เป็นแฟนกันนะคะ

2427 Words
     เมฆินทร์ไปทำงานด้วยความกังวล มาถึงสน. นายตำรวจเวรก็นั่งมุงรุมอ่านหนังสือพิมพ์กันอยู่ ช่วงนี้เขากำลังกังวลเรื่องของมธุรดายังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบอกเธอยังไง เขาเลยไม่ได้ติดตามข่าวสาร แทบจะไม่ได้แตะหนังสือพิมพ์เลยเสียด้วยซ้ำ “วันนี้มีข่าวอะไรน่าสนใจเหรอจ่า,หมวด” “เอ่อ..ข่าว..ข่าวซุบซิบดาราน่ะครับ แต่..แต่ว่า..ภาพผู้ชายในข่าวนี่คล้ายสารวัตรมากเลยครับ” “อะไรนะ! คล้ายผมอย่างนั้นเหรอ” เมฆินทร์ทำหน้าสงสัย ภาพเขาจะไปอยู่ในข่าวซุบซิบดาราได้ยังไง “คล้ายมากเลยครับ” ลูกน้องเขายืนยันอีกครั้ง “ถ้าอ่านจบแล้วจ่ากับหมวดก็แยกย้ายกันไปทำงาน..รงค์..เดี๋ยวนายเอาหนังสือพิมพ์เข้าไปให้ฉันในห้องทำงานด้วย” เมฆินทร์สั่งลูกน้องก่อนจะเดินเข้าไปนั่งรอในห้องทำงาน เขานั่งรออย่างครุ่นคิด ไม่นานณรงค์ก็นำหนังสือพิมพ์มาวางตรงหน้าเขา “หนังสือพิมพ์ครับพี่” “ขอบใจมาก..นายไปทำงานต่อเถอะ” บอกณรงค์แล้วเขาก็หยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดดู จากข่าวหน้าหนึ่งเขาเปิดไปเรื่อยๆก็ไม่เห็นจะมีข่าวอะไรเลย จนเขาเปิดมาถึงหน้าข่าวบันเทิง เขาไล่ดูไปจนสะดุดที่ภาพหนึ่ง..เป็นภาพด้านข้างของเขากับมธุรดาที่จับมือกันในสวนสาธารณะเมื่อวันก่อน! เมฆินทร์ไล่อ่านเนื้อหาข่าวทีละคำ.. “นางเอกสาวชื่อดังแอบไปพลอดรักกับกิ๊กหนุ่มในสวนสาธารณะโดยไม่สนใจสายตาประชาชนรอบข้างจำนวนมากที่มาออกกำลังกายบริเวณนั้น แว่วมาว่ากิ๊กกั๊กซุกหนุ่มหุ่นล่ำคนนี้มาสักระยะนึงแล้ว..บ้างก็ว่าเป็นหนุ่มแว้น..บ้างก็ว่าเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว..บ้างก็ว่าเป็นคนขับรถส่วนตัว นี่สินะที่เขาเรียกว่า..“แฟนขับ”..จะเป็นใครยังไงกันแน่ รอสาว ม. มาเปิดตัวกันนะค้าาา”       เมฆินทร์ปิดหนังสือพิมพ์ด้วยความโกรธ “นั่งเทียนเขียนข่าวให้ผู้หญิงเสียหายอย่างนี้ได้ยังไง!” ตอนนี้เขารู้สึกห่วงความรู้สึกของมธุรดามากที่สุด เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายหาเธอ “น้องไหมถ่ายละครเป็นยังไงบ้างคะ” มธุรดาได้ยินเสียงเมฆพูดอ่อนโยนอย่างนั้นก็เขิน พี่เมฆสุภาพอ่อนโยน เธอรู้สึกแพ้ทางผู้ชายที่พูดคะแบบนี้กับผู้หญิงซะแล้วสิ รู้สึกใจสั่นหวั่นไหว “เพิ่งถ่ายไปได้แค่ซีนเดียวเองค่ะพี่เมฆ” “น้องไหมยังไม่ได้อ่านข่าวใช่มั้ยคะ” “ข่าวอะไรเหรอคะ?” “อ๋อ..ไม่มีอะไรค่ะ เดี๋ยวเย็นนี้พี่จะไปรอที่กองและขับรถไปส่งน้องไหมที่บ้านนะคะ” “ค่ะ พี่เมฆ” มธุรดาวางสายแล้วไปเข้าฉากถ่ายละครต่อ เมฆินทร์นั่งเครียดคิดกังวลจนกระทั่งมีสัญญาณเตือนข้อความไลน์เด้งขึ้นมา.. Line Group ~ "RoboCop" Win : “ไง..ไอ้เด็กแว้น!” Mak : “ไอ้วิน!” สักพักก็มีข้อความเด้งขึ้นมาอีก.. Kong : “หลายอาชีพจังเลยนะมึง!” Mak : “มึงอีกคนไอ้ก้อง! กูกำลังเครียดอยู่” Kong : “มึงตามจีบน้องไหมทำไมไม่บอกกูเลยวะ” (เออ..ไอ้ก้องมันเป็นทหารและเป็นนักแสดง(ตัวประกอบด้วย) มันคงรู้จักน้องไหม) Mak : “ตัวประกอบอย่างมึงรู้จักน้องไหมด้วยเหรอวะ” Kong : “ไอ้เมฆครึ้ม! กูรู้จักแต่ไม่สนิท กูสนิทกับน้องนัชเพื่อนน้องไหมมากกว่า” Mak : “ดีแล้วที่ไม่สนิทกะมึง” Kong : “มึง!”  -“- Mac : “จีบหญิงไม่บอกเพื่อน..” Mak : “พวกมึงรู้กันได้ไงวะ ว่าเป็นกู” Win : “เห็นแค่ติ่งหูพวกกูก็จำมึงได้!” Mak : “เออ..กูชอบน้องไหม แต่กำลังมีปัญหา พวกมึงทักมาก็ดี กูขอปรึกษาหน่อย” Mac : “กูไม่ชำนาญเรื่องผู้หญิง ปรึกษาไอ้ก้องน่ะ กูขอตัว..” Win : “กูด้วย..” Mak : “ไอ้แม็ค..ไอ้วิน..ถึงคราวมึงอย่าให้กูช่วยนะ!” Kong : “มีอะไรว่ามา..” Mak : “กูไม่ค่อยอยากจะปรึกษามึงเลยไอ้ก้อง! ไอ้เสือผู้หญิง” Kong : “สรุปมึงจะไม่ปรึกษา?” Mak : “เออๆ เดี๋ยวกูทักไลน์ส่วนตัวมึงไป” สุดท้ายเขาก็ต้องปรึกษาไอ้ก้อง! เพื่อนจอมกะล่อน...       6 โมงเย็น เมฆินทร์มานั่งรอมธุรดาในร้านกาแฟใกล้ๆ กับสถานที่ที่กองถ่ายมาถ่ายทำละคร เขาใส่หมวกแก๊ปบังใบหน้าเพราะไม่อยากให้ใครเห็นเขาในตอนนี้หรือนินทาเธอมากไปกว่าที่เป็นอยู่ มธุรดาเป็นดารา เป็นที่สนใจของผู้คนทั่วๆไป ค่อนข้าง วางตัวลำบาก เมื่อไหมถ่ายละครเสร็จ เธอก็เดินไปที่ลานจอดรถพร้อมกับไลน์บอกเมฆให้ไปเจอกันที่รถ เมื่อเจอกันเมฆินทร์ก็ถามขึ้นด้วยความห่วงใย “วันนี้เหนื่อยมั้ยคะ” เขาเอื้อมมือไปใช้ปลายนิ้วเขี่ยเส้นผมที่ลมพัดมาบังใบหน้าไหมออกให้อย่างอ่อนโยน “นิดหน่อยค่ะ แต่หิวมากกว่า”  “น้องไหมจะทานอะไรคะ ซูชิดีมั้ย” เมฆินทร์ถามพร้อมกับเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่งในรถ “ก็ดีค่ะพี่เมฆ ไม่ได้ทานมาหลายวันแล้ว”(พี่เมฆเริ่มจะรู้ใจเธอซะแล้วสิ) เธอคิดแล้วอมยิ้มหันไปมองเขา       ระหว่างนั่งทานซูชิ เมฆินทร์ก็เล่าเรื่องข่าวที่เขาอ่านเจอในวันนี้ให้มธุรดาฟังด้วยเสียงขุ่นๆไม่พอใจกับข่าวที่ออกมา แต่เขาก็ต้องแปลกใจที่เธอนิ่งเฉยดูจะไม่แคร์ไม่ตกใจไม่สนใจอะไรเสียด้วยซ้ำ “น้องไหมไม่โกรธเหรอคะ ที่ข่าวเขียนซุบซิบว่าน้องไหมแบบนั้น” “ความจริงก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น พี่เมฆอย่าไปสนใจเลยค่ะ ไหมชินซะแล้วกับข่าวแบบนี้..” “แต่มันทำให้น้องไหมเสียหาย!” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวก็เงียบ เดี๋ยวไม่นานคนก็ลืม” “แม้คนจะลืม..แต่ว่ามันจะมีข่าวแบบนี้ขึ้นมาอีกได้ทุกเมื่อน่ะเหรอคะ” “ค่ะ..คิดจะอยู่ในวงการนี้ก็ต้องทำใจ ข่าวกับดารามันเป็นของคู่กัน ช่างมันเถอะค่ะ” “แต่พี่..พี่ชอบน้องไหม!(เมฆเลื่อนมือขวาไปจับมือซ้ายของไหมอย่างอ่อนโยน) พี่ไม่อยากเห็นคนอื่นๆมองน้องไหมในทางไม่ดี น้องไหมเป็นแฟนพี่จริงๆได้มั้ยคะ” “ไหม..ไหม..แต่เราเพิ่งจะรู้จักกันไม่นานนี้เองนะคะ” “แต่สำหรับพี่..พี่ว่ามันถึงเวลาแล้วค่ะ” “ไหมว่าเรา..อย่าเพิ่งใช้คำว่าแฟนเลยนะคะ” “น้องไหมไม่ได้รู้สึกดีๆ อย่างที่พี่รู้สึกเหรอคะ” เมฆถามด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ผิดหวัง “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ แต่ไหมอยากจะขอเวลาให้เราเรียนรู้กันมากกว่านี้น่ะค่ะ ยังไงตอนนี้พี่เมฆก็เป็นทั้งเพื่อน,เป็นทั้งพี่ และเป็นผู้ชายที่ไหมสนิทด้วยมากที่สุดนะคะ” “ค่ะ..พี่จะรอวันที่น้องไหมเปิดใจรับพี่เป็นแฟนนะคะ”...       เมฆินทร์มาส่งมธุรดาที่บ้านแล้วครุ่นคิดตลอดเวลา (เขาจะทำยังไงต่อจากนี้ จะบอกความจริงตอนนี้ก็เสี่ยง หรือเขาจะทำตามคำแนะนำของไอ้ก้อง..เขาเองก็อยากให้ไหมยอมรับเขาเป็นแฟนก่อน เขาจะได้มั่นใจว่าเธอก็รักเขาเช่นกัน เขาจะได้มีกำลังใจรวบรวมความกล้าบอกความจริงกับเธอ...    อาทิตย์นี้มีข่าวซุบซิบออกสื่อแทบทุกสื่อทุกวัน และดูจะลือกันหนักรุนแรงมากยิ่งขึ้น บางสื่อก็ว่าไหมท้อง บางสื่อก็ว่าเธอใกล้จะคลอด จนเขารู้สึกทนไม่ไหว พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์สำนักหนึ่งวันนี้.. “นางเอกดังชื่อเล่นและชื่อจริง ม. ที่มีข่าวซุกหนุ่มเมื่อไม่นานมานี้ รีบถ่ายละครเร่งปิดกล้องเตรียมตัวแอบไปคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้” เมฆินทร์เห็นข่าวแล้วโกรธมาก คนที่ตนรักถูกโจมตีในทางเสียๆ หายๆ อย่างไม่เป็นความจริงแบบนี้.. " (เขาจะต้องทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว) เขาคิดแล้วโทรศัพท์ไปหามธุรดาทันที “วันนี้น้องไหมเลิกกองกี่โมงคะ” “วันนี้ไหมเลิกกองประมาณทุ่มนึงค่ะพี่เมฆ” “ให้พี่ไปรับไหมคะ” “ไม่เป็นไรค่ะพี่เมฆ วันนี้กองอยู่ใกล้ๆ ไหมกลับเองได้ค่ะ มีตังค์ก็เพิ่งออกจากอู่ซ่อม น่าจะไม่มีปัญหาอะไร” เธอเอ่ยถึงรถยารีสคู่ใจที่ทางอู่เพิ่งจะขับมาคืนจนเธอเกือบจะลืมไปซะแล้ว ซ่อมอะไรตั้งหลายเดือน “ถ้าอย่างนั้น..เลิกงานพี่ขอไปรอน้องไหมที่บ้านได้มั้ยคะ” “ค่ะ ได้ค่ะ” “พี่จะซื้อซูชิไปรอที่บ้านนะคะ น้องไหมดูแลตัวเองด้วยนะคะ” “ค่ะพี่เมฆ” ไหมวางสายแล้วอมยิ้ม       ตอนเย็นเมฆินทร์เลิกงานแล้วออกตรวจท้องที่ตามปกติก่อนจะแวะไปซื้อซูชิร้านโปรดที่มธุรดาชอบทาน และมุ่งหน้าไปยังบ้านของเธอ เขาขออนุญาตมธุรส ขอทำอะไรบางอย่าง ระหว่างรอไหมกลับจากกองละคร เมฆินทร์ก็จัดโต๊ะเล็กๆ ตรงสนามหญ้าข้างบ้าน วางแจกันดอกไม้และเทียนหอมพร้อมกับซูชิที่เขาซื้อมาเตรียมไว้รอเธอ จนทุ่มกว่า..มธุรดาก็กลับมาถึงบ้าน เมื่อเธอขับรถเข้ามาจอด เมฆินทร์ก็เดินไปเปิดประตูรถให้มธุรดาก่อนจะจูงมือเธอไปยังโต๊ะกลางสนามหญ้า “เชิญนั่งค่ะ นางเอกคนสวยของพี่” เขาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง “น่ารักจังเลยค่ะพี่เมฆ นั่งทานซูชิท่ามกลางแสงเทียน” เธอมองเทียนหอมที่เมฆวางไว้รอบๆ บริเวณนั้น แสงสว่างนวลๆ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ทานซูชิกันนะคะ” เมฆินทร์ใช้ตะเกียบหยิบซูชิป้อนให้มธุรดา “ขอบคุณค่ะ” เธอนั่งทานอย่างเขินๆ “พี่เมฆจัดทุกอย่างไว้น่ารักเชียว เนื่องในโอกาสพิเศษอะไรหรือเปล่าคะ” เธอเอ่ยถามขึ้นเมื่อทานเสร็จ เมฆินทร์ก็ลุกจากเก้าอี้ลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ.. “พี่เมฆจะทำอะไรคะ” “พี่ตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่างเพื่อน้องไหม แต่พี่อยากได้กำลังใจ” เมฆจับมือไหมทั้งสองมือมากุมอยู่ตรงหน้าและพูดอย่างจริงจัง “น้องไหมเป็นกำลังใจให้พี่ได้มั้ยคะ” “ไหมจะเป็นกำลังใจให้พี่เมฆนะคะ” เธอไม่รู้หรอกว่าเขาต้องการกำลังใจทำอะไร แต่เธอก็อยากเป็นกำลังใจให้เขา “ถ้าน้องไหมไม่รังเกียจพี่ ถ้าความรู้สึกของเราตรงกัน “เราเป็นแฟนกันนะคะ” ไหมได้แต่เขินหน้าแดง “ไหม..เอ่อ..ไหม..” เธออึกอักพูดอะไรไม่ออก “ถ้าน้องไหมพูดไม่ออกหรือยังไม่อยากจะพูดตอนนี้ น้องไหมแค่พยักหน้าให้พี่รับรู้ก็ได้ค่ะ” เธอนิ่งงั้นไปแป๊บนึงก่อนจะค่อยๆ พยักหน้าช้าๆ แค่นั้นก็ทำให้เมฆินทร์ยิ้มกว้าง หัวใจพองโต❤ เขาค่อยๆ ยกมือมธุรดาขึ้นมาจูบเบาๆ จับมือเธอมาวางตรงหัวใจของเขาก่อนจะลุกขึ้นแล้วจับแขนของไหมให้เธอลุกขึ้นมายืนตรงหน้าเขา เมฆินทร์ขยับเข้าไปจุมพิตหน้าผากมธุรดาอย่างอ่อนโยนก่อนจะกระชับร่างเธอมากอดแบบอกอย่างอบอุ่นนุ่มนวล.. “พี่มีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกน้องไหม..” เมฆินทร์ยังไม่ทันได้บอกเธอ ก็มีเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของมธุรดาดังขึ้น..เธอจึงผละออกจากอ้อมกอดของเขา เดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย “คะ..พรุ่งนี้ขอยกเลิกคิว..ยกกองเหรอคะ..ค่ะ..ได้ค่ะ” ไหมกดวางสายแล้วหันกลับมาหาเมฆ “เมื่อกี้พี่เมฆบอกว่ามีเรื่องอะไรอยากจะบอกไหมเหรอคะ” เธอถามด้วยความอยากรู้ “คือพี่เป็น..สา..” “มีมี่! ..ยังไม่นอนอีกเหรอคะลูก” เมฆินทร์อ้าปากค้างไว้แค่นั้น เพราะมธุรดาหันไปสนใจแมวเปอร์เซียสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเธอที่วิ่งเข้ามาคลอเคลียพันแข้งพันขาเธออยู่ในตอนนี้ จนเธอย่อตัวนั่งลงอุ้มเจ้าแมวน้อยนั้นขึ้นมาอุ้มแล้วหอมซ้ายหอมขวาจนเขายังนึกแอบรู้สึกอิจฉาแมว “ชื่นใจจัง..แม่เหมียวอาบน้ำให้มีมี่แล้วใช่มั้ย” เธอทั้งกอดรัดฟัดหอมแมวจนลืมเขาไปเสียสนิท “อุ๊ย! ขอโทษค่ะพี่เมฆ ไหมกลับมาถึงบ้าน มีมี่ก็มักจะเข้ามาอ้อนแบบนี้ทุกวันน่ะค่ะ” “ไม่เป็นไรค่ะ น่ารักดีทั้งแม่ทั้งลูก” เมฆินทร์เอ่ยชมจนเธอรู้สึกเขินแก้มกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ “เมื่อกี้พี่เมฆบอกว่าพี่เมฆเป็นอะไรนะคะ” “พี่ก็เป็น..เป็นแฟนน้องไหมไงคะ” เขาตอบและมองตาเธออย่างมีประกาย “พี่เมฆน่ะ!” ไหมเขินพูดอะไรไม่ออก “พี่พูดความจริงหนิคะ..เราเป็นแฟนกันแล้วนะ” เขายิ้มหวานให้เธอจนเธอไปไม่ถูกเลย “เข้าบ้านกันดีกว่าเนอะมีมี่” เธอจึงเลี่ยงอุ้มมีมี่เดินเข้ามาในบ้าน เมฆินนทร์ก็เดินตามเธอเข้ามา “พี่เมฆมีเรื่องที่อยากจะบอกไหมแค่นั้นเหรอคะ” “เอ่อ..ไม่มีอะไรแล้วค่ะ แต่พรุ่งนี้..ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่อยากให้น้องไหมรอพี่ ฟังพี่ และเชื่อใจพี่นะคะ” “พี่เมฆพูดเหมือนว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นเหรอคะ ไหมไม่เข้าใจค่ะ” “เดี๋ยวพรุ่งนี้น้องไหมก็จะเข้าใจทุกอย่างค่ะ พี่อยากให้น้องไหมรับรู้ว่าทุกอย่างที่พี่กำลังจะทำต่อจากนี้เพราะพี่รักน้องไหม” (และพี่หวังว่าน้องไหมจะเข้าใจพี่) เมฆตอบออกไปแต่ในใจก็หวั่นวิตกกังวล ไหมก็ได้แต่คิดและสงสัยว่าเมฆกำลังคิดจะทำอะไร.. “พี่ควรจะกลับได้แล้ว น้องไหมจะได้พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้เจอกันนะคะ..” “ขอบคุณมากนะคะพี่เมฆ..สำหรับทุกอย่างในวันนี้” เธอยิ้มให้เขา “พี่ยินดีและเต็มใจทำทุกอย่างให้น้องไหมค่ะ พี่กลับก่อนนะคะ” “ค่ะพี่เมฆ”       เมฆินทร์ออกจากบ้านมธุรดามายังรถที่จอดแอบอยู่ไม่ไกลก่อนจะขับรถกลับบ้าน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD