ความเดิม- "เก็บตังค์ครับ" เปรมมนัสเอ่ยเรียกพ่อค้า เมื่อชำระค่าอาหารเสร็จทั้งสี่คนจึงแยกย้ายไปขึ้นรถคันของใครของมันครั้งนี้กานต์ธิดาขอมาขึ้นรถกับเปรมมนัสและอัญญารินทร์โดยอ้างว่าทางเดียวกัน ส่วนปกรณ์ได้แต่ยิ้มเจื่อน และขับรถแยกออกไปเพียงลำพัง
………………………………………..
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปที่กานต์ธิดาได้มาช่วยงานที่บริษัทของครอบครัวของเพื่อนสาวอย่างอัญญารินทร์ และวันนี้ก็เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ที่เธอเลือกที่จะนอนชิลล์ ๆ ดูซีรีส์ไปเรื่อย ๆ แต่ทว่าโทรศัพท์ของเธอถูกคลื่นรบกวนเสียก่อน
สายเรียกเข้าจากอัญญารินทร์
กานต์ธิดา: ว่ามาจ้า
อัญญารินทร์: สัปดาห์หน้าไปเชียงใหม่ด้วยกันน๊า
กานต์ธิดา: อะไรอย่า ไปไหน ไปกับใคร ยังไม่รู้เรื่องเลย
อัญญารินทร์: ไร่ผลไม้ของครอบครัวอากร ไปกับครอบครัวของอากรมีคุณพ่อคุณแม่ของอากร อากรแล้วก็เราน่ะ
กานต์ธิดา: ไปพักกี่คืนเหรอ
อัญญารินทร์: น่าจะคืนสองคืนมั๊ง ทางนู้นไม่ได้บอกเหมือนกันแต่เดาเอาน่ะ
กานต์ธิดา: เหรอ..ต้องขออนุญาตพี่เอก่อน เดี๋ยววางสายแป๊บนะ จากนั้นสัญญาณก็ตัดไป
สักพักใหญ่กานต์ธิดาก็ต่อสัญญาณหาเพื่อรักใหม่
กานต์ธิดา: ตกลงว่าพี่เออนุญาตนะ
อัญญารินทร์: โอเคจ้า วันหยุดหน้าก็แต่งตัวสวย ๆ รอนะจะไปรับที่บ้านไปสนามบิน
กานต์ธิดา: โอเคจ้า
อัญญารินทร์: บายจ้า แล้วเจอกัน
กานต์ธิดา: บายจ้า
กานต์ธิดากดวางสาย
เฮ๊อ..หวังว่าคงไม่เจอไอ้หมอขี้ดุขี้วีนอีกนะ บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระเว้ย ถ้าไม่ได้ตามนี้อย่ามาเรียกว่ากานต์ธิดา หญิงสาวได้แต่คาดโทษไว้ในใจ
……………………………….
วันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นวันที่อัญญารินทร์นัดหมายกับเธอว่าจะมารับที่บ้านเพื่อไปเที่ยวเชียงใหม่กับครอบครัวสหศิลป์ปรีชา
"มากันแล้วค่ะ หนูไปก่อนนะคะพี่เอ อยู่บ้านคนเดียวถ้าเหงาก็ชวนเพื่อนมานอนเป็นเพื่อนนะ หนูไม่ว่าหรอกมีข้อแม้เพียงข้อเดียว ห้ามยกเค้าของ ๆ หนูก็พอ" คนตัวบางบอกพี่ชายเป็นนัย ๆ แต่แอบติดตลก
รถยนต์คันหรูมาจอดที่หน้าประตูรั้วบ้านวรนนท์ก็พบว่าคนตัวเล็กยืนรออยู่กับพี่ชายอยู่ก่อนแล้ว
"ฝากดูแลยัยบีด้วยนะครับ อย่าลืมเตือนให้ยัยคนนี้เค้ากินข้าวกินยาด้วยนะ" กานต์บุรุษเอ่ยฝากฝังน้องสาวกับเด็กสาวด้วยแววตาที่ฝากความหวังสุด ๆ
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับผมจะดูแลให้อย่างดีเลยครับ" เปรมมนัสเอ่ยแทรกขึ้นทำเอาสองสาวถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกมองหน้ากันยกคิ้วขึ้นสูง
"ดีครับ อย่างน้อยมีผู้ใหญ่ที่ผมพอจะรู้จักฝากฝังได้ผมก็เบาใจ" กานต์บุรุษเอ่ยยิ้ม ๆ
"ครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ ได้ไฟล์เช้าครับ/ปะ สาว ๆ ขึ้นรถค่ะ" เปรมมนัสทำทีเป็นเร่งสองสาวแบบเนียน ๆ
เมื่อขึ้นรถเรียบร้อยอัญญารินทร์ถูกสั่งให้ไปนั่งด้านหลังเหมือนเดิม และกานต์ธิดาถูกจัดแจงให้นั่งข้างคนขับ เมื่อนั่งรถเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลานสาวคุณอาจึงอดถามขึ้นไม่ได้
"ตกลงอานัทจะไปกับเราด้วยเหรอคะ"
"ไปซิ งั้นจะตื่นเช้าทำไมล่ะ"
"เย้….ดีใจจังอย่างน้อยก็มีเพื่อนแล้ว"
"ไม่ใช่เพื่อน แต่มีคุณอาค่ะ"
"นั่นแหละ เน๊าะยัยบีเน๊าะ"
ส่วนกานต์ธิดาได้แต่หันไปส่งยิ้มแหย ๆ ให้เพื่อนสาวแต่ระหว่างจังหวะที่หันหน้ากลับสบสายตากับคนนั่งข้าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขาจ้องเธอแบบเอาเป็นเอาตายอยู่ก่อนแล้ว
หลังจากลงจากรถได้เปรมมนัสก็เดินจูงมือสองสาวมาที่แผนกผู้โดยสารขาเข้า เพราะแตละคนมีเพียงเป้คนละหนึ่งใบเป็สัมภาระเท่านั้น
"นายนัท ทางนี้" ปกรณ์ร้องเรียกเพื่อนรักแล้วยกคิ้วให้สัญญาณอย่างรู้กัน
"สวัสดีครับป๊า สวัสดีครับม๊า/มารอนานแล้วเหรอนายกร" เปรมมนัสยกมือกระพุ่มไหว้บิดามารดาของเพื่อนรักพร้อมกับเอ่ยถามเพื่อนรักอย่างนึกเกรงใจผู้ใหญ่ ส่วนผู้สูงวัยทั้งสองได้แต่รับไหว้ยิ้ม ๆ
"ไม่นานหรอก เพิ่งมาถึงเหมือนกัน ว่าไงคะสาว ๆ มีกระเป๋ามาแค่นี้เหรอ จะพาไปเล่นน้ำด้วยนะ ในไร่ก็มีธารน้ำตกย่อย ๆ นะสวยอยู่" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ แต่สายตาจับจ้องอยู่กับคนตัวเล็กเพียงคนเดียวเท่านั้น
"ไม่เป็นไรหรอกนายกร เดี๋ยวหาซื้อที่นั่นเอา ไม่อยากแบกของเยอะเกะกะเปล่า ๆ" เปรมมนัสเอ่ยออกมาตามที่คิด
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง
เพียงหนึ่งชั่วโมงเศษ ๆ ผ่านไปเครื่องบินก็เทคออฟลงสู่ท่าอากาศยานในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งหมดเดินออกมาที่ฝั่งผู้โดยสารขาออกก็พบชายรูปร่างล่ำสันสูงใหญ่ผิวขาวเหลืองยืนยิ้มฟันขาวโบกมือโบกไม้ให้พวกเขาอยู่ก่อนแล้ว
"สวัสดีครับนายพ่อ สวัสดีครับนายแม่ สวัสดีครับคุณปกรณ์" ชายหนุ่มยกมือกระพุ่มไหว้ผู้เป็นนายและหันมายกมือไหว้เปรมมนัสและส่งยิ้มเอ็นดูเด็ก ๆ เพราะสองสาวชิงยกมือไหว้ชายหนุ่มเสียก่อน
"ปะ พานายไปที่ไร่สหศิลป์ปรีชาที อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้ตัวดีมันจะว่ายังไงถ้ามันเห็นหน้าพ่อแม่พี่น้องบุกไปถึงถิ่นของมันเนี่ย" กรพัฒน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แอบดุนิด ๆ
"ได้ครับนาย เชิญทางนี้เลยครับ นายอั๋นกำลังเอารถมารับให้ผมมาเชิญนายไปที่รถครับ เชิญครับ" ชายหนุ่มรูปร่างบึกบึนกล่าวขึ้นอย่างนอบน้อมพร้อมกับเดินนำหน้า ทั้งหมดใช้เวลาเดินทางจากสนามบินมาถึงไร่เป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่เพราะระยะทางไกลมากเกินไปนะ เพราะสาว ๆ ขอให้พลขับแวะจอดซื้อของกินตลอดทางน่ะซิ