"เธอนี่...เป็นพวกโคตรเหยียดหน้าตาเลยว่ะ"
"!"
เขายืนตรงหน้าแล้วก็พูดออกมานิ่ง ๆ แต่น้ำเสียงมันมีความเอือมระอาออกมาชนิดที่ไม่คิดจะปิดบัง
เดี๋ยว ๆ เรารู้จักกันเหรอ? ไอ้กร๊วก! คิดว่าหล่อแล้วจะด่าใครนิ่ง ๆ แบบนี้ก็ได้เหรอ!
"จะค้างที่นี่หรือจะกลับ" พอเห็นฉันนิ่งเขาก็ถามต่อ แต่เปลี่ยนเรื่องเร็วไปนะพี่ชาย คนอย่างน้ำหวานไม่เคยให้ใครมาเชือดนิ่ม ๆ แบบนี้นะคะ
"ฉันไม่ได้เหยียดหน้าตา" ฉันบอกเขาแต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นแค่รอยยิ้มมุมปากกับสายตาที่ส่งกลับมาให้อ่านได้เข้าใจง่ายว่า ไม่เชื่อ
"หึ! แล้วที่สลบทันทีที่เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นคืออะไร"
"ถ้าเป็นนายนายไม่ตกใจเหรอ นายก็คงรู้ว่าฉันเข้ามาทำไม แต่ช่างเถอะ นายไม่เข้าใจหรอก นายไม่ได้ต้องไปนอนกับไอ้สะ...ไม่ต้องไปนอนกับเสี่ยคนนั้นนี่" ฉันพูดรัวเป็นไฟด้วยความอัดอั้นแล้วก็ค่อย ๆ ลดเสียงลงเมื่อปากกำลังจะพูดออกมาว่า ไอ้เสี่ยตันหากลับ
"ก็คงไม่ถึงขนาดสลบ"
"เหอะ! ฉันต้องเสียความบริสุทธิ์ให้ผู้ชายแก่คราวพ่อนะพี่ชาย โอ๊ย! ไม่มีใครเข้าใจฉันหรอกพูดไปก็เท่านั้น" ฉันบ่นออกมา ไม่ได้อยากอธิบายให้ใครเข้าใจความรู้สึกฉันหรอกนะแต่มันอึดอัดเลยพูดออกมา
"แล้วจะมาทำแบบนี้ทำไมในเมื่อรู้อยู่ว่าต้องเจออะไร" เขาถามฉันด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมาทำที ไม่แน่นะเขาอาจจะกำลังรู้สึกสมเพชเลยอยากรู้ก็ได้ว่าชีวิตมันลำบากอะไรขนาดที่ต้องลดศักดิ์ศรีมาขายตัวแบบนี้
"เล่าไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ปัญหาใหญ่ของฉันอาจจะเป็นปัญหาเล็ก ๆ สำหรับบางคน แค่รู้ว่าแต่ละคนมันมีเหตุผลแล้วก็ความจำเป็นในการกระทำก็พอ" ฉันบอกเขาไปแล้วยักคิ้วให้เบา ๆ
"อืม" เขาพยักหน้ารับก่อนที่ทั้งฉันทั้งเขาจะเงียบไปครู่หนึ่ง
"แล้วถ้าวันต่อไปต้องเจอผู้ชายคนนั้นล่ะ ยังไงก็หนีไม่พ้นอยู่แล้วนี่"
"ก็คงต้องทำใจยอมรับมันให้ได้แหละ ทำไงได้รับเงินมาแล้ว" ฉันยักไหล่ตอบด้วยความปลงทั้งที่ในใจไม่ได้ปลงหรอกแต่แค่ไม่อยากพูดถึงมันเท่าไหร่ มันบีบหัวใจ สั่น ๆ อยู่ข้างใน
"ไป กลับได้แล้วเดี๋ยวไปส่ง" เขายิ้มให้ฉันนิดหน่อยแล้วก็เดินนำไปที่ประตูโดยที่ไม่ได้รอฉันเลยสักนิด ส่วนฉันเหรอ ฉันก็เดินตามเขาไปเลยค่ะไม่รู้ว่าเขาหลอกหรือพูดจริงหรอกนะแต่แค่ได้ยินคำว่ากลับได้แล้วขาฉันก็รีบขยับอัตโนมัติ ขอแค่ได้ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนก็พอส่วนวันต่อไปค่อยว่ากัน
"ขอบคุณมากนะที่มาส่ง" ฉันลงจากรถแล้วหันไปขอบคุณผู้ชายคนนั้น เขาพยักหน้ารับเบา ๆ แล้วก็ขับรถออกไปทิ้งให้ฉันยืนมองรถเขาที่เคลื่อนไปจนลับตา
ดีจังที่ได้เจอเขา...
อ้อ! ลืมไปเลยพี่นีน่าบอกเสร็จงานให้โทรหานี่นา ฉันนึกได้ก็เลยรีบโทรหาพี่นีน่าทันที
"ฮัลโหลน้องหวาน ว่าไงจ้ะ"
"ฮัลโหลพี่นีน่า หวานจะโทรมาบอกว่าเสร็จงานแล้วนะคะ" ฉันบอกไม่หมดหรอกบอกแค่นี้แหละก็ไปแล้วนี่แต่เสี่ยนั่นไม่ทำอะไรเอง
"จ้า คุณพอร์ชให้คนจัดการเรื่องเงินให้หวานแล้วนะ ลองเช็คดูนะว่าเงินเข้ารึยัง"
"ฮะ! เขาโอนมาแล้วเหรอคะ" ฉันถามด้วยความตกใจ คือฉันยังไม่ได้ตื๊ดตื๊ดกับไอ้เสี่ยที่พี่นีน่าเรียกว่าอะไรนะ คุณพอร์ชเหรอ ฉันยังไม่ได้ตื๊ดตื๊ดกับไอ้เสี่ยพอร์ชอะไรนั่นเลยแถมยังไปสลบใส่ทันทีที่เห็นหน้าเสี่ยแกอีก ทำไมจ่ายให้นะ คนรวยนี่เขาใช้เงินง่ายจังเลยเนอะ
“อื้ม แล้วเป็นไงแซ่บมากไหม” พี่นีน่าตอบแล้วก็ถามด้วยความกระตือรือร้นทำเอาฉันขนลุก กล้าถามนะว่าแซ่บไหม หนังเสี่ยลุงพอร์ชแกน่าจะเหนียวจนเคี้ยวไม่ได้จะเอาความแซ่บมาจากไหน ให้มโนหวานยังทำไม่ได้เลย T__T
“หึ ๆ แซ่บค่ะ แซ่บมาก แซ่บจนหวานเห็นหน้าปุ๊บหวานก็สลบไปเลย” ฉันบอกพี่นีน่าเสียงประชดนิด ๆ
“ว้าย! พี่ไม่คิดว่าเราจะถึงขั้นสลบนะเนี่ย ปกติคนอื่นเจอก็แค่สติหลุดกันนะ” พี่นีน่าพูดไปขำไป เออฉันคงรุนแรงที่สุดแล้ว แต่คนอื่นๆ ที่เจอแล้วสติหลุดนี่ก็ไม่ถือว่าธรรมดานะ หลอนจริงหลอนจัง
“แล้วเจ็บป้ะ” พี่นีน่าถามต่อ เดี๋ยวๆ อะไรเจ็บ นี่เราเพิ่งเคยเจอกันวันนี้มาถามเรื่องสุขภาพกันเลยเหรอ
“เอ่อ...เอาตรงๆ เลยนะคะพี่นีน่า วันนี้หวานยังไม่โดนเขาทำอะไรค่ะ”
“เฮ้ย! จริงดิ ปกติคุณพอร์ชไม่เคยปล่อยนะ เห็นหน้าปั๊บเขาจับฟัดจนคลานลงเตียงเลยนะหวาน” พี่นีน่าถามออกมาด้วยท่าทางตกใจแต่อีหวานคนนี้ได้ฟังแล้วยิ่งใจบ่ดี จับฟัดจนคลาน! บ้าเหรอ! แล้วอีหวานจะอยู่ยังไง! แค่คิดว่าต้องเสียตัวให้เสี่ยลุงพอร์ชปีละหนหวานยังทนไม่ได้ T__T
“ก็หวานสลบไปก่อนตื่นมาก็ไม่เจอเขาแล้วเจอแค่ลูกน้องเขา บางทีเขาอาจจะอารมณ์เสียมั้งคะเลยให้ลูกน้องมาส่งหวานกลับเลย แต่ก็ต้องขอบคุณเขานะคะที่ยังมีน้ำใจให้เงินหวาน”
“อ้อ งั้นไม่เป็นไรนะ วันหลังเดี๋ยวคุณพอร์ชก็เรียกใช้เองแหละ หวานไปพักผ่อนเถอะ” พี่นีน่าพูดเหมือนปลอบแต่น้องหวานไม่เข้าใจจะทำน้ำเสียงแบบนั้นทำไม พี่ควรยินดีกับหวานนะคะควรจุดพลุลูกใหญ่บนท้องฟ้าเลยยิ่งดี
“ค่ะพี่นีน่าถ้างั้นหวานไม่กวนแล้วขอบคุณที่ช่วยหวานนะคะแล้วเจอกันค่ะ” ฉันกดวางสายแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องเพราะเริ่มจะง่วงแล้ว
พอถึงห้องฉันก็เลยกดเข้าไปเช็คยอดเงินในบัญชีและพอหน้าจอปรากฏฉันก็แทบช็อค
...สองแสน!
เสี่ยลุงพอร์ชโอนเงินให้น้องหวานสองแสน! มันเยอะกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มากแต่ฉันไม่ได้หลงระเริงไปกับยอดเงินตรงหน้าหรอกนะเพราะสิ่งที่ต้องใช้แลกกับเงินก้อนนี้สำหรับฉันมันมีค่ามากกว่านั้น
“เฮ้อ!” ฉันนอนถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ทั้งที่ง่วงมากแต่พอล้มตัวลงนอนมันกลับนอนไม่หลับ เพราะเอาแต่คิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตที่ฉันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปเปลี่ยนแปลงได้ และตลอดเวลาที่นอนคิดเรื่องนี้ก็มีภาพใบหน้าของใครบางคน คนที่ฉันเพิ่งจะได้พบเจอคอยลอยมารบกวนหัวใจ
จะเป็นไปได้ไหมที่ชีวิตฉันจะเป็นเหมือนนิยายที่นางเอกไปเป็นเมียน้อยมาเฟียแล้วมีพระเอกที่เป็นลูกน้องมาพาฉันหนีไปก่อนที่เราสองคนจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
#NUMWAHN END
#PORSCHE TALK
ผมกลับมาถึงคอนโดหลังจากที่ไปส่งยัยเด็กคนนั้นเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช้ห้องเมื่อกี้หรอกนะครับนั่นมันห้องของป๊าผมแค่ยืมมาเซ็ทฉากเล่น ๆ ไอ้เสี่ยที่เธอเห็นจนช็อคสลบไปก็ลูกน้องป๊านั่นแหละ ยัยเด็กนี่ตรงสเปคผมทุกอย่างเลยครับ ทันทีที่นีน่าส่งรูปให้ผมดูพร้อมกับบอกความจำเป็นที่เธอต้องใช้เงินผมก็ตอบรับทันที ทั้งที่ปกติไม่ได้โอเคง่าย ๆ แบบนี้ ก็เด็กมันน่า...เอ็นดู
แต่ที่ไม่ยอมเปิดเผยตัวแล้วก็เซ็ทฉากแกล้งเธอก็ไม่มีอะไรมากมายหรอกแค่สแกนเด็กครับ ผมไม่อยากเอาคนที่นิสัยแย่มาเลี้ยงอีก แค่ที่มีอยู่ก็เบื่อมากแล้ว ไปส่งเมื่อกี้ไม่ใช่ว่าไม่อยากกินนะใจจริงอยากจะจับฟัดให้จมเตียงเลยแต่พอดีเพิ่งได้ของใหม่มาได้ไม่นานเลยยังไม่เบื่อ ขอเล่นให้เบื่อเป็นคน ๆ ไปก่อน
ผู้หญิงสำหรับผมก็เหมือนรถนั่นล่ะครับ รุ่นไหนสวยถูกใจเราก็แค่ซื้อมาครอบครอง สะสมเป็นคอลเลคชั่น มันตกรุ่นหรือเบื่อเมื่อไหร่ก็แค่เลิกขับเลิกใช้ก็แค่นั้น