ตอนที่ 3 ตาม
ครืนนนนนน ครืนนนนนน
เสียงสั่นของโทรศัพท์ปลุกให้มาเฟียหนุ่มสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา หลังจากเอ็นหลังหลับพักสายตาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน พรีน คว้าโทรศัพท์เครื่องหรูบนโต๊ะทำงานขึ้นมา เบอร์โชว์บนหน้าจอเป็นเบอร์ของผู้เป็นแม่เขาจึงกดรับสายทันที
" ครับ "
" แม่โทรมากวนหรือเปล่าคะ? "
" ไม่ครับ "
" พรีนเจอกับน้องหรือยัง ? "
มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วยุ่ง เขาไม่เข้าใจว่าน้องที่ผู้เป็นแม่เอ่ยหมายถึงใคร ก่อนจะย้อนถามท่านอีกครั้ง
" น้องไหนครับ ? "
" ก็หนูเจลลี่ไงคะ "
คำตอบของผู้เป็นแม่ทำให้มาเฟียหนุ่มสุดคิดขึ้นมาได้ทันที ก่อนจะตอบกลับเสียงเรียบ " ยังครับ "
เมื่อเขาลืมซะสนิทใจว่าท่านเคยฝากให้ดูแลยัยเด็กแรดคนหนึ่งที่เขาไม่ต้องการเจอหน้า และคอยหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด
" ก็พรีนลืมหนูเจล..จะให้เจอได้ยังไงล่ะ! หรือว่าพรีนหนีน้องอีกแล้ว ? น้องมาเรียนประเทศไทยตั้งปีกว่าแล้วนะ ถ้าแม่ไม่โทรตามมาถาม…พรีนก็จะไม่ยอมดูแลน้องใช่ไหม ? "
" ยัยเด็กนั่นโตแล้วนะครับทำไมแม่ถึงอยากให้พรีนดูแลอีก ? แม่ก็รู้ว่าพรีนไม่ชอบเธอ " มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามผู้เป็นแม่อย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อเขาไม่อยากดูแลยัยเด็กแรดที่เอาแต่ตามตื๊อตั้งแต่เด็กจนโตก็ยังตามไม่เลิก
" ไม่พูดอย่างนั้นสิลูก ยังไงหนูเจลลี่ก็เป็นผู้หญิง น้องอยู่ตัวคนเดียวอันตรายแย่ แล้วอีกอย่างพรีนกับหนูเจลลี่ก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ พรีนช่วยดูแลน้องไม่ได้เหรอลูก ? "
" แต่พรีน...... "
" ไม่มีแต่! พรีนต้องดูแลหนูเจลลี่จนกว่าน้องจะเรียนจบ ไม่อย่างนั้นแม่คงเสียใจคุณปิ่นอุตส่าห์ไว้ใจแม่ ฝากให้พรีนคอยช่วยดูแลน้องแทน "
ไม่ทันที่มาเฟียหนุ่มจะเอ่ยประโยคจบ ผู้เป็นแม่กลับแย้งขึ้นมาซะก่อนด้วยน้ำเสียงแข็งเฉียบขาด ทำให้พรีนถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างไม่พอใจในคำสั่ง
" ตามนี้นะลูก! "
" ก็ได้ครับ พรีนจะดูแลจนกว่ายัยนั่นจะเรียนจบ หลังจากนั้นพรีนจะไม่ขอยุ่งเกี่ยว! "
" เฮ้ออ! ก็ได้ค่ะแม่ยอมก็ได้ " วิดาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เธออยากให้ลูกชายกับลูกสาวของเพื่อนสนิทลงเอ่ยกัน แต่ได้ยินคำขาดจากลูกชายแล้วเธอคงขัดอะไรไม่ได้
" ขอบคุณครับ งั้นพรีนขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ "
" จ๊ะ รักลูกนะ "
" รักแม่เหมือนกันครับ "
พรีน กดวางสายทันทีด้วยอารมณ์หงุดหงิด ยิ่งพยายามหนีเท่าไหร่ก็ยิ่งหนีเธอไม่พ้น " เธอมันตัวอันตรายสำหรับฉันจริง ๆ ยัยเด็กแรด!! " ริมฝีปากหนาขยับบ่นอย่างหัวเสีย คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันยุ่ง ยามนึกถึงวีรกรรมของยัยเด็กแรดเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน
สิบเอ็ดปีก่อน
ระหว่างที่มาเฟียหนุ่มวัยยี่สิบต้น ๆ กำลังจับกระสุนยัดใส่กระบอกปืนเตรียมพร้อมยิง อยู่ในห้องยิงปืนถัดจากตัวบ้าน
" คุณพรีนครับ นายหญิงเชิญด้านในครับ "
เสียงลูกน้องคนสนิทของผู้เป็นพ่อเข้ามาเอ่ยเรียกพอดี เขาจึงตวัดสายตาดุดันมองอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงแข็ง " ตามทำไม ? "
" คุณปิ่นกับคุณเจลลี่มาครับ "
" มาอีกแล้วเหรอวะ! แม่งเด็กอะไรวะน่ารำคาญฉิบหาย! " มาเฟียหนุ่มสบถคำออกมาอย่างหงุดหงิด
ปึ้ง!!!
มือใหญ่วางกระบอกปืนกระแทกพื้นโต๊ะเสียงดัง ก่อนจะเอี่ยวหลังเดินออกไปทันที เหล่าลูกน้องต่างก้มหลังทำความเคารพนายน้อยของบ้าน
หากชายหนุ่มไม่เข้าไปผู้เป็นแม่ต้องตัดพ้อน้อยใจออกมาจนเขารู้สึกผิดอีกเป็นแน่
" พี่พรีน "
ครั้นที่มาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาในบ้าน เสียงใสของหญิงสาววัยสิบขวบวิ่งหน้าตายิ้มแป้นเข้ามาเกาะแขนเขาไว้ทันที พลันให้คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม นัยน์ตาคมกริบดุจคมมีดมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างรำคาญ ก่อนจะสะบัดแขนออกจนมือเธอหลุด
ทว่าเธอกลับฉีกยิ้มร่าเริงราวกับไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับความชังที่เขามีให้เธอ พรีนละสายตาจากหญิงสาวก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องรับแขก โดยมีเสียงเธอเอ่ยเรียกตามหลัง
" พี่พรีนรอเจลด้วยยยย! "
" พรีนลูก " วิดาเอ่ยเรียกลูกชายทันทีที่เขาเดินเข้ามาในห้องรับแขก พรีนจึงยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ข้าง ๆ ผู้เป็นแม่ด้วยสีหน้าท่าทางเย็นชา ปิ่นจึงพยักหน้ารับอย่างใจดี
" น้องล่ะ ? "
" พี่พรีนไม่เห็นรอเจลเลย "
วิดาเอ่ยถามไม่ทันขาดคำ ทว่าเจลลี่กลับวิ่งเข้ามายืนข้างกายมาเฟียหนุ่มซะก่อน
พรีนปรายตามองอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะกล่าวลาผู้ใหญ่ทั้งสองเสียงเรียบ " ผมขอตัวก่อนนะครับมีงาน "
" นั่งคุยกับแม่ คุณปิ่นแล้วก็น้องเจลลี่ก่อนสิพรีน "
" ไม่เป็นไรวิดา..ให้พรีนไปเถอะคงงานยุ่งจริง ๆ " ปิ่นหันไปกล่าวกับเพื่อนสนิทอย่างเข้าใจ
" งั้นพรีนพาน้องไปด้วยนะ เผื่อน้องอยากถามเรื่องเรียน "
" ได้เหรอคะคุณน้า ? " เจลลี่โพล่งถามอย่างดีใจ เธอฉีกยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าจะได้ไปอยู่กับชายหนุ่มที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่แรกเจอ
" จ๊ะ "
" แต่พรีน...... " ขณะที่พรีนกำลังจะแย้ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าอ้อนวอนขอความเห็นใจจากผู้เป็นแม่ เขาจึงต้องจำใจกลืนคำพูดเหล่านั้นลงคอไปเมื่อรู้สึกใจอ่อน เขามักจะใจอ่อนกับแม่ของเขาเท่านั้น เพราะวิดาเธอทั้งใจดีอ่อนโยนและเรียบร้อย ไม่เคยต่อว่าหรือด่าทอเขาแรง ๆ เลยสักครั้ง เพราะว่าเธอสอนลูกชายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและมีเหตุผล
" ผมขอตัว " พรีนกล่าวลาแค่นั้น ก่อนจะรีบเดินออกไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด
" เจลขอตัวก่อนนะคะ "
" อย่ากวนพี่เขานะลูก "
" รับทราบค่ะ " เจลลี่ตอบรับผู้เป็นแม่พร้อมกับยกมือขึ้นมาแตะหน้าผากตะบะข้างอย่างทหาร ก่อนจะรีบวิ่งตามพรีนไปทันที ปิ่นส่ายหัวเบา ๆ แววทอดถอนใจในความดื้อของลูกสาว
" ไปไหนแล้วเนี่ยไวจัง " เจลลี่มุ่ยหน้าบ่นพึมพำขณะเดินมาสวนหลังบ้านตามหาพี่ชายตัวสูงที่ออกมาก่อนหน้านั้น เธอมองซ้ายมองขวาทว่าสะดุดตากับกรงกระต่ายสีขาวขนปุยขนาดใหญ่ อยู่ใกล้กับแปลงดอกกุหลาบจึงรีบเดินเข้าไปดูทันทีด้วยท่าทางตื่นเต้น
" ว้าวเจ้ากระต่ายผู้น่าสงสารน่ารักจังเลย " เจลลี่เอ่ยชมกระต่ายตรงหน้าหลายตัว เธอทั้งสงสารและเอ็นดูในเวลาเดียวกัน ก่อนจะคิดไตร่ตรองอะไรบางอย่าง
" คงอยากออกมาวิ่งเล่นสินะ เจลดูการ์ตูนกระต่ายเวลามันได้วิ่งเล่นกันในสวนแครอทดูมีความสุขแล้วก็สนุกมาก ๆ เลย "
ถ้อยคำสุดท้ายถูกเอื้อนเอ่ยออกมา เธอจึงถือวิสาสะปลดกลอนประตูกรงกระต่ายน้อย จนพวกมันรีบวิ่งกันออกไปคนละทิศละทาง ท่ามกลางเสียงไร้เดียงสาของเจลลี่คอยเอ่ยเซียร์ให้เจ้ากระต่ายน้อยไปไกล ๆ
" วิ่งไปเลยเจ้ากระต่ายยยยยยไปไกล ๆ เลย ว้าววมีความสุขจัง " มือเล็กพลันปรมมือระรัวตื่นเต้นกับการกระทำของตนเอง
" เห้ยยยย! กระต่ายกู! " ขณะนั้นเสียงโวยวายของมาเฟียหนุ่มตะโกนดังลั่นด้วยความร้อนรนใจ
เจลลี่จึงหันไปตามเสียงด้วยรอยยิ้มแป้นโดยไม่รู้เลยว่าอันตรายกำลังมาเยือน
" พวกมึงรีบจับกระต่ายพวกนั้นมาเร็ว!!!! "
เหล่าลูกน้องต่างวิ่งไปตามคำสั่งของนายน้อย
พรึบ!
" โอ้ยยย! พี่พรีนเจลเจ็บ! " หญิงสาวร้องลั่นใบหน้าไร้เดียงสาบิดเบ้ด้วยความเจ็บ เมื่อถูกมาเฟียหนุ่มกระชากข้อมือเข้าหาอย่างแรง
" เธอมีสิทธิ์อะไรปล่อยกระต่ายฉันฮะ ?!!! "
" ก็มันน่าสงสาร เจลสงสารเลยปล่อยมัน " ริมฝีปากบางสั่นระริก เธอรู้สึกหวาดกลัวกับเสียงตวาดของพี่ชายตัวสูงเขาช่างดูน่ากลัวกว่าทุกครั้ง
" ยัยโง่เอ๊ยยย!!!!! "
พรีนสบถคำออกมาอย่างโมโห ขณะง้างมือขึ้นหวังจะตบหญิงสาวให้หายแค้นใจ ทว่าเธอข่มตาหลับแน่นน้ำตาเอ่อล้นออกมาเลอะเปรอะเปื้อนแก้มนวลเป็นสาย เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวจนไหล่โยก
มือหนาจึงรีบปล่อยข้อมือเล็กทันควันแล้วข่มอารมณ์ไว้ เขาอุตส่าห์เลี้ยงกระต่ายพวกนั้นตั้งแต่เล็กจนโต สำหรับการทดลองยาชนิดใหม่ที่พึ่งผลิตสำเร็จ แต่เธอดันเซ่อซ่ามาปล่อยไปจนไม่เหลือสักตัว เขาโมโหจนอยากจะบีบคอเธอให้ตายซะเดี๋ยวนี้จริง ๆ