“คิดว่าจะโดนตำรวจจับยังไม่เห็นสะทกสะท้านอะไรเลย” เขาหยิบถุงมากมายข้างตัวเธอ สารภีมองอย่างงุนงง เธอนึกว่าเขาจะต่อว่าเธอเสียอีก แต่เขากลับพูดไปอีกทางที่ทำให้เธอปวดใจและเจ็บใจในเวลาเดียวกัน
“ต่อรองราคากันไม่ลงตัวเหรอ เลยฟาดหัวหมอนั่นจนหัวแตก จริง ๆ พูดกันดี ๆ ก็ได้ ดีนะที่มันไม่เอาเรื่อง”
“ใช่ค่ะ มันน้อยไป” เธอประชดกลับ สิงห์ชะงักหันมามองเธอด้วยสายตาดุวาว เธอกลัวเขาแต่ก็ทำใจดีสู้สิงห์ รีบหิ้วถุงที่เหลือเดินนำหน้าเขาออกไปก่อน
“ปากดี วันหลังก็เขียนป้ายติดเอาไว้ด้วยว่าต้องซื้อเท่าไหร่ถึงจะขายให้” เขาแดกดัน เดินมาจนถึงร่างเล็กแต่อวบอิ่ม เธอชะงักเท้า เป็นอีกครั้งที่สารภีรู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ
มันเจ็บจุกจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เธอเงียบไม่โต้เถียง เขาอยากจะคิดอะไรก็ให้เขาคิดไป สิงห์พาเธอเดินไปที่รถ พอเก็บของเสร็จเขาก็เอ่ยถามอีก
“คืนนี้ฉันว่าง ถ้าเธออยากขาย”
“ไม่ดีกว่าค่ะ” เธอพูดอย่างเย็นชาถอยหนีเขาไปหลายก้าวด้วยสายตาว่างเปล่า
เป็นครั้งแรกที่สิงห์เห็นสายตาแบบนี้จากเด็กสาว เขาแปลบในอกเล็กน้อย แต่แค่เล็กน้อยเท่านั้น ร่างสูงยักไหล่อย่างไม่แยแส
สารภีเดินห่างออกไปจากรถเพื่อรอน้ำ¬ริน เธอพึ่งใครไม่ได้ต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น เด็กสาวบอกตัวเองว่าถ้าน้ำ¬รินใจดีให้ยืมเงินไปเรียนเธอจะตั้งใจเรียนเย็บผ้า จะเปิดร้านเล็ก ๆ มีกิจการของตัวเอง
พอคิดถึงอาชีพที่จะทำมาหากินไปตลอดชีวิตไม่กลายเป็นคนหลักลอยแบบนี้อีกเธอก็มีกำลังใจขึ้นมาในทันที
สารภีไม่พูดคุยอะไรกับสิงห์อีก พอถึงบ้านน้ำ¬รินก็หาข้อมูลการเรียนหลักสูตรระยะสั้นให้ตามที่รับปาก
น้ำ¬รินแอบได้ยินสองคนนั่นคุยกัน แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร
“ขอบคุณคุณน้ำมากนะคะ กล้วยสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน ทำงานได้เมื่อไหร่กล้วยจะใช้คืนให้”
“เรื่องเงินไม่มีปัญหาหรอกจ้ะ มีเมื่อไหร่ค่อยใช้คืน ตั้งใจเรียนนะ เขารับสมัครวันพรุ่งนี้งั้นกล้วยเอาค่าเทอมไปเลยนะ”
“ขอบคุณคุณน้ำมาก ๆ เลยนะคะ กล้วยจะไม่ลืมบุญคุณคุณน้ำเลยค่ะ” แม้สถานที่เรียนจะอยู่ในเมือง แต่เธอก็สามารถเดินทางไปเรียนได้ ไม่ว่าจะลำบากลำบนแค่ไหนเธอก็จะทำให้สำเร็จให้จงได้ เกิดมาเธอไม่เคยทำอะไรสำเร็จให้ตัวเองภูมิใจเลยสักครั้ง
“แค่ตั้งใจเรียนก็พอ” น้ำ¬รินบอกเด็กสาวด้วยรอยยิ้ม เธอไม่ได้คิดจะเอาเงินคืน แค่อยากสนับสนุนเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
น้ำ¬รินคิดถึงเปิ้ลน้องสาวของกล้วยแล้วรู้สึกว่าอนาคตเปิ้ลอาจจะต้องพึ่งพาพี่สาวอย่างกล้วยก็ได้เพราะดูแล้วนายเก่งอะไรนั่นไม่ค่อยจะจริงใจเท่าไหร่ ผู้ชายดี ๆ ที่ไหนจะให้แฟนตัวเองไปนอนกับผู้ชายคนอื่น
“กล้วยสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน” เธอพูดย้ำกับน้ำ¬รินอย่างมีความสุข พรุ่งนี้ไปสมัครเรียน ต้องกลับไปเตรียมเสื้อผ้า สารภีเลยเอ่ยขอตัวจากน้ำ¬รินกลับบ้านในทันที
เสื้อผ้าเก่า ๆ ที่สุดแสนจะเรียบร้อยเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวซีดกับกระโปรงมือสองที่เธอเคยซื้อตอนไปทำงานพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ถูกรื้อออกมาจากตู้เสื้อผ้าเก่า ๆ ซอมซ่อ เธอมองตู้ไม้เก่า ๆ ที่ผุพังอย่างหดหู่ใจ
ตอนเรียนเธอไม่กล้าชวนเพื่อนมาที่บ้านเลยเพราะยอมรับว่าอายกับฐานะทางบ้าน ถึงจะหัวไม่ดีแต่ก็กัดฟันเรียนจนจบ ม. สาม ในขณะที่น้องสาวของเธอจบแค่ ป. หกก็มีผัวเป็นนายเก่งไปเสียก่อน
“แม่ทำอะไรน่ะ” สารภีร้องอย่างตกใจเมื่อมารดาคว้ากระเป๋าของเธอไปรื้อค้นข้าวของก่อนจะเจอเงินค่าเทอมเรียนตัดเย็บเสื้อผ้าเข้าจึงรีบหยิบไปในทันที
“หน็อย... นางกล้วยมีเงินแล้วงุบงิบหรือไง นางลูกทรพี” สมใจจิ้มหน้าผากบุตรสาวคนโต ก่อนเริ่มด่าทอในทันที
“แม่อย่าเอาไปนะจ๊ะ นั่นค่าเทอมของกล้วย”
“ค่าเทอมอะไร” สมใจกระชากเสียงถามดังคับบ้าน
“คุณน้ำให้กล้วยมา กล้วยจะไปสมัครเรียนเย็บผ้า”
“ฉันไม่ให้แกเรียน วันนี้แกต้องไปทำงานกับเสี่ย ฉันติดหนี้เสี่ยอยู่ ถ้าแกไม่ไปทำงานเขาฆ่าฉันแน่ หรือแกจะยอมให้แม่แกตาย”
“โธ่... แม่” สารภีเห็นชายฉกรรจ์หลายคนเธอเลยรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ได้ยินเสียงมารดาโวยวายไล่ตามหลังมา จึงรีบหนีไปหลบอยู่หลังต้นไม้ พอพวกมันหาไม่เจอเธอก็คิดถึงน้ำ¬รินขึ้นมาในทันที เธอหนีไปหาน้ำ¬รินน่าจะปลอดภัยที่สุด แต่เพราะเงินที่น้ำ¬รินให้มาโดนเอาไปแล้วนั่นทำให้สารภีละอายใจ ไม่มีหน้าไปพบอีกฝ่าย
ที่พึ่งเดียวของเธอในยามนี้คือสิงห์ ถ้าเธอไปขอความช่วยเหลือจากเขา เขาจะช่วยเธอไหมนะ เด็กสาวกัดปากตัวเองจนเจ็บก่อนจะมุ่งหน้าไปหาเขาในทันที
“ลุงสิงห์” เสียงหอบ ๆ ของคนที่เรียกอยู่ด้านหลังทำให้สิงห์หันไปมอง
“มีอะไร” เสียงกระด้างของเขาทำให้เธอรู้สึกใจวูบโหวงแปลก ๆ
“ลุงสิงห์กล้วยมีเรื่องจะถามหน่อย”
“ถามอะไร” เขาเลิกคิ้วขึ้นมองเธออย่างสงสัย
“ลุงสิงห์เคยรักกล้วยบ้างไหม” เธอโพล่งออกไปมองหน้าเขาอย่างรอฟังคำตอบ
“ผีเข้าหรือไง ใครจะไปรักเด็กใจแตกแบบเธอ” เขาพูดอย่างไม่แยแสก่อนจะหันไปสนใจกับงานของตัวเองต่อ สารภีรู้สึกเจ็บหน่วงในอกร้าวรานอย่างที่สุด
“ถ้ากล้วยไปเป็นเมียคนอื่นลุงสิงห์ก็ไม่หวงใช่ไหม” เสียงของเธอเบาหวิว พยายามเปล่งมันออกมาอย่างสั่นเทา
“ถ้าอยากไปก็ไปสิ ตกลงราคากันให้ดีแล้วกัน อย่าเอาขวดฟาดหัวใครเขาอีกล่ะ อาจจะไม่โชคดีรอดเหมือนครั้งก่อน” น้ำเสียงเย็นชาและไม่ใส่ใจ แม้แต่จะหันมามองหน้าของเขา ทำให้สารภีรับคำอย่างขมขื่น
“ลุงสิงห์เคยคิดจะรับกล้วยเป็นเมียไหม” เธอถามอีก แม้ในใจจะอ่อนล้าเต็มที เธอเคยถามเขาหลายครั้งแล้วแต่เป็นแนวหยอกล้อมากกว่า แต่ครั้งนี้เธอจริงจัง
สิงห์กดรับโทรศัพท์ก่อนจะเดินหนี สารภีเห็นอาการไม่สนใจของสิงห์ก็เข้าใจคำตอบดี เธอไม่น่ามาถามเขาแต่แรกเลยด้วยซ้ำ
“ค่ะ กล้วยเข้าใจทุกอย่างแล้ว ลาก่อนนะลุงสิงห์” เธอหันหลังให้เขาน้ำตาไหลอาบแก้มนวล
เด็กสาวเช็ดน้ำตาเบา ๆ เดินไปอย่างไร้ทิศทาง คำตอบที่ได้คือความว่างเปล่า เขาไม่ได้สนใจใส่ใจ เธอจะไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหนเขาก็ไม่แคร์สินะ
“นางกล้วยมันอยู่นี่ จับมันไปเลย” เสียงที่ดังขึ้นของมารดาก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์จะมารวบร่างของเธอเอาไว้ทำให้สารภีกรีดร้องสุดเสียง แต่เธอสู้แรงผู้ชายไม่ไหวเลยโดนจับขึ้นรถไป
สมใจเอาเงินมานับก่อนจะอมยิ้ม วันนี้มีเงินเข้าบ่อนแล้ว
ทางด้านสารภีเธอถูกจับมาขังเอาไว้ ลูกน้องของเสี่ยใหญ่บอกว่าให้เธออยู่ที่นี่ไปก่อน เดี๋ยวจะให้อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนชุดทำงานในคืนนี้เลย
เธอนั่งกอดเข่ามองห้องพักแคบ ๆ อย่างอดสูใจ ชาตินี้คงไม่พ้นต้องขายตัว แค่เธอคิดหนี อีกฝ่ายก็ง้างมือขึ้นทำท่ามาจะตบ เธอก็กลัวหัวหด โดนจิกผมจนหน้าหงายก็ไม่กล้าแล้ว
โลกนี้ช่างโหดร้ายไม่มีที่ยืนสำหรับคนจนหมอนหมิ่น ไปตรงไหนก็มีแต่คนเอารัดเอาเปรียบ
ยกเว้นน้ำริน เจ้านายสาวที่ดีกับเธอตั้งแต่เด็ก แต่เธอไม่อยากทำให้น้ำ¬รินต้องเดือดร้อนเพราะคนของเสี่ยใหญ่อิทธิพลมากมายนัก
“นี่เสื้อผ้าของเธอ อาบน้ำอาบท่าแล้วสวมชุดนี้ลงไปทำงานได้แล้ว ให้เวลาแต่งตัวครึ่งชั่วโมง” ผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งแต่ยังดูสวยสดเข้ามาในห้องก่อนจะบอกเธอเสียงเข้ม
สารภีกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ มองชุดโป๊ ๆ นั้นอย่างปลง ๆ ระคนสมเพชเวทนาตัวเอง
บางทีเธออาจจะเหมาะกับอาชีพนี้ก็ได้ บิดามารดาคงชอบใจที่เห็นลูกอย่างเธอทำเงินได้เดือนละหลายหมื่นหรือเป็นแสน
ชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่เคยเลือกทางเดินอะไรเองได้เลย ในเมื่อต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ เธอก็จะทำงานนี้ให้มันตายกันไปข้างหนึ่ง ตอบแทนบุญคุณให้สมกับที่มันท่วมหัวจนใช้ไม่หมดในชาตินี้