"คิดอะไรอยู่หรือเรา "
" ไม่มีอะไรจ้ะแม่ แตนกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอะไรเพิ่มอีกดี "
" นี่กะไม่ให้แม่กับตายายพักเลยใช่ไหมเนี่ย ใช้งานพวกเราเยอะไปแล้วนะ "
"โธ่! แม่จ๋าแตนเห็นแม่ยิ้มทุกครั้งที่ได้เงิน แตนก็อยากให้แม่มีรอยยิ้มตลอดไปเลยจ้ะ "
" งั้นก็ตามใจ เออจริงสิ ที่ดินติดกับบ้านเรานี่เขาติดป้ายขายนะ แม่ว่าซื้อเอาไว้ก็ดีนะเผื่อทำประโยชน์ได้ "
"จริงหรอจ้ะแม่ แตนกำลังอยากได้ที่ดินทำโรงงานอาหารแห้งของเราอยู่พอดีเลยจ้ะ ซื้อเลยจ้ะแม่ "
"เอางั้นนะ งั้นบ่ายๆแม่จะไปคุยกับเจ้าของที่ให้แล้วกัน "
หลังจากช่วงบ่ายต้อยก็เข้าไปคุยเรื่องที่ดินกับเจ้าของที่ ผลสรุปคือได้ที่ดินผืนนี้ในราคาถูกเพราะเจ้าของกำลังร้อนเงินอย่างมากนับว่าเป็นโชคดีของต้อยไปอีกสองวันนัดโอนที่ดินได้เลย
ต้อยกลับมาตรวจดูเงินในบัญชีที่แตนบอกให้เอาไปฝากไว้ สำหรับหมุนเวียนธุรกิจ และอีกหนึ่งบัญชีที่ต้อยแยกเอาไว้สำหรับแตนคนเดียว เธอตั้งใจจะเก็บเอาไว้ให้แตนเรียนจนกว่าจะจบปริญญาตรี ซึ่งแตนเองไม่ได้อยากเรียนต่อ เธอขออนุญาตแม่ออกจากโรงเรียนหลังจากเรียนจบมอ3 แล้ว และจะเรียนต่อ กศน.เอาที่หลังเพราะแตนอยากช่วยงานที่บ้าน และอีกประเด็นสำคัญคือแตนมีความรู้มาจากโลกเก่าแล้ว เธอจึงไม่อยากเสียเวลาอีก...
แม้ว่าทุกคนจะไม่เห็นด้วย แต่แตนยืนยันเช่นนั้นทุกคนจึงไม่อยากขัดใจเธอ เพราะรู้ว่าแตนนั้นเก่งและฉลาด ถึงแม้จะไม่ได้เรียนภาคปกติเหมือนเพื่อนๆแต่แตนก็สามารถจบด้วยเกรดที่ดีกว่าเพื่อนบางคนเสียอีก
หลังจากที่ได้ที่ดินมาแล้ว ต้อยได้ติดต่อช่างมาทำโรงงานขนาดกลางทันทีพร้อมทั้งทำรั้วสูุง2เมตรไปด้วย คราวนี้ต้องใช้เงินเก็บในส่วนที่เป็นทุนการศึกษาของแตน เพราะเงินที่มีนั้นต้อยใช้ไปกับการซื้อที่ดินแปลงนี้ไปแล้วนั่นเอง
แตนสั่งบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพราะตอนนี้แตนกำลังจะทำน้ำพริกขายอีกด้วย ตอนนี้เหลือที่ว่างด้านหลังของโรงงานนั้นมากพอสมควรแตนจึงนำพริกและผักบางชนิดมาปลูกเอาไว้สำหรับทำน้ำพริกที่จะขายในไม่ช้านี้ ตอนนี้เหลือเพียงแค่ปรับปรุงสูตรน้ำพริกสักหน่อยก็จะผลิตออกมาวางขาย
ต้อยรับคนงานในหมู่บ้านเพิ่มมาอีก3คน ซึ่งเป็นคนที่นิสัยดีไม่พูดมากตามที่ต้องการพอดี โดยมียายนีเป็นคนคุมงานในส่วนของโรงงานแทนต้อยแล้ว
"ยายแก่ แกให้คนงานทำอะไรบ้างล่ะวันนี้ "
"ก็แล่เนื้อหมู เนื้อวัว ที่เจ้าแตนเอาไว้ให้นั่นแหละตาแก่ นี่ก็แล่ไปหมดทั้ง500โลแล้ว หมูฝอยข้าก็ต้มเอาไว้รอแล้วล่ะ "
"เออเอามาให้ข้าแล้วกันข้าจะช่วยแกฉีกหมูไว้ให้ "
"ในกะละมังมีอยู่ครึ่งนึงแกไปฉีกรอก่อนสิ "
"เออได้ " หลังจากนั้นตาทดก็นั่งฉักหมูที่ต้มเอาไว้ทำหมูฝอยที่มีอยู่ครึ่งกะละมังจนเสร็จ จึงหยุดพักแล้วออกมานั่งเล่นที่แคร่ มองดูหลานสาวรับถุงที่มีรถมาส่งตรงหน้าบ้าน ทั้งหมดนั้นคือบรรจุภัณฑ์ที่หลานสาวของเขาสั่งมาเพื่อแพ็คสินค้าที่ทำทั้งหลายของโรงงาน เขานั่งมองด้วยความสุขใจที่เห็นหลายสาวและลูกสาวขยันทำงาน อีกไม่นานคำพูดที่หลานสาวบอกคงจะเป็นจริง เขาจะนั่งนับเงินจนตายไปเลย ..
ช่วงเย็นมีชาวบ้านมาแจ้งข่าวของป้าตุ้มกับแม่และยาย ส่วนตานั้นไม่ขอรับรู้ใดๆอีก เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ป้าตุ้มหนีไปอยู่ที่อื่นแล้ว ทั้งยังไปหาหยิบยืมเงินจากคนที่รู้จักกับตาทดและนายนี จนพวกเขามาตามทวงหนี้ เมื่อไปที่บ้านของตาทดแล้วไม่พบจึงมาตามหาที่หมู่บ้านนี้ และแม่ต้อยก็รับผิดชอบให้หนี้ให้ป้าตุ้มแทน เพราะสงสารยายนี เกรงว่ายายนีจะเครียดจนล้มป่วยไป แตนก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับแม่และยาย
" ต่อไปหากบ้านเรามีเงินทองมากกว่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องมาคอยตามใช้หนี้ให้ป้าตุ้มอีกหรือเปล่านะจ้ะแม่ "
หลังจากที่แตนเอ๋ยจบแม่กับยายจึงประกาศให้ชาวบ้านได้รับรู้กันทั่วว่านับจากนี้ไปแม่และยายจะไม่รับรู้เรื่องของป้าตุ้มอีก ไม่ว่าป้าตุ้มจะไปหยิบยืมเงินจากใครก็ตามยายจะไม่ขอรับรู้อีกแล้ว ทั้งสองรู้ดีว่าที่บ้านเรามีทุกอย่างมาได้เช่นทุกวันนี้เพราะแตนที่เป็นคนคิดมันขึ้นมาทั้งนั้น และหากไม่ได้ระบบฟาร์มทุกคนก็คงจะลำบากกว่าเมื่อก่อนไปแล้วล่ะ
วันนี้หลังจากที่นำต้นพริกและข่าลงแปลงปลูกเตรียมเอาไว้ทำน้ำพริกแล้ว แตนก็ไปโรงเรียนตามปกติจนถึงวันที่ปิดเทอมของชั้นมอ3 แตนจึงได้ให้แม่ไปทำเรื่องลาออกจากโรงเรียน
ตอนนี้แตนมาอยู่ที่นี่3ปีกว่าแล้ว ตอนนี้กิจการเพิ่มมาอีกหนึ่งนั่นคือ ผลไม้อบแห้งโดยครั้งแรกแตนแค่คิดว่าจะลองทำกินเองเท่านั้นแต่เมื่อแม่แพ็คใส่กล่องไปขายที่ตลาดนัดกลับมีคนมาสั่งซื้ออีกหลายสิบกล่อง แตนจึงทำขายด้วยเลย
แตนสั่งเครื่องอบขนาดใหญ่มาสองเครื่องเพื่อเอาไว้อบผลไม้แห้งโดยเฉพาะ และยังต่อเติมครัวเก่าให้เป็นโกดังเก็บของ ด้านหลังคือห้องสำหรับอบผลไม้แห้งที่เธอลงมือทำด้วยตนเอง ทุกขั้นตอน อาจจะมีบางครั้งที่ตาทดจะเข้ามาช่วยแพ็คลงกล่องก่อนจะส่งให้ลูกค้าที่สั่งเอาไว้แล้ว