พรหมลิขิต

1240 Words
"โอ๊ย..." เสียงของภารันย์ดังลั่น ก่อนร่างจะกระแทกลงกับพื้น แล้วตัวของเขาก็กลิ้งลงไปตามไหล่เขา พิมพ์เพชรมองหาต้นเสียง เห็นแต่เพียงฝุ่นที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว โดยสัญชาตญาณเธอวิ่งไปยังที่เกิดเหตุ หญิงสาวหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นชะโงกหน้ามองหาร่างของรุ่นพี่ที่ร่วงหล่นไปยังเหวเบื้องล่าง "พี่เล็ก....!" เธอตะโกนขึ้นสุดเสียง เสียงของชมพูสะท้อนก้องดังไปทั้งป่า สีหน้าของเธอซีดเผือดเต็มไปด้วยอาการตระหนกตกใจ เธอเดินตามลงไปหายังพื้นเบื้องล่างพร้อมกับสัมภาระเต็มแผ่นหลัง  ทั้งคู่มาเข้าค่ายของคณะมาเยือนที่ผืนป่าละฮูแห่งนี้  สายตาของพิมพ์เพชรไม่เคยละจากเขาตั้งแต่ได้พบหน้ากัน ภารันย์รุ่นพี่ที่ดูดีจิตใจโอบอ้อมอารี รอยยิ้มที่พิมพ์ใจ เขาเป็นเดือนของคณะที่สาว ๆ ต่างกรี๊ดกร๊าด แย่งชิงเพื่อจะเป็นหวานใจของเขากันทั้งนั้น ผู้หญิงอย่างเธอคงได้แต่แอบมองเพราะไม่กล้าแม้จะขยับปากคุยกับเขา   ร่างเล็ก ๆ ของชมพูค่อย ๆ ขยับลงไปตามไหล่เขา ณ เวลานี้ เธอลืมแม้กระทั่งไปตามผู้คน ใจนึกห่วงแต่คนที่อยู่เบื้องล่างเท่านั้น 'พี่เล็ก...อย่าเป็นอะไรนะคะ' เธอตะโกนก้องอยู่ในใจ   ป่ารกชัฏ มีแต่เสียงสรรพสัตว์น้อยใหญ่ก้องกังวานไปทั้งป่า    ทุกคนหยุดพักตรงลานโล่งกว้างของหมู่บ้านละฮู รุ่นพี่ขานชื่อ และเรียกรวมพล แต่ผลปรากฏว่า มีสองคนที่หายไป   "ใครเห็นเล็กกับชมพูบ้าง" ทุกคนต่างส่ายหน้า  เสียงฟ้าเริ่มคำรามก้อง ยังไม่ทันได้ทำอะไร สายฝนก็โปรยเม็ดลงมา ก่อนจะถล่มห่าฝนเม็ดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ลมแรงที่พัดส่งเสียงโหยหวนไปทั้งป่า ทุกคนต่างวิ่งหาที่กำบัง เสียงอื้ออึงถูกกลบด้วยเสียงพายุฝนที่มาจากไหนไม่รู้ โดยที่ไม่มีพยากรณ์มาก่อนล่วงหน้า  ตอนนี้ทุกคนต่างรู้ว่าในคณะได้มีคนพลัดหลงทางไปแล้วสองคน อุปสรรคใหญ่ที่กำลังเผชิญคือห่าฝนที่ลงเม็ดอย่างหนักต่อเนื่องนับชั่วโมง   "โอ๊ะ..." ชมพูอุทานก่อนจะล้มลงไปกับพื้น หญิงสาวงอเข่าเท้าชิดโดยอัตโนมัติ ร่างเล็ก ๆ กลิ้งลงไปตามไหล่เขา ตัวของเธอกระแทกกับพื้นหญ้า และก้อนดินแข็ง ๆ เป็นช่วง ๆ ก่อนจะกระแทกหยุดอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ริมผา "โอ๊ย...!" เธออุทานด้วยความเจ็บและจุก ชมพูพยายามพาร่างที่เต็มไปด้วยสัมภาระติดหลังให้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก พิมพ์เพชรถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอช่างโชคดีเหลือเกิน ก้อนหินที่เธอเหยียบกลิ้งลงไปแบบไม่เป็นท่า หน้าผาที่ไม่สูงเท่าไหร่แต่ตกลงไปคงจะเจ็บตัวน่าดู   "พี่เล็กคะ!" เธอตะโกนเรียกรุ่นพี่อีกที   "โอ๊ะ...อยู่นี่" เสียงหนาใหญ่พยายามเปล่งเสียงออกมา ตอนนี้ร่างเขาอยู่ตรงเบื้องล่างนั้นเอง  เขาขยับร่างกายอย่างทรมาน ชมพูแสดงสีหน้าดีอกดีใจออกมา เธอรีบปีนป่ายลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว เพื่อไปให้ถึงที่ร่างของเขา ภารันย์มีเลือดอาบอยู่ที่ใบหน้า หญิงสาวตกใจหน้าซีดขาวราวกระดาษ รีบเข้าไปจับที่ตัวของเขา  "โอ๊ย....เจ็บ..." มือหนาใหญ่ของเล็กจับอยู่ที่แขนพยายามประคองมันไว้ "พี่เล็กเจ็บตรงไหนบ้างคะ" ชมพูสำรวจด้วยสายตามองไปทั่วร่างกายของเขา "สงสัยแขนพี่จะหัก" เขาบอกเธอ  ชมพูรีบวางเป้ของตัวเองลง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ ออกมาซับเลือดที่หน้าของเขาที่ไหลลงเป็นทาง เธอทำมันอย่างเบามือ "พี่เล็ก มืออีกข้างเจ็บไหมคะ" เธอถามเขา   "ไม่" เธอรีบจับมันไปประกบตรงที่แผลแล้วบังคับมือของเขาให้กดมันเอาไว้  "พี่กดเอาไว้ก่อนนะคะ" สายตาของภารันย์มองตามมือของหญิงสาวที่กำลังพยายามช่วยเหลือเขาอยู่  ชมพูหยิบกิ่งไม้แถว ๆ นั้นมาหัก ก่อนจะทาบมันไปกับแขนของเขาข้างที่ภารันย์บอกว่าหัก แล้วหยิบยกทรงของตัวเองในเป้ออกมาถอดสายแล้วเอาสายนั้นรัดไม้ขนาบไปกับแขนเพื่อไม่ให้เคลื่อนไหว  เสียงฟ้าคำรามลั่นดังมาแต่ไกล สองคนสบตากัน แล้วแหงนหน้าขึ้นไปมองฟ้าสีครึ้มที่กำลังเปลี่ยนสีจากสว่างเป็นดำมืด ก้อนเมฆม้วนตัวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันจับตัวกันเป็นก้อนใหญ่สีทะมึนเริ่มทึบดำแน่นขึ้นเรื่อย ๆ "ฝนจะตกแน่ ๆ ค่ะ" ปากก็พูดมือก็หยิบเป้ของตัวเองมาแบกไว้ที่หลัง ภารันย์ก็ยังมีสัมภาระอยู่เต็มหลัง  "ต้องหาที่หลบฝนกันก่อนค่ะ" เธอบอกเขา ชมพูพยายามพยุงร่างของภารันย์ที่ใหญ่กว่าให้ลุกขึ้น   "โอ๊ะ..." ร่างใหญ่ล้มลงไป โดยมีร่างเล็ก ๆ ของชมพูทับบนร่างของเขาอีกที สองใบหน้าประชิดกันห่างแค่คืบ  หญิงสาวหน้าแดงก่ำ เธอรีบลุกอย่างรวดเร็ว ตาของเธอมองหากิ่งไม้ที่ใหญ่พอจะทำให้เป็นไม้ค้ำยันตัวรับน้ำหนักตัวหนา ๆ ของเขาได้  ชมพูจัดแจงเอาผ้าที่ห้ามเลือดผูกรอบศีรษะของภารันย์ แล้วรีบทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว "เดินเลียบลำธารไปเรื่อย ๆ ดีกว่านะคะ" เขามองเธอทำทุกอย่างอย่างตั้งใจ อาจจะไม่ได้คล่องแคล่วไปหมดแต่ทุกสิ่งที่เธอทำคือช่วยเหลือเขา   สายฝนเริ่มลงเม็ดกระทบศีรษะของทั้งสองคน   "ไหวนะคะ" เธอถามเขา พยายามพยุงร่างที่ได้รับบาดเจ็บให้ไปตามทางเดินเล็ก ๆ ดูก็จะเป็นทางเดินของคนในป่าแห่งนี้แน่ ๆ ตอนนี้ในหัวใจของเธอรู้สึกกลัวไม่น้อย แต่ก็อุ่นใจที่มีเขาอยู่ข้าง ๆ  "โชคดีนะคะ ที่ขาพี่เล็กไม่เป็นอะไร" เธอยกหน้าขึ้นไปยิ้มให้เขา   "น้องชื่ออะไรนะ?" ภารันย์ถามเธอ  ใช่สิ ไม่ได้สวยจนสะดุดตา แว่นหนา ๆ ที่เธอใส่ และผมที่ฟูหยิกหย็องของเธอนี่ คงไม่แม้จะทำให้ภารันย์หันมามองและจดจำ พิมพ์เพชรหน้าเจื่อนไปนิดหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปาก  "ชมพูค่ะ"  แล้วความเงียบสงัดก็เกิดขึ้น ได้ยินแต่เสียงลมหายใจของกันและกัน และเสียงลมหวนที่พัดความเย็นและสายฝนโปรยปราย   ที่หมู่บ้านละฮู ตอนนี้ทุกคนต่างเป็นห่วงทั้งสองคน "เล็กจะเป็นยังไงบ้าง" เดือนเด่น หรือ โมเมนึกถึงคู่จิ้น ที่ใครต่างเชียร์ให้เป็นคู่รัก "แล้วพลัดสายตากันตรงไหนยะ เห็นตัวติดกันเป็นตังเม" สายธารแซวเพื่อน  "ก็ตอนที่เดินขึ้นมาด้วยกัน เมบอกเล็กว่าดอกไม้สีเหลืองเล็ก ๆ ตามทางเดินที่เหมือนดอกกล้วยไม้สวยมาก ๆ"  "ตรงไหน" พิชาญเสียงดังโพล่งขึ้นมาทันที  เดือนเด่นบอกถึงจุดนั้น  ทุกคนต่างสรุปว่าน่าจะเป็นบริเวณนั้นที่เขาหายไป 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD