18

1138 Words
18 ไลลานั่งฟังครูใหญ่บอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่ทันจบ ผู้ปกครองของเด็กชายทั้งสองที่ถูกอัลบาโรทำร้ายก็แย่งกันพูด กล่าวหาด้วยถ้อยคำไม่น่าฟังประมาณว่า อัลบาโรติดนิสัยนักเลง อันธพาลมาจากผู้เป็นพ่อ ขาดการอบรมสั่งสอน จึงมีนิสัยเช่นนี้ แล้วยังบอกอีกว่า ฟรานเซสโก้จะต้องจ่ายค่าทำขวัญและค่ารักษาพยาบาลให้ด้วย ไลลาไม่พูดโต้ตอบ นั่งฟังด้วยอาการใจเย็น รอจนกระทั่งอีกฝ่ายพูดจบ เธอจึงเริ่มพูดบ้าง “ฉันขอพูดทีละเรื่องนะคะ เริ่มจากเรื่องที่อัลบาโรชกหน้าลูกชายของคุณทั้งสอง เรื่องนี้ฉันยอมรับว่า อัลบาโรผิด และขอโทษคุณทั้งสองคนด้วยค่ะ” ไลลาได้รับโทรศัพท์มาเรียว่า ครูใหญ่โทรศัพท์หาลิซ่า เพราะคิดว่าลิซ่ายังทำหน้าที่พี่เลี้ยงอัลบาโรอยู่ แต่เมื่อลิซ่าทราบเรื่องจึงติดต่อมาเรียให้ส่งข่าวเรื่องนี้ให้ไลลารับรู้ เพราะคิดว่าหากโทรศัพท์ไปบอกฟรานเซสโก้ ผลที่ออกมาคือ ความไม่ใส่ใจ บอกไปก็เท่านั้น เมื่อไลลารู้ข่าว เธอรีบมาโรงเรียนทันที มาถึงเธอตรงดิ่งไปหาอัลบาโรเพื่อสอบถามเรื่องราวจากอัลบาโรก่อน พอได้รับคำตอบและเรื่องที่ตนต้องรู้ ไลลาจึงเดินเข้าห้องครูใหญ่ที่มีบิดามารดาของร็อกโก้และโอเว่นนั่งรอด้วยใบหน้าบึ้งตึง ไม่พอใจ คงไม่มีใครทำหน้ารื่นเริงแน่ เมื่อรู้ว่าลูกชายถูกทำร้าย “แค่ขอโทษเองเหรอ ไม่ได้นะ ฉันไม่ยอม แล้วนี่ทำไมพ่อของอัลบาโรไม่มา ทำไมให้พี่เลี้ยงอย่างเธอมาแทน” มารดาโอเว่นวีนใส่เสียงแข็ง แต่สิ่งที่ไลลาทำคือ ใจเย็นและมีสติ “ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” “ฉันเข้าใจความโกรธ ความไม่พอใจของคุณนะคะ ถ้าลูกของฉันถูกทำร้ายฉันคงโกรธไม่แพ้คุณ แต่ในความโกรธฉันอยากให้พวกคุณคิดสักนิดว่า เด็กวัยแค่นี้ชกเพื่อนนั้นมาจากสาเหตุใด คุณได้ถามลูกของคุณบ้างหรือเปล่าคะว่า ทำอะไรถึงทำให้อัลบาโรโกรธขนาดนั้น” ไลลาโยงมาถึงเหตุผลสำคัญของเรื่อง บุพการีของสองเด็กชายมองหน้ากัน เพราะพวกเขาไม่รู้ถึงสาเหตุ พอรู้เรื่องจากครูใหญ่ว่า ลูกชายถูกเพื่อนชกหน้า พวกเขาก็รีบมาโรงเรียนทันที ไม่ได้ถามไถ่ใครทั้งสิ้น “ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้มั้ง เพราะถึงยังไงลูกของฉันก็ไม่เคยทำร้ายใครก่อน อัลบาโรเป็นลูกมาเฟียเลยไม่กลัวใคร เที่ยวชกต่อยเพื่อนไปทั่ว” บิดาร็อกโก้เอ่ยด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ “แต่ฉันคิดว่าจำเป็นค่ะ ถ้าพวกคุณไม่รู้ฉันก็จะบอกให้รู้ไว้ว่า ร็อกโก้กับโอเว่นล้ออัลบาโรว่าเป็นตุ๊ด อัลบาโรบอกให้หยุดล้อก็ไม่หยุด ล้อไปหัวเราะไป ความโกรธต่อให้เป็นเด็กก็มีค่ะ พอโกรธสติก็ไม่มีอัลบาโรเลยชกหน้าเพื่อนที่ล้อ” ไลลาบอกให้พวกเขารู้ จัดให้ชุดใหญ่ด้วย “คุณอาจมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ถูกล้อ เพราะการล้อคงไม่เจ็บปวดกว่าการถูกทำร้าย แต่ฉันคิดว่าไม่ใช่ค่ะ การล้อสร้างบาดแผลทางจิตใจ เป็นบาดแผลที่รักษาได้ยากกว่าบาดแผลทางร่างกาย ลูกของพวกคุณถูกชกหน้า มีรอยฟกช้ำ มีบาดแผลนิดหน่อยซึ่งใช้เวลารักษาไม่นานก็หาย แต่คำล้อของลูกชายคุณ มันตรึงอยู่ในใจเด็กผู้ชายคนหนึ่งนะคะ เป็นบาดแผลลึกแม้ว่าเด็กคนนั้นจะไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกล้อ แล้วเพื่อนร่วมชั้นของอัลบาโรล่ะคะ จะคิดเหมือนกับที่ร็อกโก้กับโอเว่นพูดหรือเปล่า ส่วนเรื่องที่คุณต่อว่าอัลบาโรด้วยวาจาไม่น่าฟัง ฉันมองว่า การที่คุณกล่าวหาว่า คุณฟรานเซสโก้ไม่สั่งสอนลูกตัวเอง แล้วพวกคุณล่ะคะสอนกันมาดีแค่ไหนถึงให้ลูกชายล้อเพื่อนแบบนี้” บิดามารดาร็อกโก้กับโอเว่นอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง พวกเขาไม่คิดว่า ต้นเหตุสำคัญมาจากลูกชายของตน ตอนนั้นความโกรธมันครอบงำจิตใจ จึงไม่ได้ถามไถ่บุตรชาย พวกเขามาถึงห้องครู่ใหญ่ได้ไม่ถึงนาที ไลลาก็มาถึง การเปิดฉากต่อว่าอีกฝ่ายจึงเริ่มขึ้น ทว่าตอนนี้พวกเขาไม่แน่ใจแล้วว่า ใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายผิด “ถ้าพวกคุณยืนกรานให้คุณฟรานเซสโก้ชดใช้ค่าทำขวัญและค่ารัษาพยาบาลให้ ฉันคิดว่าไม่น่ามีปัญหาค่ะ คุณฟรานเซสโก้ยอมจ่ายอยู่แล้ว แต่ฉันกลัวว่าคุณฟรานเซสโก้จะเรียกค่าปลอบขวัญอัลบาโรที่ถูกล้อน่ะสิคะ ฉันกังวลว่าคุณฟรานเซสโก้จะเรียกหนัก เพราะค่ารักษาบาดแผลทางใจประเมินค่าเป็นตัวเงินไม่ได้ พวกคุณยังอยากได้อยู่ไหมคะ ถ้าอยากได้ฉันจัดการให้ค่ะ” คราวนี้อีกฝ่ายอึ้งหนักกว่าเดิม มองหน้ากันราวกับว่ากำลังตัดสินใจ “เอาล่ะค่ะ ฉันในฐานะครูใหญ่ที่จะไม่เข้าข้างใคร เราใช้เหตุผลพูดกันนะคะ” ครูใหญ่ที่นิ่งมาพักหนึ่งเอ่ยขึ้น “ความผิดของเด็กทั้งสามพอๆ กัน ร็อกโก้กับโอเว่นผิดที่ล้อเพื่อน อัลบาโรผิดที่ชกเพื่อน ฉันอยากให้การมีเรื่องครั้งนี้แล้วก็ให้มันแล้วไป แต่ถ้าเกิดขึ้นอีกครั้ง ฉันจะลงโทษตามกฎ ตกลงไหมคะ” “จะเอาแบบไหนดีคะ” ไลลาถาม คล้ายกับเร่งให้อีกฝ่ายตัดสินใจ “เลิกแล้วต่อกันก็ได้” มารดาร็อกโก้กระแทกเสียงตอบ “ฉันก็ไม่เอาเรื่อง” บิดาโอเว่นตอบ “ขอบคุณที่ไม่ติดใจเอาความนะคะ แล้วฝากอีกเรื่องหนึ่งค่ะ พวกคุณอย่าไปว่าเด็กคนอื่นว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน ถ้าคุณยังสั่งสอนลูกตัวเองไม่ดีพอ” ไลลาไม่วายฝากถ้อยคำเจ็บแสบ “ส่วนฉันก็จะสั่งสอนให้อัลบาโรใจเย็น ควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดีกว่านี้ เพราะหากวันข้างหน้าเขาใจร้อน มันไม่ส่งผลดีต่อตัวเองแน่ ในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องตักเตือนลูกด้วยว่า อย่าล้อคนอื่น ในอนาคตเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วทำแบบนี้อีก อาจไม่แค่โดนชกนะคะ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถ้าฉันพูดไม่ดีหรือให้พวกคุณไม่พอใจ ฉันขอโทษนะคะ แต่ฉันเชื่อว่า เรื่องที่ฉันพูดเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ฉันขอตัวนะคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD