เรื่อง : ซ้อนกลรัก
ตอนที่ 11 #โครงการใหม่ (50%)
โดย : Kwitch (เขียนเป็นภาษาไทยว่า กวิชญ์ (อ่านว่า กะ-วิช (ออกเสียง “เฉอะ”)))
เมื่อดวงหน้าหล่อเหลานึกถึงซาร่า ก็อดอมยิ้มไม่ได้ เขาเข้าใจดีในบุคลิกของซาร่า...ผู้ชายซึ่งมีหัวใจเป็นผู้หญิงก็มักจะเป็นแบบนี้...ช่างจุกจิกจู้จี้ แต่ก็ละเอียดถี่ถ้วนเอาการ แม้ว่าซาร่าจะชอบเจ้ากี้เจ้าการให้เขาทำโน่น นี่ นั่น แต่เขาก็รู้ว่าซาร่าเป็นอีกคนหนึ่งที่หวังดีกับเขามาก ๆ...ไม่ใช่ทำงานกับชายหนุ่มเพียงเพราะหาผลประโยชน์จากเขาเท่านั้น จะเห็นได้จากซาร่ามักจะคอย คัดกรองงานที่ดีและเหมาะสมให้กับชายหนุ่ม มิใช่ว่าจะให้ชายหนุ่มไปทำทุกงาน โดยไม่เลือกว่างานนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มรักซาร่ามากขึ้นไปอีกก็คือ ซาร่ามักจะออกตัวรับผิดแทนเขาเสมอ ในเวลาที่เขาแอบเกเรบ้างในบางครั้ง... ‘ซึ่งมันก็นาน ๆ ทีอะนะ’ ชายหนุ่มแอบเข้าข้างตัวเองอยู่ในใจ ซึ่งเท่าที่เขาจำความได้ ซาร่าไม่เคยกล่าวโทษเขาอย่างจริงจังเลยสักครั้ง อย่างมากก็เพียงแค่บ่น ๆ ตามประสา เมื่อคิดถึงคุณงามความดีของซาร่าเสร็จแล้ว เขาก็แอบคิดในใจ ‘พรุ่งนี้จะมีงานอะไรนะ แอบอยากรู้อยู่เหมือนกันนะเนี่ย’
.....
เช้าวันต่อมา
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแต่เช้าตรู่ กันตภัทร์ค่อย ๆ กวาดมือออกไปเพื่อควานหาโทรศัพท์มือถืออันวางไว้ตรงตู้ข้างเตียง แม้ว่าดวงตาคมจะยังไม่สามารถเปิดเปลือกตาขึ้นมาได้ก็ตาม แต่เนื่องจากเสียงที่กำลังดังขึ้นนั้น ทำให้เขาต้องตื่นมาคุยกับคนปลายสาย ‘ครับ’ น้ำเสียงอันงัวเงียได้ตอบปลายสายไป
‘กันต์...รีบตื่นเดี๋ยวนี้ แล้วมาที่บริษัทด่วน’ ไม่ต้องดูชื่อที่หน้าจอ ชายหนุ่มก็รู้ได้ทันทีว่าคนปลายสายคือใคร
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาเพื่อดูนาฬิกาที่ติดไว้ตรงผนังหน้าเตียงนอนของเขา เมื่อได้เห็นเวลาเขาก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา
‘นี่มันเพิ่งหกโมงเช้าเองนะพี่...จะให้ผมรีบตื่นทำไมเนี่ย’ ชายหนุ่มเหวี่ยงน้ำเสียงใส่คนปลายสาย
‘นี่กันต์พาใครไปซื้อแหวนฮะ’ เสียงปลายสายตะโกนลั่น
ชายหนุ่มเด้งตัวขึ้นมาโดยอัตโนมัติ แล้วความง่วงนั้นก็พลันหายเป็นปลิดทิ้ง ‘แหวนอะไรพี่’
‘ก็พวกปาปารัซซี* ถ่ายภาพที่กันต์พาผู้หญิงเข้าร้านเพชร แถมซูมให้เห็นอย่างชัด ว่าเดินไปมุมของแหวนเพชร’ ระดับความสูงของเสียงปลายสายยังคงไม่ลดลง
ชายหนุ่มยังคงแน่นิ่ง เพราะไม่รู้ว่าจะตอบคำถามปลายสายอย่างไรดี
‘รีบเข้ามาเพื่ออธิบายให้บอสฟังด่วนเลยนะกันต์’ ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้อธิบาย ซาร่าก็วางสายไปทันควัน ด้วยความโมโหอันมีมากพอควร
ชายหนุ่มใช้โทรศัพท์มือถือพิมพ์หาข่าวจากอินเตอร์เน็ต และภาพอันซาร่าพูดถึงก็ปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน...ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาบีบยังขมับศีรษะของตัวเอง ‘เฮ้อ!...งานเข้าแล้วไง’
.....
ณ บริษัทที่กันตภัทร์สังกัดอยู่
“ติ๊ง”
สัญญาณเสียงแสดงว่าลิฟท์โดยสารได้ถึงชั้นที่ผู้โดยสารต้องการจะไปแล้วดังขึ้น เมื่อประตูลิฟท์โดยสารเปิดออกกันตภัทร์จึงเดินออกมาด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความกังวล เมื่อถึงหน้าห้องทำงานของ “บอส” นายใหญ่อันดับหนึ่งของบริษัท บุคคลที่สามารถขีดชะตาชีวิตในวงการบันเทิงของเขาได้ตั้งแต่วันแรกที่เขาย่างก้าวเข้ามาจนถึงวันนี้ วันที่ชายหนุ่มมีชื่อเสียงโด่งดังจนได้ฉายาเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงซึ่งเจ้าตัวก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะมีโอกาสมายืนที่จุดนี้ได้ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นผลงานของบอสทั้งสิ้น ชายหนุ่มยืนลังเลอยู่หน้าประตูห้องทำงานของบอส เพราะยังคิดไม่ออกว่าจะอธิบายเรื่องแหวนเพชรอย่างไร แต่ยังไม่ทันที่จะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ก็มีคนเปิดประตูออกมาเสียก่อน
‘อ้าวกันต์!...มาถึงแล้วทำไมไม่เข้ามา...บอสรออยู่’ ซาร่าพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็ก ๆ แต่ถ้าเทียบกับน้ำเสียงเมื่อตอนเช้าที่โทรศัพท์มาหาชายหนุ่มนั้น ระดับความหงุดหงิดนั้นลดลงไปได้ประมาณสิบระดับเลยทีเดียว...เวลาสามารถช่วยเหลือชายหนุ่มได้จริง ๆ
กันตภัทร์เดินตามซาร่าเข้าไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีปากไม่มีเสียง เมื่อเข้าไป ก็เห็นบอสนั่งหันหลังให้กับเขา โดยกำลังมองผ่านผนังกระจกออกไปด้านนอก ซึ่งห้องของบอสนั้นเป็นกระจกใส สามารถมองออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ได้รอบด้าน แต่ถ้ามองเข้ามาจากด้านนอกนั้นจะไม่สามารถมองเห็นด้านในได้ นั่นอาจจะเป็นวิธีแอบส่องสาวของบอส ‘เอ๊ย! นี่มันใช่เวลาคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้มั้ยเนี่ย’ ชายหนุ่มเรียกสติของตัวเองกลับมา เมื่อเขาเหลือบไปมองโต๊ะทำงานยังของบอส ก็เห็นภาพข่าวนั้นวางหลาอยู่อย่างชัดเจน เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อรวบรวมสติอีกครั้ง
‘สวัสดีครับบอส’ ชายหนุ่มพยายามควบคุมน้ำเสียงให้อยู่ในระดับปกติ
บอสหมุนเก้าอี้เบาะหนังกลับมา แล้วมองหน้ากันตภัทร์อย่างจริงจัง
‘ใคร’ คำถามนั้นแม้จะสั้น แต่น้ำเสียงนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจเหลือเกิน
กันตภัทร์ยิ้มเฝื่อน ‘มันค่อนข้างซับซ้อนครับ...ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง’
ดวงตาคมยังคงจับจ้องชายหนุ่มอย่างไม่อาจทำให้ชายหนุ่มสายตาไปได้ ‘ขอสั้น ๆ กระชับ เข้าใจง่าย’
ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกมาก ลึกจนอากาศแทบจะล้นปอด ‘เธอเป็นว่าที่คู่หมั้นของผมครับ’
‘ฮะ!...’ เสียงสูงของซาร่าสอดแทรกขึ้นมา ส่วนบอสนั้นเลิกคิ้วราวกับไม่คาดว่าคำตอบที่ได้รับจะออกมาเป็นแบบนี้
บอสกอดอกแน่น พร้อมกับกระดิกนิ้วชี้ข้างขวาราวกับกำลังใช้ความคิด ‘ยังไง’
‘คุณทวดของผมเขียนพินัยกรรมไว้ว่าต้องแต่งงานกับผู้หญิงตระกูลสัตยธนะวงศ์ ถ้าไม่แต่งมรดกทั้งหมดก็จะต้องตกเป็นของ แผ่นดิน’ เมื่อพูดเสร็จ ชายหนุ่มก็ถอนหายใจยาว
บอสยังคงอยู่ที่ท่ากอดอก โดยนิ้วชี้ข้างขวานั้นกระดิกถี่กว่าเดิม ซึ่งถ้าเป็นคนสนิทกับบอส ก็จะรู้ได้โดยทันทีว่า ถ้าบอสแสดงกิริยาอาการแบบนี้ นั่นหมายความว่ากำลังใช้ความคิดอย่างหนักหน่วงอยู่ ซึ่งมันก็คงไม่แปลก เพราะเรื่องที่ชายหนุ่มเผชิญอยู่ในตอนนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กเอาเสียเลย
บอสคลายแขนทั้งสองที่กอดหน้าอกอยู่ออก จากนั้นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นยังมุมปาก ‘อาทิตย์หน้าพาว่าที่คู่หมั้นเข้ามาพบผม...คุณมีโครงการใหม่ที่จะต้องทำร่วมกับว่าที่คู่หมั้นของคุณ’
---------------------------------------------------------------
ที่มา
* ปาปารัสซี (อังกฤษ : paparazzi, อิตาลี : paparazzo แปลว่า ยุง) เป็นการเรียกนักข่าวสายบันเทิงที่เสนอข่าวในแนวแอบถ่าย โดยนำเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของดาราหรือผู้มีชื่อเสียงมาเปิดเผย, http://th.wikipedia.org/wiki/ปาปารัซซี