ตาคมเฉียบยังทอดมองที่อดีตหญิงคนรักที่ยืนอยู่เบื้องหน้าอยู่อย่างนั้น เธอปล่อยน้ำตาให้หลั่งไหลเหมือนกับว่าเสียใจในสิ่งที่เขาพูดมันออกไป เธอมันก็ดีแต่ร้องไห้ เธอมันก็ไปเก่งแต่บีบน้ำตาให้ไหล โดยไม่คิดที่จะอธิบาย ว่าเรื่องราวแห่งความเป็นจริง มันเป็นยังไง เธอเอาแต่พูดคำว่าไม่ได้ตั้งใจ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า ความหมายของคำว่าไม่ได้ตั้งใจในแบบฉบับของเธอมันเป็นอย่างไร
ผู้หญิงใจร้ายที่ชื่อเพียงฝัน ยื่นแก้วน้ำส้มคั้นที่เธอบอกว่าทำมันเองกับมือให้เขาทาน ซึ่งเขาเองก็ทานมันจนหมดแก้วโดยไม่ได้คิดสิ่งใด จากนั้น เขาก็ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ จนกระทั่งมารู้ตัวอีกทีว่า สายตาของเขาปะทะกับร่างของญาติผู้ใหญ่ทางฝั่งตัวของเขาเองและฝั่งของเธอ ที่ล้อมรอบเตียงกว้าง โดยมีเขาและเธอทั้งสองร่างที่เปลือยเปล่า นอนอยู่บนนั้นด้วยกันไม่มีคำตอบ ว่าผู้ใหญ่เหล่านั้นเข้ามาในห้องได้อย่างไร และเขามารู้ในตอนหลังว่า ประตูห้องไม่ได้ล็อคแต่อย่างใดทั้งๆที่เขามันไม่ใช่คนมักง่ายถึงขนาดนั้น จนกระทั่งตอนหลังผู้หญิงที่เขาเคยรักมากกลับใช้วาจา ที่เหมือนเป็นการสารภาพ ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง เธอที่เป็นคนทำ แต่ทว่ากลับไม่มีเหตุผล ว่าเธอทำแบบนั้นเพราะสิ่งใด
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถคาดเดาเองได้ ว่าผู้หญิงที่เขาเคยมอบความรักให้ เอาความรักความไว้ใจของเขา แลกเงินตรา
"เธอมันก็เก่งแต่บีบน้ำตา ไม่ต่อหน้าฉันก็ต่อหน้าแม่ฉัน ร้องให้มันได้อะไรขึ้นมา บอกให้มันจบๆดีกว่า ว่าต้องการเงินสักเท่าไหร่แลกกับการหย่า"
"ไม่เอาค่ะ ให้ตายก็ไม่หย่า"
"ทำไมอ่ะ หรือหวังที่จะอยากได้เงินกับแม่ฉันเรื่อยๆ หรือหวังในฐานะลูกสะใภ้หรือหลานสะใภ้ ว่าจะได้อะไรๆจากบ้านฉันอีกอย่างนั้นหรอ"
"ฝันไม่เคยพูด ว่าฝันจะเอาอะไร พี่คีจะย้ำเรื่องนี้ทำไมนักหนา หรือว่าผู้หญิงที่ย่าพี่พยายามจะหาให้ตลอดเวลา เกิดถูกใจขึ้นมา ถึงพยายามจะคุยแต่เรื่องหย่า"
คิ้วหนาของผู้รับฟัง นิ่วเข้าหากันเพียงเล็กน้อย แต่แล้วเขาก็เลือกที่จะค่อยๆแค่นเสียงหัวเราะออกมา
"ก็ไม่แน่หรอกนะ บางทีฉันอาจจะถูกใจผู้หญิงที่คุณย่าพยายามหาให้ในสักวันก็ได้.."
"...อยากน้อยๆ มันก็ต้องมีสักคนที่ไม่เห็นแก่เงินแบบเธอถูกไหม"
ทำตอบของเขา ยิ่งทำให้น้ำตาของอีกคนหลั่งไหล เขารับรู้ ว่าคำพูดของเขาทำให้เธอเสียใจ แล้วเธอล่ะ เคยนึกบ้างไหม ว่าการกระทำที่ผ่านมาของเธอมันก็ทำให้เขาเสียใจไม่ต่างกัน
"แต่ฝันเป็นเมีย คนที่เป็นเมีย ย่อมไม่ยอมให้สามีตัวเอง มีคนใหม่ทั้งๆที่มีตัวเองอยู่แล้วหรอกถูกไหมคะ เอาเป็นว่าฝันไม่หย่า จบนะคะ"
เธอว่าพร้อมกับหมุนร่างหนี แต่เขาก็เลือกที่จะตะโกนตามหลังไปทันที
"มีปัญญาทำอะไรฉันก็ลองดู"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เขาและเธอทะเลาะกัน เหตุการณ์มันจะเป็นแบบนี้วนอยู่ซ้ำๆ ไม่แน่ใจว่าเขาพูดไม่จริงจัง หรือจริงๆแล้วยัยนั่น ไม่อยากหย่าจริงๆเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่ถ้าถามว่าเขายังรักเธอไหม เขาเองก็ตอบไม่ได้ว่าความรู้สึกของตัวเองเป็นอย่างไร สิ่งแย่ๆที่เธอทำ มันฝังใจจนไม่อาจจะลบเลือนได้ แม้แต่เหตุผลที่เธอทำไป เขาก็ยังไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ชีวิตเขาตอนนี้มันเหมือนคนที่ไปต่อไม่ได้ อยากจะหย่า เพื่อเริ่มต้นใหม่ เธอก็ไม่ยอมหย่าให้ แต่ถ้าจะให้ลืมทุกอย่างแล้วเดินหน้ากับเธอต่อไป แบบนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้เหมือนกัน
แล้ววันนี้ มันก็เหมือนกับทุกๆวัน ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเมีย เข้ามาทำหน้าที่เมียโดยการทำน้ำอุ่นไว้ให้ เตรียมชุดนอนไว้คอย โดยที่เขาไม่เคยร้องขอแต่อย่างใด เขาไม่ได้ตาบอด พอที่จะไม่รู้ไม่เห็น ว่าเธอพยายามจะปรนนิบัติเขาทุกๆอย่าง ยอมรับว่าเธอไม่มีข้อด้อยในจุดไหน แต่ที่เขายังไม่เข้าใจ เธอทำเรื่องเลวๆแบบนั้นได้ยังไงกัน
"ถอดเสื้อผ้า วันนี้ฉันเหนื่อย ต้องการคลายเครียด"
เขาร้องบอกเมื่อเห็นอีกคนทำท่าจะถอยห่าง แน่นอน ว่าเขากับยัยนั่นไม่ได้นอนห้องเดียวกัน อย่างมาก ถ้าเขาและเธอจะหลับไปบนเตียงเดียวกันทั้งคืน เห็นว่าจะเป็นเฉพาะบางวันที่เขากอบโกยจากร่างของเธอ จนเธอลุกออกไปไม่ไหว มันก็เท่านั้นเอง
"วันนี้รอบเดือนมาค่ะ ฝันเหนื่อย ฝันไม่ไหว"
"งั้นถ้าฉันหิ้วผู้หญิงมากินที่บ้าน เพราะรอบเดือนของเธอมาแบบนั้นก็ได้ใช่ไหม"
"พี่คี.."
อีกคนหน้าเสีย พร้อมกับปล่อยน้ำตาร้องไห้ แต่ทว่า กิริยาแบบนั้น มันกลับไม่ได้ทำให้เขาเห็นใจ
เขามีอะไรกับผู้หญิงคนนี้มาจนนับครั้งไม่ได้ เขาเป็นคนแรกของเธอ เธอเคยนอนรอรับสัมผัสจากเขามาแล้วไม่ว่ารูปแบบไหน เวลารัก เขาก็อ่อนโยนให้ เวลาเธอทำให้เขาเสียใจ เขาก็รุนแรงกลับไปเช่นกัน แล้วในเมื่อเธอเคยผ่านมันมาแล้วทุกรูปแบบ ครั้งนี้ รูปแบบนี้ เธอก็ต้องรับไหวเช่นกัน
"ฉันบอกให้ถอด"
เขาออกคำสั่ง พร้อมกับโยนเสื้อผ้าของตัวเองออกจากร่าง จากนั้นไม่นาน ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเมีย ก็ค่อยๆถอดตาม
เขาสัมผัสไปตามเรือนร่างของผู้หญิงคนนั้นอย่างหยาบโลน มือหนาบีบครั้นไปตามเรือนกาย จนผิวขาวแดงปื้อไปตามรอยที่มือประทับ เช่นเดียวกับการขยับเข้าออกที่ช่วงนั้นหนักๆ จนอีกคนร้องทักว่าทั้งเจ็บและจุก แต่เขาก็ไม่ได้เก็บเอาคำพูดเหล่านั้นมาใส่ใจ นอกจากทำทุกอย่าง แบบตามใจตัวเอง
.
.
.
ตาสวยจับจ้องผู้หญิงที่พึ่งก้าวขาเข้ามาใหม่ โดยที่เธอเป็นคนเปิดประตูให้ ก่อนจะรีบยกมือไหว้ แบบที่เธอเคยทำ
"กำลังจะไปเรียนหรอลูก"
"ฝันมีเรียนตอนสิบเอ็ดโมงค่ะแม่วี"
ฉวี มารดาของคีรีพยักหน้ารับ ท่านสังเกตเห็นหลายๆสิ่งหลายๆอย่างจากตัวของผู้เป็นลูกสะใภ้ ก่อนที่ท่านจะค่อยๆก้มมองนาฬิกาหรูที่ข้อมือ แล้วเงยมองใบหน้างดงามแกมเศร้านั่นอีกครั้ง
"ตาคียังไม่ตื่นหรอ"
"ค่ะ"
เธอตอบรับออกมาช้าๆ ก่อนที่ท่านจะถอนหายใจออกมา
"ไปดื่ม กลับดึก ปล่อยเมียอยู่คนเดียวอีกตามเคยใช่ไหม สงสัยแม่ต้องคุยกับคีรีใหม่"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไปดื่มฝันไม่ว่า แค่ไปแล้วกลับมาเท่านั้นก็พอ"
เท่านั้นจริงๆที่เธอขอ เธอรู้อยู่แล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเขาได้ เพราะอย่างนั้น ขอแค่เขาไปแล้วเขากลับมา เธอก็พอใจ
"อดทนหน่อยนะฝัน หนูเองที่ทำให้คีรีเป็นแบบนั้น"
ท่านเลือกที่จะพูดออกมาตรงๆ ท่านเองก็ไม่ได้เข้าใจว่าเพียงฝันทำไปแบบนั้นเพราะอะไร แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นไปแล้ว ท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านก็ต้องยอมรับความเป็นจริงก็เท่านั้นเอง
"เอาล่ะ อะไรผ่านแล้วก็ให้มันผ่านไป มีปัญหาเรื่องอะไรโทรหาแม่นะ"
เธอรีบยกมือไหว้มารดาของสามีอีกครั้ง ท่านเป็นคนเดียวของครอบครัวนั้นที่ห่วงใยเธอเสมอ มีท่านเพียงคนเดียวจริงๆที่สนใจเธอ
"ฝันถามอะไรคุณแม่ตรงๆได้ไหมคะ"
"เรื่องคุณย่าของคีรีใช่ไหม"
"ค่ะ ฝันอยากรู้ ว่าคุณย่ายังพยายามที่จะจับคู่ให้พี่คี ทั้งๆที่พี่คีมีฝันอยู่แล้วอยู่ไหม ฝันรู้นะคะ ว่าคุณย่าเคยทำแบบนั้นแล้ว ตอนที่ฝันและพี่คีคบกัน แต่ฝันอยากได้ความมั่นใจ ว่ามันยังเป็นแบบนั้นอยู่ไหม.."
"...แม่วีบอกกับฝันตรงๆได้ไหมคะ อย่างน้อยๆ ให้ฝันมีโอกาสเตรียมรับมือบ้าง"
"ต่อให้คุณย่าพยายามจะทำกี่ครั้ง ถ้าคีรีไม่คิดจะทำตาม หนูก็วางใจไปเลยว่ามันจะไม่เกิดปัญหา"
"งั้นแสดงว่า คุณย่ายังพยายามที่จะแยกฝันกับพี่คีอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณย่าหาคนที่พี่คีถูกใจสำเร็จเมื่อไหร่.."
แล้วอยู่ๆคำพูดของเธอก็หลุดหาย เธอไม่สามารถต่อประโยคให้ตัวเองจนจบได้ รู้อยู่เต็มอก ว่าเขาพยายามจะไปแค่ไหน เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ วันนั้นมันจะมาถึงเท่านั้นเอง
.
.
.
วันนั้นทั้งวัน เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองให้เรียนรู้เรื่องได้เลย ความรู้สึกในใจของเธอมันว้าวุ่นอยู่ตลอดเวลา เธอไม่สามารถโฟกัสในสิ่งที่อาจารย์กำลังสอนได้ บางครั้งน้ำตามันก็เผลอไหล เป็นชั่วโมง กว่าความรู้สึกเหล่านั้นมันจะหายไป
@ห้างสรรพสินค้า
"เห็นทำหน้าเครียดทั้งวัน ควรเล่าเดี๋ยวนี้ไหมฝัน"
เพื่อนชายเพียงคนเดียวในกลุ่มเอ่ยถามคำนั้น ก่อนที่เพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวของเธอ จะต่อประโยคเช่นกัน
"เออจริง ฉันเห็นน้ำตาของเธอไหล อย่าบอกนะ ว่าเรื่องเดิม.."
"...ทำไมแต่งงานแล้วมันไม่มีความสุขอ่ะ เขาเปลี่ยนไปจริงๆหรอฝัน"
"นั่นน่ะสิ ฉันเองก็อยากรู้ ว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนได้ มันต้องมีเหตุผลสิถูกไหม.. เฮ้ยนั่นมัน.."
เสียงเพื่อนชายของเธอเงียบหาย ก่อนที่นิ้วเรียวจะถูกชี้ไปที่ทิศทางอื่น จนเธอเผลอมองตาม
แล้วสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า มันก็ไม่สามารถทำให้เธอละสายตาออกมาได้
"นั่นมันสามีเธอนี่หว่า ทำไมมากับผู้หญิงคนอื่นวะ"
เพื่อนชายของเธอพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ แต่เธอจำต้องคว้ามือของเพื่อนมาจับเอาไว้ เธอไม่เคยบอกเพื่อน ว่าเธอต้องแต่งงาน ทั้งๆที่เรียนยังไม่จบเพราะอะไร เหตุผลของเธอไม่เคยถูกถ่ายทอดไม่ว่าจะกับใครทั้งนั้น เช่นเดียวกับความรู้สึกคับแน่นในอกที่มันเกิดขึ้นเพราะภาพเบื้องหน้า ก็ไม่มีใครทราบเช่นกัน ว่าเธอรู้สึกอย่างไร
แล้วสายตาของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าสามี ก็เคลื่อนมาหยุดที่ใบหน้าของเธอ เขาไม่ได้มีท่าทีตกใจเมื่อเห็นเธอ เสมือนกับว่า เขาจงใจให้เธอเจอ