ในที่สุดก็ถึงวันที่คณะวิศวฯ จะได้ไปรับน้องนอกสถานที่ 3 คืน 4 วันที่เกาะสมุย ฉันจะต้องใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาความสัมพันธ์กับพี่น่านฟ้าและพี่เหนือน้ำ อย่างน้อยจะต้องทำให้หนึ่งในสองคนนี้ชอบฉันให้ได้
มาถึงคณะตรงเวลาเป๊ะ ปีหนึ่งคนอื่น ๆ ก็มาพร้อมหน้าพร้อมตาเตรียมพร้อมกันอยู่ด้านหน้าแล้วเช่นกัน ฉันไม่ค่อยสนิทกับใครในคลาสเท่าไหร่ ก็เลยยืนรอรถที่จะมารับอยู่คนเดียว ไม่นานรถบัสจำนวนสามคันก็มาถึง
“น้องน้ำไปกับพวกพี่ครับ” ขากำลังจะก้าวขึ้นรถ ก็ได้ยินเสียงใครบางคนพูดอยู่ข้างหลัง พอหันไปดูก็เป็นพี่เหนือน้ำ
“เอ่อ แต่รุ่นน้องต้องไปคันนี้ไม่ใช่เหรอคะ” ฉันตอบกลับพร้อมกับมองเข้าไปในรถบัสที่มีเด็กปีหนึ่งนั่งอยู่เกือบเต็ม
“รุ่นน้องคนอื่นน่ะใช่ครับ แต่รุ่นน้องของพี่ไม่ต้อง” พูดแค่นั้น พี่เหนือน้ำก็ดึงกระเป๋าจากมือของฉันไป แล้วเดินไปอีกทางทันที
พอมาถึง ก็เห็นพี่น่านฟ้านั่งรออยู่ในรถตำแหน่งข้างคนขับ ส่วนพี่เหนือน้ำก็เอากระเป๋าฉันไปไว้ท้ายรถ แล้วตัวเองก็ไปนั่งที่คนขับ
“ขึ้นมาเร็ว ๆ จะไปหรือเปล่า” คนที่นั่งรออยู่ก่อนเอ่ยถาม ฉันจึงรีบยัดตัวเองเข้าไปในรถด้วยความไว แต่ดูเหมือนจะขาดอะไรไปบางอย่าง
“พี่ม่านหมอกไม่ไปด้วยเหรอคะ น้ำไม่เห็นพี่เขาเลย” ใช่ สายรหัสของฉันมีพี่ม่านหมอกอีกคน แต่ฉันไม่ค่อยเห็นเขาเข้าร่วมกิจกรรมเท่าไหร่
“ไอ้หมอกไปกับคหกรรม” พี่น่านฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “พอดีคู่แฝดมันอยู่คณะนั้น”
อืม ตอนที่ค้นหาข้อมูลพวกเขา ก็พอจำได้ลาง ๆ ว่าพี่ม่านหมอกมีฝาแฝดเหมือนกัน แต่อยู่คนละคณะ
“น้ำก็มีเพื่อนอยู่คหกรรมนะคะชื่อนับดาว วันหลังน้ำจะแนะนำให้พี่ ๆ รู้จักนะคะ” เผื่อจะมีใครตกหลุมรักยัยเพื่อนสนิทของฉันบ้าง ฉันเองก็อยากจะให้เพื่อนได้ผัวหล่อรวยเหมือนกัน
“เอ่อ พี่ ๆ คะ ทำไมสายรหัสของพวกเราไม่มีรุ่นพี่ปีสองล่ะคะ” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สงสัยตั้งแต่วันจับสายรหัส แต่ฉันก็ดันลืมถามทุกที
“หมอกมันขี้รำคาญ ขี้เกียจเทคแคร์รุ่นน้อง ปีที่แล้วก็เลยไม่เอาเด็กเข้าสายรหัส” พี่น่านฟ้าตอบขึ้นมาอีกครั้ง
“แล้วทำไมปีนี้ถึงรับหนูเข้าสายรหัสล่ะคะ”
“น้องน้ำหอมพวกพี่สองคนเป็นคนเลือกครับ ไม่ใช่หมอก” คราวนี้พี่เหนือน้ำเป็นคนตอบ พร้อมกับฉีกยิ้มหล่อ ๆ มาให้ เดี๋ยวนะ พวกพี่เขาเลือกฉัน หรือว่าหนึ่งในสองคนนี้จะมีคนแอบชอบฉันอยู่
รถคันที่ฉันนั่งมีพี่เหนือน้ำเป็นคนขับ พวกเราสามคนขับนำหน้ารถบัสมาก่อน พี่เหนือน้ำขับรถค่อนข้างเร็ว เร็วกว่าพี่น่านฟ้าเยอะ ยิ่งออกจากกรุงเทพฯ แล้ว ความเร็วของรถก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
“เหนือ แกขับช้าลงหน่อย น้องกลัวแล้วเห็นหรือเปล่า” จู่ ๆ เขาก็บอกให้อีกคนชะลอความเร็วรถลง นี่สีหน้าฉันออกอาการขนาดนั้นเลยเหรอ แต่พี่เหนือน้ำก็ลดความเร็วลงโดยที่ไม่บ่นอะไรออกมา
รถสปอร์ตสีขาวแล่นมาตามทางเรื่อย ๆ กว่าจะถึงก็คงต้องใช้เวลาอีกนาน แต่ตอนนี้เหมือนตามันจะปิดให้ได้ เมื่อคืนตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวสมุยครั้งแรก ทำเอานอนไม่หลับทั้งคืน
/////
“โคตรน่ารัก น่านว่าปะ” เมื่อเห็นหญิงสาวที่เบาะหลังหลับสนิทไปแล้ว เหนือน้ำก็เอ่ยถามคู่แฝดที่นั่งทำหน้านิ่ง ๆ อยู่ข้างคนขับ
“อืม” น่านฟ้าก็ตอบออกมาเพียงสั้น ๆ เหมือนเดิม แต่สายตาคมดันจับจ้องอยู่ที่เรียวขาสวยที่พ้นออกมาจากกางเกงขาสั้นที่เธอสวมอยู่
“อดทนหน่อยนะน่าน รู้ว่าอยาก เอาไว้ถึงสมุยเมื่อไหร่เหนือจะให้น่านเปิดก่อนเลย” เหนือน้ำพูดขึ้น
“ยังไม่รู้เลยว่าน้องจะยอมหรือเปล่า” น่านฟ้าตอบกลับ ถึงทั้งคู่จะรู้ว่าเธอชอบพวกเขาแน่ ๆ แต่สิ่งที่ไม่รู้ก็คือ เธอจะยอมรับคนสองคนพร้อมกันได้หรือเปล่า
“ต้องยอมสิ เพราะเหนือมีวิธี” น่านฟ้าหันไปมองหน้าคู่แฝดทันทีที่ได้ยินคำว่ามีวิธี ซึ่งวิธีของเหนือน้ำแต่ละอย่างค่อนข้างโลดโผน แต่มันก็ได้ผลทุกครั้ง
สองคนคุยกันอยู่สักพัก เมื่อเห็นน้ำหอมเริ่มขยับตัวจึงเปลี่ยนเรื่องคุย
ขับรถอยู่หลายชั่วโมง แวะพักกลางทางก็หลายครั้ง น่านฟ้ากับเหนือน้ำผลัดกันขับรถ จนในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เพราะมารถส่วนตัวเลยสะดวกและถึงเร็วกว่าคนอื่น ๆ ในคณะ
ชายหนุ่มสองคนช่วยกันขนกระเป๋าของตัวเอง และของน้องรหัสคนสวยลงจากรถ แล้วพาเธอเดินเข้าไปในโรงแรมที่จองไว้
เมื่อเช็คอินรับคีย์การ์ดเรียบร้อยแล้วก็พากันขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดของโรงแรม
“น้องน้ำอยู่ห้องนี้นะครับ ส่วนพี่กับน่านจะอยู่ห้องถัดไป แต่ถ้ามีอะไรเคาะเรียกได้เลยนะครับ ห้องของพวกเรามีประตูเชื่อมกันอยู่”
น้ำหอมรับคีย์การ์ดมาอย่างงง ๆ ไม่ใช่ว่าปีหนึ่งจะต้องนอนรวมกันตามที่รุ่นพี่จัดไว้ให้หรือไง
“น้ำไม่ต้องนอนกับคนอื่นเหรอคะ” เธอถามออกมาด้วยความสงสัย
“ไม่ต้องครับ พี่บอกแล้วไง น้องรหัสของพวกพี่จะต้องสะดวกและสบายมากที่สุด” ได้ยินคำตอบ น้ำหอมก็พยักหน้ารับ เป็นแบบนี้ก็ดี นิสัยรวยแบบนี้เธอชอบ
“หนึ่งทุ่มมาหาพวกพี่ที่ห้อง จะได้ไปกินข้าวเย็นพร้อมกัน” น่านฟ้าเอ่ยบอก
“ตกลงค่ะ” เธอเองก็รับคำโดยไม่ถามอะไรอีก แล้วก็เดินเข้าห้องตัวเอง
/////
ฉันเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่ม ๆ นั่งรถมาตั้งหลายชั่วโมง ปวดเมื่อยไปทั้งตัว คิดไปคิดมาก็แปลก ทำไมพวกเขาทั้งสองคนถึงได้ทำตัวแตกต่างจากรุ่นพี่คนอื่น ๆ แต่คิดไปคิดมาก็ช่างเถอะ ดีซะอีก ได้นอนห้องกว้าง ๆ ที่มีสองหนุ่มหล่ออยู่ห้องข้าง ๆ โดยที่ไม่ต้องไปเบียดกับใคร
เวลานัดคือหนึ่งทุ่ม ตอนนี้ห้าโมงเย็น เหลือเวลาอีกสองชั่วโมง ไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า ทริปนี้ฉันจัดเสื้อผ้ามาอ่อยแบบเต็มที่เลยล่ะ มันต้องได้สักคนล่ะวะ
ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวเกือบชั่วโมงก็เสร็จ หันมองดูนาฬิกาก็เพิ่งจะหกโมงเย็น ถ้าฉันไปหาก่อนเวลาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ แต่คงไม่หรอก ไปก่อนเวลาดีกว่าไปสาย
ว่าแล้วก็เดินไปตรงประตูที่เชื่อมสองห้องไว้ด้วยกัน แล้วก็ออกแรงเคาะเบา ๆ
“พี่ ๆ คะ น้ำอาบน้ำเสร็จแล้ว เข้าไปได้หรือเปล่าคะ”
แกร็ก ไม่มีเสียงตอบกลับ แต่ประตูก็เปิดออก
“เข้ามาก่อนสิ เหนือยังอาบน้ำอยู่” เป็นพี่น่านฟ้าที่มาเปิดประตูให้ เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดสบาย ๆ กับกางเกงขาสั้น ผมสีดำที่ไม่ได้จัดทรงกลับทำให้เขาดูดีไปอีกแบบ ให้ตายเถอะ ยิ่งมองยิ่งใจละลาย
แต่ระหว่างที่ฉันกำลังยืนตะลึงกับความหล่อของผู้ชายตรงหน้าอยู่นั้น เสียงเปิดประตูก็ดังมาจากอีกทาง พร้อมกับร่างสูงที่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนท่อนล่างมีแค่ผ้าขนหนูพันเอวสอบเอาไว้
กล้ามเนื้อแน่นมาก
“มองนาน ๆ ระวังจะเป็นตากุ้งยิงนะ” เมื่อเห็นฉันมองคู่แฝดของเขาตาไม่กะพริบ พี่น่านฟ้าก็พูดแซวขึ้น แต่จะให้หยุดมองตอนนี้มันก็ทำไม่ได้ด้วยสิ ฉันรีบยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองทันที มันเห่อร้อนไปทั่วใบหน้าหมดแล้ว
รอพี่เหนือน้ำใส่เสื้อผ้าไม่นานทั้งสองคนก็พาฉันมาที่ร้านอาหารบนดาดฟ้าของโรงแรม ที่นี่บรรยากาศดีมาก วิวทะเลตอนกลางคืนที่มีดวงดาวระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้าก็สวยงาม
พวกเขาสั่งอาหารมาสามสี่อย่าง แล้วก็สั่งเครื่องดื่มของตัวเอง
“น้องน้ำอยากดื่มอะไรหรือเปล่าครับ” พี่เหนือน้ำถามขึ้น “หรือว่าจะดื่มไวน์กับพวกพี่”
ฉันมองไปยังขวดไวน์ที่พนักงานกำลังรินลงแก้วให้พวกเขา แล้วก็พยักหน้าเป็นคำตอบ “น้ำดื่มไวน์ได้ค่ะ”
จากนั้นพนักงานก็รินไวน์ให้ฉันเป็นลำดับต่อมา
“น้องน้ำมีแฟนหรือยังครับ” ระหว่างที่พวกเรากำลังดื่มไวน์เคล้าบรรยากาศ พี่เหนือน้ำก็ถามขึ้นอีกครั้ง
“ยังไม่มีหรอกค่ะ” ฉันตอบไปตามตรง “เคยชอบคน ๆ หนึ่ง แต่เขาปฏิเสธน้ำ” พูดไปแล้วก็นึกเจ็บใจที่อีตาพี่เจไดปฏิเสธฉันในวันนั้น
“สวย ๆ แบบนี้มีคนปฏิเสธด้วยเหรอ” พี่เหนือน้ำถามขึ้นพร้อมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“แต่ก่อนน้ำก็ไม่ได้สวยแบบนี้หรอกค่ะ เข้าขั้นขี้เหร่เลยก็ว่าได้”
ฉันตอบทุกอย่างไปตามความเป็นจริง ไม่เห็นมีอะไรจะต้องปิดบัง เมื่อก่อนฉันไม่สวย แต่ตอนนี้ฉันสวยมาก
“ชอบผู้ชายแบบไหน” คราวนี้เป็นพี่น่านฟ้าถามขึ้น แล้วก็เป็นฉันที่เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินคำถาม
“ชอบผู้ชายหล่อแล้วก็รวย แบบพวกพี่ ๆ ค่ะ อย่างน้อย ๆ ก็จะได้ซัพพอร์ตน้ำได้เวลามีปัญหา” ก็พูดกันตรง ๆ แบบนี้แหละ จะได้รู้ ๆ กันไปเลยว่าผู้ชายสองคนนี้คิดกับฉันยังไง
“ตรงดี” คนหน้านิ่งพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ อยู่ในลำคอ ยิ่งมองผู้ชายคนนี้ยิ่งมีเสน่ห์
“ค่ะ น้ำเป็นคนตรง ๆ ชอบก็บอกว่าชอบ อยากได้ก็บอกว่าอยากได้” พูดออกไปพร้อมส่งสายตายั่วยวนไปมองชายหนุ่มตรงหน้า
เอาจริง ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ไวน์หรือเปล่าที่ทำให้ฉันพูดออกไปแบบนี้ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วถ้ามัวช้าอยู่ก็อาจจะพลาดโอกาสดี ๆ ได้
“รับสองคนไหวหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวก็อย่ายั่วกันครับ”
ฉันไม่ได้หูฝาด และไม่ได้ตาฝาดด้วย จู่ ๆ น้ำเสียงของพี่น่านฟ้าก็เปลี่ยนไป พร้อมกับนัยน์ตาสีเทาที่ดูแวววับขึ้นมาเหมือนกำลังมีแผนการอะไรอยู่ พอหันไปมองทางพี่เหนือน้ำ รายนี้ก็มองฉันตาเป็นมันเช่นกัน
“น้องน้ำรู้หรือเปล่าครับ ว่าเกาะสมุยมันดียังไง” พี่เหนือน้ำถามขึ้น แล้วก็ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม
“ดียังไงคะ” ถามออกไปด้วยความอยากรู้ “หรือว่าพวกพี่มีอะไรพิเศษจะให้น้ำ”
คำถามของฉันเหมือนจะถูกใจคนทั้งคู่ รอยยิ้มกริ่มปรากฏบนใบหน้าหล่อ ๆ พร้อมกัน แล้วมันก็ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกเสื้ออยู่แล้ว
//////////////////////////////////////////
มันดียังไงน้าาา