นั่งกินเหล้าคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่หลายชั่วโมงเจ้าบ่าวป้ายแดงก็เมา พอเมาแล้วก็พูดไม่รู้เรื่อง แน่นอนว่าคนเมามักควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ นึกอยากก่อกวนคนที่เลี้ยงลูกอยู่ในบ้าน เขาก็เลยลุกเดินเข้าบ้าน ไม่ได้สนใจเพื่อนที่นั่งคุยกันอยู่ เพื่อนน่ะไม่มีใครเมา ตั้งใจมานั่งกินเรื่อย ๆ อยู่เป็นเพื่อนไอ้ฌอห์ณ กลัวมันจะหาเรื่องทะเลาะกับกิ๊บ แล้วก็นะดูเหมือนมันจะเริ่มแล้วสิ
“ตามมันไปไหม” คาถาถาม
“เดินยังเซจะมีแรงทำอะไรกิ๊บได้ กิ๊บถีบทีเดียวก็จอดแล้ว” เฮียไฟตอบ
“เอาจริงกิ๊บน่ะดีกว่ามาร์อีก มาร์กับมันไม่มีวันได้แต่งกันอยู่แล้ว บ้านมาร์มันยังไม่ได้ไปเหยียบสักครั้ง เจอกันก็นับครั้งได้ กับกิ๊บผู้ใหญ่กุ้งก็ยอมให้โอกาสเพราะรักษาหน้าผู้ใหญ่บ้าน จะร้ายใจดำก็ไม่ได้ ทั้งที่มันเคยดีกับกิ๊บขนาดนั้นทำไมมันไม่รักกิ๊บวะ กิ๊บน่ะรักมันฉิบหาย”
“เรามองเรารู้ แต่คนผูกพันกันมาเป็นสิบปีใช่ว่าจะลืมกันได้ง่าย บางทีกับมาร์อาจจะไม่ใช่ความรักแล้วก็ได้หรือไม่ก็อาจจะไม่ใช่ความตั้งแต่แรก ก็แค่ยื้อแค่รั้งให้อยู่ในชีวิตของกันและกัน แต่สุดท้ายใครจะรู้ว่ามันรักกันหรือเปล่า มีแค่พวกมันที่ตอบได้ว่ารู้สึกยังไง”
“ถ้ามันรักมาร์ มันต้องมีมาร์แค่คนเดียว ต่อให้อยู่ไกลแค่ไหนถ้ารักถ้าแคร์ก็ต้องซื่อสัตย์ แล้วมันก็ต้องรู้จักป้องกันกับผู้หญิงคนอื่น มึงว่าทำไมกับกิ๊บมันไม่ป้องกัน กับมาร์มันป้องกันใช่ไหม ไม่งั้นมาร์ท้องไปนานแล้ว”
“มันอยากลองเอาสดมั้ง”
“มึงก็นะไอ้ไฟ” ตอบซะตรง
“งั้นจะมีเหตุผลอะไร” เฮียไฟย้อนถาม
“จะไปรู้มันเหรอ ไม่ได้ไปส่องตอนมันเอากัน ถามอะไรมันก็ไม่ตอบ”
เป็นคำถามที่ไม่มีเพื่อนคนไหนตอบได้ คนที่ตอบได้ก็มีแค่เจ้าตัว ซึ่งถามแล้วก็ไม่เห็นมันจะตอบ คนเราทำอะไรก็ต้องมีเหตุผลกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเหตุผลมันจะฟังขึ้นหรือเปล่า
ปรมะเดินโซเซเข้ามาในห้องนอน นั่งลงที่พื้นข้างเตียงฝั่งลูกสาวที่ตัวนอนตาแป๋ว แม่ของลูกนอนหลับอยู่ข้าง ๆ มือโอบลูกไว้หลวม ๆ เขามองภาพนั้นอยู่ครู่ใหญ่ ลูกสาวก็ส่งเสียงร้อง
“ชู่ว์” ส่งเสียงให้ลูกเงียบ กลัวว่าอีกคนที่หลับอยู่จะตื่น
ทว่าแค่เพียงลูกส่งเสียงแม่ของลูกก็รู้สึกตัว ยังไม่ทันได้ลืมตาเธอก็ส่งเสียงโอ๋ลูกแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นจึงเห็นพ่อของลูกนั่งอยู่ เธอมองหน้าเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก
“กินข้าวยัง” เขาถาม ถ้าเขาไม่เป็นฝ่ายพูดด้วยมีเหรอเธอจะพูดกับเขา
“...”
“เดี๋ยวเฮียดูลูกให้ ไปกินข้าวสิ ไอ้ถามันเก็บกับข้าวไว้ในตู้” เขาตอนนี้แทบไม่ใช่คนเมาด้วยซ้ำ ที่ทำเป็นเมาก็แค่อยากให้เพื่อนเข้าใจแบบนั้น