บทที่ 6 : มึงใจร้ายมาก!

1563 Words
บรืนนน! แล้วถ้าคุณคิดว่ามันจ้อจี้ บอกเลยว่าไม่! เพราะหลังจากเก็บของเสร็จ มันก็โทรตามพี่คิงให้ขับรถมารับเธอไปอยู่ด้วยตอนตีสี่! บร๊ะเจ้า แม่งจะรีบไปไหน ให้เวลานอนหน่อยก็ไม่ได้ ไอ้เพื่อนหัวค..ย! "ไอ้คิม มึงใจร้ายมากเลย" "ก็มึงใจร้ายกับกูก่อนอ่ะ พรึบ!" ก็โยนกระเป๋าอัดหน้าไปเลยสิคะ! เชื่อแล้วว่ามันโกรธจริง ๆ เอาไว้จบภารกิจ [ดูสำคัญมาก] สามเดือนเมื่อไหร่ ค่อยหอบสังขารกลับมาง้อมัน เราจะได้มีที่ซุกหัวนอน ไม่ไปนอนข้างถนน ชีวิตอนาถ เมื่อไม่มีเพื่อน มีอยู่จริง! (¥~¥) "หึ..." ขึ้นมาบนรถก็ถูกคนข้างกายหัวเราะเย้ยหยันใส่ แต่พอเห็นว่ารอยดูดที่คอชัดเจนขึ้นก็หน้าเปลี่ยนทันที "หึ..." เธอหัวเราะกลับในแบบเดียวกัน แล้วจงใจเอียงให้คอให้เห็นรอยดูดที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากการดูดเพลิน "เส้นเลือดขึ้นหน้าแล้วนั่น ระวังจะหึงจนกระอักเลือดนะคะพี่คิงขา~" เธอแกล้งทำเสียงกวนประสาท เอาคืนที่เขามาเย้ยหยันใส่เธอก่อน แต่ผลที่ตามคืออะไรรู้ไหม อ่ะ เดามา เหอะหน่า เดามาก่อนเร็ว เร็วๆสิ พรึบ! บรืนนนน! "อะ ไอ้พี่คิง!" ไม่ต้องเดาแล้ว เพราะกระเป๋าของเธอถูกโยนออกมานอกตัวรถ ตามด้วยร่างบางที่ถูกเท้ายันลงมา [ยังดีที่โยนแค่กระเป๋าเป้ ถ้าโยนกระเป๋าเดินทางด้วย งานนี้มีมวยอ่ะ มวยโค้ก...โม๊ค...อ่ะ ไม่เล่นมุกหื่นกามดีกว่า] ใช่! เขาถีบเธอลงจากรถต่อหน้าน้องชายตัวเองที่ยืนมองอยู่ แล้วไอ้คิมก็กวนส้นตีน มันแตะกระเป๋าเป้ลอยฟ้าไปอีกฝั่งหนึ่ง แล้วเดินชิวกลับเข้าไปในคอนโด "อะ ไอ้คิม ไอ้เพื่อนนรก!" หัวเสียกับเพื่อนสนิทยังไม่พอ ยังต้องมาหัวเสียกับคู่ค้าอีก แต่ไม่เป็นไร เราไม่มีผู้อุปถัมภ์แต่เรามีเงิน! "ไปเปิดโรงแรมก็ได้วะ" เธอตัดปัญหาแล้วเดินไปเก็บกระเป๋าเป้ ก่อนจะไปโบกรถแท็กซี่เพื่อหาที่นอนในคืนนี้ ที่สำคัญคือปิดโทรศัพท์หนี เพราะรู้ว่าต้องมีหนึ่งในสองคนนั้นโทรมาตามแน่นอน ไม่ตามคืนนี้ พรุ่งนี้พี่คิงก็ต้องโทรมาตาม วันต่อมา "ผมไปก่อนนะ" เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มในยามเช้าคือเจ้าของโรงแรมที่เธอเข้ามาเช็คอินเมื่อคืนนี้ คนมันสวย ต่อให้มีรอยดูดยังไงผู้ชายก็อยากได้ และมากไปกว่านั้นก็คือได้นอนห้องดี ๆ มีคนนอนกอด แถมหล่อตี๋ตรงสเปคเลยด้วย~ ตืดดด! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จำได้ว่าปิดเครื่องไปแล้วนี่หว่า ทำไมยังมีคนโทรตามอีกวะเนี่ย [คนกำลังเพลีย!] "โหล" กดรับแต่ยังไม่ลืมตา "ที่รัก ผมลืมถามว่าอยากได้มื้อเช้าไหม?" ติ๊ด! คนปลายสายกดวางไปเลย "ยังไม่ออกไปอีกเหรอ?" คนตัวเล็กลุกขึ้นนั่ง แล้วกดดูว่าใครเป็นคนโทรมา พอเห็นว่าเป็นพี่คิงก็รีบดูเวลา จะได้ไม่เลทนัดแม่ "ผมกลัวว่าคุณจะหิว" หนุ่มหน้าตี๋จะหอมแก้มนุ่ม แต่เจ้าตัวกับเบี่ยงหลบแล้วรีบลุกขึ้นจากเตียงคิงไซส์ "จะรีบไปไหนเหรอ?" "ไปหาแม่" "ให้ผมไปส่งไหม?" เธอชะงักแล้วหันไปมองหน้าคู่ขา "ได้เหรอ?" "ได้สิ ผมเป็นเจ้าของโรงแรม จะทำงานเวลา..." "ไม่ต้องอวด รู้แล้วว่ารวย แต่ตอนนี้ช่วยหาชุดให้หน่อยได้ไหม พอดีในกระเป๋ามีแต่เครื่องสำอาง ไม่มีชุดสวย ๆ ใส่เลยอ่ะ~" ดวงหน้าแพรวเสน่ห์ส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากหนุ่มหล่อ ซึ่งเขาเองก็ยินดีที่จะช่วย และหาชุดเดรสสีแดงแบรนด์หรูมาให้เธอสวมใส่ บรืนนน! รถคันสปอร์ตสีแดงขับมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าตามที่แม่ของพี่คิงนัดมา พอถึงที่หมายเธอก็ลงจากรถ "เดี๋ยวสิ" หนุ่มหล่อเดินตามลงมาดักหน้า "ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยอ่ะ" "ชื่อสมศรี" เธอโกหกเพราะปกติไม่บอกชื่อจริงกับคู่ขา ไม่งั้นจะมีปัญหาตามคาตาคานะไม่จบไม่สิ้น "เอาดี ๆ สวยขนาดนี้ไม่น่าจะชื่อนั้น" "อ่ะ ชื่อเบล" ไถไปให้สุด "เบล โอเค ผมชื่อ..." บรืนนนน… รถเก๋งสีดำทมิฬขับผ่านไป "ขอตัวก่อนนะ พี่ชายมาถึงแล้ว" เธอชี้ไปที่รถพี่คิง จะได้มีเหตุผลในการชิ่งหนี "โอ๊ะ! นั่นมันรถของไอ้คิงหนิ" อ๊าก! กูเกลียดความโลกกลมฉิบหาย โดยเฉพาะเวลาที่รถไฟรู้จักกันเนี่ย คราวนี้กูจะแถไถยังไงก๊อนน! "เดี๋ยวนะ เท่าที่ผมจำได้ไอ้คิงมีแต่น้องชายต่างแม่ แล้วคุณจะเป็นน้องสาวไอ้คิงได้ยังไง นอกเสียจากคุณจะโกหกผม" หนุ่มหล่อเริ่มไม่เชื่อใจในคำพูด พอพี่คิงเดินลงมาจากรถ เขาก็รีบจับมือเธอเดินเข้าไปถามให้กระจ่าง ซึ่งสีหน้าของพี่คิงในตอนนี้ นิ่งมากจนเปรี้ยวรู้สึกกลัว "เฮ้!" เขาทักทายกันก่อน "กูว่าจะทักไปถามเรื่องที่มึงกลับมาอยู่ไทย แต่ตอนนี้กูขอถามเรื่องน้องสาวของมึงก่อน" พี่คิงปลายตามองคนตัวเล็ก ที่ตอนนี้เริ่มก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขา "ไม่ใช่น้องสาวกู" "นั่นไง คุณหลอกผม" "มากันแล้วเหรอลูก~" ท่ามกลางบรรยากาศรถไฟรู้จักกัน แม่ของพี่คิงก็เดินแทรกมาจับมือเธอ "เราเข้าไปข้างในกันดีกว่าค่ะแม่" เธอไม่รอให้แม่พี่คิงตอบรับ รีบเดินจับมือเข้าไปในห้างทันที ปล่อยให้เพื่อนเขาเคลียร์กันเอง เพราะอยู่ในสถานะไม่ต่างกัน "หนูเปรี้ยวรู้จักภาคด้วยเหรอลูก?" "ภาคไหนคะ?" "ภาคเพื่อนพี่คิงไง สองคนนั้นเขาเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กที่บอสตัน แม่รู้จักกับแม่ของเขาด้วยนะ เป็นเจ้าของโรงแรมชื่อดังในไทย" ชัดเลย ดันเจอคนที่เขาสนิทใจด้วยอีก งานนี้เพื่อนรักจะร้าวฉานกันไหมเนี่ย!? "ไม่รู้จักค่ะ" เธอปฏิเสธเพราะคิดว่าหลังจากนี้คงไม่ติดต่อกับผู้ชายคนนั้นแล้ว ให้มันจบที่ครั้งเดียวพอ "เปรี้ยวหิวมากเลย แม่หิวไหมคะ?" เปลี่ยนเรื่องเอาหน้ารอด พอแม่พยักหน้ารับ เธอก็พาไปนั่งที่ร้านอาหารไทย เพราะคิดว่าแม่น่าจะชอบสไตล์นี้แน่นอน "หนูเปรี้ยวรู้ใจแม่ดีจัง แม่นะ ชอบอาหารไทยที่สุด ๆ เลย แต่พี่คิงนี่สิ ชอบกินแต่ฟาสต์ฟู้ด" แม่คุยเรื่องลูกชายพลางกดสั่งอาหารไปด้วย ระหว่างนั้นพี่คิงก็เดินตามเข้ามานั่งข้าง ๆ แต่ไม่หันมามองหน้าเธอ "กินฟาสต์ฟู้ดยังไงให้ไม่อ้วนเนี่ย~" เปรี้ยวพูดแซวไม่ให้บรรยากาศบนโต๊ะอึมครึมจนเกินไป พลางลูบมือหนาให้พี่คิงใจเย็นลง เพราะรู้ว่าเขากำลังโกรธ "แม่สั่งแล้ว ลูก..." แม่ชะงักแล้วมองหน้าลูกชาย เธอเองก็หันไปมองตาม พอเห็นว่าเขาน้ำตาไหล ใจก็หล่นฮวบไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่คิดว่าเขาจะโกรธจนร้องไห้ "คิงไม่เป็นไรแม่" เขาพูดเสียงสั่นแล้วปาดน้ำตาทิ้ง "ทะเลาะกันเหรอ?" แม่หันมาถามเธอที่ยังคงตกใจไม่หาย ร่างเล็กรีบส่ายหน้าแล้วดันท้ายทอยคนข้างกายให้โน้มตัวลงมาซบไหล่บาง ตอนแรกก็ยื้อเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ยอมซบ "เดี๋ยวแม่มานะ" ยังดีที่แม่เข้าใจ และปล่อยให้เราเคลียร์กันเอง เพราะถ้าเป็นแม่คนอื่น คงตบลูกสะใภ้ไปหัวทิ่มแล้ว เล่นไปทำลูกชายเขาร้องไห้ ต้องแย่ขนาดไหนเนี่ย! "ร้องไห้ทำไม?" เขาไม่ตอบแต่รู้สึกได้ว่าไหล่บางเริ่มเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาร้อนผ่าว แสดงว่าร้องไห้จริง ๆ เพราะขนาดแม่ลุกออกไปแล้วก็ยังร้องไม่หยุดเลย [เหวอดิ!] "พี่คิง หยุดร้องก่อน" มือเล็กลูบหัวปลอบประโลมชายหนุ่มตรงหน้า โต๊ะตรงข้ามก็มองมาที่คู่เรา จะมองในเชิงไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าพี่คิงเขาอ่อนไหวมากเลยตอนนี้ "ผู้ชายมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องไปเอากับเพื่อนกูด้วยวะ..." พี่คิงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เลยทำให้รู้ว่าเขาไม่โอเคที่เธอไปมีเซ็กซ์กับเพื่อนของเขา ซึ่งถ้าเธอรู้ก็คงไม่เอาหรอก แต่นี่ไม่รู้ไง วันไนท์สแตนด์ใครเขารู้ประวัติกันล่ะ เจอปุ๊บสปาร์คปั๊บก็พากันไปกินตับแล้ว "ถ้าเปรี้ยวรู้ว่านั่นเป็นเพื่อนพี่ เปรี้ยวก็คงไม่ไปนอนด้วยหรอก ถึงจะร่านแต่เปรี้ยวก็เลือกนะ" พูดไปเพราะไม่อยากให้เขาตีโพยตีพาย เพราะเมื่อก่อนเธอไม่เคยเลือกเลย ยิ่งหล่อขาวตี๋มาด้วยนะ เสร็จอีเปรี้ยวสถานเดียว เพราะเป็นแค่คู่นอนไม่ได้จริงจังเลยไม่ติด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD