เมฆินทร์ไปทำงานด้วยความกังวล มาถึงสน. นายตำรวจเวรก็นั่งมุงรุมอ่านหนังสือพิมพ์กันอยู่ ช่วงนี้เขากำลังกังวลเรื่องของมธุรดายังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบอกเธอยังไง เขาเลยไม่ได้ติดตามข่าวสาร แทบจะไม่ได้แตะหนังสือพิมพ์เลยเสียด้วยซ้ำ
“วันนี้มีข่าวอะไรน่าสนใจเหรอจ่า,หมวด”
“เอ่อ..ข่าว..ข่าวซุบซิบดาราน่ะครับ แต่..แต่ว่า..ภาพผู้ชายในข่าวนี่คล้ายสารวัตรมากเลยครับ”
“อะไรนะ! คล้ายผมอย่างนั้นเหรอ” เมฆินทร์ทำหน้าสงสัย ภาพเขาจะไปอยู่ในข่าวซุบซิบดาราได้ยังไง
“คล้ายมากเลยครับ” ลูกน้องเขายืนยันอีกครั้ง
“ถ้าอ่านจบแล้วจ่ากับหมวดก็แยกย้ายกันไปทำงาน..รงค์..เดี๋ยวนายเอาหนังสือพิมพ์เข้าไปให้ฉันในห้องทำงานด้วย” เมฆินทร์สั่งลูกน้องก่อนจะเดินเข้าไปนั่งรอในห้องทำงาน เขานั่งรออย่างครุ่นคิด ไม่นานณรงค์ก็นำหนังสือพิมพ์มาวางตรงหน้าเขา
“หนังสือพิมพ์ครับพี่”
“ขอบใจมาก..นายไปทำงานต่อเถอะ” บอกณรงค์แล้วเขาก็หยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดดู จากข่าวหน้าหนึ่งเขาเปิดไปเรื่อยๆก็ไม่เห็นจะมีข่าวอะไรเลย จนเขาเปิดมาถึงหน้าข่าวบันเทิง เขาไล่ดูไปจนสะดุดที่ภาพหนึ่ง..เป็นภาพด้านข้างของเขากับมธุรดาที่จับมือกันในสวนสาธารณะเมื่อวันก่อน! เมฆินทร์ไล่อ่านเนื้อหาข่าวทีละคำ..
“นางเอกสาวชื่อดังแอบไปพลอดรักกับกิ๊กหนุ่มในสวนสาธารณะโดยไม่สนใจสายตาประชาชนรอบข้างจำนวนมากที่มาออกกำลังกายบริเวณนั้น แว่วมาว่ากิ๊กกั๊กซุกหนุ่มหุ่นล่ำคนนี้มาสักระยะนึงแล้ว..บ้างก็ว่าเป็นหนุ่มแว้น..บ้างก็ว่าเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว..บ้างก็ว่าเป็นคนขับรถส่วนตัว นี่สินะที่เขาเรียกว่า..“แฟนขับ”..จะเป็นใครยังไงกันแน่ รอสาว ม. มาเปิดตัวกันนะค้าาา”
เมฆินทร์ปิดหนังสือพิมพ์ด้วยความโกรธ
“นั่งเทียนเขียนข่าวให้ผู้หญิงเสียหายอย่างนี้ได้ยังไง!” ตอนนี้เขารู้สึกห่วงความรู้สึกของมธุรดามากที่สุด เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายหาเธอ
“น้องไหมถ่ายละครเป็นยังไงบ้างคะ” มธุรดาได้ยินเสียงเมฆพูดอ่อนโยนอย่างนั้นก็เขิน พี่เมฆสุภาพอ่อนโยน เธอรู้สึกแพ้ทางผู้ชายที่พูดคะแบบนี้กับผู้หญิงซะแล้วสิ รู้สึกใจสั่นหวั่นไหว
“เพิ่งถ่ายไปได้แค่ซีนเดียวเองค่ะพี่เมฆ”
“น้องไหมยังไม่ได้อ่านข่าวใช่มั้ยคะ”
“ข่าวอะไรเหรอคะ?”
“อ๋อ..ไม่มีอะไรค่ะ เดี๋ยวเย็นนี้พี่จะไปรอที่กองและขับรถไปส่งน้องไหมที่บ้านนะคะ”
“ค่ะ พี่เมฆ” มธุรดาวางสายแล้วไปเข้าฉากถ่ายละครต่อ เมฆินทร์นั่งเครียดคิดกังวลจนกระทั่งมีสัญญาณเตือนข้อความไลน์เด้งขึ้นมา..
Line Group ~ "RoboCop"
Win : “ไง..ไอ้เด็กแว้น!”
Mak : “ไอ้วิน!” สักพักก็มีข้อความเด้งขึ้นมาอีก..
Kong : “หลายอาชีพจังเลยนะมึง!”
Mak : “มึงอีกคนไอ้ก้อง! กูกำลังเครียดอยู่”
Kong : “มึงตามจีบน้องไหมทำไมไม่บอกกูเลยวะ”
(เออ..ไอ้ก้องมันเป็นทหารและเป็นนักแสดง(ตัวประกอบด้วย) มันคงรู้จักน้องไหม)
Mak : “ตัวประกอบอย่างมึงรู้จักน้องไหมด้วยเหรอวะ”
Kong : “ไอ้เมฆครึ้ม! กูรู้จักแต่ไม่สนิท กูสนิทกับน้องนัชเพื่อนน้องไหมมากกว่า”
Mak : “ดีแล้วที่ไม่สนิทกะมึง”
Kong : “มึง!” -“-
Mac : “จีบหญิงไม่บอกเพื่อน..”
Mak : “พวกมึงรู้กันได้ไงวะ ว่าเป็นกู”
Win : “เห็นแค่ติ่งหูพวกกูก็จำมึงได้!”
Mak : “เออ..กูชอบน้องไหม แต่กำลังมีปัญหา พวกมึงทักมาก็ดี กูขอปรึกษาหน่อย”
Mac : “กูไม่ชำนาญเรื่องผู้หญิง ปรึกษาไอ้ก้องน่ะ กูขอตัว..”
Win : “กูด้วย..”
Mak : “ไอ้แม็ค..ไอ้วิน..ถึงคราวมึงอย่าให้กูช่วยนะ!”
Kong : “มีอะไรว่ามา..”
Mak : “กูไม่ค่อยอยากจะปรึกษามึงเลยไอ้ก้อง! ไอ้เสือผู้หญิง”
Kong : “สรุปมึงจะไม่ปรึกษา?”
Mak : “เออๆ เดี๋ยวกูทักไลน์ส่วนตัวมึงไป” สุดท้ายเขาก็ต้องปรึกษาไอ้ก้อง! เพื่อนจอมกะล่อน...
6 โมงเย็น เมฆินทร์มานั่งรอมธุรดาในร้านกาแฟใกล้ๆ กับสถานที่ที่กองถ่ายมาถ่ายทำละคร เขาใส่หมวกแก๊ปบังใบหน้าเพราะไม่อยากให้ใครเห็นเขาในตอนนี้หรือนินทาเธอมากไปกว่าที่เป็นอยู่ มธุรดาเป็นดารา เป็นที่สนใจของผู้คนทั่วๆไป ค่อนข้าง วางตัวลำบาก เมื่อไหมถ่ายละครเสร็จ เธอก็เดินไปที่ลานจอดรถพร้อมกับไลน์บอกเมฆให้ไปเจอกันที่รถ เมื่อเจอกันเมฆินทร์ก็ถามขึ้นด้วยความห่วงใย
“วันนี้เหนื่อยมั้ยคะ” เขาเอื้อมมือไปใช้ปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมที่ลมพัดมาบังใบหน้าไหมออกให้อย่างอ่อนโยน
“นิดหน่อยค่ะ แต่หิวมากกว่า”
“น้องไหมจะทานอะไรคะ ซูชิดีมั้ย” เมฆินทร์ถามพร้อมกับเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่งในรถ
“ก็ดีค่ะพี่เมฆ ไม่ได้ทานมาหลายวันแล้ว”(พี่เมฆเริ่มจะรู้ใจเธอซะแล้วสิ) เธอคิดแล้วอมยิ้มหันไปมองเขา
ระหว่างนั่งทานซูชิ เมฆินทร์ก็เล่าเรื่องข่าวที่เขาอ่านเจอในวันนี้ให้มธุรดาฟังด้วยเสียงขุ่นๆไม่พอใจกับข่าวที่ออกมา แต่เขาก็ต้องแปลกใจที่เธอนิ่งเฉยดูจะไม่แคร์ไม่ตกใจไม่สนใจอะไรเสียด้วยซ้ำ
“น้องไหมไม่โกรธเหรอคะ ที่ข่าวเขียนซุบซิบว่าน้องไหมแบบนั้น”
“ความจริงก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น พี่เมฆอย่าไปสนใจเลยค่ะ ไหมชินซะแล้วกับข่าวแบบนี้..”
“แต่มันทำให้น้องไหมเสียหาย!”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวก็เงียบ เดี๋ยวไม่นานคนก็ลืม”
“แม้คนจะลืม..แต่ว่ามันจะมีข่าวแบบนี้ขึ้นมาอีกได้ทุกเมื่อน่ะเหรอคะ”
“ค่ะ..คิดจะอยู่ในวงการนี้ก็ต้องทำใจ ข่าวกับดารามันเป็นของคู่กัน ช่างมันเถอะค่ะ”
“แต่พี่..พี่ชอบน้องไหม!(เมฆเลื่อนมือขวาไปจับมือซ้ายของไหมอย่างอ่อนโยน) พี่ไม่อยากเห็นคนอื่นๆมองน้องไหมในทางไม่ดี น้องไหมเป็นแฟนพี่จริงๆได้มั้ยคะ”
“ไหม..ไหม..แต่เราเพิ่งจะรู้จักกันไม่นานนี้เองนะคะ”
“แต่สำหรับพี่..พี่ว่ามันถึงเวลาแล้วค่ะ”
“ไหมว่าเรา..อย่าเพิ่งใช้คำว่าแฟนเลยนะคะ”
“น้องไหมไม่ได้รู้สึกดีๆ อย่างที่พี่รู้สึกเหรอคะ” เมฆถามด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ผิดหวัง
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ แต่ไหมอยากจะขอเวลาให้เราเรียนรู้กันมากกว่านี้น่ะค่ะ ยังไงตอนนี้พี่เมฆก็เป็นทั้งเพื่อน,เป็นทั้งพี่ และเป็นผู้ชายที่ไหมสนิทด้วยมากที่สุดนะคะ”
“ค่ะ..พี่จะรอวันที่น้องไหมเปิดใจรับพี่เป็นแฟนนะคะ”...
เมฆินทร์มาส่งมธุรดาที่บ้านแล้วครุ่นคิดตลอดเวลา (เขาจะทำยังไงต่อจากนี้ จะบอกความจริงตอนนี้ก็เสี่ยง หรือเขาจะทำตามคำแนะนำของไอ้ก้อง..เขาเองก็อยากให้ไหมยอมรับเขาเป็นแฟนก่อน เขาจะได้มั่นใจว่าเธอก็รักเขาเช่นกัน เขาจะได้มีกำลังใจรวบรวมความกล้าบอกความจริงกับเธอ...
อาทิตย์นี้มีข่าวซุบซิบออกสื่อแทบทุกสื่อทุกวัน และดูจะลือกันหนักรุนแรงมากยิ่งขึ้น บางสื่อก็ว่าไหมท้อง บางสื่อก็ว่าเธอใกล้จะคลอด จนเขารู้สึกทนไม่ไหว พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์สำนักหนึ่งวันนี้..
“นางเอกดังชื่อเล่นและชื่อจริง ม. ที่มีข่าวซุกหนุ่มเมื่อไม่นานมานี้ รีบถ่ายละครเร่งปิดกล้องเตรียมตัวแอบไปคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้” เมฆินทร์เห็นข่าวแล้วโกรธมาก คนที่ตนรักถูกโจมตีในทางเสียๆ หายๆ อย่างไม่เป็นความจริงแบบนี้.. " (เขาจะต้องทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว) เขาคิดแล้วโทรศัพท์ไปหามธุรดาทันที
“วันนี้น้องไหมเลิกกองกี่โมงคะ”
“วันนี้ไหมเลิกกองประมาณทุ่มนึงค่ะพี่เมฆ”
“ให้พี่ไปรับไหมคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เมฆ วันนี้กองอยู่ใกล้ๆ ไหมกลับเองได้ค่ะ มีตังค์ก็เพิ่งออกจากอู่ซ่อม น่าจะไม่มีปัญหาอะไร” เธอเอ่ยถึงรถยารีสคู่ใจที่ทางอู่เพิ่งจะขับมาคืนจนเธอเกือบจะลืมไปซะแล้ว ซ่อมอะไรตั้งหลายเดือน
“ถ้าอย่างนั้น..เลิกงานพี่ขอไปรอน้องไหมที่บ้านได้มั้ยคะ”
“ค่ะ ได้ค่ะ”
“พี่จะซื้อซูชิไปรอที่บ้านนะคะ น้องไหมดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
“ค่ะพี่เมฆ” ไหมวางสายแล้วอมยิ้ม
ตอนเย็นเมฆินทร์เลิกงานแล้วออกตรวจท้องที่ตามปกติก่อนจะแวะไปซื้อซูชิร้านโปรดที่มธุรดาชอบทาน และมุ่งหน้าไปยังบ้านของเธอ เขาขออนุญาตมธุรส ขอทำอะไรบางอย่าง ระหว่างรอไหมกลับจากกองละคร เมฆินทร์ก็จัดโต๊ะเล็กๆ ตรงสนามหญ้าข้างบ้าน วางแจกันดอกไม้และเทียนหอมพร้อมกับซูชิที่เขาซื้อมาเตรียมไว้รอเธอ จนทุ่มกว่า..มธุรดาก็กลับมาถึงบ้าน เมื่อเธอขับรถเข้ามาจอด เมฆินทร์ก็เดินไปเปิดประตูรถให้มธุรดาก่อนจะจูงมือเธอไปยังโต๊ะกลางสนามหญ้า
“เชิญนั่งค่ะ นางเอกคนสวยของพี่” เขาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง
“น่ารักจังเลยค่ะพี่เมฆ นั่งทานซูชิท่ามกลางแสงเทียน” เธอมองเทียนหอมที่เมฆวางไว้รอบๆ บริเวณนั้น แสงสว่างนวลๆ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“ทานซูชิกันนะคะ” เมฆินทร์ใช้ตะเกียบหยิบซูชิป้อนให้มธุรดา
“ขอบคุณค่ะ” เธอนั่งทานอย่างเขินๆ
“พี่เมฆจัดทุกอย่างไว้น่ารักเชียว เนื่องในโอกาสพิเศษอะไรหรือเปล่าคะ” เธอเอ่ยถามขึ้นเมื่อทานเสร็จ เมฆินทร์ก็ลุกจากเก้าอี้ลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ..
“พี่เมฆจะทำอะไรคะ”
“พี่ตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่างเพื่อน้องไหม แต่พี่อยากได้กำลังใจ” เมฆจับมือไหมทั้งสองมือมากุมอยู่ตรงหน้าและพูดอย่างจริงจัง
“น้องไหมเป็นกำลังใจให้พี่ได้มั้ยคะ”
“ไหมจะเป็นกำลังใจให้พี่เมฆนะคะ” เธอไม่รู้หรอกว่าเขาต้องการกำลังใจทำอะไร แต่เธอก็อยากเป็นกำลังใจให้เขา
“ถ้าน้องไหมไม่รังเกียจพี่ ถ้าความรู้สึกของเราตรงกัน “เราเป็นแฟนกันนะคะ” ไหมได้แต่เขินหน้าแดง
“ไหม..เอ่อ..ไหม..” เธออึกอักพูดอะไรไม่ออก
“ถ้าน้องไหมพูดไม่ออกหรือยังไม่อยากจะพูดตอนนี้ น้องไหมแค่พยักหน้าให้พี่รับรู้ก็ได้ค่ะ” เธอนิ่งงั้นไปแป๊บนึงก่อนจะค่อยๆ พยักหน้าช้าๆ แค่นั้นก็ทำให้เมฆินทร์ยิ้มกว้าง หัวใจพองโต❤ เขาค่อยๆ ยกมือมธุรดาขึ้นมาจูบเบาๆ จับมือเธอมาวางตรงหัวใจของเขาก่อนจะลุกขึ้นแล้วจับแขนของไหมให้เธอลุกขึ้นมายืนตรงหน้าเขา เมฆินทร์ขยับเข้าไปจุมพิตหน้าผากมธุรดาอย่างอ่อนโยนก่อนจะกระชับร่างเธอมากอดแบบอกอย่างอบอุ่นนุ่มนวล..
“พี่มีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกน้องไหม..” เมฆินทร์ยังไม่ทันได้บอกเธอ ก็มีเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของมธุรดาดังขึ้น..เธอจึงผละออกจากอ้อมกอดของเขา เดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย
“คะ..พรุ่งนี้ขอยกเลิกคิว..ยกกองเหรอคะ..ค่ะ..ได้ค่ะ” ไหมกดวางสายแล้วหันกลับมาหาเมฆ
“เมื่อกี้พี่เมฆบอกว่ามีเรื่องอะไรอยากจะบอกไหมเหรอคะ” เธอถามด้วยความอยากรู้
“คือพี่เป็น..สา..”
“มีมี่! ..ยังไม่นอนอีกเหรอคะลูก” เมฆินทร์อ้าปากค้างไว้แค่นั้น เพราะมธุรดาหันไปสนใจแมวเปอร์เซียสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเธอที่วิ่งเข้ามาคลอเคลียพันแข้งพันขาเธออยู่ในตอนนี้ จนเธอย่อตัวนั่งลงอุ้มเจ้าแมวน้อยนั้นขึ้นมาอุ้มแล้วหอมซ้ายหอมขวาจนเขายังนึกแอบรู้สึกอิจฉาแมว
“ชื่นใจจัง..แม่เหมียวอาบน้ำให้มีมี่แล้วใช่มั้ย” เธอทั้งกอดรัดฟัดหอมแมวจนลืมเขาไปเสียสนิท
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะพี่เมฆ ไหมกลับมาถึงบ้าน มีมี่ก็มักจะเข้ามาอ้อนแบบนี้ทุกวันน่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ น่ารักดีทั้งแม่ทั้งลูก” เมฆินทร์เอ่ยชมจนเธอรู้สึกเขินแก้มกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ
“เมื่อกี้พี่เมฆบอกว่าพี่เมฆเป็นอะไรนะคะ”
“พี่ก็เป็น..เป็นแฟนน้องไหมไงคะ” เขาตอบและมองตาเธออย่างมีประกาย
“พี่เมฆน่ะ!” ไหมเขินพูดอะไรไม่ออก
“พี่พูดความจริงหนิคะ..เราเป็นแฟนกันแล้วนะ” เขายิ้มหวานให้เธอจนเธอไปไม่ถูกเลย
“เข้าบ้านกันดีกว่าเนอะมีมี่” เธอจึงเลี่ยงอุ้มมีมี่เดินเข้ามาในบ้าน เมฆินนทร์ก็เดินตามเธอเข้ามา
“พี่เมฆมีเรื่องที่อยากจะบอกไหมแค่นั้นเหรอคะ”
“เอ่อ..ไม่มีอะไรแล้วค่ะ แต่พรุ่งนี้..ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่อยากให้น้องไหมรอพี่ ฟังพี่ และเชื่อใจพี่นะคะ”
“พี่เมฆพูดเหมือนว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นเหรอคะ ไหมไม่เข้าใจค่ะ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้น้องไหมก็จะเข้าใจทุกอย่างค่ะ พี่อยากให้น้องไหมรับรู้ว่าทุกอย่างที่พี่กำลังจะทำต่อจากนี้เพราะพี่รักน้องไหม” (และพี่หวังว่าน้องไหมจะเข้าใจพี่) เมฆตอบออกไปแต่ในใจก็หวั่นวิตกกังวล ไหมก็ได้แต่คิดและสงสัยว่าเมฆกำลังคิดจะทำอะไร..
“พี่ควรจะกลับได้แล้ว น้องไหมจะได้พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้เจอกันนะคะ..”
“ขอบคุณมากนะคะพี่เมฆ..สำหรับทุกอย่างในวันนี้” เธอยิ้มให้เขา
“พี่ยินดีและเต็มใจทำทุกอย่างให้น้องไหมค่ะ พี่กลับก่อนนะคะ”
“ค่ะพี่เมฆ”
เมฆินทร์ออกจากบ้านมธุรดามายังรถที่จอดแอบอยู่ไม่ไกลก่อนจะขับรถกลับบ้าน...