บทที่๑๓(จบ)

1536 Words
ชลทิศหยุดยืนใกล้รถเพื่อให้คนที่เดินตามมาเห็นชัดเจน แล้วหันกลับไปเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามาหยุดด้านหลังพร้อมเสียงหอบเหนื่อย เขาเลิกคิ้วสูงเหมือนแปลกใจ แต่คนยืนหอบกลับพูดดักคอ “ไม่ต้องมาทำตกใจแปลกใจ ฉันรู้ว่าคุณตั้งใจให้ฉันเห็นแล้วตามมา ว่าแต่ตั้มละ” หล่อนหายใจถี่ๆ อีกรอบ เขาไม่ตอบแต่ปิดประตูรถให้ และหล่อนก็เข้าไปนั่งอย่างว่าง่าย ไม่นานประตูตอนหลังรถก็เปิดแล้วตั้มก็เข้ามานั่ง “อ้าวมายังไง” อัญมณีแปลกใจ “ก็เปลี่ยนที่นัด ตามมานี่มาไง” ตั้มบอกพร้อมหัวเราะ หล่อนกระจ่างทันทีว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และที่ชลทิศไปเตร็ดเตร่แถวหน้าห้องน้ำให้หล่อนเห็นแล้วเดินตามออกมาที่จอดรถนี่ต่างรู้เห็นเป็นใจกันแต่หล่อนก็อดคิดไม่ได้ว่าทั้งคู่นั่งตรงไหนในสวนอาหารคงจะมองเห็นโต๊ะที่หล่อนนั่งจึงเห็นว่าหล่อนเดินไปห้องน้ำ และไม่อยากคิดเลยว่าพวกเขาจะได้ยินเรื่องที่พูดคุยกันในโต๊ะไหม แม้จะคุยกันเบาๆ แต่บางครั้งเมื่อแม่พูดด้วยความไม่พอใจ เสียงก็ดังพอสมควร ชลทิศเลี้ยวรถเข้าจอดหน้าร้านอาหารเดิมที่นัดไว้ ตั้มลงไปก่อนแล้วถามบางอย่างกับพนักงาน ก่อนที่หล่อนกับชลทิศจะเดินตามไป พนักงานหนุ่มน้อยพาไปที่ห้องคาราโอเกะที่แบ่งซอยเป็นสัดส่วน ด้านในที่มีแค่แสงสลัวกับเสียงดนตรีเบาๆ มีคนนั่งรออยู่ด้านในและกำลังร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นว่าใครเปิดประตู คนนั่งอยู่ก่อนก็ลุกขึ้นต้อนรับและเอ่ยทักทาย “สวัสดีครับ คงไม่ว่าอะไรนะ ผมหิวเลยกินพลางๆ” ร้อยตำรวจโทนิรุจน์เอ่ย ก่อนเชิญชวนให้ทั้งสามนั่ง “ตามสบายครับ ผมก็หิวแล้ว ขอสั่งของกินก่อนนะ มานี่กินอะไรมั้ย” ตั้มถาม หล่อนส่ายหน้าเพราะกินมาบ้างแล้ว แม้ไม่มากนักเพราะอาการกลืนไม่ลงเมื่อต้องรอให้คนอื่นอิ่มเพื่อจะบอกเรื่องขอยกเลิกการแต่งงาน แต่ครั้งนี้หล่อนไม่ต้องรอให้พวกเขาอิ่มเพราะชลทิศกับเพื่อนตำรวจเริ่มเปิดประเด็น “หลังกลับจากบ้านไฟไหม้ของพี่ดาว ผมไปบ้านอีกหลัง เพราะยังคาใจเรื่องน้าพุดว่าแกตายที่ไหนกันแน่ แล้วก็ไปพบอะไรหลายอย่างที่นั่น” แม้ยังไม่รู้ว่าชลทิศไปพบอะไรมา แต่น้ำเสียงเขาอดทำให้คนฟังอย่างหล่อนใจหายไปด้วยไม่ได้ และสิ่งที่ชลทิศบอกก็ยิ่งทำให้หดหู่เศร้าใจมากขึ้น จนอดพูดให้เขาสบายใจไม่ได้ “ดวงดาราอาจเกี่ยวข้องกับการตายของชายเร่ร่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพัวพันกับการตายของน้าพุดจีบนะคะ ยังไงก็ญาติกัน” “มีคราบเลือดที่สวนหลังบ้าน กับคราบเลือดติดจอบที่น้าพุดใช้ทำสวน หากเทียบรอยแผลที่ท้ายทอยน้าพุดกับคมจอบก็เข้ากันได้ดี เบื้องต้นจึงคิดได้ว่าอาวุธที่ใช้สังหารน้าพุดคือจอบด้ามนั้น คนทำคงรีบนำศพไปทิ้งจึงไม่ได้เช็ดทำความสะอาดแค่โยนไปไว้ที่พงหญ้า และสภาพบ้านไม่มีร่องรอยถูกงัดแงะ ผมหมายถึงว่ายากที่จะคิดว่ามีใครแอบเข้ามาแล้วทำร้ายน้าพุด รั้วบ้านไม่ได้เข้ามาง่ายๆ ส่วนประตูบ้านตั้งแต่เตือนให้ปิด แกก็ไม่เคยเปิดทิ้งไว้อีกเลย” “ฆาตกรคือคนในบ้าน” อัญมณีไม่อยากตอกย้ำ แต่ปากไวไปหน่อย “แต่ผมสงสัยว่าถ้าดาราทำจริง มีมูลเหตุมาจากอะไร เด็กสาววัยกำลังน่ารักมีครอบครัวอบอุ่น” ตั้มชะงักแล้วพูดต่อ “แต่ตอนนี้อาจไม่อุ่นแล้ว แต่ยังคิดไม่ออกว่าดาราจะทำแบบนั้นเพื่ออะไร” “แกมีเรื่องขัดใจกับน้าพุดหรือเปล่าคะ” “ผมก็ไม่รู้จริงๆ แต่สิ่งที่เจอทำให้คิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากให้เจ้าตัวมาแก้ข้อสงสัยเท่านั้น” ชลทิศพูด “ถ้าศพถูกไฟไหม้นั่นคือดารา ก็เท่ากับปิดคดีอื่นๆ ไปด้วยหรือคะ” “ก็คงอย่างนั้นครับ” ผู้กองหนุ่มบอก “แล้วถ้าไม่ใช่ละครับ จะเป็นใครถึงไปตายที่นั่น ขอโทษนะครับที่จะพูดว่า วัตถุพยานในที่เกิดเหตุทำให้ผมคิดถึงคนที่แอบไปมีอะไรกันในบ้านเพราะเห็นว่าเป็นบ้านร้างที่ไม่มีคนอาศัย แล้วมอเตอร์ไซค์ของดวงดาราก็ทำให้เดาว่าดวงดาราไปทำอย่างนั้นกับใครสักคน อาจเผลอหลับจนหนีออกมาไม่ทันตอนไฟไหม้” “หรือไม่ก็ถูกผู้ชายคนนั้นฆ่าตายก่อนไฟไหม้ จึงหนีออกมาไม่ได้” อัญมณีเสริมความคิดตั้ม “เราถึงต้องสืบหาเจ้าของอสุจิในถุงยางอนามัย” ชลทิศพูด “แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สองคดีจะเกี่ยวข้องกันไหมก็ต้องตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม แต่ที่ยืนยันเบื้องต้นคือ มีดที่แทงชายเร่ร่อนตายเป็นมีดจากครัวบ้านพี่สาวหมอชลจริงๆ” นายตำรวจคนเดียวในห้องเอ่ย “คิดๆ ไปแล้วหลายคดีจะเกี่ยวข้องกับดารา ผมไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมดาราถึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ หลานสาวที่น่ารักของผมทำไมถึงกลายเป็นฆาตกรเลือดเย็นไปได้” ชลทิศเอ่ย หลุบตามองต่ำ หดหู่และละอายจนไม่อาจสู้หน้าใคร อัญมณีเอื้อมมือไปบีบมือเขาเบาๆ เห็นใจเขาจนไม่คิดการควรไม่ควร ไม่คิดว่าคนรอบข้างจะมองอย่างไร แต่รู้สึกเขินเมื่อชลทิศเปลี่ยนมากำมือหล่อแล้วบีบแน่น จึงพยายามดึงมือกลับแต่เขาไม่ยอมปล่อย ยังบีบแน่นแล้วเงยหน้าขึ้นมองทุกคน พูดโดยไม่ยอมปล่อยมือหล่อน “อีกเรื่องที่ผมมั่นใจว่านักเขียนนาปากกาอัญมณีไม่เกี่ยวข้องกับการตายของพี่ดาววันนั้น เพราะมีพยานบอกว่าพี่ดาวไปบ้านหลังนั้นกับผู้หญิงบ่อยๆ วันเกิดเหตุก็เห็นผู้หญิงไปที่บ้านหลังนั้น แต่ในเมื่อคุณบอกว่าอัญมณีเป็นผู้ชายก็ไม่ใช่เขาสินะ” ชลทิศหันมาสบตาหล่อน “ยืนยันอีกคนว่าอัญมณีเป็นผู้ชายแน่นอนครับ” ตั้มพูด มองหน้าอัญมณีเหมือนต้องการให้หล่อนเปิดเผยตัวตนของอัญมณีคนนั้นให้คนในห้องนี้รับรู้ แต่หล่อนหลุบตาหนี “ส่วนเรื่องที่บอกว่ามีพยานยืนยันว่าเห็นพี่สาวคุณไปที่นั่นกับผู้หญิงบ่อยๆ เชื่อได้แค่ไหนคะ อย่าลืมว่าบ้านนั้นห่างไกลผู้คน สภาพก็ไมต่างจากบ้านร้าง จะมีใครมาคอยสังเกตคนเข้าคนออกตลอดเวลา” “คุณกำลังบอกว่าไม่ว่าอัญมณีจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็มีสิทธิ์เกี่ยวข้องอย่างนั้นหรือ” ชลทิศเลิกคิ้ว “เปล่า แค่บอกว่าอย่าเชื่อปากคนมากและยืนยันว่าวันเกิดเหตุอัญมณีอยู่ที่อื่น แล้วจะคิดว่าพี่เขยคุณหึงหวงจึงก่อเหตุก็ไม่ได้สิคะ พี่เขยหมอก็ถูกฆ่าตายแล้วเหมือนกัน” “เรื่องมันซ่อนเงื่อน หรือมันไม่เกี่ยวพันกันแน่ ผมชักงง” ตั้มพูดตรงๆ “บางทีแต่ละเรื่องอาจไม่เกี่ยวพัน หรืออาจเกี่ยวกันหมดก็ได้ คงต้องสืบไปตามพยานหลักฐานที่มี” นายตำรวจหนุ่มพูด จังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์ของอัญมณีดังขึ้น หล่อนรีบดูชื่อคนโทร.มาแล้วกดปิดทันที ชลทิศกับตั้มไม่แปลกใจในการกระทำนัก นิรุจน์มีท่าทีสงสัยแต่ไม่พูดอะไร ทั้งหมดนั่งคุยกันอีกพักใหญ่ก็ล่ำลากัน “ให้ผมไปส่งที่ไหน” เขาถามคนที่ติดรถเขามาโดยเฉพาะจ้องหน้าอัญมณี “แล้วหมอไปทางไหนคะ กลับโรงพยาบาลหรือกลับบ้านหรือว่า” หล่อนถามไม่ทันจบเขาก็ตอบในสิ่งที่คาดเอาไว้ “ไปบ้านพี่ดาว ผมคิดว่าอาจมีอะไรหลายอย่างในห้องดวงดาราที่น่าจะเป็นหลักฐานได้บ้าง” “ฉันไปด้วย” “ผมด้วย ไหนๆ ก็ตามคดีมาด้วยกันแล้วนี่ แต่ขอเข้าห้องน้ำก่อน อยู่ในร้านทำไมไม่ปวดมาปวดเอาตอนนี้” ตั้มตำหนิตนเองแล้ววิ่งกลับเข้าในร้าน คนข้างหลงมองตามแล้วยิ้ม ก่อนหันมาสบตากัน ในดวงตาของทั้งคู่เหมือนมีคำพูดมากายอยากสื่อออกมาให้อีกฝ่ายได้รับรู้ และเหมือต่างรอให้อีกฝ่าเอ่ยปากก่อน แต่จนแล้วจนรอดก็ไมมีใครเอ่ยคำใด จนเห็นตั้มเดินกลับมาชลทิศจึงเปิดประตูรถ “ครับ เชิญ”เขายิ้มยินดีที่มีเพื่อนร่วมกันหาความจริง เพราะจริงๆ แล้วเขาขลาดที่จะเข้าไปในบ้านหลังนั้นคนเดียว เขาไม่ได้กลัวสิ่งเร้นลับเพราะเป็นบ้านที่เจ้าของบ้านตาย ซ้ำยังมีคนตายในบ้านนั้นอีก แต่เขาขลาดกลัวกับสิ่งที่อาจไปพบเจอ หากสิ่งนั้นจะผูกมัดหลานสาวเขาแน่นขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD