บทที่๒(จบ)

1684 Words
ภายในรถเงียบเพื่อฟังเรื่องราวจากปากนายแพทย์ชลทิศ เหตุเกิดที่บ้านสวนซึ่งดวงดาวเพิ่งซื้อไว้ไม่นาน นับเป็นบ้านในฝันของดวงดาวเลยทีเดียวบ้านที่อยากปลูกต้นไม้ให้ร่มรื่น ปลูกดอกไม้สวยๆ มีศาลากลางสวนเพื่อนั่งเล่นอ่านหนังสือนิยายตามที่ชอบ วันนั้นดวงดาวออกจากบ้านช่วงบ่ายไปดูคนงานปรับพื้นที่เอาต้นไม้รกๆ ออกเพื่อจะมีที่ทำศาลาและปลูกไม้ดอก และนัดพบกับคนๆ หนึ่งที่นั่นด้วย โดยไม่รู้ว่าไกรสรเดินทางกลับจากต่างประเทศในวันนั้นและตามไปพบดวงดาวอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อกลับมาบ้านจึงทะเลาะกันรุนแรงเพราะไกรสรได้ยินคนพูดกันว่าดวงดาวชอบเที่ยวกลางคืนและติดต่อกับนักเขียนสาวคนหนึ่งซึ่งอาจคบหากันเชิงชู้สาวและกำลังถูกผู้หญิงคนนั้นปอกลอก วันต่อมาไกรสรให้ดวงดาวนัดผู้หญิงคนนั้นไปพบที่บ้านหลังนั้นเพื่อจะขอร้องให้เลิกยุ่งเกี่ยวกัน แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ไปตามนัด ไกรสรจึงบันดาลโทสะทำร้ายดวงดาวจนถึงแก่ความตาย “ใครบอกคุณว่าผู้หญิงคนนั้นคืออัญมณี” อัญมณีอดถามไม่ได้เมื่อฟังเขาเล่าอย่างปักใจเชื่อว่าคนที่เอ่ยถึงเป็นต้นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ชลทิศเหลือบมองหล่อนผ่านกระจกก่อนตอบ “พี่สาวผมอ่านนิยายของนักเขียนคนนี้คนเดียว” “แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าเค้าสนิทสนมกันขนาดนั้น” “คุณน่าจะรู้ดีว่าเค้าสนิทสนมกันแค่ไหน ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งพวงหรีดมา” “คุณเข้าใจผิดแล้ว นักเขียนเค้าก็ส่งพวงหรีดไปงานศพแฟนคลับทุกคนแหละ เพราะถือว่าผู้ซื้อเป็นผู้มีพระคุณ แฟนคลับเสียชีวิตก็ส่งพวงหรีดไปแสดงความอาลัยทุกคน ถ้าคนแถวนี้ฉันพอไปแทนได้ก็ไป ถ้าในกรุงเทพหรือจังหวัดใกล้เคียงบอกอสะดวกก็ไปแทน ถ้าที่ไกลหน่อยก็สั่งให้ร้านไปส่ง” “เข้าใจลึกซึ้งจริงๆ นะ แล้วอัญมณีอยู่ที่ไหนละ” “ไม่แน่ใจ เพราะมันเป็นความลับ มันเป็นคอนเซ็ปของนักเขียนกับสำนักพิมพ์” “มันก็คุณนี่แหละ” “นี่คุณ!” “เอ่อ มานี่ๆ เบาๆ หน่อยขี้หูบิน” ตั้มปรามเมื่ออัญมณีเสียงดังตามอารมณ์ เขานั่งคู่ชลทิศคนขับส่วนอัญมณีนั่งด้านหลัง แต่สองคนคุยเหมือนทะเลาะกันกรอกหูข้ามหัวไปมา “ฉันไม่ใช่ แค่เป็นตัวแทน” อัญมณีพูดเบาลงหลังข่มอารมณ์ “คงไม่ใช่ตัวแทนหรอกมั้ง” ชลทิศยังไม่หยุดความคิด ทำให้หล่อนอารมณ์ขึ้นอีกครั้ง “เอ๊ะ! ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง บอกว่าฉันไม่ใช่นักเขียน แค่ชื่อเหมือน”แล้วนึกเคืองคนที่ใช้นามปากกาเหมือนชื่อหล่อนขึ้นมาครามครัน “ใช่ คุณคืออัญมณี คุณเป็นต้นเหตุให้พี่สาวผมตาย” ชลทิศไม่ลดละเช่นกัน “จอดๆ ไอ้บ้านี่พูดไม่รู้เรื่อง บอกว่าไม่ใช่ๆ จอดฉันจะลง” อัญมณีตะโกนคับรถและกระโจนไปดึงพวงมาลัยเมื่อชลทิศไม่มีทีท่าจะจอดตามคำสั่ง ร้อนถึงตั้มต้องปรามเสียงดังและจับตัวหล่อนเอาไว้ “เฮ้ย! มานี่ เดี๋ยวรถชนตายพอดี หยุดๆ” “ก็บอกมันหยุดสิ นี่จะลง จะลง” หล่อนตะโกนใส่หน้าตั้มอีกคน “ร้อนรนทุรนทุราย ทุกข์ทรมานไม่ต่างจากคนตาย เชิญ” ชลทิศพูดฉอดๆ ก่อนจอดรถข้างทางให้คนร้องขอ “ไอ้! ไอ้!” “ลงๆ ขอบคุณครับหมอ” ตั้มลากอัญมณีลงมาก่อนจะเกิดการลงไม้ลงมือขึ้นในรถ เพราะหล่อนชี้หน้าชลทิศมือสั่นเทา “ตั้ม ก็ไอ้หมอนั่นมันกวนตีนนี่ มันแช่งนี่ให้ทุกข์ทรมานนะ” หล่อนยังพูดเสียงดังไม่ยินยอม แม้ชลทิศจะขับรถออกไปแล้ว แต่หล่อนยังมองตามเคียดแค้น เกิดมายังไม่เคยโกรธใครเท่านี้มาก่อน แล้วเวลานี้คนข้างๆ กำลังทำให้หล่อนโกรธไปอีกคนกับคำถามที่บอกว่าคล้อยตามชลทิศไปเกินครึ่ง “มานี่ไม่ใช่อัญมณีแน่หรือ” “ตั้ม!” ชลทิศกลับมาบ้านของพี่สาวก็พบว่าดวงดารายังไม่นอน และรู้ว่าหลานสาวกำลังรอเขาอยู่ เพราะทันทีที่เห็นเขาเข้ามาดวงดาราก็เดินมารับหน้า “ทำไมยังไม่นอน” เขาถามก่อน “ดารานอนไม่หลับน้าชลก็รู้ว่าทำไม” “พยายามหลับให้ได้สิจ้ะ กลางวันก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว น้าไม่อยากให้ใช้ยา” “แต่ดาราพยายามแล้วมันไม่หลับ ดาราคิดถึงแม่คิดถึงพ่อ” ดวงดาราโผเข้ากอด “ดาราไม่โกรธพ่อหรือ” “ไม่ค่ะ เพราะคนที่ผิดเป็นต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างคือนังผู้หญิงคนนั้น ดาราอยากให้มันได้รับกรรมที่ทำกับครอบครัวดารา ดาราเกลียดมัน เกลียดผู้หญิงคนนั้น ดาราไม่คิดว่ามันจะกล้ามางานอีกนะคะ” “ดารามั่นใจหรือว่าผู้หญิงคนนั้นคืออัญมณี” “ใช่ค่ะ ถ้าไม่ใช่มันจะมางานทำไม ดาราเคยเห็นรูปผู้หญิงคนนี้ไปงานศพแล้วเอาพวงหรีดชื่ออัญมณีไปด้วยตั้งหลายงานแล้ว ดารามั่นใจว่าใช่มันแน่นอนดูการแต่งเนื้อแต่งตัวมันวันนี้สิคะ ทอมบอยชัดๆ” ดวงตาเด็กสาวทอประกายอาฆาตแค้นเมื่อเอ่ย ชลทิศลูบไหล่หลานสาวเบาๆ “ไว้น้าจัดการเรื่องนี้เอง ดาราอย่าคิดมาก ไปพักผ่อน” “น้าชลคะ ถ้าพ่อกลับมา พ่อจะติดคุกมั้ยคะ” เด็กสาวถามต่อ ตั้งแต่เกิดเรื่องแล้วไกรสรก็หายไป ไม่ได้ถูกจับเข้าคุกอย่างที่คนอื่นเข้าใจส่วนไกรสรจะเป็นคนฆ่าดวงดาวหรือไม่ก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเพราะเขาหายตัวไปเหมือนหลบหนีความผิด “ไว้เป็นเรื่องของตำรวจ ยังไงพ่อของดาราก็ต้องรับโทษตามกฎหมายถ้าทำผิดจริง ไปนอนเถอะ” เขาโอบไหล่พาดวงดาราไปส่งหน้าห้องนอนเป็นการบังคับกลายๆ “แล้วเมื่อกี้น้าชลไปไหนมา ดาราเห็นน้าตั้มกับนังคนนั้นขึ้นรถน้าชลไป” “น้าบอกว่าจะจัดการเองยังไงละ นอนเถอะ” เขาดันหลานสาวให้เข้าห้องโดยไม่พูดอะไรอีก เพราะมีญาติซึ่งมาจากต่างอำเภอนอนอยู่ในห้องส่วนหนึ่ง ส่วนหนึ่งนอนในห้องดวงดาว ส่วนตัวเขาอาศัยนอนในห้องรับแขกเพราะมานอนเป็นเพื่อนหลานในช่วงนี้เท่านั้น เขาอยู่บ้านพักแพทย์ใกล้โรงพยาบาลเพื่อสะดวกเวลาไปทำงานแต่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก เขายังคิดไม่ตกว่าหลังเผาศพพี่สาวแล้วจะทำอย่างไรกับดวงดาราหลานสาวคนเดียว เขามีกันสองคนพี่น้องแต่ถ้านับสายเลือดก็ไม่เกี่ยวข้องกันเลย พ่อแม่ของเขาแต่งงานกันหลายปีแต่ไม่มีลูกจึงขอดวงดาวที่เป็นเด็กกำพร้ามาอุปการะเมื่อดวงดาวอายุเกือบสิบขวบแม่ก็ท้องเขาและมีลูกสมใจเหมือนที่โบราณเรียกว่าลูกอิจฉา แต่เขากับดวงดาวรักกันเหมือนพี่น้องแท้ๆ เพราะพ่อแม่เลี้ยงดูอย่างเสมอภาคไม่ลำเอียงมาข้างเขาว่าเป็นลูกในไส้ เมื่อพ่อแม่เสียชีวิตดวงดาวก็ดูแลเขาอย่างดีมาตลอด ไม่คิดเลยว่าพี่สาวจะมาพบชะตากรรมเช่นนี้และจะทำอย่างไรกับหลานสาวคนเดียวเพราะดวงดาราไม่สนิทกับญาติฝ่ายพ่อเลยก็ว่าได้ เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในทุกส่วนสำหรับหลานสาวคนเดียว แต่มีปัญหาเรื่องเวลาเพราะงานในโรงพยาบาลของเขาที่มีมากแล้วยังมีงานอาสาสมัครในมูลนิธิอีก แต่เมื่อจำเป็นต้องกลายเป็นผู้ปกครองของดวงดาราเขาก็ต้องจัดสรรเวลาใหม่เพื่อให้ลงตัวที่สุด อัญมณีเดินวนเหมือนหนูติดจั่นเพราะไม่สามารถติดต่อเจ้าของนามปากกาอัญมณีได้ เวลาที่อัญมณีต้องการความสงบเพื่อเขียนต้นฉบับนิยายจะปิดการสื่อสารทุกชนิด และไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน ต่อเมื่อต้นฉบับเสร็จสมบูรณ์เท่านั้นถึงจะติดต่อได้ตามปกติ ซึ่งเจ้าตัวจะติดต่อกลับมาก่อน แต่เวลานี้หล่อนอยากเจอ อยากเล่าเรื่องที่อัญมณีกำลังถูกเข้าใจผิดกลายเป็นจำเลยให้รู้ตัว และอยากได้ยินคำแก้ตัว ทำไมถึงคิดอยากได้ยินคำแก้ตัว หรือเพราะหล่อนกำลังคล้อยตามคำพูดของชลทิศ ‘บ้าสิ ใครจะทำอย่างนั้น มันไม่ใช่อย่างนั้นเสียหน่อย’ หญิงสาวตัดสินใจส่งข้อความไปให้โทรกลับด่วน เผื่อฝ่ายนั้นจะเปิดขึ้นมาอ่านบ้าง เสียงด่าทอที่ดังชัดเจนเกิดขึ้นในบ้านชั้นเดียวหลังคาสีฟ้าตัวบ้านทาสีขาว รั้วไม้เตี้ยๆ รอบแนวสวนข้างบ้านมีสีขาวเช่นกัน มองลึกเข้าไปมีศาลาไม้ระแนงมุงกระเบื้องสีขาว ปลูกไม้เถาไม้เลื้อยออกดอกสีเหลืองอร่ามแต่ไม่อาจดึงความสนใจไปจากเสียงที่เกิดขึ้นได้ หญิงสาวย่างย่องเข้าไปช้าๆ เพื่อดูว่าเจ้าของนั้นเป็นใครและกำลังผรุสวาทหยาบคายใส่ใคร หล่อนใช้มือเล็กๆ แง้มหน้าต่างออกดู สิ่งที่เห็นกลับทำให้ตะลึงงัน เจ้าของเสียงที่ยังดังไม่ขาดสายเป็นคนคุ้นเคย ในมือมีมีดที่เปื้อนเลือดและกำลังหยดลงพื้นที่มีร่างนอนจมกองเลือดที่ไหลนอง “แม่” หล่อนร้องเรียกเสียงดัง แล้วผละจากหน้าต่าง วิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดเพราะคนในบ้านกำลังวิ่งไล่มาพร้อมเสียงขู่คำราม “หยุดนะ หยุด” เรื่องอะไรหล่อนจะหยุด หล่อนต้องวิ่ง วิ่ง ไปให้พ้น ทว่าเท้าเจ้ากรรมสะดุดรากไม้ทำให้ร่างที่กำลังวิ่งกระตุก แล้วล้มกลิ้งไปบนพื้น เมื่อตั้งตัวได้ก็พยายามลุกขึ้นแต่ไม่ทันเสียแล้ว คนวิ่งตามมาทัน ใช้เท้าหนักๆ เหยียบเอาไว้แล้วกดลงเต็มแรงเพื่อไม่ให้เหยื่อหนีรอด แล้วเงื้อมีดขึ้นสูงก่อนจะฟันลงมาพร้อมคำมัจจุราช “อย่าอยู่เลยมึง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD