แม็กซิมัสทำได้แค่คิด หากเขายื่นมือไปจับเนินทรวงของหล่อนเข้าตอนนี้
ยัยตัวเล็กที่ทำท่าขู่ฟ่อๆ เหมือนแมวเหมียวนี่ คงได้ตะกุยใบหน้าเขา เป็นการเอาคืนอย่างแน่นอน
ทิชาได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง มันดังตึกๆ ตักๆ
เธอเงี่ยหูฟังจนได้ยินเสียงนั่นชัดขึ้น เสียงจังหวะเต้นของหัวใจนั่นเอง แต่มันสรุปไม่ได้ว่ามันเป็นเสียงหัวใจของเธอคนเดียว เมื่อเสียงที่ได้ยินนั้นมันก้องสะท้อน ฟังดูดีๆ แล้ว มันดังมาจากคนตัวใหญ่ตรงหน้าเธอด้วย ทิชาขมวดคิ้ว เธอมัวแต่คิดหาสาเหตุ จนทำให้การขืนตัวที่ทำมาตั้งแต่แรกหยุดลง แม็กซิมัสเลยฉวยโอกาสนั้น ดันแผ่นหลังของทิชา แนบลำตัวของตนเองมากขึ้น
กว่าทิชาจะรู้ตัวว่าตนเองเสียเปรียบ เวลาก็ผ่านไปหลายนาที
“ปล่อยได้แล้วค่ะ คุณจะกอดฉันอีกนานแค่ไหนคะ?”
หญิงสาวกล่าวเสียงขุ่น ยกมือดันแผ่นอกหนาที่เดิม จนสัมผัสได้กับการเคลื่อนตัวใต้ฝ่ามือ
เธอไม่ได้คิดไปเอง คนตรงหน้าหัวใจเต้นแรงไม่แพ้เธอเลย
แม็กซิมัสกดยิ้มมุมปาก เขายอมปล่อยมือแต่โดยดี ทิชาขยับถอยหลังห่างกันหนึ่งช่วงแขน
หญิงสาวไม่พูดไม่จา คว้าจักรยานที่ล้มบนพื้นขึ้นมา และตั้งท่าจะคร่อมจักรยาน แต่มือใหญ่เอื้อมมารั้งไว้ ทิชาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ชำเรืองมองชายหนุ่มที่ยืนยื้อเรียวแขนตนเองเอาไว้ ด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย
“คู๊ณ!” ทิชาใช้เสียงสูง เธอยื่นมือตนเองไปปัดมือของแม็กซิมัส “ฉันสายแล้วค่ะ ฉันมีเรียน”
มุมปากสีเข้มกดลงจนปากได้รูปบิดเบี้ยว “เธอบาดเจ็บนี่” เสียงเย็นชา แต่มือเขากลับจับเรียวแขนเธอแน่นขึ้นอีก
“นิดหน่อยค่ะ เดี๋ยวฉันไปทำแผลที่ห้องพยาบาลในมหาลัย’ เอง วันนี้ฉันซวยแต่เช้า ถูกไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้เปิดประตูชน แถมยังไม่หยุดรถมาดูดำดูดีฉันสักนิด สมัยนี้คนรวยแต่แร้งน้ำใจมีเยอะเกลื่อนโลกไปหมด”
หญิงสาวไม่วายแควะแม็กซิมัส เขาหล่อเหลาดูดีในชุดสูทเรียบกริบ ในขณะที่เธอสวมกางเกงยีนส์ขาดๆ กับเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาลไหม้ รองเท้าผ้าใบเก่าจนแทบมองไม่เห็นสีเดิม เมื่อมายืนประจันหน้ากันแบบนี้ มันเหมือนเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ กับเด็กอนาถาที่ยากจนข้นแค้นยังไง ยังงั้นเลย
เสียงจิปากเบาๆ แต่เสียงขลุกขลักในลำคอเหมือนคนกลั้นเสียงหัวเราะไว้ดังกว่า ทิชาชะเง้อมอง เธอเห็นผู้ชายใส่สูทสีดำที่ยืนอยู่ด้านหลังแม็กซิมัส กำลังกลั้นเสียงหัวเราะจนหน้าตาแดงไปหมด หญิงสาวขมวดคิ้ว เธอไม่เข้าใจ คนเหล่านั้นหัวเราะอะไรกัน?
ดวงตาคมดุเบิกโตมากขึ้นกว่าเดิม “ไอ้บ้าที่เธอด่าอยู่น่ะ...ผมเอง” เสียงเย็นเฉียบกล่าวเบาๆ
ทิชาเอียงคอมอง เธอชะเง้อมองรถยนต์หรูที่จอดอยู่เยื้องๆ ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก
“ตอนนั้นสัญญาณไฟเปลี่ยนพอดีครับ เราไม่สามารถหยุดรถได้ แต่เจ้านายผม สั่งให้กลับรถมาเพราะเป็นห่วงคุณครับ”
คาร์ลพูดสอด เขายิ้มให้ทิชา หญิงสาวเลยยิ้มตอบแหยๆ
“เธอควรไปหาหมอ” แม็กซิมัสพูดต่อ ปลายตามองรอยถลอกที่หัวเข่าของทิชา เขาเห็นเลือดสีแดงๆ ไหลซึมออกมา
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่อยากไปเรียนสาย” ทิชาเงยหน้ายิ้มกร่อยๆ ให้แม็กซิมัส
แต่... “คาร์ลจัดการรถพังๆ คันนี้ให้ฉันด้วย” ปลายนิ้วชี้ ชี้ไปที่จักรยานสุดโทรมของทิชา
ก่อนจะจ้องหน้าผู้หญิงร่างเล็กตรงหน้า และสิ่งที่ทิชาคิดไม่ถึงก็เกิดขึ้น
แม็กซิมัสรวบเอวบางของทิชาด้วยมือข้างเดียว เขาตวัดหล่อนขึ้นพาดไว้บนบ่า ทำเหมือนกับว่าเธอเป็นแค่ตุ๊กตาไร้น้ำหนัก มือแข็งแรงกดลงที่ก้นโด่งๆ พร้อมทั้งฟาดมือเสียงดังตั่บ เมื่อทิชาเริ่มดิ้น
“ผมจะพาเธอไปหาหมอ และถ้าไม่อยากอาย เลิกโวยวายได้แล้ว!”
เสียงห้าวเข้มดุสำทับ เดินดุ่มๆ ตรงไปยังรถยนต์หรูที่จอดอยู่ไม่ไกล
คาร์ลมองตามเจ้านายหนุ่มตาค้าง บนบ่ากว้างของแม็กซิมัสมีร่างเล็กบางของทิชาดิ้นกระแด๋วๆ อยู่บนนั้น หลังถูกฟาดด้วยฝ่ามือถึงสองครั้งติดกัน เสียงแหลมๆ ที่โวยลั่นก็สงบลง หล่อนมองไปรอบๆ ตัวด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด เมื่อมีผู้คนเริ่มให้ความสนใจ ทิชาเลยกดใบหน้าลงกับแผ่นหลังของชายหนุ่ม เลิกร้องโวยวายตัดปัญหาเรื่องคนอยากรู้อยากเห็น
“ลูกพี่!” การ์ดอีกคนกระซิบถามคาร์ลเสียงแผ่วๆ เมื่อรถยนต์หรูทะยานออกจากที่ ทิ้งการ์ด3คนไว้เบื้องหลัง รวมทั้งคาร์ลด้วย
“จัดการเอาจักรยานเก่าๆ นี่ไปทิ้งซะ” คาร์ลออกคำสั่ง เขาต้องเคลียร์พื้นที่ตรงนี้ จะได้ตามไปดูแลแม็กซิมัสต่อ
“เอาซากไปทิ้ง...แล้วต้องทำไงต่ออีกครับ?”
คาร์ลถอนใจเฮือก “ซื้อคันใหม่สิวะ ไม่เห็นเหรอว่าคุณผู้หญิงคนนั้นใช้จักรยานตลอด!”
“ครับ”
การ์ดหนุ่มโบกรถแท็กซี่คันแรกที่ผ่านมาใกล้จุดที่ตนเองยืนอยู่ เขาล้วงโทรศัพท์กดแอพพิเคชั่นค้นหาที่อยู่เจ้านายและรีบตามไปก่อนที่ทิชาจะก่อเรื่อง นาทีนี้ คาร์ลยอมรับ เขาเดาใจเจ้านายไม่ถูก ยังตั้งตัวไม่ทันนับตั้งแต่เจ้านายหนุ่มเปิดประตู กระแทกใส่ทิชา จนเจ้าหล่อนล้มกลิ้งไม่เป็นท่า
ทิชานั่งหน้ายับมองพยาบาลสาวทำความสะอาดแผลที่หัวเข่า มีคนหล่อ แต่หน้าดุชะมัดนั่งถลึงตาปรามอยู่ใกล้ๆ เธอกลอกตามองบน ถอนใจแรงๆ สีหน้าเหนื่อยหน่ายสุดขีด เมื่อก้มมองเวลาที่นาฬิการาคาถูกบนข้อมือตัวเอง
“คุณทำให้ฉันไปเรียนไม่ทัน!” ทิชาบ่นเบาๆ ไม่กล้าพูดดัง เมื่อเธอไม่ได้อยู่กับแม็กซิมัสแค่สองคน
“ขาดเรียนชั่วโมง 2ชั่วโมง คงไม่ทำให้เกรดเธอตกมากนักหรอกน่า”
“ฉันไม่เคยขาดเรียนค่ะ” เสียงอุบอิบเถียงกลับมา
“มันก็ดีกว่าเธอจะไปเรียนทั้งๆ ที่เลือดยังไหลไม่หยุด” ชายหนุ่มตอบกลับมาทันควัน
“แผลแค่นี้เอง...คุณชอบทำเป็นเรื่องใหญ่ ฉันคงไม่ตายเพราะรถล้มหรอกค่ะ”
“เธอไม่ตายเพราะรถล้มหรอกยัยแคระ! แต่เธอจะตายเพราะบาดทะยัก”
แม็กซิมัสดุเสียงเขียว ทิชาเบ้ปาก เธอได้ยินคำว่า ‘แคระ’ ‘เตี้ย’ ผ่านปากของคนตรงหน้าหลายครั้งแล้ว มันแปลกหรือไงที่เธอจะตัวเล็ก เมื่อเขาตัวโตเหมือนยักษ์ เลยทำให้คนที่สูงปกติดูต่ำเตี้ยในสายตาของเขา
“ฉันชื่อทิชาค่ะ เพื่อนๆ เรียกทีร่า ฉันไม่ได้ชื่อแคระ!”
ทิชาเถียงฉอดๆ เธอไม่ได้ต่ำเตี้ยเหมือนคนแคระสักหน่อย เธอสูงเท่าค่าเฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ เขาต่างหากที่ตัวโตผิดมนุษย์มนา
แม็กซิมัสไม่ได้ตอบโต้ แววตาเขาเต้นระริกเพราะกำลังขำ ดวงตาสีดำของคนตรงหน้า เหมือนลูกแก้วที่แสงไฟส่องกระทบ มันมีประกายแสงสว่างวาบๆ และทำให้เขาชักสายตากลับมาไม่ได้สักที
“เรียบร้อยค่ะ ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำสัก2-3วันนะคะ” นางพยาบาลสาวอธิบายด้วยเสียงเอ็นดู
เธอแอบสังเกตหนุ่ม-สาวตรงหน้า ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก แม้ฝ่ายหญิงจะดูตัวเล็กไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับขนาดตัวของฝ่ายชาย
“เสร็จแล้วใช่ไหมคะ?” ทิชาถาม เธอกระโจนลงจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ก้มลงมองหัวเข่าที่มีผ้าพันแผลพันไว้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะยืดตัวขึ้น กวาดตามองหากระเป๋าเป้ของตนเอง เธอเสียเวลาอยู่ที่คลินิกแห่งนี้มากเกินพอ คงต้องถึงเวลาแยกตัว เธอต้องเข้าเรียนคลาสนี้ให้ทัน เมื่อตนเองไม่มีเวลามาทบทวนบทเรียนในคราวหลัง เนื่องจากเวลาที่เหลือ ทิชาต้องทำงานพาร์ทไทม์
“เดี๋ยวสิ เธอจะรีบไปไหน?” แม็กซิมัสร้องเรียก เขาเดินตามทิชามาติดๆ
“ไปเรียนสิคะ ขอบคุณค่ะที่พามาหาหมอนะคะ”
หญิงสาวขอบคุณตามมารยาท เธอย่นหัวคิ้ว มองหารถโดยสารที่จะพาตนเองกลับที่วิทยาลัย’
คาร์ลโผล่มาทันเวลาพอดี การ์ดอีกคนก็เหมือนกัน เขาจูงจักรยานใหม่เอี่ยมตรงมายังบริเวณที่เจ้านายยืนอยู่
ทิชามองจักรยาน แล้วก็เงยหน้ามองแม็กซิมัส เรียวคิ้วโก่งขมวดเป็นปม เมื่อพอจะเดาบางอย่างออก
“จักรยานฉันล่ะคะ?” เธอถามหาจักรยานคันเก่งของตัวเอง
“จักรยานคันนั้นล้อเบี้ยว ผมเลยจัดการซื้อมาให้ใหม่ครับ” คาร์ลเป็นคนตอบ สีหน้าเรียบสนิท
แม็กซิมัสอมยิ้ม เขาเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เมื่อทิชาหมุนตัวมามองเขา
“ฉันรู้ว่าคุณรวยค่ะ!” หญิงสาวสูดลมหายใจแรงๆ “แต่แค่ล้อเบี้ยว ก็ไม่ได้หมายความว่ามันใช้ไม่ได้นี่คะ!” เสียงของทิชาสูงขึ้น เธอรู้ดีว่าสภาพจักรยานของเธอนั้นมันเก่า แต่ก็ยังใช้งานได้ดี
“ไม่ดีเหรอ... เธอได้จักรยานใหม่ แทนไอ้คันบุโรทั่งคันนั้นเชียวนะ”