ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ ณ มุมหนึ่งของบ้านพักคนงาน ร่างสองร่างที่กำลังก่ายกอดไปตามบทรักที่บดบังเสียงสายฝนเหลือแค่เพียงเสียงครางสอดรับกันเท่านั้น
รสรักเป็นเหมือนสิ่งเสพติดที่ทั้งคู่พยายามควานหายามมีโอกาสแม้ทุกอย่างจะมีข้อจำกัด แต่การยับยั้งชั่งใจที่จะยอมอดกลั้นของคนก็ยังน้อยอยู่ดี
ต่อให้กำแพงหนา ก่อปูนสูงเพียงใดก็ยังมีบันไดให้ไต่ลงมาหากัน หากจิตใจยังคงจมอยู่กับกิเลสเหล่านั้น ก็ไม่สามารถต้านทานความต้องการที่ธรรมชาติสร้างมาได้
บทรักอันเร่าร้อนด้วยวัยกำดัดและประสบการณ์ของคู่นอนอร่อยยิ่งกว่าของที่กินเป็นประจำ งานนี้อาหารจานใหม่กำลังทำให้ต่างฝ่ายต่างติดใจและคงอยากกินอีก หากมีโอกาส
ตาคมปรือขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อหล่อนเพิ่งลงจากสวรรค์ อาการเบาโหวงยังไม่หมดไปจากกาย เมื่อฝ่ามือเรียวที่ยังไม่มีแรงยกขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้าและร่องอกอวบอิ่มที่ไหลลงช้าๆ
บทรักที่อีกฝ่ายมอบให้สุดบรรยายอย่างที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน จะว่าไปคนที่สอนอยู่ในปัจจุบัน ไม่สมใจอยากเธอเลย หากเทียบกับเขา
พลาชัย ชู้รักวัยยี่สิบแปดปี ตวัดมองร่างสมส่วนข้างกาย ความร้อนในกายเริ่มปลุกความเป็นชายที่เพิ่งสงบลงไปให้กลับขึ้นมาใหม่แค่เพียงสายตาได้สัมผัสกับอกอวบอิ่ม สายตานั้นก็หยาดเยิ้มจ้องมองสบอีกฝ่ายเหมือนกำลังต้องการสื่อความหมายให้เจ้าของร่างอวบอั๋นอย่างคนเจ้าเนื้อนิดๆ ได้รู้
รังรองเข้าใจสายตาที่อีกคนสื่อออกมา แต่มันคงไปต่อไม่ได้ ต้องหยุดไว้แค่นี้ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้อีกฝ่ายเริ่มทำงานให้เธอสมใจ เธอมั่นใจว่าเรือนร่างของเธอหากใครได้เห็นก็จะบอกว่า น่าฟัด เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพกและสิ่งที่มีอยู่นี้จะทำให้คนที่นอนเคียงคู่อยู่ไปไหนไม่รอด
รังรองขยับร่างอวบสมส่วนลุกขึ้น ทำเป็นไม่สนใจสายตาวอนขอนั้น แต่ก็อดเหลือบมองร่างชายหนุ่มและสิ่งที่กำลังรอการท้าทายครั้งใหม่ไม่ได้ โดยที่เจ้าของสิ่งนั้นยังนอนหงายหายใจหอบถี่ๆ อยู่ข้างกายเธอ
“อย่าลืมที่ฉันสั่ง หากเธอทำสำเร็จ ไม่ใช่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวหรอกนะ” เสียงที่ยังมีอาการเหนื่อยหอบเอ่ยบอก พร้อมเริ่มขยับกายลุกขึ้นเตรียมตัวออกจากห้อง
“จะรีบไปไหนละครับ คุณรังรอง” เขาขยับกายหนาโอบเอวคอดเอาไว้ พร้อมกดปลายจมูกสูดความหอมบนไหล่มนจนชุ่มปอด เหมือนสิ่งนั้นจะทำให้เขาอยู่ได้อีกหลายวัน
เนื้อแนบเนื้อคนที่มีเชื้อไฟอยู่มันจุดติดง่ายเสียเหลือเกิน และตอนนี้เจ้าร่างกายเขาก็ยังเรียกร้องยังต้องการเธออยู่ แต่สำหรับเธอจะให้อยู่ต่อรอบสองคงไม่ได้แล้ว “ฉันต้องรีบไป เดี๋ยวนายใหญ่ของพวกแกออกมาเห็น ซวยตายกันพอดี”
เสียงหวานเอ่ยบอกสีหน้าเริ่มแสดงถึงความหวาดระแวง ตัดใจพาร่างเปล่าเปลือยก้มหยิบเสื้อผ้าที่ถูกเหวี่ยงทิ้งไปก่อนหน้าสวมใส่ทันที ก่อนจะเดินฝ่าสายฝนออกไปอย่างรีบเร่ง
สายตาคมมองรูปร่างที่ตนเองปรารถนามานาน เดินหายออกไปอย่างหมายหมาด ก่อนจะกระตุกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างคาดหวังถึงความสุขครั้งต่อไป และเมื่อก้มมองส่วนกลางลำตัว สายตาคมก็มีแววสุขสมกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นและแน่นอนมันย่อมต้องเกิดขึ้นอีกเพราะเรื่องทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น...!
อีกด้านของฟาร์มม้า สองพ่อลูกและหนึ่งสาว กำลังยืนลุ้นเจ้าสีดา ที่กำลังตกท้องออกลูกอย่างตื่นเต้น แม้ภายในคอกจะเย็นสบายด้วยสายฝนที่ยังเทกระหน่ำแต่คนทั้งสามก็ยังปรากฏเม็ดเหงื่อให้เห็น
เพราะเป็นการตกลูกตัวแรกของเจ้าสีดา เจ้าของฟาร์มจึงต้องเฝ้าดูแลเป็นพิเศษ และอาการของม้าสาวก็ทำให้คนที่เฝ้าดูแลหัวใจจะวาย ทั้งกลัวทั้งตื่นเต้นผสมปนเปกัน
“พี่วิรุจ ทำไมเจ้าสีดาตกลูกยากจังเลย ต่างกับเจ้ารวง แค่แป๊บเดียวลูกก็ออกมาแล้ว พี่รุจคิดว่าไง ฮึ...” คนเป็นภรรยาออกความคิดเห็นและถามความรู้สึกของอีกคน เพราะสองวันก่อนเธอก็ไปดูแม่ม้าอีกตัวที่ตกลูกก่อนหน้าไม่กี่วัน
สรรพนามที่หญิงสาวใช้เรียกทำให้เขารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ยิน เพราะตั้งแต่เริ่มใช้ชีวิตร่วมกัน เธอและเขาต่างก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันมาเสมอ
แขนเรียวถูกยกขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้าหวานอยู่หลายรอบ ท้องไส้รู้สึกปั่นป่วนกับเสียงร้องของแม่ม้า และท่าทางเดินวนไปวนมาเหมือนจะทนความเจ็บปวดไม่ไหว จนเผลอคิดไปว่าหากเป็นคนที่กำลังเจ็บท้องใกล้คลอดจะเจ็บและมีความรู้สึกแบบนี้หรือเปล่า...คิดได้แค่นั้นสาวสวยก็ยกแขนขึ้นปาดเหงื่ออีกครั้ง
วิรุจ ทนเดช วัยยี่สิบเก้าปี มองหน้าภรรยาหมาดๆ อย่างรักใคร่ ก่อนจะเอ่ยบอก “ก็เจ้ารวง ตกลูกมาหลายตัวแล้ว ส่วนเจ้าสีดาเป็นม้าสาวไม่เคยตกลูกไงครับ ถึงตกลูกยากอย่างนี้ เหมือน...”
วิรุจส่งยิ้มให้ภรรยา ตั้งใจค้างคำพูดไว้ให้อีกฝ่ายคิดเอาเองพร้อมกับทำสายตากรุ่มกริ่มอย่างมีเลศนัย อีกฝ่ายส่งค้อนให้อย่างรู้ความหมายนั้นดี
คนเป็นสามีย่นจมูกให้อย่างหมั่นเขี้ยว อยากจะจับภรรยาหอมแก้มให้หายอัดอั้นซะหน่อย แต่ก็เกรงสายตาผู้เป็นพ่อที่กำลังมองมาอย่างเอ็นดู
แม้งานแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นจะเป็นเพียงแค่งานเล็กๆ แต่ความรักของเขาที่มีให้กับหล่อนไม่ได้เล็กตามไปด้วย อีกทั้งตอนนี้ ภรรยาของเขาก็เลิกนิสัยเอาแต่ใจไปแล้ว เหลือไว้แต่ความน่ารักให้เขาได้ชื่นใจ และนั่นก็ทำให้บิดาของเขาทั้งรักและเอ็นดูหญิงสาวเป็นอย่างมาก ซึ่งดูว่าจะเอ็นดูมากกว่าลูกชายอย่างเขาเสียอีก
“คุณพ่อกลับไปพักผ่อนก็ได้นะครับทางนี้ผมจัดการเอง”
วิรุจหันไปทางผู้เป็นพ่อ แต่คนที่ถูกบอกให้กลับไปพักผ่อนกลับถลึงตาใส่แล้วเอ่ยออกไปอย่างงอนๆ “เรื่องอะไรละ พ่อก็อยากเห็นลูกเจ้าสีดาเหมือนกัน อุตส่าห์รอลุ้นให้มันท้องอยู่ตั้งนาน เรื่องอะไรจะปล่อยให้แกเห็นเป็นคนแรกล่ะ” คนสูงวัยทำสีหน้าเหมือนเด็กกำลังถูกขัดใจ ทำเอาหนุ่มสาวหัวเราะร่าไปตามๆ กัน
“จริงด้วยค่ะคุณพ่อ...รอดูพร้อมกันเถอะค่ะ เมย์แน่ใจว่าเจ้าสีดาต้องการกำลังใจ” สะใภ้สุดที่รักออกเสียงหนุนอีกแรงเหมือนเข้าใจพ่อสามีเป็นอย่างดี