วันนี้เป็นวันเสาร์ ฉันรีบตื่นแต่เช้า แล้วก็ปลุกนับดาวเพื่อนสนิทให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกัน อยากจะได้ครอบครองของดี เราก็ต้องหาวิธีให้มันหลากหลาย และหนึ่งในนั้นก็คือการบนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
“น้ำ แกจะรีบตื่นไปไหนแต่เช้า นอนต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือไง” เสียงของนับดาวบ่นขึ้นทันทีเมื่อถูกรบกวนด้วยการเขย่าตัวให้ตื่น
“ไปศาลเจ้าแม่กัน”
“ศาลเจ้าแม่ แกจะไปทำไม”
พอได้ยินพูดถึงศาลเจ้าแม่ เพื่อนสาวที่ยังลืมตาไม่สุดก็เบิกตากว้างทันที จะว่าพวกเราเป็นพวกงมงายก็ได้ แต่เชื่อไหม ไม่ว่าจะบนอะไรไว้กับเจ้าแม่ พวกเราก็จะสมหวังทุกครั้ง
“ไปบนเจ้าแม่ ขอให้ได้ผัวรวย”
“ฮะ! นี่แกยังคิดจะจับรุ่นพี่ที่คณะอยู่อีกเหรอ”
“แน่นอนอยู่แล้ว เป้าหมายมีไว้พุ่งชน”
ฉันเล่าเรื่องแผนการที่จะทำให้ตัวเองรวยทางลัดด้วยการหาสามีรวย ๆ ให้เพื่อนฟัง แน่นอนว่าผู้หญิงแกร่งอย่างนับดาวไม่มีทางเห็นด้วย
รายนี้นะเหรอ นู่น แบกศักดิ์ศรีไว้เต็มบ่า ยอมทำงานหนักจนตายดีกว่าพึ่งพาผู้ชายหาเลี้ยง ซึ่งมันก็ดีนะ แต่พอดีมันไม่ใช่สไตล์ของฉัน
อาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จฉันกับนับดาวก็ออกมาจากห้อง แล้วลงมารอรถแท็กซี่อยู่หน้าคอนโด พวกเราเช่าคอนโดเล็ก ๆ ไว้อยู่อาศัย ค่าเช่าก็หารกันคนละครึ่งทุกเดือน ส่วนรายได้ก็มาจากการทำงานพาร์ทไทม์ในคลับสุดหรูชื่อดัง แต่ตอนนี้เพิ่งเปิดเทอมใหม่ เลยขอผู้จัดการหยุดเอาไว้ก่อน
รถแท็กซี่วิ่งเข้ามาในซอยที่ศาลเจ้าแม่ตั้งอยู่ รถจอดด้านหน้า พวกเรารีบจ่ายเงินแล้วก็ลงจากรถ
ฉ้นกับนับดาวเดินเข้ามาในบริเวณศาลเจ้าแม่ ถอดรองเท้าไว้หน้าประตู แล้วก็ค่อย ๆ คลานเข่าจนมาหยุดอยู่ที่กระถางธูปหน้ารูปปั้นของเจ้าแม่
ไม่รอช้า ฉันรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าสะพาย เปิดรูปเป้าหมายแล้วหันไปให้เจ้าแม่ดูทันที
“เจ้าแม่ขา ช่วยลูกด้วยนะเจ้าคะ ขอให้ลูกได้อยู่สายรหัสเดียวกันกับสองคนนี้ด้วยนะเจ้าคะ สาธุ” กล่าวคำขอเสร็จก็ยกมือท่วมหัว
“ถ้าได้อยู่สายรหัสเดียวกัน ลูกจะวิ่งรอบคณะห้ารอบ แล้วก็จะเอาผลไม้มาถวายนะเจ้าคะ สาธุ” พูดเสร็จก็ยกมือท่วมหัวอีกครั้ง
หันไปทางเพื่อนซี้ที่ตอนแรกไม่ค่อยอยากจะมาสักเท่าไหร่ แต่เวลานี้ก็เอาแต่นั่งหลับตาพนมมือทำปากขมุบขมิบไม่หยุด ได้ยินแว่ว ๆ แค่ว่า อย่าได้เจอกันอีกเลย
อย่าได้เจอกับใครก็ไม่รู้ หรือว่า นับดาวจะบนเจ้าแม่ขอให้ไม่ได้เจอกับฉัน บ้าน่า จะเป็นไปได้ยังไง
วันจันทร์
หลังจากเรียนคลาสสุดท้าย ฉันก็รีบวิ่งลงมาที่โถงใต้ตึกคณะ ที่จริงก็ไม่ได้อยากจะรีบ แต่รุ่นพี่มาดเซอร์ดันตะโกนใส่โทรโข่งขู่รุ่นน้องไม่หยุด กว่าจะมาถึงก็เล่นเอาเหนื่อยหอบ
วันนี้ฉันแต่งตัวเรียบร้อยตามที่พี่เหนือน้ำบอก แน่นอนล่ะ เพื่อผู้ชาย อะไรที่พอทำได้ก็ต้องทำ
“เอ้า! ให้มันเร็ว ๆ มัวชักช้ายืดยาดกันอยู่ได้ หรืออยากจะโดนลงโทษทั้งปีหนึ่ง”
หึ บ้าอำนาจชะมัด นี่ถ้าไม่ติดว่าสองหนุ่มสุดหล่อพ่อรวยอยู่ในกลุ่มพี่ว้ากด้วย จ้างซะฉันก็ไม่มีทางมาเข้ากิจกรรมไร้สาระแบบนี้หรอก
ไม่ถึงห้านาที เด็กปีหนึ่งทั้งหมดก็ยืนเข้าแถวเป็นอย่างเป็นระเบียบอยู่ที่ใต้ตึกคณะ
“แต่ละแถวจะมีโหลใส่กระดาษให้ส่งต่อไปให้เพื่อน ๆ เรื่อย ๆ แต่ละคนจะต้องหยิบกระดาษในโหลขึ้นมาหนึ่งใบ ซึ่งกระดาษที่หยิบมาจะมีเลขของสายรหัส เมื่อรู้แล้วก็ให้ไปหาพี่ ๆ ของตัวเองได้เลย เข้าใจไหม!”
“เข้าใจครับ/ค่ะ” พอรุ่นพี่คนนั้นพูดจบ เด็กปีหนึ่งทั้งหมดก็ขานรับกันอย่างพร้อมเพรียง
โหลใส่กระดาษถูกส่งต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงฉัน มือเล็กรีบล้วงเข้าไปข้างในแล้วหยิบกระดาษออกมาหนึ่งแผ่นทันที แต่พอคลี่ออกดู กลับไม่มีเลขอะไรเขียนไว้เลย
“พี่คะ ทำไมของหนูไม่มีเลขอะไรเลยล่ะคะ”
รีบยกมือขึ้นถามทันที เผื่อทางรุ่นพี่จะผิดพลาดใส่กระดาษเปล่าลงมา
“ไม่มีเลข ก็ไปหารุ่นพี่ที่ไม่มีเลขครับ” รุ่นพี่มาดเซอร์คนเดิมตะโกนตอบมาจากหน้าแถว แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะว่ารุ่นพี่คนไหนที่ไม่มีเบอร์
เดินวนจนทั่วโถงใต้ตึกคณะ แต่ก็ยังไม่เจอรุ่นพี่ที่ว่า มองไปรอบ ๆ เด็กปีหนึ่งทุกคนก็ได้เจอสายรหัสตัวเองหมดแล้ว นี่ไม่ใช่เหลือแค่ฉันแล้วหรือไง
จากการกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่มีเด็กปีหนึ่งอยู่ในกลุ่ม หรือว่า...
ฉันรีบก้าวขาฉับ ๆ ตรงไปยังผู้ชายกลุ่มนั้นทันที ในใจก็นึกภาวนาให้เจ้าแม่ดลบันดาลให้สิ่งที่ฉันขอเป็นจริง เพราะรุ่นพี่กลุ่มนั้นคือ พี่น่านฟ้า พี่เหนือน้ำ และพี่ม่านหมอก
“ขอโทษนะคะ พวกพี่ใช่กลุ่มที่ไม่มีตัวเลขหรือเปล่าคะ”
ใบหน้านิ่ง ๆ ของพี่น่านฟ้าหันมองมาทางฉัน ผมสีดำสนิท นัยน์ตาสีเทา จมูกเป็นสันโด่ง รับกับริมฝีปากหยักได้รูป โอ้ พระเจ้า ฉันอยากจะเป็นลมไปให้รู้แล้วรู้รอด คนบ้าอะไรทำไมหล่อวัวตายควายล้มขนาดนี้
“คิดว่าจะไม่นึกถึงพวกพี่ซะแล้ว อุตส่าห์นั่งรอตั้งนาน”
คราวนี้เป็นเสียงพี่เหนือน้ำ เรื่องความหล่อไม่ต้องพูดถึง ไม่น้อยไปกว่าพี่น่านฟ้าแม้แต่นิดเดียว นัยน์ตาสีเทา ผมสีน้ำตาลยาวปะไหล่ รวบมัดไหว้ยิ่งมองยิ่งใจเต้น ฉันล่ะไม่รู้จะเลือกใครดี
“นี่คงไม่ได้คิดอะไรเพ้อเจ้ออยู่หรอกนะ”
และนั่นก็เป็นเสียงผู้ชายคนที่สาม ที่มีความหล่อไม่แพ้สองคนแรก แต่นั่นแหละ เขาไม่ใช่เป้าหมายของฉัน พี่ม่านหมอก
“ถ้างั้นก็หมายความว่า พวกพี่เป็นสายรหัสของน้ำเหรอคะ” สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วบีบเสียงสองเสียงสามเต็มที่
“ใช่ครับ พี่ชื่อเหนือน้ำครับ หน้าบึ้ง ๆ นั่น ชื่อน่านฟ้า ส่วนไอ้ผู้ชายท่าทางน่ากลัวคนนี้ชื่อ ม่านหมอกครับ”
ที่จริงก็อยากจะบอกเขาดัง ๆ ว่า ไม่ต้องแนะนำตัวก็ได้ค่ะ หนูสืบมาหมดแล้ว แต่ก็กลัวเป้าหมายจะแตกตื่นเสียก่อน
“ยินดีที่ได้รู้จักพี่ ๆ นะคะ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หนูชื่อน้ำหอมนะคะ”
ทั้งสามคนพยักหน้าให้ฉัน แต่มีเพียงพี่เหนือน้ำคนเดียวที่ส่งยิ้มกว้างมาให้ ส่วนอีกสองคนที่เหลือ ยังนั่งทำหน้านิ่ง ๆ อยู่เหมือนเดิม
/////
“ไอ้น้ำ แกจะต้องวิ่งอีกกี่รอบวะเนี่ย” เสียงของนับดาวตะโกนถาม หลังจากเพื่อนสาวเลิกคลาสแล้วเดินมาหาฉันที่คณะ
“อีกสองรอบก็เสร็จแล้ว บนเจ้าแม่ไว้ห้ารอบ” ฉันตะโกนตอบกลับไป จะว่าไป ไอ้คณะวิศวฯ เนี่ย จะใหญ่ไปไหน วิ่งกว่าจะครบแต่ละรอบเล่นเอาขาแทบหมดแรง
นับดาวเดินไปนั่งรอที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่อยู่ไม่ไกล ในขณะที่ฉันก็พยายามลากสังขารวิ่งต่อไปให้ครบห้ารอบ
//////
นัยน์ตาสีเทาสองคู่กำลังจ้องมองมาทางหญิงสาวที่วิ่งวนรอบคณะแล้วหลายรอบ แต่ดูเหมือนจะไม่ยอมหยุดง่าย ๆ จนได้ยินเธอตะโกนตอบเพื่อนที่นั่งรออยู่ ถึงได้รู้ว่าสาวสวยปีหนึ่งกำลังวิ่งแก้บน
“โคตรน่าสนใจ น่านว่าไง” เหนือน้ำหันไปถามคู่แฝดตัวเองที่นั่งทำหน้านิ่ง ๆ อยู่บนโต๊ะม้าหินอ่อน
“ก็งั้น ๆ” เสียงทุ้มเข้มตอบกลับ “ไม่เห็นจะพิเศษกว่าคนอื่นตรงไหน”
เหนือน้ำปรายตามองคู่แฝดของตัวเอง แล้วก็ยักไหล่พร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์
“งั้น ๆ จริงดิ” เจ้าของผมสีน้ำตาลถามต่อ “ถ้าน่านคิดว่างั้น ๆ แล้วทำไมถึงยอมเล่นตามแผนของเหนืออะ”
อีกคนนิ่งเงียบไม่มีคำตอบ เมื่อคนที่รู้ใจที่สุดจับทางได้ทัน เพราะพวกเขาทั้งสองคนมีสเปคผู้หญิงเหมือนกัน ถ้าเหนือน้ำชอบ นั่นก็แสดงว่า น่านฟ้าก็ต้องชอบแน่นอน
//////
คืนวันอาทิตย์ ก่อนวันจับสายรหัส
“เด็กปีหนึ่งคนนั้นน่าสนใจมากเลยนะ น่านว่าปะ” เหนือน้ำถามขึ้นขณะที่ทั้งสองคนนั่งดูหนังอยู่ในห้องนั่งเล่น
“คนไหน”
“ก็คนที่ยืนเถียงกับไอ้โบ๊ทนั่นไง ที่ผมสั้นดัดลอนสวย ๆ หุ่นดี ๆ อะ เหนืออยากได้มาอยู่ในสายรหัสเรา” แค่อ้าปากพูด คู่แฝดก็รู้ทันทีว่ากำลังหมายถึงอะไร
“เอาดิ เดี๋ยวฉันโทรบอกไอ้โบ๊ทให้” การที่น่านฟ้าตอบรับอย่างง่ายดาย ทำให้เหนือน้ำรู้ทันทีว่า อีกคนก็สนใจเด็กคนนั้นเหมือนกัน ก็อย่างว่าแหละ พวกเขามันคู่แฝดกันนี่นา ชอบอะไรก็ชอบเหมือนกันตลอด
น่านฟ้า : ไอ้โบ๊ท จับสายรหัสพรุ่งนี้ จัดการให้เด็กที่ยืนเถียงกับมึงเมื่อวันก่อนให้มาอยู่สายรหัสกูกับเหนือ
โบ๊ท : นี่พวกมึงสองคนกะจะล็อคตัวเด็กเลย หรือไงวะ ยัยปากเสียนั่นมีอะไรดี
น่านฟ้า : เรื่องของพวกกู แค่จัดการตามที่บอกก็พอ ตามนี้นะ
“พอใจยัง” หลังจากวางสาย น่านฟ้าก็หันมาถามเหนือน้ำที่นั่งมองอยู่
“พอใจแล้ว เหนือรักน่านที่สุดเลย”
“หยุด!” เสียงเข้มตวาดคู่แฝดตัวเองดังลั่นห้อง พร้อมกับยกฝ่าเท้าขึ้นรอ เมื่ออีกฝ่ายกำลังจะโผเข้ามากอด
“เหนือรู้แหละว่าน่านก็ชอบ ถึงได้ยอมทำตาม” เจ้าของผมสีน้ำตาลพูดพลางยักคิ้วให้อีกฝ่าย แล้วก็หันไปจดจ่อกับหน้าจอทีวีเหมือนเดิม
//////////////////////////////////////////////
งานนี้ไม่รู้ว่า ระหว่างเจ้าแม่ กับ เจ้าแฝด อะไรศักสิทธิ์กว่ากัน
รี้ดขา กดไลค์ กดคอมเม้นเพื่อเพิ่มการมองเห็นให้นิยายเรื่องนี้หน่อยน้าา
ขอบคุณค่า