2

1548 Words
“รินเหล้าให้พี่บ้างสิจ๊ะ” สารภีรีบทำตามอย่างว่าง่าย เธอคิดแค่เรื่องเงินจริง ๆ แต่สายตาก็เหลือบมองสิงห์เป็นระยะ ๆ เขาไม่ได้ว่าอะไรและทำท่าเหมือนจะเปิดทางให้เพื่อน ๆ ของตัวเองอีกด้วย เป็นอีกครั้งที่สารภีรู้สึกวูบโหวงในอก บางครั้งเธอยิ้มกับผู้ชายคนอื่นก็อยากให้เขาหึงหวงบ้าง แต่ก็เปล่าเลยเขาไม่เคยสนใจและมักผลักไสเธอให้คนอื่น สารภีประชดโดยการเอาอกเอาใจเพื่อน ๆ ทุกคนของสิงห์ แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือความเฉยเมย “เฮ้ย! สิงห์ คืนนี้ขอหนูกล้วยไปนอนกกกอดหน่อยนะ ท่าทางจะร้อนเงิน” สารภีชะงักเท้าเมื่อเดินกลับออกมาจากห้องน้ำ เธอลุ้นใจจดจ่อว่าสิงห์จะพูดอะไร เขาจะหวงเธอบ้างไหม แต่สิ่งที่ได้ยินได้ฟังทำเอาหัวใจดวงน้อยหล่นวูบไปอยู่ที่ถึงตาตุ่ม “ต่อรองราคาดูสิ ถ้าเธอยอมก็เอาเลย” สาวน้อยเงยหน้าขึ้นให้น้ำตามันย้อนกลับเข้าไปในดวงกลมโตเศร้าสร้อยไร้แววสดใสเหมือนเด็กสาววัยเดียวกัน  “น้องกล้วยมาพอดีเลย มามะมานั่งบนตักพี่โชติ” โชติหันไปเห็นเด็กสาวเข้าพอดีจึงรีบตบหน้าตักของอีกฝ่าย “มานั่งตักพี่ให้สามร้อยเลยเอา” โชติควักเงินออกมา สารภีมองอย่างชั่งใจ เธอกัดปากตัวเองเบา ๆ แต่ในระหว่างที่กำลังคิดโชติก็ดึงเธอไปนั่งตักได้สำเร็จ “อุ๊ย!” สารภีดิ้นหนีเล็กน้อย เธอไม่ชอบให้ผู้ชายคนอื่นถูกเนื้อต้องตัวนักหรอก นอกจากสิงห์จะไม่ช่วยแล้ว เขายังเอ่ยขอตัวไปห้องน้ำหน้าตาเฉย      ปล่อยให้เธออยู่กับเพื่อนของเขา “ตัวหอม ตัวอวบน่าเอาจัง” โชติลวนลามสารภีเพราะเริ่มเมา เขาล้วงควักขยำขยี้ เธอเริ่มดิ้นหนี คนอื่น ๆ ก็โห่แซวกันใหญ่ “ไปกับพวกพี่สี่คนให้เลยหมื่นนึงเอาไหม” “ปล่อยนะ! ไอ้ตาแก่บ้ากาม” สารภีดิ้นหนีพอหลุดจากร่างของโชติก็โดนกระชากไปนั่งตักของอีกคน เธอกรีดร้องกัดเข้าที่หูของมนัสเต็มแรงเพราะอีกฝ่ายขยำนมของเธอ “โอ๊ย! นางเด็กบ้านี่ยังไงวะ เล่นตัวฉิบหาย” สารภีถลาหนีแต่โดนกระชากแขนเอาไว้ ในวินาทีนั้นเธอหยิบขวดเหล้าฟาดเข้าที่ศีรษะของมนัสเต็ม ๆ “โอ๊ย!” “นางนี่!!” ความกรุ่นโกรธเข้ามาแทนที่ความบ้ากาม สารภีมองเลือดที่ไหลนองด้วยความตกตะลึง พอดีกับที่สิงห์ออกมาจากห้องน้ำเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย เธอไม่กล้ามองหน้าใคร รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาในทันที สิงห์คงโกรธที่เธอไปทำร้ายเพื่อนของเขา เธอเม้มปากร้องไห้เบา ๆ        วิ่งหนีไม่รู้ทิศทาง ปาดน้ำตาไปมาด้วยความอดสูใจ คนที่เธอแอบรักพาเพื่อนมารุมรังแก เขาก็รู้ว่าเธอจะมานอนค้างด้วยยังพาเพื่อนมาตั้งวงกินเหล้า เขาคงอยากจะให้เพื่อนเขามารุมเธอ ใช่แล้ว! เธอโง่เองที่คิดว่าเขาจะเป็นคนดี แตกต่างจากผู้ชายคนอื่น! สารภีหอบหายใจอย่างรุนแรง เธอวิ่งมาถึงบ้านด้วยความรู้สึกตื้อไปหมด ก่อนจะเจอเข้ากับใบหน้าถมึงทึงของมารดาที่โผล่ออกมาจากบ้าน “นางกล้วยเอ็งหายหัวไปไหนมา แล้วนี่แต่งตัวแบบนี้ไปนอนกับใครมาอีกล่ะ ไอ้สิงห์เหรอ” นางสมใจตวาดแว้ด สารภีก้มวูบไม่กล้ามองสบตามารดา ท่านเป็นคนปากร้ายใจร้าย เธอกำจิกชายเสื้อแน่นคอหดกลัวโดนตี “ไหนเงินล่ะ ห้าพันที่ขอเอาไว้” นางสมใจแบมือมาด้านหน้า สารภีรีบส่ายหน้าไปมาในทันที “ส่ายหน้าไปมาแปลว่าอะไร ไม่มีเหรอ” “หนูยังหาเงินไม่ได้เลยจ้ะแม่” “แกอย่าบอกนะว่าไปนอนให้ไอ้สิงห์เอาฟรี ๆ อีกแล้ว นางลูกหน้าโง่เอ๊ย” สมใจจิ้มหน้าผากบุตรสาวอย่างโมโห สารภีเซไปหลายก้าวเพราะโดนมารดาผลัก “คือหนูขอเวลาหน่อยนะคะ” “แกมาดูสภาพพ่อแก โดนทวงหนี้หนักเห็นไหม แหกตาดูซะ นางลูกอกตัญญู” สมใจจิกหัวลูกสาวให้ดูสภาพของสามีที่โดนรุมทำร้ายอย่างหนักเพราะถูกทวงหนี้ “แกจะให้พ่อกับแม่ตายคาตีนเจ้าหนี้หรือไง ไม่รู้เกิดมาทำเวรทำกรรมอะไร เลี้ยงมากว่าจะโตไม่สำนึกบุญคุณ ฉันน่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากแกตั้งแต่เด็ก ไม่ต้องเลี้ยงมาให้เป็นภาระแบบนี้” “แม่ อย่าตีหนูเลย หนูเจ็บ” สารภีร้องด้วยความเจ็บทั้งโดนตีทั้งโดนหยิกจนเนื้อเขียวไปหมด “ไอ้สิงห์น่ะมันหลอกเอาแกฟรี ๆ โง่เป็นควาย บอกให้ไปทำงานกับเสี่ยใหญ่ก็ไม่เชื่อ ป่านนี้สบายไปแล้ว” “หนูอยากเรียนต่อจ้ะแม่” “อีโธ่เอ๊ย! น้ำหน้าอย่างแกนี่นะจะไปเรียนต่อ โง่เป็นควายเรียนไปก็เรียนไม่จบหร้อก ขี้คร้านจะมีผัวซะก่อน สมองทึบ สมองขี้เลื่อยแบบนี้จะไปทำมาหากินอะไร” “เรียนเย็บผ้าก็ได้นะจ๊ะแม่ หนูชอบ” สารภีรีบบอกมารดาทั้งน้ำตา ท่าทีมีความหวังว่าท่านจะยอมให้เธอเรียน ท่านทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอสีหน้าดูถูกดูแคลน “นังเด็กหน้าโง่เอ๊ย! แกจะไปเย็บผ้าทำไมให้เหนื่อยให้เมื่อย บอกให้ไปทำงานกับเสี่ยเงินเดือนเป็นแสนเลยนะ เย็บผ้าจะได้สักกี่ตังค์กัน ชอบทำงานเป็นกรรมกรรึไงฮะ ไม่น่าเกิดมาเป็นลูกกูเลย ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องเข้าบ้าน จะไสหัวไปไหนก็ไป!” “แม่...” สารภียืนร้องไห้อยู่หน้าบ้าน เธอสะอื้นฮัก ๆ ป่ายน้ำตาไปมาด้วยความอดสูใจ เกิดมาบิดามารดาไม่เคยพูดดีกับเธอเลย มีแต่จิกด่าและใช้งานเยี่ยงทาส บางทีเธอก็รู้สึกว่าพวกท่านเหมือนไม่ใช่บิดามารดาแท้ ๆ  “พี่กล้วยเป็นอะไร มายืนร้องไห้ตรงนี้ทำไม” เสียงของสุจิราหรือเปิ้ลน้องสาวของเธอดังขึ้น สารภีรีบปาดน้ำตาทิ้ง เธอหันมาเจอกับสภาพของน้องสาวแล้วนึกห่วง เก่งแฟนของน้องสาวไม่ใช่คนดี แถมยังหลอกให้น้องสาวนอนกับผู้ชายคนอื่นไปทั่วเพื่อเอาเงิน เธอกลัวน้องสาวจะโดนหลอกไปมากกว่านี้แต่พอเอ่ยเตือนสุจิราก็บอกว่านายเก่งรักเธอจริง รักมากกว่าพ่อแม่เสียอีก “เปล่าจ้ะ” “ทะเลาะกับแม่อีกแล้วเหรอ แม่ก็เป็นแบบนี้แหละ พี่อย่าไปใส่ใจเลย” สุจิราเคาะประตูบ้าน พอสมใจเห็นลูกสาวคนเล็กเข้าก็แบมือขอเงิน สุจิราล้วงเงินในกระเป๋าส่งให้ก่อนจะพูดแบบขอไปทีว่าคืนนี้จะไปนอนที่อื่น คนเป็นแม่ที่ได้เงินก็โบกมือไล่ว่าจะไปไหนก็ไป สารภีเห็นภาพนี้จนชินตา แค่ได้เงิน ลูกจะไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหนก็ไม่เคยใส่ใจ “พี่เป็นห่วงเปิ้ลมากนะ นี่จะไปนอนที่ไหน” “ไปนอนบ้านพี่เก่ง พี่นั่นแหละควรห่วงตัวเอง แม่ไม่ให้เข้าบ้านจะไปนอนที่ไหน บ้านลุงสิงห์เหรอ” สุจิราเอ่ยถามพี่สาว นึกห่วงใยอยู่เหมือนกันเพราะเธอรู้ว่าในโลกนี้ยังมีพี่สาวที่รักเธออยู่อีกคน “ไม่หรอก” คนตอบรู้สึกขมคออย่างบอกไม่ถูก “ไปนอนบ้านพี่เก่งกับเปิ้ลไหม” “ไม่ดีกว่า เดี๋ยวพี่หาที่นอนเองดีกว่า” สารภีบอกน้อง สุจิราได้ยินเช่นนั้นก็ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เก่งออกไปในทันที สารภีเดินไปอย่างไร้ทิศทาง เธอก็ยังไม่รู้เลยว่าคืนนี้จะไปนอนที่ไหนดี ไม่มีเงินติดตัวสักบาท “นั่นกล้วยนี่จ๊ะพี่กริช” น้ำ¬รินบอกกริชผู้เป็นสามี ทำให้เขาต้องชะลอรถจอดเทียบร่างของเด็กสาวที่เดินไปอย่างไร้จุดหมาย น้ำ¬รินเป็นภรรยาเจ้าของไร่อุ่นรักที่สารภีมักมาอาศัยพึ่งพิงเพราะน้ำ¬รินเอ็นดูเด็กสาวเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง “กล้วย กล้วยจะไปไหน” น้ำ¬รินตะโกนถามสีหน้าห่วงใย “เอ่อ... กล้วย” สารภีอึกอักก่อนจะส่ายหน้าไปมา “อ้าว... ขึ้นมาก่อนสิ ทะเลาะกับแม่อีกแล้วเหรอ” น้ำ¬รินรู้ดีว่าสารภีมักมีปัญหากับบิดามารดา จริง ๆ แล้วแม้สารภีจะดูแก่แดดและทะเล้นไปหน่อยแต่ก็เป็นเด็กสาวน่าสงสาร “จะดีเหรอคะ” สารภีบอกอย่างเกรงใจ “ขึ้นมาเร็ว ไม่งั้นไม่หางานให้ทำนะ” พอได้ยินแบบนั้นสารภีก็รีบเดินขึ้นรถของกริชในทันที เพราะงานในไร่เล็ก ๆ น้อย ๆ หรืองานบ้านน้ำ¬รินก็มักหามาให้ทำ อย่างน้อยก็ยังพอได้เงินเอาไว้ใช้จ่าย 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD