บทที่๑๐

1882 Words
บทที่๑๐ ดวงสมรค้อนใส่โทรศัพท์มือถือที่เพิ่งวางลงบนเตียงนอนเพราะสวิชโทรมาบอกว่าไม่สามารถมาหาได้หลังปล่อยให้รอพักใหญ่ แต่ตอนนี้หากเขาจะมาหาหล่อนก็คงเป็นฝ่ายบอกไปว่าไม่ว่างเสียเอง เพราะหล่อนมีงานเร่งด่วนต้องทำ แต่ก็เพื่อเขาเช่นกัน วันแรกที่ได้เจอตัวจริงของสวิชหลังอ่านต้นฉบับแนวรักโรแมนติกที่ผ่านการพิจารณาจากทีมงานแล้ว หล่อนบอกกับตัวเองว่าคิดไว้ไม่ผิดเลย ผู้ชายที่แต่งเรื่องราวได้หวานซึ้งเช่นนี้จะต้องหน้าตาดี แต่สวิชเหนือกว่าคำว่าหน้าตาดีไปมาก เขาเข้าขั้นหล่อมากทีเดียว สอบถามถึงหน้าที่การงานก็เรียกได้ว่ามั่งคั่งร่ำรวย มีธุรกิจเป็นของตนเองมีมรดกตกทอดซึ่งไม่เกี่ยวกับงานเขียนหรือนักประพันธ์แม้แต่น้อย และนี่คือเหตุผลที่เขาขอเก็บตัว เป็นนักเขียนในเงามืด ไม่เปิดเผยรูปร่างหน้าตาและประวัติส่วนตัวให้คนภายนอกรับรู้ หล่อนจึงเป็นตัวแทนจากสำนักพิมพ์คนเดียวที่รู้จักตัวตนของเขา ในนวนิยายแต่ละเรื่องที่จะวางจำหน่าย ทำให้หล่อนพบเจอพูดคุยกับเขาหลายครั้ง ทั้งช่วยแนะนำและแก้ไขต้นฉบับจนเสร็จสมบูรณ์พร้อมตีพิมพ์ ทุกครั้งจะนัดพบกันนอกเวลางานของหล่อน เพราะต้องออกไปพบเขานอกสถานที่แล้วแต่สะดวก สุดท้ายห้องพักในคอนโดที่หล่อนซื้อไว้แต่ไม่ได้เข้าอยู่อาศัยจึงเป็นจุดนัดพบที่ดี และแน่นอนความใกล้ชิด ในที่รโหฐาน ความเปล่าเปลี่ยวของสาววัยเกยคานอย่างหล่อนทำให้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่หล่อนคิดว่าหากเขาไม่มีใจก็คงไม่มีความสัมพันธ์กัน และเมื่อจู่ๆ เขาบอกว่ากำลังจะแต่งงานหล่อนจึงตกใจเป็นธรรมดา เมื่ออัญมณีประสบความสำเร็จในนิยายรักโรแมนติกแล้ว หล่อนก็อยากให้เขามีผลงานที่แตกต่างไปจากเดิม อยากให้เขาเขียนแนวฆาตกรรมซึ่งคิดว่ากำลังครองตลาด ความไม่ถนัดของสวิชทำให้เขามาปรึกษางานกับหล่อนบ่อยขึ้น หล่อนให้คำแนะนำและถึงขั้นทำตัวอย่างให้เขาดู ใช่แล้วหล่อนใช้คำว่าทำตัวอย่างเพราะลงมือฆ่าเหยื่อเพื่อดูความสมจริงสมจังและถ่ายทอดความรู้สึก ถ่ายรูปและลักษณะศพส่งให้เขาแปลงเป็นตัวอักษร หล่อนมั่นใจว่านวนิยายเรื่อง ‘ต้องฆ่า’ ของอัญมณี จะไม่สามารถพิมพ์คำว่าจบบริบูรณ์ได้หากไม่มีหล่อนคอยช่วยเหลือ แต่เมื่อทางทีมงานอยากให้เพิ่มเติมเนื้อหาและความยาวของเรื่อง ศพใหม่ๆ ก็ต้องเกิดขึ้นเพื่อ หล่อนไม่รู้ว่าสวิชได้ไอเดียหรือยัง แต่หล่อนได้แล้ว ดวงสมรมองร่างแบบบางที่ทอดยาวอยู่บนพื้น มือ เท้า ถูกมัดเทปกาว ศีรษะถูกคลุมด้วยถุงดำเพราะหล่อนไม่อยากให้สวิชรู้ว่าเหยื่อเป็นใคร หล่อนเริ่มบันทึกวีดิโอพลางพูดเหมือนลำดับสิ่งที่จะทำ “ผู้หญิงคนนี้สวยมาก เพราะฉะนั้นต้องกรีดหน้าให้มีรอยแผลเหวอะหวะ โทษฐานสวยเกินหน้าเกินตา ผิวพรรณก็สวยเหมือนลูกผู้ดีมีเงิน เพราะฉะนั้นจะต้องราดน้ำกรด ตายแล้วลืมซื้อน้ำกรดมา แต่ก็ไม่รู้จะซื้อจากที่ไหน งั้นเอาแค่น้ำเดือดๆ ให้ผุพองแสบร้อน” หล่อนมองไปที่กระติกน้ำร้อนไฟฟ้าที่มีไฟสีแดงพร้อมใช้ ดวงสมรนั่งลงข้างๆ เพื่อปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีอ่อนของร่างนั้นออกด้วยมือข้างเดียวเพื่อดูขนาดทรวงอก ช่างกลมกลึงเคร่งครัดเหลือเกิน ก่อนก้มลงมองตนเองอย่างเปรียบเทียบแล้วเบะปาก หยิกเนื้อขาวผ่องอย่างหมั่นไส้ บังเกิดรอยแดงจากเล็บนูนขึ้นทันที “ลองแกอายุมากแบบฉันสิ มันก็เหี่ยวก็หย่อนเองหละ หรือแกไปทำศัลยกรรมมา ฉันจะกรีดให้เหวอะดูสิข้างในยัดอะไรไว้หรือเปล่า สมัยนี้พึ่งหมอทั้งนั้นฉันไม่เชื่อว่านมธรรมชาติหรอก”หล่อนหยุดการบันทึกวิดีโอเพื่อเตรียมอุปกรณ์ เสียงโทรศัพท์ขัดจังหวะ ดวงสมรมองชื่อคนโทรมาแล้วยิ้ม ก่อนจะรับสาย “ผมรอกินข้าวร้านประจำ จะใจร้ายให้ผมรอจนไส้กิ่วก็ตามใจนะครับ” ปลายสายพูดสั้นๆ แล้ววาง “บทจะน่ารักก็น่ารักไม่เบาเชียวนะคุณอัน” ดวงสมรยิ้มหน้าบานแล้วพูดคนเดียว ก่อนหันไปมองเหยื่อบนพื้นห้อง “นับว่าโชคของแกยังดี ได้ต่อลมหายใจไปอีกหน่อย และอาจต้องรอนานหน่อยเพราะฉันกับคุณอันคงไม่แค่กินข้าวอย่างเดียว เราชอบกินกันทั้งตัวรู้ไว้นะว่าฉันเป็นเมียเขา เมียคนแรกและจะเป็นคนเดียวตลอดไป” และหล่อนก็อดไม่ได้ที่จะเตะเข้ากลางลำตัวร่างบนพื้นเต็มแรงจนร่างนั้นขยับ แล้วเดินข้ามไปอย่างไม่แยแส ชลทิศขับรถด้วยความเร็วปานพายุไปที่เกิดเหตุไฟไหม้บ้านบ้านที่ดวงดาวรักและถูกฆ่าตาย ทำให้ดวงดาราหวงแหนบ้านหลังนั้นมากเพราะถือเป็นบ้านที่แม่รักและเป็นมรดกตกทอดมาถึงตัวเอง ทั้งที่ความจริงแล้วดวงดาราไม่ใช่สายเลือดของดวงดาวและไกรสรเพราะเป็นแค่เด็กที่ขอมาเลี้ยงเท่านั้น เรื่องนี้เป็นความลับในครอบครัวระหว่างดวงดาว ไกรสรและเขา แม้แต่ดวงดาราก็ไม่เคยรู้ว่าตนเองไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข ไม่ได้เกี่ยวพันกันทางสายเลือดแต่อย่างใด ดวงดาวโชคร้ายเกิดอุบัติเหตุหลังแต่งงานได้ไม่นาน ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่ยังโชคดีที่เพื่อนที่ทำงานของไกรสรสูญเสียภรรยาจากการคลอดลูก เพื่อนของไกรสรหมดอาลัยจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ และไม่อยากเห็นหน้าลูกที่คิดว่าเป็นต้นเหตุให้เมียตาย ไกรสรจึงขอเด็กคนนั้นมาอุปการะเลี้ยงดูรักใคร่ปานลูกในไส้ ส่วนเพื่อนคนนั้นก็ขอไปทำงานต่างประเทศและไม่กลับประเทศไทยเลยตลอดเวลาสิบห้าปีที่ผ่านมา เมื่อดวงดาวเสียชีวิต ไกรสรก็หนีหายไป ดวงดาราจึงกลายเป็นผู้รับมรดกและหวงแหนบ้านหลังนั้นมาก แต่เวลานี้บ้านหลังนั้นกำลังถูกไฟไหม้ เขาได้ยินจากวิทยุแจ้งเหตุ เมื่อโทรถามเพื่อนร่วมงานในมูลนิธิก็ได้รับคำบอกว่า บ้านร้างที่เจ้าของบ้านถูกสามีฆ่าตายกำลังถูกไฟไหม้ หากดวงดาราได้ยินคำนี้คงเคืองแค้นและบอกว่า บ้านหลังนั้นไม่ใช่บ้านร้าง ชลทิศแทบกระโดดแหวกคนมุงเข้าไปเมื่อมองเห็นควันไฟและเปลวไฟโหมรุนแรง แม้จะมีรถดับเพลิงช่วยฉีดน้ำอยู่แต่เหมือนไม่ได้บรรเทาลงเลย เพราะต้นไม้ที่แห้งตายจากความแห้งแล้งและอากาศร้อนกลายเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี เขาเดินเลี่ยงคนทำงานเข้าไปใกล้ที่สุดเพื่อถามเพื่อนร่วมมูลนิธิที่มาถึงก่อน “รถดับเพลิงคันเดียวเอาอยู่หรือ” “รถอีกคันไม่มีน้ำครับหมอ คงไปเติมน้ำก่อนแล้วจะรีบตามมา” “อะไรกัน บ้านเราแล้งจนขาดน้ำดับเพลิงแล้วหรือยังไง” เขาถอนใจ มองบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้พลางภาวนาให้รีบดับไฟได้เร็วๆ อย่าเสียหายไปทั้งหลัง “เอ๊ะ นั่น เหมือนมอเตอร์ไซค์”ไม่ทันขาดคำเสียงระเบิดดังสนั่น สิ่งที่ชลทิศชี้แตกเป็นเสี่ยง ชิ้นส่วนปลิวว่อนจนต้องหลบก็เป็นพัลวัน ก่อนจะมีใครสักคนมาลากเขาให้ถอยออกไป “มอเตอร์ไซค์ระเบิดหมอ ไม่รู้ในบ้านจะมีพวกถังแก๊สอะไรไหม ออกมาห่างก่อนครับ” “บ้านไม่มีเคยมีคนอยู่ ไม่มีครัวไม่ได้ทำอาหารไม่มีถังแก๊สหรอก แต่มอเตอร์ไซค์มาจากไหน หรือว่า” ชลทิศใจหาย เสียงขาด วิ่งไปดูชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ที่ปลิวมาใกล้ๆ นี่คือจักรยานยนต์ยี่ห้อเดียวกับที่ดวงดาราใช้ สีก็ใช่ หรือว่าหลานสาวเขาจะมาที่นี่ ดาราแวะรดน้ำต้นไม้หลังเลิกเรียนเอง เขายังจำได้ เด็กสาวเคยบอกเช่นนี้ “ดารา ดวงดารา อยู่ไหน” “ทำไมครับหมอ” “นี่มอเตอร์ไซค์หลานสาวผม เจ้าของบ้านนี่ บางทีดาราอาจอยู่แถวนี้” เขาไม่กล้าคิดว่าดาราอยู่ในบ้าน แต่อยากวิ่งเข้าไปดูหากไม่ติดที่กำลังถูกลากตัวห่างตัวบ้านซึ่งไฟโหมหนักขึ้นทุกทีๆ “รอข้างนอกครับ ไฟดับก่อนค่อยว่ากัน” “ลองโทรหาดาราดูสิครับหมอ” เสียงตั้มดังขึ้นด้านหลัง ชลทิศหันไปมอง นึกขอบคุณที่ช่วยเตือนสติ แล้วทำตามคำแนะนำทันที “ไม่มีสัญญาณครับ” นั่นยิ่งทำให้เขาร้อนรนยืนไม่ติดที่มากขึ้น แต่คงทำได้แค่รอ เวลานี้รถดับเพลิงอีกคันมาช่วยฉีดน้ำแล้ว อีกไม่นานไฟคงดับ แต่เขาไม่วายมองหาคนที่ควรจะมาทำงานพร้อมตั้ม “มานี่ละครับ” “มานี่ไม่ได้กลับไปที่สถานี คิดว่าคงกลับบ้านไปแล้วละครับ เขาคงเสียดายแย่ถ้ารู้ว่าอดมาทำข่าวกับผม” “ครับ” อย่างไรเสียเขาก็ยังรู้สึกผิดที่ไล่หล่อนลงจากรถ หากหล่อนมากับตั้มเขาก็พร้อมจะเอ่ยขอโทษ ไฟดับลงแล้วแต่สภาพบ้านไม่เหมือนบ้านเสียแล้ว มีเพียงเสาปูนที่ถูกเผาดำเป็นตอตะโกตั้งโด่อยู่ไม่กี่เสา บางเสาหักโค่นลงแล้วมีควันพวยพุ่งให้รู้ว่ายังเก็บความร้อนระอุเอาไว้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่สวมชุดป้องกันความร้อนเดินเข้าไปสำรวจ ก่อนจะตะโกนบอกกันเสียงดัง “มีศพตรงนี้ครับ น่าจะเป็นโถงรับแขกนะ” แค่ได้ยินว่าพบศพ ชลทิศก็แทบจะกระโจนไปแล้ว แต่ตั้มดึงแขนเขาไว้พร้อมเตือนว่าด้านในร้อน รอให้เจ้าหน้าที่นำศพออกมาก่อน ชลทิศต้องบอกตนเองว่าไม่ใช่ดวงดาราเมื่อศพนั้นถูกหามออกมาวาง แม้รูปร่างที่ดำเป็นตอตะโกนี้จะใกล้เคียงหลานสาวเขาเป็นอันมาก และตั้มก็คงคิดไม่ต่างกันจึงเข้ามาตบไหล่เขาอย่างให้กำลังใจ “หมอชล มีกุญแจที่คาอยู่ที่แม่กุญแจแขวนอยู่ตรงประตูรั้ว ตอนเรามาถึงจึงเปิดประตูเข้ามาได้ง่ายดาย”ตำรวจยื่นถุงพลาสติกที่ใส่พวงกุญแจพร้อมโซ่ให้ดู ชลทิศมองนิ่ง ก่อนจะเอื้อมมือไปจับแขนตั้มเหมือนกลัวตัวเองจะล้มลง ตั้มรีบตบหลังมือเบาๆ เหมือนกับรู้ว่าชลทิศคิดอะไร “บางทีอาจไม่ใช่ ต้องตรวจดีเอ็นเอก่อนใช่มั้ยครับ” ตั้มปลอบ ขณะนั่งลงตามชลทิศที่นั่งลงข้างศพถูกไฟเผาจนดำเกรียม ชลทิศพยักหน้าช้าๆ ไร้คำพูดจา แต่มีน้ำตาคลอหน่วย นี่คือพวงกุญแจที่ดวงดาราพกติดตัว นั่นคือจักรยานยนตร์คู่ใจที่ดวงดาราใช้ประจำ แล้วศพนี่ละ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD