บทที่ 1 กลับมาแก้เแค้นทุกคน (1)
“คนอย่างคุณเป็นได้แค่ของเล่นบนเตียงจำเอาไว้บัวบูชา ผมไม่มีวันแต่งงานกับคุณ แม่ของลูกผมต้องเป็นคนดี”
คำพูดของผู้ชายใจร้ายยังดังก้องอยู่ในหู แม้เวลาจะผ่านไปแล้วถึงสี่ปีแต่เธอไม่เคยลืม บัวบูชา จงเป็นรัก หรือบัว กำลังนั่งอ่านข่าวเมาท์มอยคนดังแวดวงธุรกิจผ่านเพจใต้เตียงไฮโซ ด้วยความเจ็บปวด เสียใจ ระคนโกรธเคือง เมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต
เธอกะพริบตาเพื่อไล่หยาดน้ำตาก่อนจะตั้งใจอ่านต่อ เนื้อหาข่าวเขียนว่า ‘ในที่สุดท่านประธานหนุ่มสุดหล่อก็ได้เข้าพิธีหมั้นกับคุณหมอคนสวยสุดแสนจะใจดีเป็นที่เรียบร้อย’
ใจดีเหรอ ยัยหมอผีคนนั้นอะนะเรียกว่าใจดี
“ถ้าคนแบบนี้ใจดี คนแบบฉันคงถูกเรียกว่า แม่พระ” บัวบูชาเม้มปากแน่นหลังจดจ้องไปยังผู้หญิงในรูปที่ใครๆ ต่างบอกว่า
แพทย์หญิงแสนดี สันวรีกุล คุณหมอคนสวยทายาทโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังคือนางฟ้า ในอดีตเธอไม่เคยเกลียดชังเจ้าหล่อนเลยจนกระทั่งวันหนึ่ง เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น
คนจมกับอดีตพาตัวเองย้อนกลับไปในวันนั้น เมื่อสี่ปีก่อนเธอถูกคุณหมอแสนดีใส่ร้าย แล้วทุกคนในเหตุการณ์ก็ล้วนเชื่อคำโกหกที่ถูกปั้นแต่งขึ้นมา รวมถึงเจ้านายหนุ่มที่มีความสัมพันธ์กันเกินคำว่าเจ้านายกับลูกน้อง
บัวบูชาจำได้ว่าตัวเองต้องออกไปทำงานนอกสถานที่กับเจ้านาย ขากลับ เจ้านายของเธอถูกมารดาตามตัวให้ไปพบที่บ้าน เธอจึงไปนั่งรอเขาอยู่บริเวณริมสระว่ายน้ำ ไม่รู้คุณหมอเดินมาจากไหน อยู่ ๆ ก็เข้ามาสะกิดหลัง แล้วพูดว่า ‘อีผู้หญิงชั้นต่ำ ไม่มีหัวนอนปลายเท้า น้ำหน้าอย่างแกไม่คู่ควรกับพี่บลูเวลสักนิด’ จากนั้นเรื่องชุลมุนก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่คุณหมอคนดีของทุกคนกลับทำตัวเองตกลงไปในน้ำ
จากนั้นไม่ถึงนาที คุณหมอก็ถูกช่วยขึ้นมาด้วยฝีมือของมังกร น้องชายต่างพ่อของเจ้านาย เสียงเอะอะโวยวายทำให้คนในบ้านพากันวิ่งกรูออกมาดู แล้วพอได้ยินคุณหมอบอกว่าโดนเธอผลักตกน้ำก็พากันเชื่อ ส่วนเธอปฏิเสธอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ ทุกคนเชื่อคุณหมอแสนดีกันหมด
โชคร้ายที่บริเวณนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด เธอจึงกลายเป็นคนร้ายในสายตาคนอื่น รวมถึงผู้ชายที่เป็นรักแรก รักเดียว ยอมมอบทั้งตัวและหัวใจ แม้เป็นได้แค่สถานะคู่นอนเธอก็ยอม
ก่อนจะออกจากบ้านหลังนั้น เธอยังจำแววตาของยัยหมอผีแสนดีได้ไม่เคยลืม มันเป็นแววตาเย้ยหยันปนสะใจของผู้ชนะ
หลังกลับมาถึงคอนโดเธอก็ทะเลาะกับเจ้านายต่อ และไม่ว่าเธอจะพยายามอธิบายอย่างไรเขากลับไม่ฟัง สงครามเย็นเกิดขึ้นระหว่างเรา บวกกับเวลานั้นสัญญาว่าจ้างการเป็นเด็กในความลับของเขากำลังจะจบลง สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจมาใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ ดินแดนที่ใครๆ ต่างพากันเรียกว่าเมืองผู้ดี
สี่ปีที่ผ่านมาไม่มีวันไหนที่บัวบูชาจะไม่คิดถึงเรื่องนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ เกลียดทุกครั้งที่เห็นข้อความเชิดชูนังหมอผีแสนชั่ว เสียใจจนน้ำตาไหลเมื่อคิดถึงถ้อยคำแสนจะดูถูกของเจ้านายหน้าโง่ ไม่รู้เขากินหญ้าแทนข้าวหรือไงถึงไม่มีสมองในการตรึกตรอง แทนที่จะปกป้องเมียกลับเชื่อแต่ว่าที่คู่หมั้นจอมลวงโลก
บัวบูชากัดฟันกรอดจมกับเหตุการณ์ในอดีต จึงไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเพื่อนสนิทที่รู้จักกันตั้งแต่อยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
หลังเรียนจบโรสิตาได้ทุนมาเรียนต่อที่เมืองผู้ดีแห่งนี้และตั้งใจจะไม่กลับบ้านเกิดเมืองนอนอีก
“เป็นอะไรบัว ฉันเห็นแกนั่งดูอะไรอยู่ตั้งนาน” โรสิตายืนมองมาสักพัก เห็นบัวบูชานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด น้ำตาเหมือนจะไหลแต่ไม่ไหลจึงเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ปกติบัวบูชาเป็นคนร้องไห้ยากมาก อารมณ์ดีตลอด ยกเว้นตอนที่คิดถึงเรื่องเก่าๆ ในวันวาน
“กำลังดูอะไรไปเรื่อยน่ะ เออแก ฉันจะลาออกแล้วนะ”
หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบหลังจากคิดอะไรออก เรื่องทั้งหมดเธอไม่ได้ผิด แล้วทำไมต้องก้มหน้ายอมรับความทุกข์อยู่คนเดียว
“ลาออก! ลาออกทำไม แกจะกลับไทยเหรอ”
“อืม มาอยู่เมืองนอกนานแล้ว คิดถึงบ้านเกิด”
“แล้วแกบอกเจ้านายรึยัง ถ้ากลับไปแกจะทำงานอะไร”
“ยังไม่ได้บอก ยังไม่รู้จะทำงานอะไร แต่คิดเผื่อๆ ไว้แล้ว”
“ถามจริง กลับไปเพราะคิดถึงบ้าน หรือมีเรื่องอื่น” โรสิตานั่งลงตรงหน้าก่อนเอ่ยถาม ความรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างบอกกับเธอว่าบัวบูชาไม่ได้กลับบ้านด้วยเหตุผลดังกล่าว ขณะที่คนเจ้าแผนการเงียบไปชั่วครู่ก่อนให้คำตอบกับเพื่อนตามตรง
ใช่ เธอไม่ได้คิดถึงบ้านแต่อยากกลับไปเพื่อล้างแค้น
“แกดูออกเหรอ ฉันมีจุดประสงค์อื่นจริงๆ นั่นแหละ” ไหนๆ เพื่อนก็จับไต๋ได้เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องปิดบัง บัวบูชาแสยะยิ้มร้ายกับแผนการในหัว
“บอกได้ไหม แกอยากกลับไปทำไม” ถ้าให้เธอเดาคงเป็นเรื่องที่ถูกใส่ร้าย โรสิตาให้คำตอบกับตัวเองในขณะที่เอามือขึ้นมากอดอก รอคอยคำตอบจากคนตรงหน้า
“ได้สิ ฉันไม่มีความลับกับแกหรอกสิตา” เพราะเป็นเพื่อนกันมานานบัวบูชาจึงไว้ใจโรสิตาไม่ต่างจากที่ไว้ใจตัวเอง
ในดวงตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยไฟโทสะ ในใจเหมือนมีกองเพลิงขนาดใหญ่กำลังโหมลุกไหม้ สิ่งเดียวที่จะดับเพลิงพิโรธนี้ลงได้ก็คือการล้างแค้น ทุกคนที่เคยทำร้ายเธอต้องเจ็บ ต้องได้รับบทเรียนจากเรื่องนี้
“งั้นก็พูดมา อย่าให้ต้องใช้ไม้ตาย” ไม้ตายที่พูดก็คือการจี้เอว
“ฉันจะกลับไปแก้แค้นพวกมันทุกคน”
รังสีอำมหิตในตัวหญิงสาวดูเหมือนยิ่งทวีเข้มข้นขึ้นเมื่อคิดถึงเรื่องในข่าว คนพวกนั้นใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในขณะที่เธอทุกข์ทรมาน มันช่างไม่ยุติธรรมสักนิด
“แกยังไม่ลืมเรื่องในอดีตอีกเหรอบัว” ถามด้วยความอ่อนใจพลางส่ายหน้า เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงไม่ลืม ไม่ยอมปล่อยวาง
“เป็นแกจะลืมไหม พวกมันมีความสุขบนความทุกข์ของฉัน”
หญิงสาวขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง แม้กระทั่งเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงหน้ายังรับรู้ได้
“อืม ฉันเข้าใจ เอาเป็นว่าฉันไม่ห้าม แต่ก็ไม่สนับสนุน”
โรสิตารู้จักเพื่อนสนิทคนนี้ดี ห้ามไปก็เท่านั้น คนอย่างบัวบูชาเป็นพวกรักแรงเกลียดแรง แค้นฝังหุ่น ต่อให้เวลาจะผ่านไปอีกสิบปี เพื่อนเธอก็จะกลับไปแก้แค้นเหมือนเดิม
“เอาไว้ฉันแก้แค้นสำเร็จแล้ว ฉันจะกลับมาหาแก” เธอไม่ได้คิดจะไปตลอดกาล แก้แค้นเสร็จทุกอย่างก็จบ หลังจากนั้นก็จะกลับมาใช้ชีวิตสวยๆ เชิดๆ ในต่างแดนเหมือนเดิม เผลอๆ อาจจะได้เจอเนื้อคู่แล้วช่วยกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่น
“แกจำเอาไว้อย่างหนึ่งนะบัว ใครไม่รักแกก็ช่างมัน แต่แกต้องรักตัวเอง”
“ขอบใจแกมากสิตา ฉันจะไม่รักใครมากกว่าตัวเองแน่นอน ฉันสัญญา”
“แล้วนี่แกจะกลับไปเมืองไทยตอนไหน”
“เดือนหน้าน่ะ รอทำเรื่องลาออกให้เรียบร้อยก่อน”
บัวบูชาส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในชีวิตหลังจากตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ก่อนจะหันออกไปมองนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่ใครก็อ่านไม่ออก แม้กระทั่งโรสิตาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้ เพื่อนรักคิดจะกลับไปแก้แค้นคนเหล่านั้นด้วยวิธีไหน
ในฐานะเพื่อนที่รับรู้ความเสียใจจากเรื่องในอดีต ย่อมเข้าใจดีถึงความเจ็บปวดของบัวบูชาจึงไม่กล้าห้าม เพียงแค่เป็นห่วงกลัวเพื่อนจะเจ็บเพราะผู้ชายที่เคยหลงรักอีกครั้งหากกลับไปเจอกัน
โรสิตาตบบ่าบัวบูชาเบาๆ คล้ายให้กำลังใจก่อนจะออกจากบ้านไปหาแฟนหนุ่ม ปล่อยให้คนมีความแค้นนั่งอยู่เพียงลำพังพร้อมกับแผนการมากมายในหัว มุมปากของบัวบูชากระตุกขึ้นด้วยความสะใจ ยามที่จินตนาการถึงผลลัพธ์หลังจากแก้แค้นสำเร็จ
“แล้วเจอกัน คุณหมอผีคนดี คุณบลูเวลคนใจร้าย”