CHAPTER 3 “อดีตเพื่อนรัก”

3442 Words
เตขับรถเข้ามาจอดด้านในบ้านของก้าว เมื่อเห็นรถของเพื่อนทั้งสองคนจอดอยู่ในโรงจอดรถก่อนแล้ว ทำให้เตรู้ได้ทันทีว่า ตอนนี้เพื่อนทั้งสองคนอยู่ด้านในบ้านแล้วเรียบร้อย บ้านหลังนี้เป็นบ้านของก้าว เพื่อนสนิทของเต ที่เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน ก้าวอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับดิวแฟนสาวตัวเล็กที่เป็นสถาปนิกหัวหน้าทีมออกแบบบ้านหลังนี้ เต นนและก้าว ทั้งสามคนสนิทกันตอนเข้าเรียนมหาลัย เมื่อก่อนกลุ่มของพวกเค้าจะมีเกื้ออีกคน แต่หลังจากที่เตและเกื้อมีปัญหากัน พวกเค้าทั้งสามคนก็ไม่กลับไปคุยกับเกื้ออีกเลย พวกเค้ามีสิ่งที่คล้ายกันหลายอย่าง นอกจากความจริงจังในการทำงานแล้ว ก็คือพวกเค้าเป็นลูกชายคนเดียวเหมือนกันทั้งหมด ก้าวรับช่วงต่อบริษัทจิวเวอร์รี่ต่อจากพ่อ ส่วนของนนเองก็รับช่วงต่อบริษัทดูแลเกี่ยวกับระบบไอทีต่อจากพ่อ และเค้าก็เข้าไปรับช่วงต่อบริษัทอสังหาฯ ของพ่อเช่นกัน หลังจากพ่อของก้าวเสียไปได้ 1 ปี ก้าวก็ตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่ และทำห้องนอนสำหรับเตและนนไว้ เพื่อให้พวกเค้าได้มาพักอยู่ด้วย โดยที่ไม่รู้เลยว่าบ้านหลังนี้จะกลายเป็นเรือนหอของตัวเองในที่สุด เตและนนมานอนที่บ้านก้าวบ้างเป็นครั้งคราว ในบางช่วงที่พวกเค้ามีนัดสังสรรค์กัน จากที่เมื่อก่อนออกไปดื่มกันข้างนอก ตอนนี้ก็เปลี่ยนมาดื่มที่บ้านของก้าวแทน เรียกได้ว่าบ้านของก้าวเป็นฐานทัพหลักของพวกเค้าเลยก็ว่าได้ “สวัสดีค่ะพี่เต พี่ก้าวกับพี่นนอยู่หลังบ้านนะคะ ตามสบายเลย” ดิวที่กำลังง่วนกับการเตรียมอาหารเบา ๆ อยู่ในห้องครัวเอ่ยทักเมื่อเห็นเตเดินเข้ามาด้านในบ้าน “วันนี้กลับกันเร็วจัง ไอ้ก้าวมันไม่มีงานหรอครับ” เตเอ่ยถามดิวกลับ “รายนั้นนะ เลิกงานไปนั่งเฝ้าดิวที่บริษัทตั้งแต่บ่ายสามแล้วค่ะ รู้สึกช่วงนี้งานพี่ก้าวไม่ค่อยยุ่งเลยค่ะ เวลาว่างเยอะเชียว” ดิวนินทาก้าวให้เตฟัง “นินทาอะไรพี่ตัวเล็ก” ก้าวที่เดินเข้ามาหาดิวในบ้านเอ่ยถาม “ไปดูเพื่อนมึงหน่อยมั้ยไอ้เต นั่งบ่นงุ้งงิ้ง ๆ กูปวดหู” ดิวหัวเราะกับคำบ่นของก้าว เพราะแม้ก้าวจะบ่นเพื่อนแต่ก็นั่งฟังมาตั้งแต่กลับถึงบ้านแล้ว “เป็นอะไรของมันอีก” เตส่ายหน้าถาม ก่อนจะออกไปหาเพื่อนด้านหลังบ้าน โดยมีก้าวช่วยดิวถืออาหารตามมาด้านหลัง “ไอ้เตเพื่อนรัก ช่วยกูด้วย” เตถอยหลังหนีเมื่อนนเตรียมพุ่งเข้ามาหาทันทีที่เห็นหน้าเค้า “เป็นเชี่ยอะไรของมึงเนี่ย นั่งดีดีเลย ค่อย ๆ เล่า” เตใช้นิ้วดันไหล่เพื่อนให้นั่งลงที่เดิม ส่วนก้าวได้แต่นั่งขำเพื่อนอยู่ข้าง ๆ เพราะก่อนหน้านี้เค้าก็เพิ่งเจออาการนี้ของนนมาเช่นกัน “พ่อกูอ่ะดิ เมื่อตอนกลางวันไปกินข้าวด้วยกันมา พ่อบอกว่าถ้ากูไม่มีแฟนและแต่งงานภายใน 1 ปี พ่อจะหาแฟนให้เอง และถ้าไม่ยอมแต่งกับผู้หญิงที่พ่อหาให้ พ่อจะยึดบริษัทคืน ไม่ให้กูทำต่อแล้ว แล้วก็ไม่ให้เงินเดือนกูแล้วด้วย” นนบ่นให้เพื่อนฟังอีกรอบ “โถ...งอแงเหมือนทุกวันนี้แม่งทำงาน เงินเดือนมึงเนี่ยถึงไม่ได้มึงก็ไม่สะท้านมั้ย เงินในบัญชีที่นอนกองอยู่ก็ใช้ไม่หมดแล้วมั้งชาตินี้ ทำมาบ่น” เตเบะปากตอบเพื่อนกลับ “เอาจริง ๆ มึงก็แค่หาแฟนมะ ดูกูเป็นตัวอย่าง มีแฟนมันดีเชื่อกูดิ” ก้าวหันไปดึงดิวเข้ามากอดโชว์เพื่อน “หมั่นไส้!!” นนหันไปแลบลิ้นให้ก้าว “ถ้าแฟนมันหาง่าย กูคงมีไปนานและป่ะ ขนาดไอ้เตตั้งแต่เกิดเรื่องตอนนั้น มันก็ยังไม่มีแฟนอีกเลย” ก้าวยกขาถีบนน เมื่อเห็นว่าอยู่ดีดีเพื่อนก็เริ่มจุดชนวนอดีตของเตขึ้น “ถีบกูทำไมเล่า น้องดิวดูมันนะ ชอบใช้ความรุนแรงกับเพื่อน” นนหันไปฟ้องดิว “เอาน่า กูก็ไม่ได้คิดอะไรแล้ว ก็แค่เรื่องในอดีต” เตหัวเราะ “วันนี้กูก็เพิ่งได้เจอมัน” ก้าวและนนผุดนั่งหลังตรงหันมองหน้าเตพร้อมกันทันที “เอ่อ...ดิวเข้าไปเตรียมอาหารเย็นนะคะ พี่ ๆ คุยกันตามสบาย มีอะไรเรียกดิวนะคะพี่ก้าว” ดิวยิ้ม ก่อนจะขอตัวเข้าบ้านไป เพื่อให้หนุ่ม ๆ คุยกันได้สะดวก “เจอกันได้ยังไงวะ มีเรื่องกันรึเปล่า” เตส่ายหน้าตอบก้าว “มันคงไม่ได้สังเกตเห็นกู แค่เดินผ่านไป พอดีกูได้ยินบทสนทนาของคนที่นั่งอยู่ข้างหลังก่อนแล้ว ว่ามันจะมาเลยใส่แว่นดำกันไว้ กูยังไม่อยากเจอว่ะ” เตตอบก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ร้านกาแฟให้เพื่อนทั้งสองคนฟัง “ไอ้นี่แม่งเลวไม่เปลี่ยน เมื่อก่อนเลวยังไง โตมาก็ยังเลวไม่เปลี่ยนแปลงเลย” นนเอ่ยเมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมด เตกับเกื้อเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย และสอบเข้ามหาลัยได้ที่เดียวกัน จนเมื่อเข้ามาเรียนทั้งสองคนถึงได้มาสนิทกับก้าวและนน เรื่องขัดแย้งของทั้งคู่เกิดขึ้นตอนช่วงที่ก้าวเป็นตัวแทนของคณะไปประกวดเดือนมหาลัย พวกเค้าพากันไปอยู่เป็นเพื่อนก้าวตอนซ้อมบ่อย ๆ จนเตได้เจอกับ กุ๊ก ดาวคณะอักษรฯ เตเริ่มต้นเดินหน้าจีบกุ๊กโดยมีเพื่อน ๆ เป็นกำลังสำคัญที่คอยช่วยยุช่วยเชียร์ ไม่พ้นแม้แต่เกื้อ ที่คอยแซวเตกับกุ๊กอยู่ตลอด หลังจากการประกวดจบลง เตตัดสินใจที่จะขอคบกับกุ๊ก เค้าวางแผนเตรียมเซอร์ไพรส์อย่างดี โดยมีเกื้อเป็นหัวเรือใหญ่ในการจองร้านอาหารและจัดสถานที่ในการทำเซอร์ไพรส์ครั้งนั้นให้ เมื่อเตเดินทางไปถึงที่ร้าน พร้อมกับช่อดอกไม้ที่ตั้งใจเลือกมาอย่างดีในมือ เค้าก็เร่งฝีเท้าเดินตรงไปยังโซนที่นัดแนะกับเพื่อน ๆ ไว้ทันที กุ๊กนางเอกของงานในวันนี้กำลังนั่งรออยู่ที่โต๊ะคนเดียว ส่วนเกื้อ ก้าวและนน ทั้งสามคนกำลังเดินเข้ามาหาเตที่เพิ่งเดินเข้ามาถึงโซนด้านใน และในที่สุดเรื่องที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในขณะที่เตยืนรวบรวมความกล้าอยู่ตรงนั้น เกื้อก็เดินยิ้มเข้ามาหา พร้อมกับหยิบช่อดอกไม้ออกไปจากมือเต แล้วเดินตรงเข้าไปหากุ๊กที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ท่ามกลางความตกใจและความสับสนมึนงงของเพื่อน ๆ ทั้งสามคน ‘กุ๊ก...ตลอดเวลาที่ผ่านมา เกื้อแอบชอบกุ๊กมาตลอด แต่เพราะเพื่อนสนิทเกื้ออย่างเตมันก็ชอบกุ๊กเหมือนกัน เกื้อเลยไม่อยากแสดงตัวให้เพื่อนต้องเสียหน้า แต่วันนี้เกื้อไม่อยากรอแล้ว กุ๊กเปิดโอกาสให้เกื้อได้มั้ย เราลองคบกันได้มั้ยครับ เกื้อชอบกุ๊กมากนะ’ นั่นคือสิ่งที่เกื้อเดินเข้าไปพูดกับกุ๊ก และเกื้อก็ได้รับโอกาสนั้นทันที เตยืนหน้าชาตัวชาอยู่ที่เดิม โดยมีก้าวและนนยืนมองด้วยความเป็นห่วงอยู่ข้าง ๆ เกื้อไม่ได้กลับออกมาหาเพื่อน ๆ อีก ทั้งสองคนนั่งกินข้าวด้วยกันที่โต๊ะอย่างมีความสุข ในขณะที่เตต้องผิดหวังกับเพื่อนรัก และผู้หญิงที่เค้ามอบหัวใจให้ไป ตลอดเวลาที่คุยกัน กุ๊กเองก็เหมือนมีใจให้เต เพื่อน ๆ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งคู่ใจตรงกัน และในเมื่อต่างฝ่ายต่างชอบกัน เตถึงกล้าที่จะขอกุ๊กคบในวันนี้ แต่ทุกอย่างมันกลับผิดความคาดหมายไปหมด ‘มึงทำแบบนี้กับเพื่อนมึงได้ยังไง มึงก็รู้ว่าไอ้เตชอบกุ๊ก มึงเองก็เป็นตัวตั้งตัวตีจัดเซอร์ไพรส์ครั้งนี้เอง มึงทำกับคนที่มึงเรียกว่าเพื่อนแบบนี้ได้ยังไง’ นนเดินเข้าไปถามเกื้อที่มหาลัยในวันถัดมา ‘ของแบบนี้ มันต้องให้ผู้หญิงเค้าเลือกรึเปล่าวะ ในเมื่อกุ๊กเลือกกู มึงก็ต้องยอมรับให้ได้’ เกื้อหันมาพูดกับเต ‘ที่ผ่านมา มึงก็มีผู้หญิงเยอะแยะอยู่ข้างตัวมึง มึงไม่เคยแสดงออกว่าชอบกุ๊กเลยซักครั้ง แล้วมึงก็รู้ว่ากูชอบ มึงทำแบบนี้กับกูได้ยังไงวะ’ เตถามเกื้อออกไป ‘มึงฟังกูนะ งานเมื่อวานกูตั้งใจจัด เพราะกูคิดแล้วว่ากูจะขอกุ๊กคบ แต่ถ้าเมื่อวานกุ๊กปฏิเสธกู กูก็จะถอยให้มึงอยู่นะ แต่พอดีเค้าไม่ปฏิเสธกูว่ะ’ เกื้อยกยิ้มอย่างผู้ชนะ ‘อย่ามึง!!’ เตรั้งแขนก้าวที่จะพุ่งเข้าไปต่อยเกื้อไว้ ‘คนอย่างมันไม่คู่ควรให้มึงแลก ในเมื่อมันทำกับกูแบบนี้ มันก็ไม่ใช่เพื่อนกูอีก ต่างคนต่างอยู่ กูจะลืมว่าที่ผ่านมากูเคยเห็นมันเป็นเพื่อนคนนึง’ เตเดินหนีออกมาจากจุดนั้น โดยมีก้าวและนนวิ่งตามหลังมาติด ๆ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เตก็ไม่ได้สนใจที่จะติดตามข่าวของทั้งสองคนอีก จนวันนึงที่เตได้รับโทรศัพท์จากกุ๊ก เพื่อขอนัดไปเจอ เตไปตามนัดของกุ๊ก แต่เค้าไม่อยากมีปัญหากับเกื้อ จึงตัดสินใจพาก้าวและนนไปพร้อมกัน กุ๊กเอ่ยขอโอกาสจากเตอีกครั้ง เธอบอกว่าระหว่างเธอกับเกื้อจบกันแล้ว เกื้อกับกุ๊ก คบกันได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เลิกกัน เพราะนิสัยเจ้าชู้ของเกื้อทำให้กุ๊กทนคบต่อไปไม่ได้ เตได้แต่ยกยิ้มให้กับเรื่องราวของทั้งคู่ ผู้หญิงตรงหน้าใจกล้ามาก ที่กล้าเดินกลับมาหาเค้าหลังจากทิ้งเค้าไปคบกับอดีตเพื่อนสนิทของเค้าเอง เตปฏิเสธกุ๊กกลับไปอย่างไร้เยื่อใย พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า ‘ไม่ต้องติดต่อมาอีก’ เตบล็อกทุกช่องทางการติดต่อระหว่างเค้ากับผู้หญิงคนนั้น รวมถึงอดีตเพื่อนรักอย่างเกื้อก็เช่นกัน “ไปทำบุญมั้ย กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้มันหน่อย ทำไมกูรู้สึกว่ามึงกับมันต้องมาพัวพันกันอีกวะ” ก้าวเอ่ย “เดี๋ยวนะ กูจะไปพัวพันอะไรกับมัน ไม่เห็นมีอะไรให้เข้าไปเกี่ยวกันเลย” เตหัวเราะถามเพื่อน “ไม่รู้ ความรู้สึกกูมันบอก อาจจะเกี่ยวกับผู้หญิงที่เป็นแฟนของมันก็ได้ป่ะ” ก้าวแสดงความเห็น “แต่ไอ้เตไม่รู้จักเค้านะมึง จะไปเกี่ยวกันได้ยังไงวะ” นนเองก็สงสัย “เอ้า!! ก็กูบอกอยู่ว่ามันเป็นความรู้สึก มึงจะมาถามเอาอะไรเนี่ย กูแค่คาดเดาจากความรู้สึก มึงเข้าใจมั้ย กูไม่ได้รู้อนาคตนะเว้ย อีกอย่างมึงคิดตามกู คนอย่างไอ้เต ที่ไม่สนใจใคร อยู่ ๆ ดันเสือกไปสนใจเรื่องที่คนสองคนคุยกันในร้านกาแฟ จนบังเอิญได้เจออดีตเพื่อนเก่า กูว่ากูมีลางสังหรณ์แปลก ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้” ก้าวอธิบายสิ่งที่รู้สึก “หรือผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเนื้อคู่ของไอ้เต” นนหันมาจ้องหน้าเตทันทีที่พูดจบ “เพ้อเจ้อแล้วเพื่อน มึงคงหลอนที่พ่อมึงอยากให้แต่งงานจนเกินไป อย่าเอากูเข้าไปอยู่ในวังวนเดียวกับมึง กูเองก็เริ่มหลอน ๆ แล้วเหมือนกัน เมื่อกี้ตอนออกจากบริษัท แม่ก็บอกว่าถ้าไม่ชอบกลับบ้านก็ให้มีหลานไปให้แม่เลี้ยงแก้เหงาแทนเนี่ย” เตเล่าให้เพื่อนฟัง “กูว่า ลองคิดดูก็ดีนะ มึงกับเค้าอาจจะมีบางอย่างที่ดึงดูดกันอยู่ ถ้ามึงกับเค้าได้เจอกันอีกนะ กูว่ามึงกับเค้าอาจจะเป็นเนื้อคู่กันจริง ๆ ก็ได้นะเว้ย” นนเริ่มยุเพื่อนต่อ “แล้วทำไมเรื่องมึง กลายมาเป็นเรื่องกูได้วะ เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว แล้วเรื่องมึงนี่เอาไง จะหาเมียตามที่พ่อบอกมั้ย หรือจะให้พ่อหาให้” เตเปลี่ยนเรื่องกลับมาที่เรื่องของนน “ไม่!! กูจะไม่ขวนขวาย กูอยากเจอเนื้อคู่จริง ๆ ถ้ามันยังไม่ถึงเวลา กูจะไม่เอาใครที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นเมียเด็ดขาด!!” นนยืนยันเสียงแข็ง “แล้วถ้าพ่อมึงยึดบริษัท ตัดเงินเดือนล่ะ มึงจะทำยังไง แค่ทุกวันนี้มีบริษัทให้บริหารมึงยังว่างได้ขนาดนี้ ถ้าไม่มีบริษัทอีกนี่ มึงไม่นอนเปื่อยติดเตียงตายเลยรึไง” ก้าวหัวเราะถาม “ไอ้ก้าวพูดมาแบบนี้ก็ดีเลย กูมีธุรกิจมานำเสนอพวกมึง” เตเอ่ยแทรกขึ้น “และกูคิดว่างานนี้ไอ้นนเอาด้วยแน่นอน กูนึกถึงมันคนแรกเลยตอนที่ลูกค้ากูติดต่อมา” เตส่งยิ้มให้เพื่อนทั้งสองคน “ตอนนี้กูมีลางสังหรณ์ว่ากูจะเสียเงิน” ก้าวหัวเราะ “เมื่อไหร่มึงจะเลิกเอาทรัพย์สินของลูกค้าบริษัทมึงมาขายพวกกูซักทีครับ นอกจากที่ดินตรงนี้ พวกกูเคยซื้ออะไรมั้ย เหนื่อยเปล่า ๆ นะเพื่อนนะ” ก้าวและนนพากันหัวเราะ ส่วนเตก็ได้แต่ยิ้มตอบ “แต่ทรัพย์สินนี้ กูว่ามึงอยากได้ แต่ถ้ามึงจะพูดขนาดนี้ไม่ต้องมาขอร้องให้พวกกูช่วยหารทีหลังนะ นี่กูอุส่าต่อราคามาให้มึงโดยเฉพาะเลย” เตยักคิ้วตอบ “อะไร!! ไหนว่ามาเลยว่าทรัพย์สินที่ว่าคืออะไร เผื่อเงินในบัญชีกูจะลอยไปเข้าบริษัทมึง” นนท้าทาย “เดี๋ยว!! ก่อนจะถามว่าคืออะไร กูต้องถามก่อนว่าเท่าไหร่ กูว่าถ้าไอ้เตพูดมาขนาดนี้เงินในบัญชีกูก็ต้องสั่นตามพวกมึงแน่นอน” ก้าวเอ่ยแทรกขึ้น “200 ล้าน” ก้าวแทบสำลักเบียร์ที่กำลังกระดกเข้าปากอยู่ ในขณะที่นนนั่งนิ่งอ้าปากค้างไปแล้ว “ไอ้เชี่ยเต หาร 3 ยังคนละ 70 ล้าน มันคือเชี่ยอะไรเนี่ย ตัวกูเบานำเงินในบัญชีไปแล้วนะ” ก้าวร้องถาม “สนามแข่งรถ” เตเฉลยคำตอบ พร้อมกับโยนซองเอกสารที่ถือติดมือมาลงบนโต๊ะ แล้วนั่งยิ้มมองนนที่รีบคว้าซองเอกสารนั้นไปดูเป็นคนแรก “ฮือออออ เพื่อนเต กูซื้อ ๆ” ก้าวและเตหันมองหน้ากันยิ้ม ๆ ทันทีที่ได้ยินคำตอบจากนน เพราะพวกเค้ารู้ดีว่าเพื่อนเค้าอยากมีสนามแข่งรถเป็นของตัวเองมาตลอด “ไหนเอามาดูดิ๊ สนามใหญ่พอให้เพื่อนมึงเหยียบมั้ยเนี่ยไอ้เต ราคานี้เนี่ย” ก้าวแย่งเอกสารในมือนนไปดู “ก็แข่งรายการเล็ก ๆ ได้เลย ใหญ่พอตัว แต่กูต่อราคามาให้ไอ้นนโดยเฉพาะ” เตยกยิ้มตอบ “มึง...ทำไมเค้าขายวะ สนามนี้กูเคยไปขับ ถึงสถานที่จะเก่าไปนิด ที่ทุกอย่างได้มาตรฐานเลยนะเว้ย แถมยังขายราคาแค่นี้อีก หรือมีเหตุอะไรน่ากลัวในนี้รึเปล่า” นนถาม “ไม่หรอก คุณพีระเค้าอายุเยอะแล้วทำต่อไม่ไหว ไม่มีลูกหลานดูต่อให้ เลยตัดสินใจขาย จริง ๆ เค้าให้กูประกาศขายที่ 455 ล้าน รวมกำไรที่บริษัทกูจะได้แล้วด้วย” ก้าวและนนหันมองหน้าเพื่อนด้วยความตกใจอีกครั้ง เมื่อได้ยินราคาที่เพื่อนบอก “มึงต่อราคาเค้ายังไง ถึงได้ราคา 200 ล้านมาวะ เป็นกูนี่พับโฉนดเดินหนีออกจากบริษัทมึงแล้วนะ ถ้ามึงต่อราคากูขนาดนี้เนี่ย” ก้าวถาม “จากที่กูส่งคนเข้าไปประเมิน ราคาทรัพย์สินมันก็ 250++ แหละ แต่กูก็ดึงดราม่าทำเป็นไม่สนใจสนามแข่งนี้นิดหน่อย คุณพีระเค้าอยากขาย อายุขนาดนี้ไม่มีลูกมีหลาน แค่ได้ลดภาระตัวเอง รับเงิน 200 ล้านไปใช้ชีวิตบั้นปลายสบาย ๆ ยังไงเค้าก็ต้องยอมขาดทุน ดีกว่าตั้งราคาสูง ๆ หวังเอากำไร แต่สุดท้ายก็ขายไม่ได้ อีกอย่างนี่สนามแข่งรถนะมึงมันไม่ใช่บ้านหรือคอนโดหรือที่ดิน ที่มันจะซื้อขายกันง่าย ๆ บริษัทอื่นเค้าไม่รับงานนี้ด้วยซ้ำ คุณพีระเค้าประกาศขายเองมาเป็นปีแล้วก็ขายไม่ได้ ถึงต้องมาขอให้กูช่วย ไอ้ส่วน 200 ล้านเนี่ย กูให้เค้าเต็ม ๆ เลย กูไม่ได้เอากำไรเข้าบริษัท ไม่งั้นราคามันก็ต้องบวกขึ้นมากกว่านี้ไปอีก” เตอธิบาย “เพื่อนเต มึงแม่งรู้ใจกูจริง ๆ ถ้ากูมีสนามแข่งในมือนะ ถึงพ่อกูจะยึดบริษัทคืน กูก็เปิดสนามให้เช่าหาเงินต่อชีวิตได้ แต่พวกมึงจะยอมลงทุนกับกูหรอ นี่มันความชอบส่วนตัวของกูนะ จะทำกำไรได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย” นนยิ้มถามเตและก้าว “งั้นมึงขายแผนธุรกิจพวกกูมาหน่อย จะได้ตัดสินใจว่าจะลงทุนด้วยดีมั้ย” ก้าวยิ้มถาม “อ่ะ...กูยังไม่ได้คิดไว้ ตอนนี้คิดไม่ทันหรอก เพื่อนเตช่วยด้วย” นนหันไปขอความช่วยเหลือจากเต “เมื่อกี้ยังว่ากูเอาทรัพย์สินมาเร่ขายเพื่อนอยู่เลย ตอนนี้อยากให้กูช่วยหรอครับ” เตยักคิ้วตอบกวน ๆ “ทำไมพวกมึงร้ายกับกู นี่มันสิ่งที่กูรักเลยนะ กูวางเลยตอนนี้เลย 100 นึง ที่เหลือมึงหารกันสองคน เชื่อมือกู มันต้องได้กำไรและคืนทุนในซักวัน” ก้าวและเตพากันหัวเราะ “ไอ้นน มึงไม่มีอะไรในหัวเลยซักอย่าง แต่มึงจะหากำไรมาคืนทุนพวกกูเนี่ยนะ พวกกูต้องลงคนละ 50++ แน่ ๆ มึงคิดว่ามันจะคืนทุนในอีกกี่สิบปีครับ” ก้าวหัวเราะถาม “มึง...ถ้าเงินกูเทออกจากบัญชีทีเดียว 200 ล้านเพื่อซื้อสนามแข่งรถ พ่อกูตามมาฆ่ากูแน่ ๆ งั้นกูยืมเดี๋ยวกูคืน ดีลเถอะ กูพร้อมโอนเลยตอนนี้” นนยื่นข้อเสนอ “เพื่อนกันน่ามึง ถึงจะไม่รู้ว่าจะคืนทุนเมื่อไหร่ กูก็ลงทุนให้มึงได้” เตยกยิ้มตอบ “นั่นสิ ราคานี้ก็พอ ๆ กับบ้านกูเนี่ย แค่นี้กูให้เพื่อนได้ เพื่อความสุขของเพื่อน สบายมาก” ก้าวยกแก้วมาชนกับแก้วของนนที่วางอยู่บนโต๊ะพร้อมรอยยิ้ม “เพื่อนกูน่ารักทั้งสองคนเลย พรุ่งนี้กูเข้าไปหามึงที่บริษัทนะ พร้อมเปย์มากตอนนี้ เฮ้ย ๆ เดี๋ยวกูมา โทรหาทีมช่างก่อน ปีหน้ากูจะส่งทีมแข่ง ขับเองแม่งเลย” นนลุกออกไปโทรศัพท์ด้วยความตื่นเต้น ส่วนก้าวและเตก็ได้แต่นั่งมองตามหลังเพื่อนขำ ๆ “ตามใจมันเก่งนะมึงเนี่ย” ก้าวส่งยิ้มให้เต “กูรู้ว่ามันชอบแข่งรถ แล้วกูก็เชื่อว่ามันจะทำได้ดี ไหน ๆ โอกาสก็ลอยมาแล้ว ร่วมเป็นเจ้าของสนามแข่งเพื่อเพื่อนนิดหน่อย กูว่ามันก็โอเคนะ” เตหัวเราะตอบ “กูขออะไรมึงอย่างดิ” เตหันมามองหน้าก้าว เพื่อรอฟังสิ่งที่เพื่อนจะพูด “ถ้ามีเรื่องอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นหรือเกี่ยวกับไอ้เกื้ออีก มึงต้องบอกพวกกู อย่าเก็บไว้คนเดียวหรือเผชิญหน้าสู้กับมันคนเดียวโดยไม่มีพวกกูนะ” ก้าวเอ่ย “นี่มึงคิดว่ากูจะไปแย่งผู้หญิงคนนั้นจากไอ้เกื้อมาเพื่อเอาคืนมันรึไง” เตหัวเราะถาม “กูรู้ว่ามึงไม่ทำแบบนั้นหรอก นิสัยมึงไม่ใช่คนที่จะเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงเพื่อแก้แค้น แต่กูรู้สึกจริง ๆ นะ ว่ามึงกับผู้หญิงคนนั้นต้องมีอะไรให้กลับมาพัวพันกันอีก กูแค่อยากให้มึงระวังตัว” ก้าวเตือน “ขอบใจนะมึง กูจะระวัง กูจะคิดให้ดีก่อนตัดสินใจลงมือทำอะไร ไม่ต้องห่วง ยังไงมึงสองคนก็คือเพื่อนรักกู กูไม่เคยปิดบังอะไรมึงอยู่แล้ว” เตยิ้มตอบ ก่อนทั้งสองคนจะยกแก้วชนกันด้วยรอยยิ้ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD