สิ้นเสียงของเฟื่องรัตน์ มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินถือพานที่มีแหวนสองวงวางคู่กันอยู่ในกล่องกำมะหยี่ ประกายของเพชรส่องแสงระยิบระยับ
ปอป่านขืนตัวเล็กน้อย แต่พอหันไปเห็นสีหน้าที่จริงจังของเฟื่องรัตน์ที่จ้องมองมาแบบที่ไม่เหมือนทุกครั้ง และขยับปากเหมือนกับเรียกชื่อของ ปอป่านเบา ๆ เธอจึงต้องหยุด หันไปมองหน้าคนตัวใหญ่ที่ยังกอดเธอแน่นแบบไม่พอใจแทน รอบตัวของทั้งคู่แปรเปลี่ยนไปเป็นที่นั่ง แล้วญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็นั่งรออยู่แล้ว
ปอป่านถูกธราเทพดึงตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้นที่ปูพรม เธอยังดึงดันขัดขืนเขาเล็ก ๆ ส่งสายตาร้ายตามนิสัยที่ไม่เคยยอมใครของเธอไปยังธราเทพ
เขาขยับปากพูดตอนที่ก้มลงมาชิดใบหูของหญิงสาว
“ไว้เราค่อยกลับไปคุยกันที่บ้าน งานนี้ไม่พร้อมที่จะให้คุณป่านอาละวาด”
ธราเทพดักคอ
“คุณอากับคุณกำลังเล่นอะไรกันอยู่คะ ป่านไม่สนุกด้วยนะ” เธอเค้นคำพูดออกมาจากปาก แน่ใจว่าได้ยินกันแค่สองคน
“ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ คุณมองไปรอบ ๆ สิ จะให้คุณอาเฟื่องของคุณเสียหน้าหรือยังไง งั้นก็เชิญอาละวาดได้ตามสบาย”
ธราเทพรู้นิสัยปอป่านดี ถึงเธอจะร้ายแค่ไหน แต่ถ้าคุณอาเฟื่องว่าอย่างไรเธอต้องว่าตาม ตอนนี้มันเหมือนตกกระไดพลอยโจนเสียมากกว่า
สายตาของปอป่านปะทะเข้ากับสายตาของคุณอาชัยนันท์ที่กำลังยิ้มหยันมองหลานสาวในไส้ที่ไม่เคยเห็นเขาเป็นอาเลยด้วยซ้ำไป
“ถ้าขืนคุณอาละวาด คงมีคนสะใจมากกว่าหนึ่งคนที่เห็นความหายนะและหน้าแตกของคุณอาเฟื่องรัตน์” เขาย้ำแบบรู้ทัน
“นั่งลงครับ” มือใหญ่กดตัวของปอป่านให้นั่งลงไปตรงหน้า
ปอป่านจำใจนั่งลงด้วยสีหน้าที่บูดเบี้ยว
“อีกอย่างทำหน้าทำตาให้น่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนที่เดินเข้ามาเมื่อกี้จะดีกว่านะ นักข่าว ช่างภาพมากันเต็มเลย จะเอาชื่อเสียงของญาณประโพธิ์มาเสียตรงนี้ก็ตามใจคุณ”
ปอป่านยกหน้าขึ้นมองใบหน้าของคุณอาสาว เฟื่องรัตน์นั่งยิ้มจนหน้าบาน ยิ่งตอนที่เห็นธราเทพจัดการจนหลานสาวของเธอให้ยอมทำตามโดยง่ายก็ยิ่งพอใจ
“เหมาะสมกันมากเลยนะคะคุณเฟื่อง” คุณป้าของธราเทพมองใบหน้าที่งามงดของหญิงสาวด้วยความชื่นชม
“ค่ะ เฟื่องคิดแล้วว่าดูคนไม่ผิด อีกอย่างระหว่างญาณประโพธิ์และบวรฤทธิ์ เราเป็นมากกว่าพี่น้องค่ะ ยังไงเฟื่องก็ไม่เห็นใครที่เหมาะสมกับป่านมากกว่าธามอยู่แล้ว” เฟื่องรัตน์เอ็นดูธราเทพมาก แม้เธอจะแก่กว่าธราเทพไม่กี่ปี
“ธามสวมแหวนให้กับน้องสิลูก เดี๋ยวจะเสียฤกษ์เสียยามหมด” คุณป้าเตือน
ปอป่านนั่งกำมือของตัวเองเอาไว้แน่น สีหน้าที่นิ่งเฉยไม่แสดงออกนั้นกำลังเก็บกดความไม่พอใจเอาไว้อยู่เต็มอก สายตาที่เธอมองหน้าของธราเทพช่างว่างเปล่าไร้ความรู้สึกมากกว่า ยิ่งเห็นสายตาที่มองเธออย่างแปลกไป เหมือนชายหนุ่มมองหญิงสาว เธอก็ยิ่งต้องใช้คำว่า ‘เกลียดมาก’ ได้กับเขา
ธราเทพกลับยิ้มให้เธออย่างอ่อนหวาน และมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่งามของปอป่าน ถ้าเป็นคู่รักที่รักกันมาก มันคงดูดดื่มเป็นที่สุด
มือใหญ่ของเขาเอื้อมไปจับมือของเธอแล้วบีบเบา ๆ บังคับให้ร่างเล็ก ๆ นั้นกางมือและนิ้วออกเพื่อสวมแหวนให้
ท่าทีอึกอักและชักมือเหมือนขัดใจ ทำให้เฟื่องรัตน์ต้องเอ่ยขึ้น
“ป่านจ๊ะ”
คุณอาส่งสายตาดุ แต่ใบหน้าฉาบไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน ๆ ให้กับหลานสาว
“ปอป่าน” ธราเทพเรียกชื่อของเธอเต็มยศ ดึงมือน้อย ๆ ของเธอเบา ๆ หญิงสาวกางนิ้วออกอย่างเสียไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ข้างในมันขัดเคืองในหัวใจเป็นที่สุด
เสียงปรบมือของผู้คน และแสงแฟลชของนักข่าวที่อาสาวของเธอตระเตรียมเชิญเอาไว้ต่างกดชัตเตอร์รัว ๆ เก็บภาพอันน่าประทับใจเอาไว้อย่างไม่มีเว้น
“หนูป่านจ๊ะ สวมแหวนให้พี่ธามด้วยสิลูก” ป้าของธราเทพเอ่ยปากกับหญิงสาว
ปอป่านยกหน้าขึ้นไปสบตากับเขา เขายังคงยิ้มแบบเดิม และจ้องมองเธอด้วยความเอ็นดู แต่ในหัวใจของปอป่านกลับเดือดดาล เธอยิ้มมุมปากส่งกลับไปให้กับเขา ก่อนจะหยิบแหวนอีกวงที่อยู่ในพานขึ้นมาสวมให้กับธราเทพและกระแทกมันเข้าไปแรง ๆ คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ชายหนุ่มรับรู้ได้อย่างเต็มหัวใจ
“ช่วยมองกล้องด้วยนะครับ” ช่างภาพคนหนึ่งเอ่ยปากร้องขอ
“ยิ้มสวย ๆ หวาน ๆ นะครับ”
“ดีครับ อย่างนั้นแหละครับ”
“ขอกล้องนี้ด้วยนะครับคุณธาม”
ทั้งคู่จึงยกหน้าขึ้นไปยิ้มให้กับกล้อง ภาพที่ผ่านเลนส์อาจจะดูทั้งคู่มีรอยยิ้มสดใสชวนมอง ต่างไม่มีใครรู้ว่า สองคนที่นั่งยิ้มแย้มยอมให้ช่างภาพถ่ายภาพอยู่นั้น มีอยู่หนึ่งคนไม่รู้ และไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด
“ขยับเข้ามานั่งใกล้ ๆ กันนะครับ ขอถ่ายรูปรวมหมู่เป็นที่ระลึกสักสี่ห้าภาพนะครับ”
ธราเทพขยับตัวเข้าไปใกล้หญิงสาว ก่อนจะถือวิสาสะโอบร่างเล็ก ๆ ที่กำลังทำสีหน้าเรียบเฉยเพราะกำลังรู้สึกแย่เอามาก ๆ มันกระอักกระอ่วนใจพิกลที่ต้องมาทำเป็นรักเป็นดีกับผู้ชายคนนี้ ทั้ง ๆ เพิ่งเคยเห็นเขาครั้งแรก เมื่อกี้นี้เอง
ปอป่านชักตาแข็ง ๆ ใส่เขา
“อย่าคิดนะ ว่าทำแบบนี้แล้วคุณจะได้ทุกอย่างที่คุณอยากได้ อย่าเอาตัวฉันเป็นบันไดเพื่อจะมาแย่งทุกอย่างของญาณประโพธิ์ อาเฟื่องใจดีและใจอ่อนมากไป แต่ให้คุณรู้เอาไว้นะ ว่าฉันนิสัยไม่เหมือนอาเฟื่อง”
ปอป่านพูดขู่เขาออกไปเบา ๆ พอแค่ได้ยินกันสองคน แต่ใบหน้าของคนทั้งคู่ก็ยังคงฉาบด้วยรอยยิ้มส่งตรงไปยังกล้อง
ธราเทพไม่ตอบ แต่กลับบีบมือของปอป่านด้วยความแรง เธอยกหน้าขึ้นไปมองสบตากับเขาในระยะประชิด รู้สึกเจ็บที่มือ