ความเดิม- ส่วนพวกหนุ่ม ๆ เข้าใจทันที รีบพากันลงลงบันไดไปอย่างว่าง่ายเพราะสายตาพิฆาตของคุณนายแม่ยังไงเล่า ใครจะกล้าหือ
…………………………………………….
อีกด้านของคนที่รอทานข้าวอยู่
"อ้าว สาว ๆ ละม๊าไม่หิวกันเหรอ ทำไมยังไม่ลงมา" กรพัฒน์เอ่ยถามอย่างนึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก ๆ
"หลับค่ะป๊า ขนาดคนเข้าไปตั้งสามสี่คนยังไม่มีใครรู้สึกตัว" ปาริดาเล่าให้สามีฟังไปก็ยิ้มขำไปด้วย
"เอา ๆ งั้นพวกเรากิน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง" กรพัฒน์เอ่ยสรุปพร้อมกับตักอาหารเข้าปาก
"ครับป๊า เดี๋ยวผมทำกับข้าวชุดใหม่ให้น้อง ๆ ก็ได้ครับ" ปพัฒน์เอ่ยยิ้ม ๆ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ปาริดาและกรพัฒน์เมื่อรับประทานมื้อเย็นเสร็จก็เดินย่อยอาหารชมสวน ชมไร่ไปตามเรื่อง เห็นคนรู้จักก็เรียกทักเรียกคุยกันไปตามประสา เพราะเมื่อก่อนครอบครัวนี้เคยอยู่ที่นี่กันมาก่อนพอจะรู้จักคนเก่าแก่บ้าง
ตัดมาที่กานต์ธิดารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนใคร มองดูนาฬิกาที่ฝาผนังปรากฎว่าเป็นเวลา 19.05 น.แล้ว แต่เพื่อนสาวรุ่นน้องของเธอทั้งสองคนยังนอนหลับอุตุอยู่เลย เธอจึงค่อย ๆ ลุกอย่างเงียบ ๆ เพราะไม่อยากรบกวนเวลานอนของพวกเธอ หญิงสาวค่อย ๆ เปิดประตูออกจากห้องแล้วปิดคืนอย่างเบา ๆ แล้วเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างของบ้านเพราะอยากสูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง
ด้านเปรมมนัสเมื่อเห็นว่าคนของใจตื่นแล้วจึงถือโอกาสเข้าประกบทันทีหลังจากที่เฝ้ามองทางอยู่นาน
"ตื่นแล้วเหรอ ดีขึ้นมั๊ย หายเวียนหัวหรือยัง กินอะไรหน่อยนะ อาทำแกงจืดวุ้นเส้นไว้ให้ ใส่เต้าหู้ไข่จะได้ย่อยง่าย ๆ" คุณหมออธิบายเสร็จสรรพพร้อมกับจับจูงข้อมือคนตัวบางไปที่โต๊ะอาหารทันที
อีกด้านของคนที่แอบสังเกตการณ์อยู่
"เฮีย..ดูนั่น จูงมือกันไปนู่นแล้ว ดูท่าคนนี้แน่ใช่มั๊ย" ปพัฒน์กระซิบกระซาบถามพี่ชายอย่างลุ้น ๆ เพราะไม่เคยเห็นเพื่อนพี่ชายจะเปิดใจให้ใครเลยสักคน
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ ๆ มันเตรียมปรึกษาอาจารย์หมอของมันเรื่องการเตรียมมีบุตรในกลุ่มคุณแม่ครรภ์เสี่ยงแล้ว ดูเอาเถอะ น้องเพิ่งจะขึ้นปีสองในเปิดเทอมหน้านี้เอง" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ
"อันนี้เค้าเรียกหมายหมั้นปั้นมือ แบบฟันธงเลยแหละเฮีย" ปพัฒน์กล่าวยิ้ม ๆ ส่วนคนพี่ได้แต่พยักหน้ารับ
สักพักสองสาวที่เหลือก็เดินจูงมือกันมาที่โต๊ะอาหาร ปกรณ์และปพัฒน์จึงเดินไปสมทบบ้าง
"กินอะไรกันน่ะ กินด้วยซิ่ หิวแล้ว" อัญญารินทร์เอ่ยขึ้นในขณะที่ตัวยังเดินมาไม่ถึงโต๊ะอาหารเลยด้วยซ้ำ
"มาซิ กินไม่หมดหรอก" กานต์ธิดาบอกยิ้ม ๆ
ส่วนเปรมมนัสก็รู้งานรีบหาถ้วยหาชามตักแกงจืดมาเสริฟสองสาวอย่างไว แต่ทว่า
ครื่ด…ครื่ด… ปกรณ์และปพัฒน์ยื่นจานผัดพริกขิงใส่ไก่ ไข่เจียวและข้าวสวยสองจานมาตรงหน้าสองสาว
"เราสองคนต้องกินข้าวสวยให้หนักท้องเข้าไว้ จะได้ไม่ลุกมาหิวตอนกลางคืน" ปกรณ์์เอ่ยยิ้ม ๆ แล้วหันไปสบตากับน้องชายอย่างรู้ใจ
"ขอบคุณค่า/ขอบคุณเจ้า" สองสาวประสานเสียงขอบคุณคนตัวโตพร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้อย่างน่ารักและลงมือหม่ำอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย
ตัดมาที่เปรมมนัส
"อยากกินข้าวสวยบ้างมั๊ยเดี๋ยวไปตักให้"
เปรมมนัสเอ่ยถามคนของใจพร้อมกับทำท่าว่าจะลูบผมคนตัวบาง
ส่วนคนตัวบางได้แต่ส่ายหน้าและทำทีเป็นก้มซดน้ำแกงจืดเป็นการเลี่ยงอย่างอ้อม ๆ ไม่ให้คนตัวโตลูบผมได้ ทำเอาผู้สังเกตการณ์นึกสงสารและเห็นใจเพื่อนรักอยู่ไม่น้อย
ปึ่บ!! (เสียงตบที่บ่าหนัก ๆ)
"ตักมาให้น้องไปเถอะนายนัทน้องกินไม่กินก็อีกเรื่องนึง" ปกรณ์เอ่ยขึ้นแล้วส่งสายตาให้เพื่อนรักเป็นการบอกให้เดินตามมา ส่วนเปรมมนัสเข้าใจความหมายรีบเดินตามเพื่อนรักไปทันทีทันใดเช่นกัน
"เกิดอะไรขึ้นเหรอ ดูน้องจะไม่ยอมญาติดีกับนายเลยนะ มันมีอะไรที่มากกว่านั้นหรือเปล่า" ปกรณ์เอ่ยถามเพื่อนรักตรง ๆ เพราะสังเกตเห็นคนตัวบางมีปฏิกิริยาแข็งขืนกับเพื่อนรักเสมอ ๆ
"ไม่รู้ซิ คงว่าเด็กมันไว้เยอะมั๊ง เค้าเลยไม่ยอมดีด้วยง่าย ๆ ก็สมแล้ว" เปรมมนัสว่าตัวเองยิ้ม ๆ แต่เป็นยิ้มที่ขมขื่นเต็มทน
"จะถอดใจมั๊ยว๊ะเพื่อน ถ้ามันยากนักก็ปละ….(ปล่อย)" ปกรณ์พูดยังไม่มันจบคำดีก็ถูกอีกคนพูดแทรกขึ้นมาทันใด
"ม่าย..อ่ะ ฉั๊นไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด มันทำไม่ได้ฉั๊นเคยลองแล้ว ลองทุกอย่าง ลองไม่สนใจ ให้พวกนั้นเลิกตามดูแลแต่เป็นฉั๊นเองที่ร้อนรนเสียเอง" เปรมมนัสพูดกับเพื่อนรักจนหมดเปลือก
"อือ..เข้าใจว่ะ จะรออยู่ทำไมล่ะ ตักข้าวไปให้น้องซิ เดี๋ยวก็งอนอีกหรอก ยิ่งตัวผอม ๆ อยู่" ปกรณ์พูดยิ้ม ๆ
"เออ..ไปก่อนนะ เดี๋ยวนางจะบอกว่าอิ่มแล้วอิก" เปรมมนัสทำซุ่มเสียงล้อเลียนคนของใจยิ้ม ๆ แล้วเดินไปหาคนของใจอีกครั้ง
"อะนี่ข้าวสวย เผื่ออยากกินกับแกงจืด" เปรมมนัสยื่นจานข้าวสวยไปตรงหน้าคนตัวบาง
"ขอบคุณค่ะ แต่หนู่กินแกงจืดวุ้นเส้นจะอิ่มแล้ว" คนตัวบางบอกพร้อมกับเงยหน้าไปสบตาคนตัวโตแล้วเกิดอะไรกับเธอก็ไม่รู้เพราะเธอต้องจำยอมรับจานข้าวนั้นมาอย่างไม่มีข้อแม้เพราะสายตานั่น เธอปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ
ด้านชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าสาวเจ้ารับจานข้าวไปได้แต่ยิ้มจนแก้มปริ เขารู้สึกยิ้มออกมาจากใจอย่างห้ามไม่อยู่จริง ๆ เป็นยิ้มที่มีความสุขที่สุดในทริปนี้ก็ว่าได้
"นี่ผลไม้มั๊ยครับเด็ก ๆ เพิ่มวิตามินซี" ปกรณ์เลื่อนจานผลไม้ที่จัดมาเสียสวยงามไปตรงหน้าสาว ๆ แล้วยิ้มอบอุ่น