำให้บลูเวลใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“คุณไปแต่งตัวก่อนไหม” น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึมหลังจากเห็นเธอนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวออกมานั่งคุยด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ชุดนี้ก็ไม่ได้โป๊” ก็คนตั้งใจใส่ออกมาอ่อยจะเข้าไปเปลี่ยนทำไม บัวบูชายิ้มอย่างมีเลศนัย เชื่อว่าไฟราคะในตัวเขากำลังลุกโชน ของมันเคยๆ มีเหรอจะทนไหว
“คือผมอยากจะมาถามคุณว่าขาดเหลืออะไรไหม”
“ไม่มีค่ะ แต่ไม่รู้คืนนี้จะนอนหลับไหม บอสขาช่วยมานอนเป็นเพื่อนบัวหน่อยสิคะ บัวสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรบอสแน่นอน”
“มันไม่ดีมั้งคุณ ผมว่า...”
“นะคะบอส อย่าใจร้ายกับบัวเลย”
“ผม”
“บอสขา”
“โอเคผมมานอนเป็นเพื่อนคุณก็ได้ แต่ผมจะนอนบนโซฟา”
“เย่ บัวดีใจจังเลยค่ะ บอสยังใจดีกับบัวเหมือนเดิม”
คนดีใจกระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของผู้ชายอย่างลืมอาย
บลูเวลกลืนน้ำลายลงคอดังอึกเมื่อเห็นร่องอกขาวๆ ภายใต้ผ้าขนหนู สติเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอยเมื่อสบตาคนบนตัก
อยู่ๆ ราวกับเวลาหยุดหมุนทำให้สองหนุ่มสาวตกอยู่ในห้วงแห่งความรู้สึก ความทรงจำในอดีตผุดเข้ามาทีละนิด ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน มีความสัมพันธ์กัน จนถึงวันลาจาก
“คุณเซ็กซี่จังเลยบัว คุณทำให้ผมร้อน” บลูเวลมองบัวบูชาตาเยิ้มเหมือนคนกำลังเมากาว น้ำเสียงที่เปล่งออกไปคล้ายคนไม่มีสติ มือหนาบีบขย้ำสะโพกสาวอย่างลืมตัว
“เปล่าเลยนะคะ บัวยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” คนขี้อ่อยปฏิเสธตาใสในขณะที่มือยังคล้องคอเขา
“คุณตัวหอมเหมือนเดิมเลย” กลิ่นกายหอมสดชื่นของคนบนตักที่กำลังโชยเข้ามาในจมูก ทำให้ร่างกายคนตัวโตสั่นเทิ้มทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้สึกหนาว
“บอสขาก็ตัวหอมเหมือนกัน” เธอขยับตัวเล็กน้อย
“อย่าขยับ เดี๋ยวไอ้นั่นตื่น” เขาเตือนเสียงพร่า ลมหายใจหอบถี่พร้อมกับบอกตัวเองให้ใจเย็น อย่าเผลอแสดงความดิบเถื่อนออกมาเพราะมันไม่เหมาะสม
“อุ๊ย บัวขอโทษค่ะ บัวไม่ได้ตั้งใจ” แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นมายืนอยู่บนพื้น แล้วรีบเดินหนีเข้าห้องนอนปล่อยให้บลูเวลนั่งสงบสติอารมณ์อยู่บนโซฟาเพียงลำพัง
บัวบูชายิ้มร้ายเมื่อผ้าขนหนูลงไปกองอยู่บนพื้น ภาพส่วนเว้าส่วนโค้งในกระจกทำให้เธออดภูมิใจไม่ได้ อีกไม่นานหรอก บลูเวลต้องกลับมาซุกซบที่อกของเธอ
“นมคู่นี้พร้อมเสิร์ฟเข้าปากบอสขา” คิดแล้วก็รู้สึกเสียวท้องน้อย อยากรู้จริงๆ ถ้ายัยคุณหมอแสนดีรู้ว่าเธอกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายบลูเวล เจ้าหล่อนจะทำหน้าอย่างไร
ภายในห้องนอนสไตล์โมเดิร์นโทนสีขาวสะอาดเรียบง่ายและสบายตา มีจุดเด่นคือเตียงขนาดคิงไซซ์หลังใหญ่ พนักพิงหัวเตียงบุด้วยนวมคุมโทนสีเดียวกับผ้าปูเตียง เพิ่มดีเทลด้วยเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งและโคมระย้าสีทอง ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในโรงแรมระดับลักชัวรี ที่ราคาต่อคืนไม่ต่ำกว่าหลักแสน
ด้วยขนาดของเตียงคิงไซซ์ที่นอนกันได้ถึงสามสี่คน ทำให้คนมีแผนร้ายไม่ยอมให้บอสขาไปนอนบนโซฟา
สองหนุ่มสาวเถียงกันอยู่สักพักใหญ่ สุดท้ายบลูเวลก็ใจอ่อน ยอมเดินตามหลังบัวบูชาไปนอนบนเตียงเดียวกัน
เวลาผ่านไปสิบห้านาทีแต่คนทั้งสองยังไม่หลับ หญิงสาวจึงชวนชายหนุ่มคุย ถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปจนถึงเรื่องความรัก เธอถึงได้รู้ว่าบลูเวลหมั้นหมายกับคุณหมอแสนดีเพราะมารดาขอร้องแกมบังคับ
พูดเรื่องนี้แล้วเธอแอบเห็นใจเขา บลูเวลเป็นลูกที่เกิดจากความใจแตกของแม่ตอนไปเรียนเมืองนอก ไม่เหมือนมังกรที่เกิดจากความรัก
ชายหนุ่มมีปมเรื่องครอบครัวไม่ต่างจากเธอ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แม่พอใจ แต่ไม่ว่าจะทำอะไรแม่ก็ไม่เคยหันมามอง ชายหนุ่มเติบโตมากับตายาย ส่วนมารดาแต่งงานใหม่แล้วย้ายไปอยู่กับสามี
“บัวมาอยู่ห้องของบอสแบบนี้ คุณหมอแสนดีจะไม่ว่าเหรอคะ” เธอไม่ได้อยากรู้เรื่องยัยหมอผีแสนชั่ว แต่อยากรู้อดีตเจ้านายจะตอบว่าอย่างไร
“ห้องของผม เธอไม่เกี่ยว คุณอยู่ไปเถอะ” เขาตอบเสียงห้วนคล้ายไม่พอใจทำให้บัวบูชาจุดยิ้มมุมปาก นี่แหละคำตอบที่อยากได้ยิน
“โอเคค่อยสบายใจหน่อย บัวกลัวบอสกับคุณหมอจะมีปัญหากัน” ผีนักแสดงเริ่มเข้าสิง ปากบอกกลัวแต่แววตาเต็มไปด้วยความยินดี ทว่าบลูเวลกลับมองไม่เห็นเพราะตอนนี้ห้องนอนตกอยู่ในความมืด
“อย่าพูดถึงเรื่องคนอื่นเลย พรุ่งนี้คุณจะไปหางานทำเลยไหม” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเข้มในขณะหลับตา ตอนนี้ไม่อยากพูดถึงใคร หรือเรื่องอะไร ที่ไม่ใช่เรื่องของเขากับบัวบูชา สุ้มเสียงที่เหมือนจะรำคาญยิ่งทำให้อดีตคนคุ้นเคยยิ้มชั่วร้าย
“ยังค่ะ บัวจะไปหาซื้อโทรศัพท์กับซิมใหม่ก่อน โทรศัพท์ที่ใช้อยู่มันเก่าพอดี ซิมเดิมก็ปิดไปนานแล้ว คิดว่าจัดการเรื่องโทรศัพท์เสร็จค่อยไปสมัครงาน”
“เอาเป็นว่าผมจะดูงานที่บริษัทให้ก่อน ถ้ามีตำแหน่งว่างลองดู เผื่อคุณทำได้”
“ขอบคุณค่ะบอส เฮ้อ ไปซื้อโทรศัพท์ที่ไหนดีน้า ไม่ได้ขึ้นรถเมล์มานานแล้วด้วย ไม่รู้สายรถเมล์เปลี่ยนไปบ้างรึยัง ขึ้นรถไฟฟ้าก็ได้เนอะ” หว่านพืชก็ต้องหวังผล และเชื่อว่าเขาต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ บลูเวลไม่มีทางตามทันมารยาหญิงหรอก เธอรู้เรื่องนี้ดี
“ผมพาไปได้นะ เสร็จเรื่องของคุณแล้วค่อยไปทำงาน” ชายหนุ่มเสนอตัวอย่างรวดเร็ว ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มจางๆ
“จะดีเหรอคะ เกรงใจจังเลย” นักแสดงท่านหนึ่งตอบกลับราวกับเกรงใจ อันที่จริงเธออยากลุกขึ้นกระโดดแล้วร้องว่า สำเร็จ เหยื่อกินเบ็ดเป็นที่เรียบร้อย
“ผมเต็มใจช่วยคุณ”
น้ำเสียงของชายหนุ่มละมุนและอ่อนโยนลง เกือบทำให้หญิงสาวถอดใจไม่อยากจะแก้แค้น ทว่าความเจ็บในอดีตส่งเสียงเตือนอย่าได้ยอมถอยเป็นอันขาด เดินหน้าแล้วก็ต้องเดินต่อไปให้สุดทาง
สองหนุ่มสาวคุยกันนานมากกว่าจะผล็อยหลับไป ปกติบลูเวลเป็นคนนอนหลับยาก หลับไม่สนิท แต่คืนนี้เป็นคืนแรกในรอบสี่ปีที่ชายหนุ่มหลับเต็มอิ่ม ไม่ฝันถึงคุณตาคุณยายเช่นคืนก่อนๆ ที่ผ่านมา เขาฝันถึงพวกท่านหนักมากขึ้นหลังจากไม่มีเธอข้างกาย
ด้วยช่วงนี้อยู่ในฤดูฝนทำให้ท้องฟ้าไม่สดใส ด้านนอกมีเมฆสีเทาครึ้มลอยไปลอยมา ไม่นานสายฝนก็เทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย
หญิงสาวนอนอย่างมีความสุขอยู่ดีๆ ก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง ภาพในวัยเยาว์ฉายเข้ามาในหัวตอนที่เธอประสบอุบัติเหตุพร้อมบิดามารดาทำให้พวกท่านเสียชีวิต
“พ่อ! แม่! ไม่นะ ไม่ ไม่” คนมีอดีตเพราะสายฝนกับฟ้าร้องนอนกระสับกระส่าย เหงื่อผุดเต็มใบหน้า ทำให้บลูเวลต้องรีบปลุกให้ตื่น
“บัวไม่ต้องกลัวผมอยู่ตรงนี้” เขาดึงเธอเข้ามากอดปลอบพลางลูบหัวเหมือนที่เคยทำสมัยก่อน ชายหนุ่มจำได้ไม่เคยลืมหญิงสาวกลัวเสียงฟ้าร้องเพราะมีเรื่องฝังใจ
“คุณบลูเวล เมืองไทย เฮ้อ” เธอลืมตามองรอบตัวก่อนจะนึกออกว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ตัวเองไม่ได้อยู่ในรถคันที่เกิดอุบัติเหตุ ทุกอย่างมันเป็นแค่เรื่องในอดีต
“ไม่ต้องกลัวนอนต่ออีกหน่อยเถอะ” ชายหนุ่มหันไปมองนาฬิกาบนหัวเตียง อีกนานกว่าจะถึงเวลาเจ็ดโมงครึ่ง ปกติเขาตื่นช่วงนั้นตอนนี้เพิ่งจะหกโมงเช้าเอง
“ฝนตกฟ้าผ่าเหรอคะ” เหมือนเธอจะยังงงถึงได้ถาม จากนั้นก็หันไปมองตรงผ้าม่าน ที่มีช่องว่างทำให้เห็นฟ้าแลบแปลบปลาบ ก่อนเสียงฟ้าจะคำรามลั่นดังมาติดๆ จนทำให้เธอต้องเบียดตัวเข้าหาไออุ่นจากเขา
“อืม ช่วงนี้หน้าฝน ฝนตกบ่อยโดยเฉพาะตอนเช้า”
“ไม่นอนดีกว่าค่ะ บัวอยากไปอาบน้ำ”
“เดี๋ยวคุณไปกินอะไรที่ห้องของผมแล้วกัน”
“บัวทำให้บอสกินดีกว่า ฝีมือบัวยังเหมือนเดิม อร่อย ไม่เคยเปลี่ยน”
คำว่าอร่อยมาพร้อมกับสายตาสื่อความหมาย เธอไม่ได้หมายถึงอาหาร บลูเวลถึงกับลำคอแห้งผากเช้าๆ แบบนี้ร่างกายจะตื่นตัวเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งมาจากระดับเทสโทสเตอโรนฮอร์โมนสำคัญในเพศชาย แต่อีกส่วนมาจากจิตใต้สำนึก บอกตามตรงเขาไม่มีอารมณ์อย่างว่ากับผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากเธอ
“เอาที่คุณสะดวก ผมขอตัวก่อน”
“ทำไมบอสดูกลัวบัวจังเลย”
“เปล่า ผมไม่ได้กลัวคุณ”
“จริงเหรอคะ”
“จริง ขอตัว”
ถ้าไม่รีบไปเขาคงได้จับเธอเปลืองผ้าแล้วชวนกันกินอย่างอื่นแทนข้าวแน่ บลูเวลวิ่งกลับห้องของตัวเองอย่างรวดเร็วทำให้บัวบูชาขำจนไหล่สั่น
โดนยั่วนิดยั่วหน่อยเขาก็วิ่งหนีหางจุกตูด ถ้าโดนยั่วแบบจัดเต็มเขาจะเป็นอย่างไร แค่คิดก็สนุกแล้ว อีกไม่นานเธอจะทำให้อดีตคนคุ้นเคยกลับมาสยบแทบอกให้ได้ ไม่แน่พรุ่งนี้มะรืนนี้ก็สำเร็จ
คนมีอารมณ์เพราะเรื่องอย่างว่า กำลังใช้แม่นางทั้งห้าช่วยตัวเองจนกระทั่งถึงฝั่งปรารถนา ภายใต้เสียงหอบหายใจฟืดฟาด มีภาพบัวบูชาไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ลอยอยู่ในหัว
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเผลอคิดถึงช่วงเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันในห้องน้ำ เสียงแหบพร่าปานจะขาดใจของบัวบูชาดังก้องอยู่ในหู ราวกับว่าเธอมาอาบน้ำด้วยกัน
‘บอสขาเสียวมาก’
‘บอสขากระแทกแรงๆ ได้ไหม’
‘บอสขาบัวอยากได้ลิ้น’
‘อ๊า บอสขา บอสของบัว’