บทที่ 5
ไม่ใช่รับผิดชอบแต่เป็นเพราะหัวใจโอนเอนเมื่อรักเธอ
สามเดือนแล้วที่พิสุทธิ์ได้ขอพัชชาเป็นแฟน เขาและเธอต่างก็เข้ากันได้ดีอย่างรวดเร็ว จนใครต่อใครพากันแปลกใจ เพราะที่ไหนมีพิสุทธิ์ที่นั่นต้องมีพัชชา เฉกเช่นวันนี้ก็เหมือนเคย พิสุทธิ์พาพัชชาไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างเพื่อนที่บ้านของเอกภพ
“มึงเลิกดูดบุหรี่ตั้งแต่เมื่อไรวะไอ้เก้า” โชคชัยนั่งหลังพิงพนักเก้าอี้ เขายกขาเกยไว้กับเก้าอี้อีกตัว ดูดบุหรี่แล้วยื่นให้พิสุทธิ์ เมื่อเพื่อนส่ายหน้าเขาก็ทำหน้างุนงง ยิ้มมุมปาก
“ไอ้เก้ามันเลิกทุกอย่างเพราะ...” เอกภพเอาบุหรี่ตัวที่โชคชัยยื่นให้พิสุทธิ์มาดูด เขาพ่นลมหายใจแล้วพยักหน้าให้โชคชัยดูคนที่ทำให้พิสุทธิ์เปลี่ยนไป
“กูดีใจว่ะที่มึงจริงจังกับหนูนา” โชคชัยหันมองตามสายตาของเอกภพ เห็นพัชชากำลังช่วยอรอินทร์และจิลดาทำอาหารอยู่ในห้องครัว
“ไอ้เก้ามันกำลังหลงเด็กว่ะ” เอกภพพูดยียวนเพื่อน
“กูไม่ได้หลงเด็ก แต่กูรักเด็กว่ะ หนูนาทำให้กูลืมอดีตอันเลวร้ายว่ะ” สายตาสีเข้มเจ็บปวดร้าวรานจางหายไปเมื่อถูกภรรยาคนก่อนทำไว้ ซึ่งในตอนนี้เต็มไปด้วยความรักมองหญิงสาวที่ยิ้มหัวเราะอยู่กับลูกของเพื่อน ๆ
“มึงแน่ใจเหรอวะไอ้เก้า” เอกภพก็หันมองตามสายตาของเพื่อน แต่ชายหนุ่มไม่ได้มองพัชชา เขามองภรรยาและลูกของเขาต่างหาก
เมื่อมีเพื่อนรักที่สนิทกันไม่ว่าเป็นเรื่องอะไรที่ทุกข์หรือสุข เขาก็อยากจะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง พิสุทธิ์ยิ้มมุมปากมองสบตาเพื่อนทั้งสองแล้วบอกเพื่อนว่า “ความรักครั้งนี้มันไม่เหมือนตอนที่กูรักมุกดา”
“ไม่เหมือนกันยังไงวะ” เอกภพถาม
“กูบอกพวกมึงไม่ถูกว่ะ คือหัวใจกูเต้นแรงมากเวลาอยู่ใกล้เธอ กูอยากปกป้องและดูแลเธอทำให้เธอมีความสุขมากที่สุด” พิสุทธิ์หายใจแรง ๆ ไม่อยากเล่าความรักครั้งเก่าที่เคยรักมุกดาให้เพื่อน ๆ ฟัง แต่กับพัชชาเขาอยากเล่าให้เพื่อนฟังเพราะหัวใจของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ในตอนนี้เขารักพัชชา รักอย่างรวดเร็ว
“นี่มึงเข้าไปคุยเรื่องของทั้งสองคนกับน้าพิมพ์หรือยังวะ” ถึงจะรู้นิสัยของพิสุทธิ์ว่าชายหนุ่มไม่ใช่คนเจ้าชู้หรือหลอกฟันผู้หญิงไปวัน ๆ แต่โชคชัยก็อยากให้เพื่อนทำให้ถูกต้อง
“ยังว่ะ แต่กูพาน้องเขาไปจดทะเบียนสมรสแล้วนะโว้ย” สายตาตำหนิที่มองจ้องเขม็ง ทำให้พิสุทธิ์รีบพูด ซึ่งเขาพาพัชชาไปจดทะเบียนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วหลังรู้ว่าเธอกำลังท้องลูกของเขา
“นี่มึงว่าอะไรนะ หนูนาท้องเหรอ” โชคชัยไอสำลักควันบุหรี่ เขามองหน้าพิสุทธิ์เล็กน้อยแล้วหันไปมองพัชชา ซึ่งเธอก็หันมายิ้มให้เขา
“ก็ใช่น่ะสิ นี่มึงจะเสียงดังทำไมวะ” เสียงตะคอกของเพื่อนทำให้พิสุทธิ์รีบปิดปากเพื่อนไว้
“กูละเชื่อมึงจริง ๆ เลยว่ะไอ้เก้า นี่มึงทำน้องเขาท้อง มึงยังนิ่งดูดายไม่เข้าไปคุยกับพ่อแม่ของเขาอีกเหรอ” เอกภพตำหนิเพื่อน พร้อมทั้งยกมือตบหน้าผากของตัวเองดัง ‘เพียะ!’
“คุยอะไรกันอยู่คะหนุ่ม ๆ” อรอินทร์เดินอุ้มท้องถือจานอาหารเข้ามา โชคชัยรีบลุกขึ้นช่วยเมียจัดวางอาหารบนโต๊ะ แล้วเขาก็ตบขาให้เมียท้องใกล้คลอดนั่งบนหน้าตัก
“นั่นสิคะ เสียงดังไปถึงข้างในเลยค่ะ คุยอะไรกันอยู่เหรอคะ” จิลดาถามพร้อมทั้งเอาลูกสาววัยสามขวบให้เอกภพอุ้ม แล้วเธอก็นั่งข้างสามี
“คุณพ่อขา น้าหนูนาซื้อให้น้องน้อยค่ะ” เด็กน้อยนามว่าน้องน้อยแหงนหน้าชูตุ๊กตาบาร์บี้สองตัวให้พ่อดู
“ขอบคุณน้าหนูนาหรือยังครับ” เอกภพถามลูกสาวชิดฟันน้ำนมของลูก แล้วหันไปจูบขมับของภรรยาที่เข้ามานั่งข้าง ๆ
“ค่ะ” น้องน้อยพยักหน้าให้พ่อ แล้วคลานไปนั่งตักของแม่
“นี่จะบอกเราได้หรือยังคะ พี่ ๆ คุยอะไรกันเหรอคะ” อรอินทร์เอียงหน้าถามสามี
“มึงจะให้กูเป็นคนพูดหรือมึงจะพูดวะ” โชคชัยพาดแขนไว้พนักเก้าอี้ตัวที่ภรรยานั่ง เขาโอบกอดเธอมือก็ลูบหัวไหลนุ่มเบา ๆ เวลาพูดกับพิสุทธิ์
“จอย อร พี่กับหนูนากำลังจะมีเจ้าตัวเล็กนะ” พิสุทธิ์จับมือของพัชชามากุม บอกเมียของเพื่อนชิดมือของพัชชา ตาก็เหลือบมองหน้างามผุดผ่อง
“ท้อง!! พี่เก้า” อรอินทร์และจิลดาที่ยังไม่รู้พากันอุทานเสียงตกใจ พวกเธอพากันหันไปมองหน้าสามี ซึ่งสามีของพวกเธอก็พยักหน้าให้มองพัชชาที่ทำหน้ายิ้มแห้ง ๆ ให้พวกพี่ ๆ
“แต่งงานกับพี่นะ” พิสุทธิ์มองทุกคนที่ทำหน้าตกใจ เขารีบลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าหญิงสาว มือที่กุมมือน้อยก็ยังจับและลูบนิ้วนางข้างซ้ายเบา ๆ
“พี่เก้าลุกขึ้นเถอะค่ะ” พัชชาดึงมือออกจากมือหนาแต่ไม่สำเร็จ เธอจึงบอกให้เขาลุกขึ้น
“พี่จะนั่งอยู่อย่างนี้จนกว่าเธอจะรับปาก พาพี่ไปหาพ่อแม่ของเธอ” พิสุทธิ์ทำหน้าเศร้า ตาละห้อยวิงวอนให้น้องน้อยรับคำ
“พี่ทำให้หนูอายพวกพี่ ๆ นะคะ” สายตาของพี่ ๆ มองทำให้พัชชาอายหน้าแดงซ่าน เธอก้มหน้าหลบตามองมือของตัวเองอยู่ในอุ้งมือของพิสุทธิ์
“ตกลงเถอะหนูนา ไอ้บ้าเก้ามันไม่เคยคุกเข่าขอความรักจากใครเลย เธอคนแรกที่มันทำอย่างนี้” เอกภพพูดความจริง
“โอเคนะหนูนา แต่งงานกับพี่นะ” พิสุทธิ์ถามชิดหลังมือนุ่ม
“พี่เก้าลุกขึ้นสิคะ หนูอายนะคะ” พัชชาไม่กล้ามองตาพิสุทธิ์เพราะเธออาย จึงหันไปมองมองโชคชัย ซึ่งพี่ชายก็พยักหน้าให้เธอตกลง
“น้าพิมพ์คงดีใจถ้าหนูนาพาไอ้บ้านี้เข้าไปหา ทำทุกอย่างให้ถูกต้องซะหนูนา” โชคชัยบอกน้องสาว
“ค่ะ” พัชชาพูดเบา ๆ ใบหน้าแดงอมชมพูก็พยักหน้ารับฟังคำชี้แนะจากโชคชัย พี่ชายร่วมญาติสายเลือดเดียวกัน
“พี่ใส่ให้นะ” พิสุทธิ์บอกให้ทุกคนเป็นพยานรักครั้งนี้ ซึ่งชายหนุ่มได้เอาแหวนเพชรน้ำงามเม็ดเดียวสวมเข้าไปในนิ้วนางของน้อง
“พี่เก้า” พัชชาครางเสียงสั่น น้ำตาอาบแก้มไหลหยดลงบนมือของชายหนุ่ม ซึ่งพิสุทธิ์ที่ก้มจูบมือน้อยนั้นก็เหลือบตามองหน้าสวย เขาเช็ดน้ำตาให้เธอ
“จองจำพี่ด้วยแหวนวงนี้สิ”
พัชชามือสั่นมองแหวนทองคำขาวเกลี้ยงในมือ เธอสวมแหวนให้ชายหนุ่มที่มีสายตาของพวกพี่ ๆ มองเป็นสักขีพยานรักของเธอ
ด้านพิสุทธิ์จับมือนุ่มทั้งสองข้างมาจูบ กระซิบเสียงเบา ๆ บอกให้น้องและตัวเขาเองได้ยินกันเพียงสองคนว่า “พี่รักเธอ…”
หนึ่งเดือนต่อมาที่บ้านของพัชชา...
เสียงเพลงบรรเลงผสมผสานกับเสียงของแขกเหรื่อนับร้อยคนพากันเข้ามาแสดงความยินดีปรีดากับคู่บ่าวสาว พิสุทธิ์และพัชชาต่างยิ้มแย้มนั่งคู่กันรับน้ำสังข์และคำอวยพรจากพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย และเมื่อแขกผู้ใหญ่ให้พรแล้วก็มีเพื่อน ๆ เข้ามาให้พร
“กูดีใจกับมึงและขอให้มึงมีความสุขนะเก้า” เอกภพแสดงความยินดีกับพิสุทธิ์
“มีความสุขอยู่ด้วยกัน รักกันจนแก่เฒ่านะหนูนา พี่เก้า” จิลดาให้พรพิสุทธิ์และพัชชาเมื่อสามีเป็นคนรดน้ำสังข์บนมือของบ่าวสาว
“ขอบใจมากว่ะ” พิสุทธิ์พยักหน้าให้เพื่อน แล้วหันไปยิ้มให้เจ้าสาวแสนสวย ซึ่งเธอก้มไหว้เอกภพและจิลดาเอ่ยว่า “ขอบคุณพี่เอกกับพี่จอยมากค่ะ”
“มีความสุขนะหนูนา” อรอินทร์เป็นคนเอ่ยคำอวยพรเมื่อสามีรดน้ำสังข์บนมือของพิสุทธิ์และพัชชา
“กูดีใจกับมึงด้วยนะเก้า ยังไงก็ฝากน้องสาวของกูด้วยนะ หนูนาพี่ขอให้เธอมีความสุขนะ” โชคชัยให้พรพิสุทธิ์และน้องสาวด้วยความจริงใจ
“ขอบคุณพี่โชคพี่อรมากค่ะ” พัชชาไหว้โชคชัยและอรอินทร์ เธอเอียงหน้ายิ้มหวานให้พิสุทธิ์ที่ถูกเพื่อน ๆ ของเขาต่างพากันพูดแซว ซึ่งพิสุทธิ์ก็ทำได้แค่ยิ้มและพูดกับเพื่อนว่า “กูขอบใจพวกมึงมากนะ”
ในห้องหอ...
พิสุทธิ์และพัชชานั่งพับเพียบเคียงคู่กันอยู่บนพื้นพรม ซึ่งมีแขกผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายนั่งอยู่ที่ปลายเตียง ‘พิมพ์’ แม่ของพัชชามีใบหน้าเบิกบานยิ้มแย้มอิ่มอกอิ่มใจตลอดเวลา เมื่อเห็นลูกสาวคนเดียวและรักดังดวงใจเป็นฝั่งเป็นฝา นางเรียกลูกเขยและลูกสาวให้เข้ามาหา
“เก้า น้าฝากลูกสาวของน้าให้เก้าดูแลด้วยนะ” พิมพ์น้ำตาคลอมองหน้าลูกเขยและลูกสาว
“ผมสัญญาครับ ผมจะทำให้หนูนามีความสุขครับ” พิสุทธิ์จับมือของพัชชามาจูบเบา ๆ ตรงหลังมือ แสดงให้น้าพิมพ์เห็นว่าเขาพูดจริงจัง
“น้ามีลูกสาวคนเดียว น้องเปรียบเสมือนดวงใจของน้า ถ้าวันไหนเก้าไม่ต้องการและไม่อยากดูแลน้อง ก็ให้เก้าส่งน้องคืนให้น้านะ เก้าอย่าทำร้ายจิตใจน้องให้บอบช้ำนะ” พิมพ์บอกลูกเขย หวาดหวั่นกลัวชีวิตคู่ของลูกสาวจะเหมือนตัวเอง ซึ่งเมื่อครั้งพัชชาอายุสามขวบสามีของเธอเข้ามาขอหย่าเพื่อที่จะไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่
“ผมจะรักและซื่อสัตย์ต่อหนูนาครับ ผมจะไม่ทำให้หนูนาเสียใจแน่นอนครับ” พิสุทธิ์เอ่ยเสียงหนักแน่นแล้วเขาพาน้องก้มลงกราบเท้าของแม่ยาย
ด้านพิมพ์ยื่นมือลูบศีรษะลูกเขยอย่างเอ็นดูรักใคร่ แล้วพิมพ์หันไปมองลูกอ้าแขนไว้รอให้ลูกสาวสุดดวงใจเข้ามาสู่อ้อมกอด
“หนูนาลูกแม่”
“หนูรักแม่ค่ะ” พัชชาโผเข้าโอบกอดเอวท้วมของแม่ไว้ด้วยความรักเต็มหัวใจ ดวงหน้างามมีคราบน้ำตาซบลงบนตักของแม่
“หนูต้องเป็นภรรยาที่ดีของพี่เก้าเขานะลูก” พิมพ์อุ้มดวงหน้างามของลูกสาว บอกให้ลูกอยู่ในโอวาทเชื่อฟังสามี
“ค่ะแม่” พัชชาน้ำตาคลอพยักหน้ารับคำอวยพรอันประเสริฐของแม่
“พ่อกับแม่ขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขนะ อยู่ด้วยกันต้องใช้เหตุผลและเอาความรักของลูกตัดสินนะ” เมื่อพิมพ์ให้พรบ่าวสาวเสร็จแล้ว พจน์และวรรณพ่อแม่ของพิสุทธิ์ก็เอ่ยขึ้น พิสุทธิ์พาน้องไปนั่งตรงหน้าพ่อแม่ฟังพวกท่าน
“แม่ฝากพี่เขาด้วยนะหนูนา ใช้ความรักตัดสินเมื่อชีวิตคู่มีปัญหา” วรรณยื่นมือไปลูบหัวของลูกสะใภ้ ความน่ารักอ่อนหวานของพัชชาทำให้บาดแผลในหัวใจของพิสุทธิ์ที่มุกดาทำไว้ได้หายอย่างรวดเร็ว
วรรณเอ็นดูและถูกชะตาพัชชามากเมื่อครั้งตอนที่ลูกชายพามาหญิงสาวมาแนะนำให้รู้จัก นางยิ้มให้พัชชาแล้วหันไปมองสามี มองตากันแล้วพยักหน้าให้พิมพ์
“ขอบคุณคุณป้าคุณลุงมากค่ะ / ขอบคุณน้าพิมพ์มากครับ” บ่าวสาวก้มกราบเท้าของสองพ่อและแม่ แล้วเงยขึ้นมองพวกท่านเดินออกจากห้อง
เมื่อพ่อแม่ออกไปแล้ว ความเงียบภายในห้องก็เกิดขึ้น ซึ่งมีเพียงแค่เสียงลมหายใจของเขาและเธอผสมเสียงแอร์ดังแข่งกันทั่วห้อง
“หนูนา” พิสุทธิ์ประหม่าเล็กน้อยเมื่อได้สัมผัสเจ้าสาวแสนสวย เขาประคองเหมือนจะอุ้มให้เธอลุกขึ้นยืนอยู่ในวงแขนกำยำ
“พี่เก้าจะทำอะไรคะ” พัชชาร้องประท้วงเมื่อถูกคนตัวโตอุ้มขึ้นแนบอก ซึ่งเธอไม่ขัดขืนยกแขนทั้งสองขึ้นคล้องลำคอของชายหนุ่มไว้
“พาเมียไปนอนบนเตียงน่ะสิ” พิสุทธิ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ชิดหน้าผากหอมกรุ่น
“พี่เก้าบ้า” พัชชาทุบหน้าอกของเขาหนึ่งทีเพื่อกลบเกลื่อนความอายจนใบหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศ
“ถึงพี่บ้า พี่ก็รักเธอนะ” พิสุทธิ์วางน้องให้นั่งบนขอบเตียง ส่วนตัวเขาก็ยังยืนมองเธอด้วยความเสน่หา เขาถอดเสื้อสูทสีงาช้างพาดไว้ปลายเตียง
“พี่เก้าจะอาบน้ำไหม เดี๋ยวหนูเอาผ้าเช็ดตัวให้” พัชชาหย่อนขาลงเหยียบพื้นแล้วลุกขึ้นยืน
“ปลดกระดุมเสื้อให้พี่มั่งสิครับ” พิสุทธิ์ไม่ยอมให้น้องไปไหน เขาจับให้เธอนั่งบนเตียง แล้วคลานขึ้นเตียงผลักให้เธอนอนราบบนฟูกนุ่ม
“ไม่ให้หนูถอดเสื้อให้เหรอคะ” พัชชาขยับตัวจะลุกนั่งไม่ได้ เมื่อถูกคนแรงเยอะใช้แขนแข็งแกร่งกอดกักขังเธอไว้
“หนูนาสวยมากรู้ตัวไหม” พิสุทธิ์นั่งคร่อมคนตัวน้อย เขาโน้มหน้าลงจนหน้าผากชนหน้าผากนวล ดวงตาสองคู่จ้องกันหวานซึ้ง
“ปล่อยหนูได้แล้วค่ะ” พัชชาดันพี่เก้าออกแล้วเธอก็ลุกขึ้นนั่ง ตัวสั่นระริกกับสัมผัสมือสองข้างของเขาที่คอยแต่จะถอดชุดเจ้าสาว
“ไงครับลูกพ่อ” พิสุทธิ์ไม่ฟังน้อง เขาดันให้เธอนอนลงที่เดิม แล้วชายหนุ่มก็ขึ้นคร่อม ใบหน้าหล่อโน้มลงจูบไซ้ไปตามดวงหน้างาม ริมฝีปากหนาไล้เล็มตามซอกคอขาวแทะโลมผิวนุ่มจนมาถึงหน้าท้องแบนราบ
“พี่เก้าอย่าค่ะ” พัชชาเสียงสั่นเครือห้ามปรามชายหนุ่ม
“ถอดชุดออกนะ หนูนาจะได้ไม่อึดอัด” พิสุทธิ์จูบลูกในท้องของเมียแล้วนั่งคร่อมร่างน้อง แขนทั้งสองข้างค้ำยันฟูกหนาขนาบกักขังร่างบางไว้เหมือนนกน้อยอยู่ในกรงทอง
“พี่เก้า” พัชชานอนนิ่งเป็นหุ่นนุ่มนิ่ม ดวงตากลมโตใสแป๋วมองจ้องดวงตาหื่นกระหายหิว มือของพี่เก้าสาละวนค่อย ๆ ปลดชุดไทยออกจากร่างน้อยทีละชิ้น
“ให้พี่เข้าไปหาลูกนะ” พิสุทธิ์ไม่ยอมฟังน้อง ใจร้อนรุ่มสุมไปด้วยไฟแห่งปรารถนาในตัวเธอ เมื่อจัดการถอดชุดเจ้าสาวเสร็จแล้วพิสุทธิ์ก็จัดการตัวเองให้เป็นเด็กแรกเกิด
“พี่เก้า อย่าค่ะ” พัชชาเสียงสั่นระริก
“อย่าห้ามพี่เลยนะคนดี” ดวงตาสีเข้มสุกประกายใคร่เสน่หาจับจ้องมองร่างขาวผ่องที่ถูกแสงแดดยามบ่ายส่องผ่านทางหน้าต่างมากระทบ
“พี่เก้าอายคนข้างนอกบ้างสิคะ” พัชชาหลับตาปี๋ แล้วรีบยกมือปิดหน้าปิดตา เพราะความอับอายไม่อยากมองร่างเปลือยเปล่าแข็งแกร่งไร้ไขมัน
“อย่าดื้อกับพี่สิครับ” พิสุทธิ์กลืนน้ำลายลงคอดัง ‘เอื๊อก’ เมื่อก้มลงมองรอยแยกของกลีบชบาที่ปกปิด มือใหญ่สั่นเทาจับปลีน่องงามทั้งสองข้างให้โอบรอบเอวของตัวเอง
“ฮืออ พี่เก้า หนูอายนะ” ร่างบางนอนสั่นสะท้าน เหงื่อผุดขึ้นเป็นเม็ด ๆ ตามผิวเนื้อร้อนวูบวาบแดงเถือกเมื่อเจอสายตาดั่งเปลวเพลิงจ้องมองอย่างโลมเลีย
“ทำไมเมียพี่ตัวหอมและก็ผิวดีมาก” แววตาดุจดวงตาเสือร้ายที่คอยจ้องเหยื่อเอาแต่มองร่างเปลือยเปล่าบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยต้องมือชายอย่างหิวโซ
“พิ...พี่เก้าอย่าทำแรงนะคะ หนูกลัวลูกเจ็บ” พัชชาสั่นสะท้านเมื่อสิ่งปกปิดชิ้นสุดท้ายถูกคนตัวใหญ่ร่างเปลือยดึงออก เขาถอดกางเกงในตัวบางออกจากเรียวขาเสลา
“พี่สัญญา พี่จะไม่ทำให้ลูกของเราเป็นอันตรายแน่นอน” พิสุทธิ์โน้มตัวลงนอนทับร่างบาง ใบหน้าคมคายซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น เขาจูบน้อง ไล้เรียวปากไปตามผิวนุ่ม ไต่เป็นตัวปูลงมาถึงสะดือบุ๋ม จูบแผ่วเบาตรงหน้าท้องแบนราบ กระซิบบอกลูกว่า “พ่อเองนะครับ”
เขาเอ่ยเสียงทุ้มน่าหลงใหลบอกให้น้องอย่าเกร็ง ใบหน้าคมสันเคลื่อนลงต่ำที่ไปง่ามขาอวบ เขาสอดมือทั้งสองข้างซ้อนสะโพกงามงอนดันขึ้นเล็กน้อย
ริมฝีปากพรมจูบจุมพิตลงทัณฑ์เนื้อน้องน้อยอย่างอบอุ่น ลิ้นหนาร้อนระอุแหวกว่ายปาดเลียชิมความหอมหวานจากช่อกุหลาบสีชมพูแรกแย้ม เขาดูดชิมน้ำทิพย์รสชาติแสนวิเศษ ชิมอยู่อย่างนั้นไม่รู้อิ่ม
“พี่เก้า” พัชชาครางเสียงกระเส่าเมื่อพี่เก้าคลานขึ้นมานอนทับบนตัวเธอ หญิงสาวน้ำตาไหลอาบหางตาเมื่อความใหญ่โตซอนไซแทรกแซะเข้าหาช่อดอกไม้ของเธอ
“อยากมีความสุขไหม” เขาถามเมียเสียงแหบแห้ง
“ค่ะ” พัชชาส่ายหน้าไปมาจนผมยาวสยายเต็มที่นอน
“ถ้าอยากมีความสุขก็มองตาพี่สิครับ” พิสุทธิ์ก้มมองเนื้อแท้ของตัวเองอยู่ในตัวน้อง คนร่างโตขยับตัวนอนทับร่างบอบบางที่สั่นสะท้าน เขาปลอบขวัญน้องด้วยริมฝีปาก
พิสุทธิ์ขยับกายส่วนล่างแนบแน่นชิดคนตัวหอมด้วยหัวใจถวิลหา ดวงหน้าคมคายซ่านเหยเกที่เงยขึ้นมองเพดานนั้นก้มมองน้องที่นอนบิดตัวเป็นเกลียว ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวเพราะความซ่าน
เรียวปากหยักยิ้มพิมพ์ใจเป็นสุขเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นไห้แปรเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิก คร่ำครวญครางโหยหาบอกให้เขาเร่งทำในสิ่งที่ตัวเขาเองก็อยากจะระเบิดพุ่งของเหลวเป็นน้ำขุ่น ๆ ใส่ตัวน้องเพื่อให้ลูกในท้องได้รับอาหารแสนวิเศษจากพ่อของแก…