CHAPTER 4 “ตัดสัมพันธ์”

2773 Words
เตเดินเข้ามาที่ร้านกาแฟร้านประจำอีกครั้ง หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่ร้านในวันนั้นมาได้เกือบอาทิตย์ ครั้งนี้เค้าเดินตรงไปที่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อสั่งกาแฟเมนูประจำและอาหารกลางวันสำหรับตัวเองในวันนี้ด้วย ก่อนจะหมุนตัวกลับมาเพื่อหาที่นั่งในมุมเดิมที่เคยนั่งประจำ แต่เค้ากลับต้องรีบเดินผ่านโต๊ะประจำโต๊ะนั้นแล้วทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะด้านหลังทันที เมื่อเห็นว่าที่ตรงนั้นมีอดีตเพื่อนสนิทอย่างเกื้อกำลังนั่งอยู่ Line Friendsss เต : กูเจอไอ้เกื้ออีกแล้ว นน : ส่งโลเคชั่นมาเลย เดี๋ยวกูตามไป ก้าว : กูมีประชุมตอนบ่าย มึงอยู่ไหน กูออกไปทันป่าววะเนี่ย เต : พวกมึงจะมากันทำไม กูแค่บอกว่าเจอมัน : มันไม่เห็นกูหรอก กูหลบทัน ก้าว : โว้ย!! งั้นกูไปเตรียมประชุมและ นน : แต่กูจะไป กันไว้ก่อน เผื่ออยู่ดีดีแม่งเห็นมึง ส่งโลเคชั่นมา เต : ร้านกาแฟร้านประจำกูแหละ มึงก็รู้จัก นน : สิบนาทีถึง สั่งข้าวให้กูด้วย เอาเหมือนมึง กูหิว!! เต : เออครับ เตยกมือเรียกพนักงานให้มาหาที่โต๊ะ เพราะถ้าเค้าลุกเดินไปที่เคาน์เตอร์ตอนนี้ อีกคนคงต้องเห็นเค้าแน่ ๆ เมื่อสั่งอาหารและเครื่องดื่มให้นนเสร็จ เตก็กดส่งข้อความไปเตือนเพื่อนอีกครั้ง เต : ไอ้นน ใส่แว่นกันแดดติดมาด้วย ก่อนถึงโต๊ะที่กูนั่ง ต้องผ่านโต๊ะมัน นน : รับทราบ อีกห้านาทีถึง เตยิ้มกับข้อความของเพื่อน อาจจะเพราะนนเป็นคนชอบแข่งรถ ทำให้ติดนิสัยขับรถเร็ว แม้จะโดนใบสั่งไปหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่ทำให้นนลดความเร็วบนถนนลงได้ซักที หลังจากได้รับข้อความไม่นาน เสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้น พร้อมกับนนที่เดินเข้ามาในร้านพร้อมแว่นกันแดดสีดำ “มาไวกว่าข้าวที่กูสั่งไปอีกนะมึง” เตบ่น “แม่งเหมือนเดิมเลยว่ะ หน้าเลวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” เตหัวเราะกับคำพูดของนน “เบา ๆ มึง ระยะนี้มันได้ยินนะ แล้วไปจ้องหน้ามันมันไม่เห็นมึงหรอ” นนส่ายหน้าตอบเต “มันก้มหน้ากดโทรศัพท์ยิก ๆ ไม่ได้สนใจใครรอบตัวหรอก” นนตอบ หลังจากคุยกันอยู่ซักพัก ขณะที่พนักงานนำอาหารและเครื่องดื่มของพวกเค้ามาเสิร์ฟ เสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้นอีกครั้ง ตามมาด้วยการปรากฏตัวของผู้หญิงคนเดิมที่เตเคยเจอครั้งก่อน แต่ครั้งนี้เธอมาในชุดนักบินเต็มยศ พร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กเข้ามาด้านในร้านด้วย “มึง ๆ ผู้หญิงคนนั้นแหละที่กูเล่าให้ฟังคราวก่อนอ่ะ” เตเรียกนนให้หันกลับไปมอง “เชี่ย!! สวยนี่หว่า” นนหันมาแซวเตทันที “มิน่าเพื่อนกูถึงดูสนใจเรื่องนี้ เป็นนักบินด้วยนะครับไม่ธรรมดา” “เสียงดังไอ้สัส เบา ๆ เลยเดี๋ยวมันได้ยิน” เตกัดฟันเตือนเพื่อนให้เบาเสียงลง ‘ซิน...เพิ่งแลนด์ทำไมไม่กลับไปพักล่ะครับ พี่เห็นซินนัดมาพี่นึกว่าซินไม่มีบินซะอีก’ เกื้อเอ่ยถามซินออกไป ‘ตอนที่พี่จีบซินใหม่ ๆ พี่รู้ตารางบินของซินทุกไฟลท์เลยนะคะ ต่างกับตอนนี้ที่พี่ไม่รู้เลยว่าซินมีบินวันไหนบ้าง อีกอย่างถ้าวันนี้ซินไม่นัดพี่มาเราก็คงไม่ได้เจอกันซักที ตารางบินพี่คงแน่นมาก ซินถึงนัดเจอพี่ได้ยากขนาดนี้ พี่คงไม่ได้คิดจะหลบหน้าซินใช่มั้ยคะ’ ซินยิงคำถามกลับมา ‘ช่วงนี้พี่ยุ่ง ๆ ครับ ไม่ค่อยได้นอนคอนโดด้วยซ้ำ พ่อกับแม่เรียกกลับบ้านแทบทุกวันเลย แล้วพี่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหลบหน้าซินนะครับ อย่าคิดมากสิ สั่งอะไรทานก่อนดีกว่ามั้ย’ เกื้อถามอย่างใจเย็น ‘ไม่ค่ะ วันนี้ซินมีเรื่องสำคัญจะมาคุย และซินอยากให้มันจบเร็วที่สุด ซินอยากกลับไปพัก’ ซินเอ่ยเสียงนิ่ง ‘เราไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายวัน ทานข้าวด้วยกันก่อนแล้วค่อยคุยก็ได้นะครับ พี่คิดถึงซินนะ’ เกื้อตอบ ‘พี่เกื้อ...พี่ดูบนหัวซินหน่อยค่ะ มันมีอะไรติดอยู่มั้ยคะ’ เกื้อมองหน้าซินงง ๆ ก่อนจะส่ายหน้าตอบ ‘ใช่ค่ะบนหัวซินไม่มีอะไร นั่นรวมถึงว่าบนหัวซินไม่มีเขาที่งอกออกมา และแปลว่าซินไม่ได้โง่ค่ะ เลิกหยอดคำหวานใส่ซินได้แล้ว วันนี้ซินนัดพี่มา เพื่อจะบอกว่า ซินจะเลิกกับพี่เกื้อค่ะ’ นนและเตลอบยิ้มให้กันเบา ๆ ‘เดี๋ยวซิน อยู่ดีดีมาบอกเลิกกันแบบนี้ได้ยังไง ซินมีคนใหม่หรอ หรือซินแอบนอกใจพี่’ เกื้อถามกลับ ‘ขอโทษนะคะที่ต้องทำให้พี่ผิดหวัง แต่ซินไม่ได้เลวแบบพี่ค่ะ’ เตยื่นมือขึ้นไปปิดปากนนที่กำลังจะหลุดเสียงหัวเราะออกมา ‘พี่คิดว่าไม่มีใครรู้เรื่องพี่กับยัยมินิหรอคะ ในเมื่อพี่อยากมีคนใหม่ ซินก็จะปล่อยพี่ไปไงคะ ซินไม่อยากดูโง่ในสายตาใคร คนทั้งสายการบินเค้ารู้ว่าพี่กับซินคบกัน และเค้าก็รู้เหมือนกันว่าพี่กับมินิแอบคบกันลับหลังซิน’ ‘หึ...โอเค ถ้าซินอยากเลิกก็เลิก พี่จะบอกให้นะซิน พี่ไม่เคยจีบใครนานเท่าซินมาก่อน แถมตั้งแต่คบกันมานอกจากจับมือและไปรับไปส่ง พี่ไม่เคยได้อะไรจากซินเลย มันไม่แปลกนะที่พี่จะเบื่อแล้วไปหาคนอื่น ในเมื่อซินรู้เหตุผลแบบนี้แล้ว ยังอยากจะเลิกกับพี่อยู่มั้ย’ เกื้อยกยิ้มถาม และไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปด้วยซ้ำ ‘เหตุผลของพี่ มันก็แค่ข้ออ้างของผู้ชายไม่รู้จักพอนั่นแหละค่ะ ยิ่งได้ฟังซินยิ่งรู้สึกว่าคิดถูกที่บอกเลิกพี่วันนี้ ขอให้โชคดีกับสิ่งที่พี่เลือกนะคะ’ ซินยิ้มตอบ ‘ทำเก่งไปเถอะ รู้ไว้ด้วยนะว่านอกจากพี่จะเป็นนักบิน พี่ยังเป็นลูกชายของผู้บริหารระดับสูง การที่ซินเลือกที่จะเป็นศัตรูกับพี่ ระวังอนาคตในสายการบินจะไม่สวยอย่างที่หวังนะครับ’ เกื้อลุกจากที่นั่งแล้วเอ่ยทิ้งท้าย ‘เดี๋ยวค่ะ!!’ ซินเรียกเกื้อไว้ก่อนที่เกื้อจะเดินออกไปจากร้าน เตเงยหน้ามองเกื้อที่หันกลับมาด้วยรอยยิ้มของคนที่คิดว่ากุมชัยชนะไว้ในมือ ‘ซินว่าพี่ก็ควรรู้ไว้เหมือนกัน อนาคตที่ซินคาดหวังคือการเป็นกัปตัน และมันไม่จำเป็นต้องเป็นที่สายการบินนี้เสมอไปนะคะ พี่อย่าลืมว่าซินเป็นนักบินที่เข้ามาทำงานที่นี่ก่อนพี่ แถมยังเป็นนักบินหญิงที่สามารถเลื่อนระดับเป็นนักบินผู้ช่วยอาวุโสได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ พี่คิดว่าสายการบินจะยอมปล่อยนักบินที่มีความสามารถแบบซินไปง่าย ๆ หรอคะ อ่อ...หรือถ้าสุดท้าย สายการบินเลือกที่จะไล่ซินออก แล้วเก็บผู้ชายเลว ๆ แบบพี่ไว้ ซินก็คงเลือกที่จะเดินออกไปด้วยความเต็มใจค่ะ เพราะนั่นหมายความว่า สายการบินนี้ไม่เห็นคุณค่าในตัวซิน ซินก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อ แล้วซินจะคอยดูว่าลูกผู้บริหารแบบพี่ กับนักบินที่มีความสามารถอย่างซิน ใครจะชนะ’ ซินพูดจบก็นั่งลงที่โต๊ะอีกครั้ง โดยไม่หันกลับไปมองหน้าเกื้อที่ยืนกำหมัดด้วยความโกรธอยู่ด้านหลัง จนต้องเดินออกจากร้านไปในที่สุด ‘เชส กูบอกเลิกไอ้พี่เกื้อแล้วนะ...กูโอเคมึง แค่โมโหกว่าที่คิดมากไปหน่อย...ไม่ ๆ มึงไม่ต้องมา กูไม่อยากให้แม่รับรู้ความชั่วของพี่มันมากไปกว่านี้แล้ว พรุ่งนี้มึงบินพร้อมกู กูค่อยเล่าพรุ่งนี้ทีเดียว...เออ...กำลังจะกลับแล้ว’ ซินคุยโทรศัพท์กับเชสจบก็ลุกออกไปเรียกแท็กซี่หน้าร้านเพื่อกลับคอนโดต่อทันที “เป็นผู้หญิงที่สุดยอดเลยว่ะ บอกเลิกผู้ชายโดยที่ไม่เสียน้ำตาเลยซักหยด แถมยังต่อปากต่อคำกับไอ้เกื้อจนแม่งเถียงอะไรไม่ออกเลย” นนเอ่ยชมพร้อมกับมองตามหลังซินออกไปหน้าร้าน “นอกจากจะเถียงอะไรไม่ได้ มันยังโมโหมากอีกด้วยนะ แต่เหตุผลที่มันมีคนอื่นคือเลวสมกับเป็นมันจริง ๆ ว่ะ กูไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นคนที่มีความคิดเลว ๆ ได้ขนาดนี้” เตพูดขึ้น “ถ้าเป็นมึง มีแฟนแล้วได้แค่จับมือกับไปรับไปส่งแบบนี้ มึงจะไปมีคนอื่นมั้ยวะ” นนถามเต “ถ้าเป็นกูตอนนี้ การที่กูเลือกแล้วว่าจะรักใครซักคน กูก็จะรักที่เค้าเป็นเค้าแบบนั้น ถ้าถามว่าเรื่องทางกายมันมีความรู้สึกบ้างมั้ย ผู้ชายแบบเรามันก็คงมีว่ะ แต่ในเมื่อกูเลือกรักไปแล้วกูก็ต้องรับในสิ่งที่เค้าเป็นให้ได้ จะให้กูทิ้งเค้าไปมีคนอื่น กูก็ทำไม่ได้มั้ยวะ” เตตอบ “กูไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องเอาเรื่องแบบนี้มาอ้าง แม่งเหมือนคบกับเค้าเพราะต้องการการตอบสนองทางกายมากกว่าความรักรึเปล่าวะ” เตถามออกมาอีกครั้ง “มันก็แค่ข้ออ้างเพื่อต้องการโยนความผิดให้อีกคน แล้วบอกว่าตัวมันทำห่าอะไรก็ถูกเสมอแค่นั้นแหละ เหตุผลของคนชั่ว มึงจะไปเอาความอะไรกับคนแบบนั้น” เตพยักหน้าตอบนน “ว่าแต่ น้องซินนี่สวยนะ ทั้งสวยทั้งเก่งครบเครื่องจริง ๆ มิน่าเพื่อนเตถึงสนใจ ชอบหรอครับเพื่อน อยากเข้าไปดามใจให้นักบินคนสวยหน่อยมั้ยครับเพื่อนเต” นนยิ้มแซว “หยุดความคิดมึงเลย มันก็แค่เรื่องบังเอิญทั้งนั้นแหละ กูไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้นซะหน่อย ครั้งก่อนก็เจอโดยบังเอิญ วันนี้ก็เหมือนกัน” เตเถียงกลับ “เนื้อคู่ชัด ๆ เรื่องบังเอิญบ๊อยบ่อย ถ้ามึงบังเอิญเจออีกรอบจีบเลย เชื่อกู เนื้อคู่แน่ ๆ” นนยักคิ้วตอบ “พอ ๆ กินข้าวไปเลยมึง ไม่ต้องมาวุ่นวายเลย” เตก้มหลบสายตาไปสนใจจานข้าวตรงหน้าแทน “เรื่องนี้ต้องถึงหูไอ้ก้าว ไปหามันที่บริษัทดีกว่า มันประชุมเสร็จก็เล่าสู่กันฟังต่อเลย” นนเสนอ “งานการไม่ทำจริง ๆ นะมึงเนี่ย ร่อนไปร่อนมา” เตส่ายหน้าขำ “งานกูเยอะแยะ แต่แค่กูทำงานที่ไหนก็ได้ และตอนนี้กูก็ทุ่มเทเวลาของกูให้สนามแข่งสุดที่รักมาหลายวันแล้ว จนตอนนี้เป็นหน้าที่ของช่างที่จะเข้าไปปรับปรุงสนามแข่งต่อ กูก็แค่รอตรวจงาน ไม่วุ่นวายอะไรแล้ว สามารถเอาเวลามาเสือกเรื่องเพื่อนได้เต็มที่ครับ” นนตอบด้วยความมั่นใจ “ก็จบแล้วไงเมื่อกี้ มึงจะเสือกอะไรต่ออีก” เตยิ้มถาม “ไอ้เชี่ยนั่นไม่ใช่เพื่อนกู เรื่องมันจบ แต่เรื่องของเพื่อนกูที่นั่งอยู่ตรงหน้ากู มันกำลังจะเริ่ม กูเริ่มเชื่อตามไอ้ก้าวแล้วนะ ว่าน้องซินคนนี้ต้องเป็นเนื้อคู่มึงแน่นอน” นนยืนยันอีกครั้ง “จำชื่อเก่งนะ น้องเค้าจะมาเป็นเนื้อคู่กูได้ยังไง พวกมึงแม่งเพ้อเจ้อ กินข้าวไปเลยมึง” เตตัดบท แต่ก็ยังแอบมองออกไปด้านหน้าร้าน แม้ตอนนี้ซินจะขึ้นรถไปแล้ว แต่ในหัวของเตก็ยังคงมีภาพของซินติดตาอยู่ หลังจากกินข้าวเสร็จ เตและนนก็พากันขับรถมานั่งรอก้าวในห้องทำงานของก้าวที่บริษัท โดยไม่ได้บอกกล่าวเจ้าของห้องก่อนด้วยซ้ำ แต่มันก็เป็นการกระทำที่ทั้งก้าวและเลขาของก้าวกลับคุ้นชินไปแล้ว “แห่กันมาทำไม ไม่มีงานมีการทำกันรึไง ทำไมพวกมึงดูว่างได้ตลอดเวลาขนาดนี้วะ” เจ้าของห้องที่เพิ่งประชุมเสร็จ เอ่ยทักเพื่อนเมื่อเห็นทั้งสองคนนั่งกดโทรศัพท์กันอยู่บนโซฟา “งานก็มี แต่ไม่ได้ต้องทำทุกวันเหมือนมึง ส่วนไอ้นนไม่ต้องถามมัน มันทำงานได้ทุกที่แหละ” เตตอบ “กูตั้งใจมาเม้ามอยเรื่องเพี่อนให้มึงฟังโดยเฉพาะเลยไอ้ก้าว กูไปเจอสาวน้อยคนนั้นมาแล้ววันนี้ สวยมาก เก่งมาก เป็นถึงนักบินเชียวนะเว้ย เพื่อนมึงโคตรตาถึงเลย” นนเก็บโทรศัพท์และเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดที่ไปเจอมาวันนี้ให้ก้าวฟัง “สรุป ไอ้เตจะเข้าไปดามใจน้องซินหรอ” ก้าวหันมายิ้มถามเพื่อน “เดี๋ยวไอ้ก้าว มึงก็เป็นไปกับมันด้วยหรอ กูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยนะ แค่บังเอิญได้เจอกันครั้งสองครั้งแค่นั้นเองนะเว้ย” เตตอบ “มึงจะมาโน้มน้าวอะไรคนแบบกูวะ กูเชื่อตั้งแต่อาทิตย์ก่อนที่มึงมาเล่าแล้วว่า ผู้หญิงคนนี้กับมึงมีบางอย่างที่ดึงดูดกันอยู่ และกูก็ยังคงเชื่อแบบนั้น มึงเชื่อกูนะเต ถ้าเจออีกครั้งจีบเลย” ก้าวยืนยันอีกครั้ง “เนี่ย!! ไอ้ก้าวคิดเหมือนกูเลย กูก็พูดแบบนี้เหมือนกัน” ก้าวหันไปพยักหน้าเห็นด้วยกับนน “กูคงไม่ได้เจอแล้วแหละมึง ก่อนหน้านี้กูไม่เคยเจอเค้าที่ร้านนั้นเลยด้วยซ้ำนะ แถมไอ้สองครั้งที่เจอก็เจอพร้อมไอ้เกื้อ กูว่าคงไม่มีครั้งต่อไปแล้วแน่ ๆ” เตแย้ง “เอางี้ ถ้ามึงเจออีกห้ามปิดพวกกู ไม่ว่าจะที่ไหนยังไง บังเอิญหรือจงใจ มึงต้องบอกพวกกู ถ้ามึงไม่บอกแสดงว่ามึงไม่เห็นพวกกูเป็นเพื่อน” นนเอ่ยต่อ “เอ้า!! พาลอะไรของมึงครับ” เตถามงง ๆ “เออ ๆ ถ้าได้เจออีกกูจะบอก โอเคมั้ยครับ” นนพยักหน้ายิ้ม “กูขอให้มึงได้เจอแต่น้องซินของมึงแล้วกันนะ อย่าเจอไอ้เชี่ยเกื้อด้วยอีกคน เดี๋ยวเรื่องหัวใจจะกลายเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทไปแทน” ก้าวอวยพร “แต่ดูจากวันนี้ไอ้เกื้อมันก็ไม่ได้ดูจะรู้สึกเสียใจที่เลิกกับน้องเค้าเท่าไหร่นะ มันคงไม่ตามมาง้อหรอก คนเชี่ย ๆ แบบมันคงมีผู้หญิงรอต่อคิวอีกเป็นขบวน” เตเอ่ยต่อ “ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ดี กูไม่อยากให้มึงต้องเข้าไปวุ่นวายกับมันเท่าไหร่ อีกอย่างครั้งนี้เป็นอดีตแฟนมัน กูว่าปัญหามันจะยิ่งเยอะ” ก้าวตอบ “แต่น้องซินไม่กลับไปหาไอ้เกื้ออีกแน่ ๆ นะ กูมั่นใจ เพราะจากที่ฟังวันนี้ น้องไม่ได้เสียใจที่ต้องเลิกกับมันเลยด้วยซ้ำ น้องคงไม่กลับไปหามันอีกหรอก” นนแสดงความเห็น “คำก็น้อง สองคำก็น้องนะ พูดเหมือนรู้จักน้องเค้าดีงั้นแหละ” เตยิ้มถาม “เดี๋ยวก็ได้รู้จัก เพราะน้องซินน่าจะมาเป็นแฟนเพื่อนกูในอนาคต จริงมั้ยเพื่อน” นนและก้าวยักคิ้วส่งให้กัน “พวกมึงแม่งปักใจอะไรกันขนาดนั้นวะ” เตส่ายหน้าหัวเราะ “เดี๋ยวก็รู้ กูจะไปรับน้องแล้วนะ วันนี้พวกมึงจะนอนบ้านกูมั้ย หรือจะกลับบ้านครับ” ก้าวลุกขึ้นเตรียมตัวออกจากบริษัทเพื่อไปรับดิวกลับบ้าน “คืนนี้กูน่าจะค้างคอนโดว่ะ ไว้เสาร์-อาทิตย์ค่อยกลับบ้าน กูไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อกูไม่ย้ายบ้านมาอยู่ใกล้บริษัทหน่อย ถ้านอนบ้านแล้วต้องมาทำงานตอนเช้านะ ตีห้าตื่นยังไม่รู้จะทันมั้ยเลย” เตบ่น “ไป ๆ แยกย้ายครับ วันนี้กูกลับบ้าน ช่วงนี้เงินออกจากบัญชีเยอะ ต้องกลับไปเลียแข้งเลียขาพ่อกับแม่หน่อย” เตและก้าวหัวเราะนน ก่อนจะพากันเดินออกจากห้องทำงานก้าวแล้วแยกย้ายกันกลับบ้านไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD