ความเดิม- "มะ น้องเอ๋ยมานั่งกับอามะ" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ พร้อมกับจูงมือเล็กไปที่รถและจัดที่จัดทางให้คนตัวเล็กนั่ง
……………………………………..
"ส่วนเราก็มานั่งกับอานี่ เผื่อเวียนหัวขึ้นมาอีก คันนี้ดูจะเซฟกว่าคันนั้นนะ" เปรมมนัสเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับจูงมือคนตัวบางไปขึ้นที่รถคันที่ตัวเองเลือกที่จะขับ
"เมื่อพร้อมกันแล้วก็ตามมาเลยน๊า" ปพัฒน์เมื่อเห็นว่าทุกคนนั่งพร้อมกันแล้วจึงเอ่ยขึ้น เพราะเขาสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้รออยู่แล้วและเร่งขึ้นนำขบวนไปโดยมีดวงฤทัยเร่งเครื่องตามไปติด ๆ เช่นกัน
@สวนส้ม
ปพัฒน์นำขบวนมาจอดที่สวนส้มเชิญชวนทุกคนให้ลงจากรถเพื่อชิมส้มส่งออก
"มาก่อน ๆ เฮีย ชิมส้มกัน คุณภาพส่งออกเชียวนา หากินไม่ได้ง่ายนะ" ปพัฒน์ชวนชิม ส่วนใบหม่อนเดินไม่รอใครตรงไปหาพี่ชายที่รู้จักขอส้มเขามาหนึ่งผลแล้วนั่งปอกกินคนเดียวหน้าตาเฉย
"อ้าว ยัยคนนี้กินไม่แบ่งเลย นี่เอามาแบ่งพี่บีกับพี่เอ๋ยเค้าด้วยซิ" ปพัฒน์เอ่ยแซวอย่างนึกเอ็นดูเด็กสาวในปกครอง
"ออ..ได้เจ้า แฮร่.." ดวงฤทัยยิ้มเจื่อน ๆ แล้วขอส้มพี่ชายที่รู้จักมาอีกสองผลแล้วเดินตรงมาหาพี่สาวทั้งสองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ด้านสองหนุ่มที่ยืนกอดอกสังเกตการณ์อยู่ห่างได้แต่กระซิบกระซาบ
"เฮ๊ย..นายกร ฉั๊นว่านายได้น้องสะใภ้เร็ว ๆ นี้แน่ ๆ ฉั๊นว่านายพัฒน์ไม่รอให้เรียนจบหรอก อย่างดีก็พ้นสิบแปดมั๊ง ตามแจขนาดนี้"
"เออ..นั่นดิ่ ถึงว่าไม่กลับบ้านหลายเดือนเลย ที่แท้ก็ติดเด็ก" ปกรณ์รำพึงรำพันกับเพื่อนรัก
"แต่ดูเด็กน้อยนั่นไม่รู้ตัวมั๊ง" เปรมมนัสออกความเห็นบ้าง
"เดี๋ยวก็คงรู้มั๊ง นายพัฒน์คงรอเวลาแหละ เห็นว่าตาของน้องอาการหอบกำเริบบ่อย ๆ ถุงลมโป่งพองนี่เน๊าะ"
"อืม ก็ดีแล้วแหละ ถ้าตาน้องเป็นอะไรไปน้องจะได้มีที่พึ่ง ดูท่าทางม๊าของนายก็ชอบน้องอยู่ไม่น้อยเลยนิ่ เห็นคุยกันกระหนุงกระหนิงเลย ได้ข่าวว่าช่วยกันทำกันทำกับข้าวด้วยไม่ใช่เร๊อะ" เปรมมนัสออกความเห็น
"อืม…ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่พรหมลิขิตเถอะ รวยจนไม่รังเกียจหรอกขอให้รักกันจริงฉั๊นก็โอเคแล้ว" ปกรณ์เอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง
หลังจากออกจากสวนส้มก็มาที่สวนองุ่นตามลำดับทั้งสี่คนเดินชมสวนองุ่นและชิมองุ่นสายพันธุ์ต่าง ๆ และปพัฒน์ได้สั่งให้คนสวนเก็บองุ่นพันธุ์ที่ไว้สำหรับกินสด ๆ ให้ไปส่งที่บ้านพักไว้แล้ว และที่สุดท้ายของสวนองุ่นก็คือดูโรงบ่มไวน์ เมื่อเยี่ยมชมกันจนพอใจแล้วก็มุ่งหน้าสู่แลนมาร์คสุดท้าย
@ธารน้ำตก
ปพัฒน์ขับรถมอร์เตอร์ไซค์มาจอดที่เนินเตี้ย ๆ ก่อนถึงธารน้ำตก
"สาว ๆ ข้างหน้านี้คือธารน้ำตก ใครไม่กลัวเปียกสามารถเล่นน้ำได้นะ แต่อย่าเล่นน้ำนิ่ง ๆ ล่ะระวังทากเกาะ" ปพัฒน์บอกยิ้ม ๆ
"หา..มีทากด้วยเหรอ..ไม่เอาอ่ะ ไม่เล่นหรอกแค่นั่งดูก็พอ" กานต์ธิดาเอ่ยหน้าแหย
"เรานี่กลัวไปหมดเสียทุกอย่างเลยเน๊าะ" เปรมมนัสเอ่ยขึ้นอย่างเบื่อหน่าย กะจะชวนเล่นน้ำสักหน่อยยัยนี่ก็นั่งอยู่แต่บนบกเสียงั้น
ส่วนหญิงสาวสองคนจูงมือกันไปที่ธารน้ำตกและเล่นกันอย่างสนุกสนาน
ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า.. น้องใบหม่อนอย่างแกล้งพี่ น้ำเย็นมาก อึ่ย.. อัญญารินทร์วิ่งหลบหลีกเด็กสาวที่กวักน้ำใส่เธอเป็นว่าเล่น
ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..น้ำเย็นดีแต้เน่อ นี่..นี่.. ดวงฤทัยยังกวักน้ำใส่คนพี่อย่างนึกสนุก
ใบหม่อน..อย่างแกล้งพี่..น้ำเย็นนะนั่น..เดี๋ยวจะเป็นหวัดกัน.. พอได้แล้วมั๊ง..ปากซีดแล้วนั่น ขึ้นเถอะ..เดี๋ยวทากเกาะน๊า..ปพัฒน์ป้องปากร้องบอกเด็กสาวให้ขึ้นฝั่ง
ขึ่นแล้วเจ้า ขึ่นแล่วเจ้า../ไปบี่สาว ไปกันเถอะ เดี๋ยวทากเกาะ.. ดวงฤทัยตอบรับผู้ปกครองอย่างว่าง่ายแล้วหันไปเรียกพี่สาวคนสวยหน้าตาตื่น
"เหรอ ได้เวลามันมาแล้วเหรอ" อัญญารินทร์ถามหน้าตาตื่นเช่นกัน
"………" คนน้องไม่พูดแต่จูงมือพี่สาวรีบจ้ำอ้าวขึ้นบนบกทันที
อีกด้านของคนที่รอดูความปลอดภัยอยู่บนบก
ปกรณ์อ้าแขนรับคนตัวเล็กที่เดินกระย่องกระแย่งและสั่นเล็ก ๆ บ้างแล้วเพราะน้ำจากธารน้ำตกนั้นเย็นจับใจ
พรึ่บ!
"ไม่ได้เอาผ้าขนหนูมาซ๊ะด้วยซิ หนาวมั๊ย อาช่วยกอดให้จะได้ไม่หนาว รีบไปเถอะจะได้ไปอาบน้ำสระผม" ปกรณ์รวบตัวคนตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมกอดแล้วพูดคุยกับคนตัวเล็กใกล้ ๆ ใบหูสวยจนลมหายใจอุ่น ๆ เป่ารดแก้มใสอยู่มะรอมมะร่อ
ส่วนปพัฒน์ได้ถอดเสื้อเสื้อแจกเก็ตที่เตรียมมาด้วยคลุมไหล่ให้เด็กสาวแล้ววางมือบนศีรษะทุยพร้อมกับโยกเบา ๆ
"ใส่เอาไว้ยัยใบหนาด จะได้ไม่หนาว น้ำที่นี่เย็นจะตาย พอใจหรือยังกลับได้ยัง" ปพัฒน์เอ่ยถามเด็กสาวในความปกครองอย่างล้อเลียน
"…….." คนตัวเล็กไม่ตอบแต่พยักหน้ายิ้ม ๆ แล้วกระชับเสื้อแจกเก็ตไว้แน่นเพราะเริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาบ้างแล้ว
ด้านเปรมมนัสที่ไม่ได้รื่นรมย์บรรยากาศน้ำตกที่สวยงามเลยแม้แต่น้อย เพราะในสายตาเขามีเพียงคนตัวบางเท่านั้นที่สวยงามเสมอ เมื่อเห็นว่าคนอื่นกำลังขึ้นบกจึงหันไปเรียกคนตัวบางบ้าง
"“ปะ เรานั่งจนรากงอกแล้วมั๊ง น้ำก็ไม่ได้เล่นแถมยังช้ากว่าคนอื่นเค้าอีก แต่ก็ดีแล้วแค่อ่อนเพลียวิงเวียนก็พอเถอะอย่าให้เป็นหวัดเป็นไข้กับเค้าเลยมันจะยุ่งนะยัยผีดิบเอ้ย ยิ่งพี่ชายเธอฝากฝังมาอยู่ ถ้าป่วยกลับไปมีหวังเสียชื่อคุณหมอแย่เลย" เปรมมนัสสัพยอกคนตัวบางพร้อมกับเอื้อมมือไปประคองให้ลุกขึ้นอย่างนุ่มนวลอยู่ในที