Chapter 2

1631 Words
หลังจากเที่ยวกันจนเหนื่อยซีเนียร์ก็พาหญิงสาวกลับมาส่งที่บ้าน เขาถือถุงขนมและของอย่างอื่นลงมาให้พิ้งค์กี้ก่อนจะส่งไปให้เธอแล้วเดินไปทักทายคุณแม่ที่อยู่ห้องรับแขก "สวัสดีครับคุณแม่" "สวัสดีจ้ะซีเนียร์ พายัยพิ้งค์มาส่งเหรอ" "ครับ ไปดูหนังแล้วก็ช็อปปิ้งนิดหน่อย ท่าทางดูง่วงเห็นว่าทำงานดึกผมก็เลยไม่พาไปเที่ยวต่อ" เขานั่งลงข้างท่านชวนคุยตามประสาคนสนิทที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ท่านเอ็นดูชายหนุ่มเหมือนลูกชายคนหนึ่งเพราะในชีวิตก็มีลูกสาวเพียงคนเดียว ดื้อไม่ยอมใครก็เห็นจะมีแต่ซีเนียร์เนี่ยแหละที่พอจะต่อกรกันได้ "รายนั้นชอบทำงานดึกดื่นแม่เตือนก็ไม่ฟัง" "เดือนหน้าไปผมให้บริษัทของพิ้งค์รับงานห้างของผมตลอดทั้งปี คงจะได้พักผ่อนมากขึ้นแล้ว" คุณแม่ยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน คงอยากเจอกันทุกวันล่ะสิถึงได้ทำแบบนี้ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าซีเนียร์คิดยังไงกับลูกสาวของเธอ เขาแค่ไม่พูดออกมาแต่การกระทำชัดเจนยิ่งกว่าอะไรอีก ส่วนแม่ตัวดีนั่นก็ไม่รู้ใจตัวเองหรอก บอกว่าคือเพื่อนไม่มีทางจะเป็นอื่นได้ซึ่งเธอไม่อยากก้าวก่ายเรื่องของเด็ก ก็รอแค่ให้รู้ใจตัวเองเร็วๆหรือไม่อย่างนั้นก็เป็นแค่เพื่อนกันไปจนแก่เฒ่านั่นแหละ "แม่ฝากลูกสาวด้วยนะ รายนั้นดื้อไม่ฟังใคร" "ผมเอาอยู่ครับคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ งั้นผมกลับก่อนดีกว่า" "ไม่ทานข้าวด้วยกันก่อนเหรอ" ท่านเอ่ยชวนชายหนุ่ม ใกล้จะเย็นแล้วน่าจะทานข้าวคุยกันก่อนแล้วค่อยกับ เขาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา "ไม่เป็นอะไรครับคุณแม่ เราสองคนเพิ่งทานกันมาเอง งั้นผมขอตัวกลับก่อนเอาไว้วันหลังจะมาฝากท้องที่นี่นะครับ" "จ้ะ เดินทางปลอดภัยนะ" เขายกมือไหว้ผู้ใหญ่ก่อนจะเดินออกไปทันที จากนั้นก็มองหาหญิงสาวที่บอกว่าจะเอาของไปเก็บแต่ว่ายังไม่มาสักที "ไปไหนแล้วเนี่ย" "ซีเนียร์... สวยมั้ย" พิ้งค์กี้สะพายกระเป๋าที่เขาซื้อให้ลงมาอวด เขาเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนจะยกนิ้วโป้งให้ "สวยมากเลยจ้ะ จะกลับแล้วนะ" "อ่าว ไม่อยู่ด้วยกันก่อนอ่ะ" เธอทำหน้าสลดลงเมื่อเขาจะหนีกลับบ้านไม่อยู่กับเธอต่อ เพิ่งจะเจอกันไม่กี่ชั่วโมงเองทำไมถึงรับกลับจัง หรือว่าเขามีธุระต่อ เอ๊ะ... หรือว่าจะนัดกับผู้หญิงที่ไหน "ไม่อยากกวนแกไง ควรขึ้นไปนอนพักได้ล่ะง่วงก็ต้องพักผ่อนอย่าฝืนตัวเองสิ" "งั้นมานอนเป็นเพื่อนหน่อยสิ นะอย่ารีบกลับเลย" พิ้งค์กี้เดินมาจับมือเขาไว้ก่อนจะพากลับขึ้นห้องไปด้วย เขาไม่ได้ปฏิเสธอะไรถ้าเธอต้องการแบบนั้นเขาก็ยินดีจะอยู่ต่อ "ก็ได้ๆ แต่ต้องนอนนะ" "อื้ม นอนจ้ะ" เธอยิ้มออกมาอย่างพอใจที่ชายหนุ่มยอมตามใจเธอแถมยังอยู่ต่ออีก เขาเดินเข้าไปในห้องนอนกับเธอก่อนจะล้มลงนอนบนเตียงนอนแล้วมองคนตัวเล็กนอนกอดหมอนมองสบตากับเขา "นอนสิ" "ขอบคุณนะที่มาหา" "ถ้าแกอยากให้มาเจอเมื่อไหร่ก็โทรมาเลย ฉันมาได้เสมอถ้าแกต้องการ" เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังมาก รองจากครอบครัวก็มีพิ้งค์กี้นี่แหละที่สำคัญกับเขามากที่สุด ถ้าเธอเดือดร้อนหรือเป็นอะไรเขาพร้อมจะวางทุกอย่างแล้วมาหาเธอทันที "ว่างงานเหรอไง ใช่สิเป็นท่านประธานห้างดังนี่มันสบายจริงๆ" "แล้วท่านประธาน PPR GROUP ทำไมถึงลำบากทำงานตัวเป็นเกลียวแบบนี้" เขาเอ่ยออกมาเสียงอ่อนโยน พิ้งค์กี้ยิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือไปกุมมือเขาไว้แล้วหลับตาลงทันที "นอนดีกว่า" "หึ ตลอดแหละ" เขาส่ายหน้าอย่างปลงๆก่อนจะมองดูหญิงสาวหลับไปอยู่ตรงหน้า พูดเรื่องงานทีไรเธอก็จะทำหูทวนลมตลอด ไม่รู้จะทำอะไรนักหนาให้ลูกน้องทำบ้างก็ได้ไม่งั้นจะจ้างมาทำไมกัน "ฝันดีนะยัยแสบ" หลายวันต่อมา... ซีเนียร์มาประชุมที่บริษัทในเช้าวันต่อมา หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอพิ้งค์กี้อีกเลยเพราะเธอไปต่างจังหวัด ได้แค่โทรศัพท์ไปหาบ้างก็เท่านั้นแต่เห็นว่าวันนี้กลับมาแล้วนะ ยังไงจะโทรไปถามอีกที "เริ่มประชุมเลย" เขาวางโทรศัพท์ลงก่อนจะหันไปสนใจการประชุมตรงหน้า วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่ประชุมสรุปประจำเดือนที่ผ่านมา ทั้งรายรับรายจ่ายและกิจกรรมที่ทำทั้งหมดในเดือนนี้ "เดือนนั้นยอดขายในส่วนของห้างเพิ่มขึ้นห้าเปอร์เซ็นต์ค่ะ เดือนหน้าจะมีแบรนด์มาลงใหม่ทำเรื่องสัญญาเช่าไปแล้วค่ะห้าปี จ่ายมัดจำมาแล้วค่ะท่านประธาน" "ยังไงส่งรายชื่อแบรนด์ทั้งหมดให้ผมด้วยนะ" "ได้ค่ะ แล้วอันนี้เป็นรายละเอียดการจัดอีเว้นท์ของห้างที่ท่านประธานอยากได้ ดิฉันสรุปให้ไปจนถึงสิ้นปีแล้ว แต่ว่าถ้ามีเพิ่มเติมทีหลังจะแจ้งอีกทีค่ะ" เขารับมาเปิดดูก่อนจะส่งไปให้ผู้ช่วยที่นั่งอยู่ข้างๆ "ส่งไปให้บริษัท PPR GROUP แล้วคุยเรื่องรายละเอียดสัญญาจ้างได้เลย" "ปกติห้างเราจัดอีเว้นท์ใช้คนของเรานี่ครับ ทำไมครั้งนี้...." ผู้ช่วยของเขาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ ปกติท่านประธานจะให้พนักงานของตัวเองจัดการ ทำไมครั้งนี้ถึงจ้างบริษัทออแกไนเซอร์ข้างนอกมาจัดการให้ "ทำตามที่สั่งเถอะนะ ส่วนราคาเอาตามที่ทางนั้นเสนอมาไม่ต้องขอลดนะ" "ได้ครับท่านประธาน" เขายิ้มออกมาก่อนจะหันไปหาพนักงานคนอื่นให้ประชุมต่อได้เลย ใช้เวลานั่งอยู่ในนั้นเกือบสองชั่วโมง จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองต่อ เขาหยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาพิ้งค์กี้แต่ว่าเธอไม่รับสายเลย "เงียบหายไปเลยนะยัยแสบ" เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินเข้ามาในตัวห้างเพื่อหาอะไรทานในระหว่างที่รอพิ้งค์กี้โทรกลับ "ซีเนียร์บังเอิญจัง" "ดิสนี่ย์มาเดินเล่นเหรอ ไม่เจอกันนานเลยนะ" "เราทำงานนะไม่ค่อยว่าง มาคนเดียวเหรอทานข้าวด้วยกันมั้ย" "ได้สิ เหงาอยู่พอดี" เขายิ้มออกมาก่อนจะพาเพื่อนสมัยมัธยมปลายไปทานข้าวด้วยกัน ดีสนีย์ขอถ่ายรูปคู่กับเขาแล้วไปอัพโหลดลงโซเชียลพร้อมกับแท็กเขาด้วย 'ไม่เจอกันนานเลย สุดหล่อของรุ่น' จากนั้นก็มีคนมาคอมเม้นท์แซวกันมากมายเพราะต่างฝ่ายก็โสดอยู่แล้ว พิ้งค์กี้ที่เพิ่งลงจากเครื่องก็หยิบโทรศัพท์มากดจะโทรไปหาชายหนุ่ม ก่อนจะชะงักไปเมื่อบังเอิญไปเปิดโซเชียลเห็นซีเนียร์ถ่ายภาพกับดีสนีย์คู่อริเธอสมัยเรียนมัธยมปลายก็รีบกดโทรศัพท์ไปหาเขาทันที (ว่าไงพิ้งค์กี้ โทรหาตั้งนานเพิ่งจะรับ) "แกไปอยู่กับนังดีสนีย์ได้ยังไง รู้ใช่มั้ยว่าฉันไม่ถูกกับมัน" เธอเอ่ยออกมาอย่างโมโหสุดขีด ซีเนียร์หันไปมองหน้าดีสนีย์ก่อนจะขอตัวออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอกก่อนจะเอ่ยเสียงเบา (ใจเย็นๆ มันนานมาแล้วนะแกก็หัดให้อภัยบ้าง) "ไม่มีทางฉันเกลียดมัน แกต้องออกมาเดี๋ยวนี้ห้ามกินข้าวกับมัน" (พิ้งค์กี้แกไม่มีเหตุผลแล้วนะ) "ฉันเพิ่งถึงสนามบินกำลังจะกลับ แกต้องมารับฉันตอนนี้แต่ถ้าจะไม่มาแล้วเลือกที่จะกินข้าวกันมัน งั้นเราสองคนก็เลิกคบกันไปเลย" พูดจบพิ้งค์กี้ก็กดวางสายทันทีก่อนจะทุบกำแพงอย่างหงุดหงิด เธอไม่ชอบให้ซีเนียร์ไปอยู่กับนังดีสนีย์หรือไม่ว่าจะกลับใครก็ห้ามไป เขาจะต้องเลือกเธอสิเพราะเธอคือเพื่อนสนิทที่สุดของเขานะ "ถ้าไม่มารับนะน่าดูเลยไอ้บ้าซีเนียร์" ทางด้านของชายหนุ่มเขามองโทรศัพท์ด้วยความงุนงง ตามอารมณ์แม่คุณไม่ทันแล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยทำไมถึงเกรี้ยวกราดขนาดนี้ แถมยังขู่เลิกคบกับเขาอีก "เอาใจยากชะมัดผู้หญิงอะไร เฮ้อ!" เขาเดินเข้าไปหาดีสนีย์ก่อนจะขอโทษขอโพยเธอที่ไม่สามารถนั่งทานข้าวด้วยได้แล้ว เพราะต้องไปรับพิ้งค์กี้ที่สนามบิน ไม่อย่างนั้นได้งอนเขาเป็นเดือนแน่ "ขอโทษนะดีสนีย์เราต้องไปรับพิ้งค์กี้ที่สนามบินตอนนี้ เอาไว้เจอกันนะ" "งั้นเหรอ ไม่เป็นไรงั้นไว้เจอกันนะ" เธอยิ้มออกมาก่อนจะมองดูชายหนุ่มเดินออกไปจากตรงนั้น 'ยังหวงก้างเหมือนเดิมสินะนังพิ้งค์กี้ ยิ่งแกหวงฉันยิ่งอยากแย่ง... หึ' "คุณพิ้งค์กี้คะรถมาแล้วค่ะ" "กลับไปก่อนเลยเดี๋ยวกลับเอง" "เอางั้นเหรอคะ" ลูกน้องของเธอเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ พิ้งค์กี้พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอามือกอดอกมองไปยังประตูทางออกของสนามบิน "ถ้าไม่มานะจะเลิกคบจริงด้วย"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD