กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
บรรยากาศของเมืองหลวงที่ขึ้นชื่อว่ารถติดอันดับต้นๆ ของโลกยังคงไม่เปลี่ยนไปมาก แม้ว่าบัวบูชาจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศมานานหลายปี ถ้าจะมีอะไรที่เพิ่ม ก็คงเป็นรางรถไฟฟ้าที่ผุดขึ้นมาหลายสถานี เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทาง แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าราคาค่าโดยสารถูกลงด้วย
บัวบูชาลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบขึ้นไปบนรถแท็กซี่ ก่อนจะบอกจุดหมายปลายทางของตัวเอง การกลับมาครั้งนี้ เธอต้องได้เห็นความย่อยยับของทุกคนที่เคยทำให้ตัวเองเจ็บช้ำ
“รถยังติดเหมือนเดิมเลยนะคะ ไม่ได้กลับมากรุงเทพฯ ตั้งนาน” หญิงสาวพูดกับคุณลุงคนขับรถ หลังจากได้เห็นบรรยากาศของกรุงเทพฯ อดีตเคยวุ่นวายอย่างไรปัจจุบันก็ยังวุ่นวายอยู่อย่างนั้น ไม่เปลี่ยนเลย
“รถติดไม่พอหนู ฝุ่นเยอะอีกต่างหาก เฮ้อ ถ้าไม่ติดว่าต่างจังหวัดไม่มีงานทำลุงคงไม่ทนอยู่ขนาดนี้” คุณลุงโชเฟอร์เอ่ยด้วยความเซ็ง เรื่องรถติดว่าน่าเบื่อแล้ว มาเจอกับเรื่องฝุ่นอีก
“สังคมเหลื่อมล้ำมากๆ เลยค่ะ ลุงว่าไหม คนจนก็จนเหมือนเดิม คนรวยก็รวยเอา รวยกระจุกจนกระจาย เห็นว่าทุกวันนี้มิจฉาชีพก็เต็มไปหมด”
“ลุงเห็นด้วยเลย แล้วหนูเพิ่งกลับมาจากไปเที่ยวเหรอ”
“เปล่าหรอกค่ะ หนูอยู่เมืองนอก คิดถึงบ้านก็เลยกลับมา”
“ดีๆ ไปอยู่ไหนก็ไม่เหมือนบ้านเราหรอกเนอะ”
“ค่ะ”
ผู้โดยสารสาวคุยกับคุณลุงคนขับรถไปจนถึงจุดหมายปลายทางอย่างเพลิดเพลิน จากที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองในตอนนี้ ก็กลายเป็นคนข้อมูลแน่นปึกเพราะคุณลุงป้อนไม่หยุด บอกเรื่องนั้น พูดเรื่องนี้ จนเธอไม่รู้สึกเหงา
หลังจากจ่ายค่าโดยสารให้แท็กซี่เรียบร้อยแล้ว เธอก็ลากกระเป๋าเดินทางไปติดต่อประชาสัมพันธ์ พอแลกบัตรเสร็จถึงได้ขึ้นไปยังบริษัทที่เคยทำงานมาหลายปี
Environ Green Consultants Co., Ltd. บริษัทที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมรายใหญ่ที่สุดของไทย หรือ EGC ปัจจุบันได้กลายเป็นบริษัทที่สามารถให้บริการงานด้านสิ่งแวดล้อมได้แบบครบวงจร (One-Stop Environmental Services)
บัวบูชามองป้ายชื่อบริษัทด้วยสายตามุ่งมั่น แผนการล้างแค้นครั้งนี้ต้องสำเร็จ ต่อให้ต้องงัดมารยาเป็นร้อยเป็นพันเล่มเกวียนออกมาใช้เธอก็ยอม หญิงสาวที่เต็มไปด้วยไฟแค้นเหยียดยิ้มตรงมุมปาก ก่อนจะสับขาเดินภายใต้รองเท้าผ้าใบเข้าไปหาพนักงานตรงเคาน์เตอร์
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบต้องการติดต่อเรื่องอะไรคะ” คนสวยหน้าแฉล้มที่นั่งประจำเคาน์เตอร์ต้อนรับ ยกมือขึ้นไหว้ผู้มาเยือนอย่างนอบน้อมก่อนสอบถามถึงธุระ แม้ในใจนึกสงสัยเสียเต็มประดา แขกสาวพร้อมกระเป๋าเดินทางสองใบมาที่บริษัทของตัวเองทำไม
“ดิฉันต้องการขอเข้าพบท่านประธานค่ะ” คนสวยกว่าถอดแว่นกันแดดสีดำออกก่อนตอบ ผ่านไปหลายปีนึกว่าคนที่นั่งต้อนรับอยู่ตรงนี้จะเป็นคนเดิม บัวบูชาคิดในใจพลางยิ้มหวาน
“ได้นัดเอาไว้ไหมคะ” ด้วยหน้าที่เธอจึงต้องถาม เพราะปกติท่านประธานจะไม่ยอมให้ใครเข้าพบหากไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า
“ไม่ได้นัดค่ะ ฝากบอกคุณบลูเวลว่า บัวบูชา มาขอเข้าพบ”
“ชื่ออะไรนะคะ รบกวนช่วยทวนอีกครั้ง”
“บัว-บู-ชา”
โอเปอเรเตอร์คนงามรีบต่อสายหาเลขาของท่านประธานทันที ไม่นานคนสวยผมสั้นประบ่ารูปร่างระหง ก็ถูกเชิญไปยังห้องของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงผู้บริหารสูงสุดของ EGC ที่ทุกคนรู้จักกันดีในนามคุณ บลูเวล ภาคภูมิ ครีกรินตัน ไอ้ผู้ชายใจยักษ์คนนั้นที่เคยพูดทำร้ายจิตใจเธอเมื่อหลายปีก่อน
บัวบูชาเดินมาหยุดยืนตรงหน้าห้องของอดีตเจ้านาย ก่อนจะปรายตามองไปรอบๆ ตัวด้วยความคิดถึง ที่นี่เคยบรรจุความทรงจำของเธอเอาไว้มากมาย ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ทั้งเร่าร้อนและดุดัน เมื่อคิดมาถึงตรงนี้พลันแววตาที่เคยอ่อนโยนก็เปลี่ยนไป
บลูเวลรู้สึกตกใจไม่น้อยหลังจากรู้ว่าใครมาขอพบ เขาไม่ได้เจอเธอมานานหลายปี ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเปลี่ยนไปขนาดไหน ยิ่งคิดความทรงจำเก่าๆ ก็ยิ่งวนกลับเข้ามาในหัวราวกับสายน้ำไหล โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินเสียงหวานๆ ของเธอพร่ำกระซิบเรียกเขาว่า ‘บอสขา บอสของบัว’
“หนูบัวมาถึงแล้วครับบอส” จูดี้เลขาของชายหนุ่มแจ้งเข้ามาผ่านเครื่องอินเตอร์คอม ชายวัยสี่สิบที่ในอดีตเคยเอ็นดูผู้หญิงตรงหน้าอย่างไร ปัจจุบันก็ยังเอ็นดูอย่างนั้นจึงดีใจมากตอนที่เจอบัวบูชา
“ให้เข้ามาได้เลย” คนเป็นเจ้านายตอบกลับเป็นการอนุญาต ไม่นานประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก ตามมาด้วยเจ้าของร่างสูงโปร่งที่ดูสวยขึ้นกว่าหลายปีก่อนมาก มาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบทำให้รู้ว่าเธอเพิ่งมาจากสนามบิน
บลูเวลนิ่งไปชั่วครู่หลังจากได้สบตากับบัวบูชา แววตาคู่นี้ของเธอไม่เหมือนเดิมเขาสัมผัสได้ ชายหนุ่มผายมือให้หญิงสาวไปนั่งบนโซฟารับแขกก่อนที่ตัวเองจะเดินไปนั่งด้วย
บรรยากาศรอบตัวของทั้งคู่ดูอึดอัดไม่น้อย อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอกันมานานนับตั้งแต่จากกัน และถ้าจากกันด้วยดีมันคงไม่เป็นแบบนี้
“สวัสดีค่ะบอส ไม่ได้เจอตั้งนาน บอสสบายดีไหมคะ”
บัวบูชาเป็นคนเอ่ยขึ้นก่อนเพื่อทำลายบรรยากาศอึมครึม เธอยิ้มตาใส และทำเหมือนเราไม่เคยบาดหมางได้อย่างมืออาชีพ
“ผมสบายดี แล้วคุณล่ะ เป็นยังไงบ้าง”
บลูเวลถามกลับ ดวงตาจับจ้องใบหน้าอดีตคนคุ้นเคยไม่กะพริบ แอบนึกชื่นชมเธออยู่ในใจว่าดูสวยขึ้นมาก
“ก็ตามประสาค่ะ ดีบ้างไม่ดีบ้าง” เธอไม่ได้โกหก ชีวิตคนเราจะให้ดีตลอดได้อย่างไร สุขกับทุกข์ก็ต้องปะปนกันไปเป็นเรื่องปกติ
“แล้วคุณกลับมาเที่ยวเหรอ มาคนเดียวหรือว่ามากับแฟน”
เขาไม่ได้ตั้งใจถามแบบนั้นแต่ปากมันพาไปเอง ชายหนุ่มทำหน้านิ่งหลังจากรู้ตัวว่าถามอะไรออกไป ถ้าไม่ติดว่าบัวบูชามองอยู่ก็อยากเอามือขึ้นมาตบปากตัวเองแรงๆ คนตรงหน้าจะมีแฟนหรือไม่มีมันก็ไม่เกี่ยวกับเขา ในเมื่อความสัมพันธ์ครั้งเก่าของเรามันกลายเป็นอดีตไปแล้ว
“โธ่บอสขา บัวยังโสดค่ะ บัวจะย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยค่ะ ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ คือบัวอยากมาขอความช่วยเหลือจากบอสค่ะ ในฐานะคนคุ้นเคย”
นี่แหละแผนการแก้แค้นของเธอ กลับเข้ามาในชีวิตของบลูเวล จากนั้นก็ปั่นหัวให้หลงรัก แย่งมาเป็นของตัวเอง แล้วรอดูยัยคุณหมอแสนดีเต้นเป็นเจ้าเข้า
“คุณอยากให้ผมช่วยอะไร” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ก่อนจะมองเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว ทว่าคนวางแผนมาอย่างดีกลับไม่เผยพิรุธใดๆ ออกมานอกจากตีหน้าเศร้าขอความเห็นใจ ในอดีตเธอเป็นคนตรงๆ ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมใคร ไม่รู้จักคำว่าเล่นละครจึงถูกคนชั่วใส่ร้ายป้ายสี ทว่าตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว
“บอสก็รู้ว่าบัวไม่มีญาติพี่น้อง เพื่อนก็ไม่มี ที่นี่บัวรู้จักแค่
บอสเพียงคนเดียว เอ่อห้องนั้นยังว่างอยู่ไหมคะ บอสพอจะปล่อยให้บัวเช่าได้ไหม ในระหว่างที่บัวหางานทำ”
ห้องนั้นที่พูดถึง คือห้องที่เธอเคยอยู่มาก่อนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องของชายหนุ่ม ในเมื่ออยากแก้แค้นเธอก็ต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่ใกล้ตัวเขา
“...” บลูเวลนิ่งไปในขณะที่คิดเพื่อให้คำตอบ บัวบูชาเห็นแบบนั้นจึงไม่รอช้าที่จะตีหน้าเศร้าขอความเห็นใจอีกครั้ง
“บัวไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใครแล้วค่ะ บอสพอจะช่วยเหลือบัวได้ไหมคะ” เธอเชื่อว่าเขาต้องช่วย บลูเวลไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น ถึงจะหน้านิ่งไปหน่อย ปากร้ายไปบ้าง แต่ลึกๆ แล้วเขาเป็นคนมีน้ำใจ
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ผมให้คุณไปอยู่ก็ได้” เขาใจอ่อนยวบเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ บวกกับอยากชดเชยความผิดเรื่องในอดีตจึงตกปากรับคำ
“ขอบคุณมากค่ะบอส เอ่อเรื่องในอดีตบอสยังโกรธบัวอยู่ไหมคะ”
“เรื่องมันนานมาแล้วอย่าไปคิดมากเลย เอาเป็นว่าคุณอยู่ห้องนั้นตามสบายผมไม่คิดค่าเช่า หางานได้ค่อยว่ากัน”
“ขอบคุณมากเลยค่ะ บัวว่าแล้วบอสต้องไม่คิดเล็กคิดน้อย”
แต่ไม่ใช่เธอแน่นอน ถึงแม้ใบหน้าจะฉาบไปด้วยรอยยิ้มเหมือนไม่ได้คิดอะไร ทว่าในใจเต็มไปด้วยไฟแค้น
บัวบูชาเหนื่อยจากการเดินทางจึงของีบบนโซฟาเพื่อรอกลับด้วย ขณะที่บลูเวลเห็นความอ่อนล้าผ่านสีหน้าจึงอนุญาตให้เธอนอนพัก คนเดินทางข้ามทวีปหลายชั่วโมงพอเอนตัวเอาหัววางบนพนักโซฟาไม่นานก็หลับสนิท
ชายหนุ่มได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของหญิงสาวจึงหันมามอง มุมปากยกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะกลับไปทำหน้านิ่งเหมือนเดิม ที่เขาอนุญาตให้เธอมาอยู่ในห้องตรงข้ามเพราะรู้สึกผิดกับเรื่องในอดีต ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง
เมื่อถึงเวลาเลิกงานชายหนุ่มขับรถพาหญิงสาวมาที่คอนโดซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ราคาต่อห้องไม่ต้องพูดถึงไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน คอนโดนี้สร้างมาเพื่อรองรับคนรวยอย่างแท้จริง ส่วนคนจนอย่าคิดแม้แต่จะเอาเท้าเข้ามาเหยียบ
คอนโดหรูแห่งนี้หนึ่งชั้นจะมีเพียงสองห้องเท่านั้น ด้วยความที่ไม่ชอบคนพลุกพล่านชายหนุ่มจึงซื้อเอาไว้ทั้งสองห้อง ในช่วงที่หญิงสาวยังทำหน้าที่เป็นคนในความลับเขาเคยอนุญาตให้อยู่ห้องนี้
บัวบูชายืนมองทุกอย่างจากบริเวณประตู รู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับบ้านที่จากไปนานแสนนาน เธอแอบดีใจตอนเห็นอดีตเจ้านายกดรหัสเพื่อปลดล็อก เพราะมันยังเป็นตัวเลขเดิมซึ่งเป็นวันเกิดของเธอเอง
“ห้องยังเหมือนเดิมเลยนะคะ ไม่เปลี่ยนสักนิด” พูดไปก็อยากร้องไห้แต่เธอต้องกล้ำกลืนฝืนไว้ ตอนนี้ต้องโฟกัสแค่เรื่องแก้แค้น ห้ามอ่อนไหว ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด
“ผมให้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดแล้ว คุณขาดเหลืออะไรบอกได้เลย”
เขาเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าทุกอย่างในห้องยังเหมือนเดิม เหมือนรอคอยเจ้าของกลับมา
“ขอบคุณมากค่ะ บอสขาพอจะแนะนำเรื่องงานให้บัวได้ไหม”
คนสวยยกมือขึ้นมาไหว้อย่างอ่อนช้อย หลังจากสมองบอกให้เริ่มแผนการขั้นต่อไป
“คุณมองหางานตำแหน่งไหนล่ะ”
“อยู่โน่นบัวทำงานเป็นเลขา ถ้าจะหาก็ต้องประมาณนี้ เลขา ผู้ช่วยเลขา บัวทำได้หมด เงินเดือนไม่เกี่ยงเท่าไรก็ได้”
“เอาไว้ผมจะดูให้ คุณพักผ่อนเถอะ”
“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
“ถ้ามีอะไร ไปเคาะห้องผมได้ตลอด”
“ค่ะ”
รอยยิ้มของคนสวยเลือนหายไปอย่างรวดเร็วหลังจากประตูปิดลง เธอเดินสำรวจข้าวของทุกอย่างด้วยความอยากรู้ มันยังอยู่เหมือนเดิมไหมหรือมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง น่าแปลกที่ของทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
อดีตเธอเคยอยู่ห้องนี้อย่างมีความสุข แล้วทุกอย่างก็พังลงเพราะผู้หญิงที่ใครๆ มองว่าเป็นคนแสนดี
การถูกคนอื่นเข้าใจผิดทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด มันเจ็บมาก เจ็บจนต้องกลับมาแก้แค้น ผู้หญิงคนนั้นต้องได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานบ้าง ยัยคุณหมอผีแสนชั่ว
“เธอทำฉันก่อนโทษใครไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะขบขันราวกับค้นพบเรื่องตลกแห่งศตวรรษดูสวนทางกับแววตา
บัวบูชาทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดใหญ่ ก่อนล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งข้อความไปบอกเพื่อนว่าถึงเมืองไทยแล้ว
อยู่ๆ ความคิดหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในหัวจึงเด้งตัวลุกขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็ถ่ายรูปห้องนอนแล้วโพสต์ลงในอินสตาแกรมที่มีผู้ติดตามอยู่ไม่น้อย พร้อมกับแค็ปชันสั้นๆ ต่อท้ายด้วยอีโมจิรูปเปลวไฟ
‘ใครร้ายกว่าคนนั้นชนะ เริ่ม!’