ความเดิม- "นี่ผลไม้มั๊ยครับเด็ก ๆ เพิ่มวิตามินซี" ปกรณ์เลื่อนจานผลไม้ที่จัดมาเสียสวยงามไปตรงหน้าสาว ๆ แล้วยิ้มอบอุ่น
……………………………………..
วันเปิดภาคเรียน
ด้านเปรมมนัสที่มาทำงานตั้งแต่เช้า เขาได้รับข้อความจากเพื่อนรักให้ไปรับหลานสาวในเย็นวันนี้ที่มหาวิทยาลัยและทำทีเป็นว่าคุณอากับเพื่อนของคุณอาไม่ได้อ่านไลน์กลุ่ม มารับคุณหลานพร้อม ๆ กันทั้งสองคน
ตัดมาที่อัญญารินทร์ หลังจากลงจากรถของปกรณ์มาได้ก็ตรงไปยังห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอเห็นว่ายังมีเวลาจึงเดินไปที่โรงอาหารและส่งข้อความหากานต์ธิดาให้มาพบกันที่นั่นเลย เธอสั่งอาหารมาลงมือกินก่อนและลงมือกินไปได้ไม่กี่คำ
"กินไม่รอเลยนะ รอด้วยซิ เดี๋ยวไปสั่งอาหารก่อน" กานต์ธิดาพูดจบก็เดินไปยังร้านอาหารทันที
อัญญารินทร์ยิ้มน้อย ๆ ให้เพื่อนสาวแล้วลงมือกินอาหารในจานต่อไป
"น้องเอ๋ย! นั่งกินคนเดียวหรือครับ ขอพี่นั่งด้วยคนนะจะได้ไม่เหงา" ชายหนุ่มเสื้อชอปหน้าตาดีหน้าตาคมสันเอ่ยยิ้ม ๆ ในมือถือถุงกระดาษที่มีโลโกร้านอาหารแบรนดังโชว์เด่นหรา
"อ๋อ มีเพื่อนมาด้วยค่ะ กำลังไปสั่งอาหารอยู่ ฝั่งนู้นยังว่างค่ะ ถ้าอยากนั่งก็เชิญค่ะ" อัญญารินทร์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วกินอาหารในจานของตนเองต่ออย่างไม่รู้สึกรู้สา
ด้านกานต์ธิดาที่ถือจานอาหารมาพอดี รีบมานั่งข้าง ๆ เพื่อนสาวแล้วใช้ข้อศอกกระทุ้งไปที่ข้อศอกเพื่อนสาวเบา ๆ ทั้งสองหันมาสบตากันเพียงครู่แล้วกินอาหารในจานของตนเองต่อไป
"เอ่อ น้องบีบัญชีใช่มั๊ยครับ ได้ข่าวว่าทอปบัญชีหลายตัวเลยนิ่ เก่งนะเรา ตัวแค่นี้เอง" ชายหนุ่มเสื้อชอปคนเดิมเอ่ยยิ้ม ๆ
"ออ ค่ะ" กานต์ธิดายิ้มเจื่อน ๆ แล้วกินอาหารในจานต่ออย่างเร่งรีบอยู่ในที
"อ้าวน้องเอ๋ยอิ่มแล้วหรือครับ เพิ่งกินไปได้ไม่กี่คำเอง" ชายหนุ่มเสื้อชอปคนเดียวกล่าวต่อ
"อิ่มแล้วค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ ต้องรีบไปหาห้องเรียน/ปะ ยัยบีอิ่มแล้วไม่ใช่เหรอ" อัญญารินทร์เอ่ยอย่างรักษามารยาทและหันไปชวนเพื่อนสาวที่ดูเหมือนว่ากำลังอร่อยกับข้าวมันไก่แสนอร่อย
"เอ่อ..อิ่ม อิ่มก็ได้ ไปซิ" กานต์ธิดายัดข้าวคำสุดท้ายใส่ปากแล้วเคี้ยวจนแก้มตุ่ยแล้วจูงมือเพื่อนสาวเดินออกไปจากโรงอาหารอย่างไว
อีกด้านของคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
..อย่าเผลอล่ะ จะเอาให้อยู่หมัดหนีไปไหนไม่รอดเลย แล้วน้องทั้งสองจะรู้ว่าสวรรค์มีจริง.. ชายหนุ่มได้แต่พึมพำคนเดียวเบาๆ พร้อมกับลูบคางตัวเองไปมามุมปากยกยิ้ม
……………………………………………
ตัดมาที่เปรมมนัสที่รับข้อความพร้อมภาพประกอบจากลูกน้องที่ให้ไปเฝ้าดูแลคนตัวบางที่มหาวิทยาลัยถึงกับร้อนใจรอถึงตอนเย็นไม่ไหว อดทนข่มใจทำงานสะสางงานจนแล้วเสร็จและถึงเวลาพักเที่ยงพอดีจึงส่งข้อความไปบอกเพื่อนรักไว้ก่อนและขับรถออกไปที่บริษัทของเพื่อนรักทันที
@บริษัทแม่ในเครืออนันตวรรณาวงษ์
เปรมมนัสเปิดไฟกระพริบสองสามครั้งเมื่อเห็นว่าเพื่อนออกจากประตูลิฟท์มาแล้ว
ด้านปกรณ์ยกมือขึ้นระดับใบหูเมื่อเห็นรถเพื่อนและเดินตรงมาเปิดประตูรถ
"มีไรว๊ะขนาดทนคิดถึงไม่ไหวถึงต้องมาหาในช่วงกลางวันเลยเหรอ" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ แล้วยกคิ้วให้เพื่อนรักอย่างรู้กัน
"ยังจะมาถาม สั่งลูกน้องจัดไปกี่ดอกล่ะ" เปรมมนัสสวนกลับแล้วหันมาสบตากับเพื่อนเพียงครู่แล้วมองตรงไปข้างหน้าเพราะกำลังขับรถอยู่
"ก็แค่ประกาศว่าน้องมีเจ้าของแล้วห้ามยุ่ง ก็แค่นั้น" ปกรณ์พูดยิ้ม ๆ แล้วนั่งเงียบ ๆ อย่างผู้โดยสารที่ดี จนรถมาจอดที่ร้านอาหารตามสั่งที่ห่างไกลชุมชน บรรยากาศดี ผู้คนไม่พลุกพล่าน และที่สำคัญราคาสบายกระเป๋าอีกต่างหาก
@ร้านอาหารย่านชานเมือง
เมื่อเดินมาถึงร้านปกรณ์เลือกที่จะมานั่งในโซนด้านในที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน
"สวัสดีครับเฮียต่อ วันนี้คนเยอะเหมือนเดิมเลยครับ ขนาดบ่ายแล้วยังไม่ซาลงเลย" ปกรณ์เอ่ยทักทายเพื่อนของพี่ชายเพื่อนที่เคยพบปะกันในงานรวมญาติและคนสนิท
"อ้าวคุณหมอ วันนี้มาทานข้าวเสียไกลเลย แถว ๆ โรงพยาบาลมันไม่อร่อยเท่าที่นี่หรือครับ" หนุ่มใหญ่ตอบกลับแบบกวน ๆ
"แหม..เฮียต่อก็ คนเรามันก็อยากหาอะไรใหม่ ๆ บ้างแหละ" ปกรณ์กล่าวยิ้ม ๆ ส่วนเปรมมนัสได้แต่มองคนโน้นคนนี้พูดทีจนดูน่าขันในสายตาคนมอง
"อ่ะ ลืมแนะนำ นี่นายนัทครับลูกชายเจ้าของกิจการวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพท์ในเครืออนันตวรรณาวงษ์แต่มันเป็นคุณหมอกีครับ" ปกรณ์อธิบายติดตลกจนคนฟังถึงกับขมวดคิ้วแล้วยิ้มร่าในภายหลัง
"สวัสดีอย่างเป็นทางการครับเฮีย ผมเคยได้ยินนายกรเล่าให้ฟังอยู่ว่าร้านนี้อาหารอร่อย"
"ขอบคุณครับ"
"งั้นผมขอสั่งอาหารชูโรงของร้านนี้เลยครับ แต่ไม่เผ็ดมากนะครับ เอากลาง ๆ ไม่ค่อยสู้เผ็ดเท่าไร”
"ได้เลยครับคุณหมอ"
เปรมมนัสเมื่อเห็นว่าหนุ่มใหญ่เจ้าของร้านเดินออกไปไกลแล้วจึงหันมาคุยกับเพื่อนรักต่อ
"วันนี้ลูกน้องส่งข้อความพร้อมคลิปวิดีโอมาให้ดู" เปรมมนัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วจิบน้ำไปหนึ่งอึกอย่างคนรู้สึกคอแห้ง
"ส่งคนไปดูเหมือนกันเหรอ" ปกรณ์เอ่ยถามพร้อมกับยกคิ้วขึ้นสูง
"ก็มันน่าห่วงมั๊ยล่ะ หน้าสวยยังกะภาพวาด ผิวละเอียดถึงจะซีดไปหน่อยก็สวยเนียนยังกะฉีดวิตามินบำรุง" เปรมมนัสกล่าวยิ้ม ๆ และแค่นหัวเราะในตอนปลายประโยค