ตอนที่ 9 #การปรากฏตัวของบุคคลในความทรงจำ

1318 Words
เรื่อง : ซ้อนกลรัก ตอนที่ 9 #การปรากฏตัวของบุคคลในความทรงจำ โดย : Kwitch (เขียนเป็นภาษาไทยว่า กวิชญ์ (อ่านว่า กะ-วิช (ออกเสียง “เฉอะ”))) ‘เหรอครับ’ มุมปากเขายกยิ้มบาง ๆ ‘ไว้คราวหน้ามาดูใหม่ก็แล้วกันนะคะ’ ชายหนุ่มตั้งใจเผยรอยยิ้มอ่อนโยนให้หญิงสาว ‘ครับ...แล้วแต่คุณคีเลย’ หญิงสาวถอนหายใจยาว ด้วยความเอือมระอากับรอยยิ้มที่ชอบแจกจ่ายอย่างสิ้นเปลืองของชายหนุ่ม ‘กลับกันเถอะนะคะ...ฉันเหนื่อยแล้ว’ ‘ครับ’ ในขณะที่เดินอยู่ หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความเจ็บของส้นเท้าทั้งสองข้าง เธอก้มหน้าดูรองเท้าคู่ใหม่แกะกล่อง ที่เธอเพิ่งจะได้ใส่เป็นครั้งแรก เธอคิดตลก ๆ ในใจ ‘โธ่เอ๊ย! คงเป็นเพราะว่าฉันลืมกัดมันก่อนที่จะใส่ มันก็เลยมาแว้งกัดฉันในตอนนี้ใช่มั้ยเนี่ย’ หญิงสาวพยายามฝืนเดินโดยทำให้เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รองเท้าเจ้ากรรม...ก็ไม่ให้ความร่วมมือกับเธอเอาเสียเลย...เพราะยิ่งเดิน แผลที่เท้าของเธอก็ยิ่งถลอก และแสบมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เธอตัดสินใจชะลอความเร็วลง ชายหนุ่มหันมามองหาหญิงสาว เพราะเธอนั้นเดินอยู่ห่างจากเขาไกลพอสมควร เมื่อสังเกตเห็นได้ว่าการเดินของหญิงสาวดูจะไม่ปกตินัก เขาจึงรีบสาวเท้าเข้ามาหาเธอด้วยความรวดเร็ว ‘คุณคีเป็นอะไรรึเปล่าครับ’ สีหน้าชายหนุ่มดูเป็นกังวล ‘ไม่เป็นไรค่ะ’ เธอยิ้มเจื่อนให้เขา ‘แน่เหรอครับ’ ‘ค่ะ’ หญิงสาวพยายามยืนเหยียดตัวตรง หน้า คอ บ่า ไหล่ ตั้งตรง เตรียมพร้อมที่จะเดินไปอย่างสง่างามเพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับเท้าของเธอ แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ‘โอ๊ย!’ ชายหนุ่มรีบคว้าแขนของหญิงสาวเอาไว้ ตอนที่เธอย่อตัวลงเพราะเจ็บเท้า ‘คุณเจ็บเท้าเหรอครับ’ หญิงสาวค่อย ๆ ดึงแขนออกจากชายหนุ่ม เพราะไม่สะดวกใจนักที่จะให้ชายหนุ่มมาแตะเนื้อต้องตัว ‘ไม่เป็นไรค่ะ...ฉันโอเค’ ชายหนุ่มขยับตัวเข้าใกล้หญิงสาวมากขึ้น เพื่อที่จะพยุงตัวของเธอ จากนั้นจึงพาเธอเดินไปที่ม้านั่งซึ่งอยู่ด้านหน้า แต่เธอยังพยายามจะสะบัดตัวออกจากเขา ซึ่งนั่นมันยิ่งทำให้ชายหนุ่มกุมตัวหญิงสาวแน่นยิ่งขึ้นไปอีก ‘อย่าดื้อสิครับ...ไม่อย่างนั้น...ผมอุ้มนะ’ ชายหนุ่มยักคิ้วให้หญิงสาวอย่างเจ้าเล่ห์ หญิงสาวเบิกตาโตใส่เขา ‘ฉันเดินเองได้ค่ะ’ ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร แต่ยังคงประคองตัวหญิงสาวไว้เหมือนเดิม เธอทำได้แต่ยอมให้เขาประคองตัวเธอไป เพราะเกรงว่าเขาจะอุ้มเธออย่างที่บอกจริง ๆ หญิงสาวนั่งลงที่ม้านั่ง แล้วก้มตัวลงเพื่อจะถอดรองเท้า แต่ก็มีมือคู่หนึ่งมาจับหัวไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว ‘เดี๋ยวผมถอดให้เองครับ’ ชายหนุ่มลดระดับตัวลง แล้วนั่งชันเข่าข้างซ้ายที่พื้น จากนั้นเขาก็ถอดรองเท้าทั้งสองข้างให้หญิงสาวอย่างนุ่มนวล เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วส่งยิ้มอบอุ่นให้กับเธอ ‘รอตรงนี้สักครู่นะครับ...เดี๋ยวผมขอไปซื้อพลาสเตอร์ยาแล้วก็รองเท้าคู่ใหม่มาให้’ ‘ไม่เป็นไรค่ะ...เดี๋ยวก็หายแล้ว...อย่าลำบากเลยค่ะ’ ชายหนุ่มจับที่หัวไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวอีกครั้ง แล้วมองเข้าไปในตาของเธออย่างจริงจัง ‘รอผมอยู่ตรงนี้นะครับ’ หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยที่ชายหนุ่มมาจับหัวไหล่ของเธอโดยที่ไม่ทันตั้งตัว แต่เธอก็พยายามที่จะไม่กระโตกกระตาก โดยเก็บซ่อนความตกใจนั้นไว้ และพยักหน้าตอบเขาด้วยสีหน้าปกติ ‘ค่ะ’ หญิงสาวหันไปมองรอบ ๆ ตัว เพราะรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนจับตาดูอยู่ แต่เมื่อหันไปสำรวจรอบ ๆ ก็ไม่เจอสิ่งผิดปกติ เธอพึมพำกับตัวเองในใจ ‘ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ฉันคงคิดไปเอง’ ชายหนุ่มเดินกลับมาโดยถือถุงยามาพร้อมกับถุงใบใหญ่อีกใบหนึ่ง ซึ่งเธอเดาว่าน่าจะเป็นรองเท้าคู่ใหม่...ตามที่เขาได้พูดไว้ว่าเขาจะไปซื้อให้เธอ เธอส่ายศีรษะและถอนหายใจเบา ๆ ‘ไม่น่าลำบากไปซื้อมาเลย’ ชายหนุ่มจับเท้าของหญิงสาวขึ้นมาวางบนเข่าของเขา แล้วแกะพลาสเตอร์ยาออก หญิงสาวพยายามดึงเท้ากลับ แต่เขาใช้มือดึงเท้าของเธอเอาไว้เหมือนรู้ทัน จากนั้นดวงหน้าหล่อเหลานั้นก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองเธออย่างตำหนิ ‘อยู่นิ่ง ๆ สิครับ’ ‘ไม่เป็นไรนะคะ...ฉันติดเองได้’ น้ำเสียงของหญิงสาวนั้นมีความเกรงอกเกรงใจชายหนุ่มยิ่งนัก ‘คุณไม่ต้องเขินนะครับ...ผมไม่ได้คิดอะไร’ รอยยิ้มทะเล้นประดับอยู่ที่มุมปากของชายหนุ่ม หญิงสาวเบิกตาโตจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่ม ‘เขินเหรอคะ...คุณคิดได้ยังไงคะเนี่ย...ฉันอยู่ห่างไกลจากคำนั้นมากเลยค่ะ’ ชายหนุ่มหลุดหัวเราะเบา ๆ แต่ก็พยายามติดพลาสเตอร์ยาให้หญิงสาวต่อ ส่วนหญิงสาวนั้นเชิดหน้าขึ้นด้วยความหงุดหงิดเพราะเธอคิดว่าชายหนุ่มนั้นมีความหลงตัวเองอยู่ไม่น้อย ในช่วงระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังติดพลาสเตอร์ยาให้อยู่นั้น หญิงสาวมองไปรอบ ๆ อย่างไม่ได้สนใจใยดีกับสิ่งที่มองเห็นมากนัก จนกระทั่งดวงตากลมโตไปสะดุดกับบางสิ่งเข้า ‘นั่นมัน!...’ หญิงสาวมองตามสิ่งนั้นไปด้วยหัวใจที่เต้นรัวโครมครามไม่เป็นจังหวะ หญิงสาวดึงเท้าออกจากมือของชายหนุ่มอย่างไม่สนใจใยดีกับสิ่งที่ชายหนุ่มนั้นกำลังทำให้เธออยู่ เธอลุกขึ้น แล้วก้าวฝีเท้าออกไปจากม้านั่ง แต่ยังไม่ทันจะก้าวออกไปได้เร็วดังใจ ชายหนุ่มก็รั้งแขนขวาของเธอไว้เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเธอ ‘คุณจะไปไหนครับ’ ‘ปล่อยฉันก่อน’ สายตาเป็นประกายนั้นยังคงมองตามสิ่งๆ นั้นอยู่ โดยไม่ได้ชายตาแลผู้ที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ‘แต่ยังแปะพลาสเตอร์ยาไม่เสร็จเลยครับ...เดี๋ยวค่อยไปได้มั้ย’ หญิงสาวสะบัดแขนออกจากพันธนาการของชายหนุ่มในทันใด โดยปราศจากซึ่งคำตอบของคำถามของเขา เธอวิ่งตามสิ่ง ๆ นั้นไปด้วยเท้าเปล่า และดูเหมือนว่าจะลืมความเจ็บจากบาดแผลที่เท้าไปเสียสนิท เธอวิ่งเข้าไปในทุกร้านที่เธอวิ่งผ่าน แต่เมื่อไม่เจอสิ่ง ๆ นั้นก็รีบวิ่งออกมาเพื่อค้นหาอย่างร้อนรน เพราะเกรงว่าสิ่งนั้นจะคลาดจากสายตา...คลาดจากชีวิตของเธออีกครั้ง เธอยังคงวิ่งตามหาสิ่ง ๆ นั้นต่อไปในขณะที่น้ำตาคลอเบ้า ภาพที่อยู่ข้างหน้าของเธอค่อนข้างเลือนราง อาจเป็นเพราะน้ำตานั้นบดบังทัศนียภาพไปเสียหมด เธอวิ่งเหมือนไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางอยู่ที่ตรงไหน จนมีใครคนหนึ่งมาหยุดเธอไว้ได้ในที่สุด ‘คุณจะไปไหนเนี่ยคุณคี’ ชายหนุ่มจับลำแขนของหญิงสาวจนแน่น ความขุ่นเคืองสะท้อนออกมากับน้ำเสียงเจือแววอดกลั้น ‘พี่ที...’ ดวงตากลมโตฉายแววปวดใจและมีน้ำตาคลอหน่วยเลื่อนเลยไปข้างหลังคู่สนทนาราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่ในเวลานี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD