ณ เรือนคุณหนูรอง คฤหาสน์สกุลจาง
“เจ้าพูดว่าท่านแม่รองเป็นลมหมดสติไปอย่างนั้นหรือ”
จางเหนียนซึ่งกำลังนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงเบนสายตาไปหาชิวชิว สาวใช้คนสนิทของนางเพิ่งกลับมาจากงานที่มอบหมายให้ไปทำก่อนหน้านี้
“เจ้าค่ะ” ชิวชิวตอบรับด้วยสีหน้ากระตือรือร้น “เดิมทีข้าก็ไม่ทราบ แต่เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ บ่าวไพร่ทางด้านนอกต่างพูดถึงกันไม่หยุด แต่แน่นอนว่าเรื่องที่คุณหนูเปิดตัวในงานเลี้ยงอย่างสง่างามต้องถูกพูดถึงมากกว่าอยู่แล้ว”
ในระหว่างที่หญิงสาวพูดประจบเอาใจเจ้านาย ในหัวของจางเหนียนกลับวกคิดถึงเรื่องฮูหยินรอง
จ้าวชวน เพียงแค่นี้เจ้าก็เครียดจนเป็นลมไปเลยหรือ ช่างอ่อนหัดเสียจริง
จางเหนียนคิดพลางยืดแขนบิดตัวอย่างเกียจคร้าน “แล้วมีใครไปเยี่ยมท่านแม่รองแล้วหรือยัง”
“เนื่องจากคืนนี้มีงานเลี้ยงภายในฉลองวันเกิดของคุณหนู ทุกคนต่างกำลังวุ่นวายกับการเตรียมตัว จึงมีเพียงคุณหนูสามที่ไปเยี่ยมเจ้าค่ะ”
“กระทั่งท่านพ่อก็ไม่ได้ไปหรือ”
ชิวชิวก้มหน้า “นายท่านสั่งให้คนไปถามไถ่อาการจากท่านหมอ พอทราบว่าฮูหยินรองเครียดและอ่อนเพลียจึงสั่งบ่าวไปบอกว่าให้ฮูหยินรองพักผ่อนและให้คุณหนูสามคอยดูแลให้ดี ไม่จำเป็นต้องไปร่วมงานเลี้ยงคืนนี้เจ้าค่ะ”
“นับว่าน่าเสียดายนัก...” จางเหนียนส่ายหน้าน้อยๆ
“จริงด้วยเจ้าค่ะ นานๆ ครั้งคฤหาสน์สกุลจางจะมีการจัดงานเลี้ยงภายใน ฮูหยินรองกับคุณหนูสามอยู่แต่ในเรือนคงเหงากันน่าดูเชียว”
ชิวชิวกล่าวอย่างเสียดายแทน ทว่าความหมายของความเสียดายของจางเหนียนนั้นแตกต่างจากสิ่งที่สาวใช้คิดลิบลับ
ผู้เป็นนายยกยิ้มปิดปากพลางหัวเราะแผ่วเบา ความโดดเด่นของนางในงานเลี้ยง ประกอบกับความใส่ใจที่ท่านพ่อมีให้แก่ท่านแม่คงทำให้จ้าวชวนซึ่งปรับตัวรับกับสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันไม่ทันครุ่นคิดไม่ตกจนเครียดขึ้นมา
ทว่าหลังจากนี้จ้าวชวนคงเรียนรู้จากบทเรียนในครั้งนี้และร้ายกาจยิ่งขึ้นเป็นแน่
...ทีนี้คงต้องรอดูกันว่าทางด้านจางลี่ที่ถูกหลี่เฉิงถิงเรียกตัวออกไปคุยในระหว่างงานเลี้ยงจะมีผลลัพธ์ออกมาเช่นไร
ผู้ที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตนเองหมุนตัวนอนตะแคงไปอีกข้าง แม้ไม่เห็นกับตา แต่นางก็พอคาดเดาได้ว่าผลจะออกมาในรูปแบบใด
“แล้วเรื่องที่ข้าให้ไปจัดการเล่า เรียบร้อยดีแล้วหรือยัง”
“เจ้าค่ะ คนขับรถม้าที่เดินทางมากับคุณชายเถามีนามว่า เสี่ยวซื่อ เขาอายุยี่สิบสอง ทำงานรับใช้อยู่ที่เรือนสกุลเถามาห้าปี ปกติมักจะเป็นคนขับรถม้าประจำให้คุณชายเถาเมิ่ง เสี่ยวซื่อบอกว่าคุณชายเถาจะพักอยู่ที่เมืองหลวงประมาณห้าวัน แต่ข้ายังไม่กล้าถามซักไซ้ว่าเขาจะไปที่ใดบ้าง”
“เจ้าทำถูกแล้ว” จางเหนียนเว้นจังหวะพลางรูดกำไลเงินที่ประดับด้วยหินหลากสีออกมาจากเรียวแขน ดันตัวนั่งแล้วหันไปทางชิวชิวซึ่งยืนอยู่ข้างเตียง “ชิวชิว”
“เจ้าคะ” นางเอียงคออย่างงงงวย
“หากบ่าวทำงานดีก็ควรได้รับรางวัล นี่เป็นของตอบแทนเล็กน้อยที่เจ้าตั้งใจทำงานรับใช้ข้าอย่างภักดีมาโดยตลอด เจ้ารับไปเถิด”
“คะ...คุณหนู!” สาวใช้คนสนิททรุดเข่าลงบนพื้น ดวงตาที่สบมองผู้เป็นนายทำให้อีกฝ่ายรู้สึกราวกับตนเป็นเทพเซียนผู้สูงส่ง ทว่าเวลาต่อมาก็เกิดความกังขาลังเลจึงพูดออกมาตามตรง “แต่ว่า...กำไลวงนี้มิใช่ว่าเป็นของขวัญที่คุณชายหลี่มอบให้ในวันเกิดครบรอบสิบสามปีของท่านหรอกหรือ”
“ในเมื่อเขามอบมันให้ข้าก็เท่ากับว่าเป็นทรัพย์สินของข้า การจะมอบมันให้แก่ผู้ใดย่อมเป็นสิทธิ์ของข้า” จางเหนียนวางกำไลลงบนมือชิวชิว “ชิวชิว ข้าชื่นชอบเจ้ามาก ต่อไปนี้เจ้าจงใส่กำไลวงนี้ติดตัวไว้ บ่าวไพร่ในคฤหาสน์เห็นแล้วจะได้เกรงใจ พวกเขาจะได้ไม่มารังแกเจ้าอีก”
นัยน์ตาของชิวชิวสั่นระริก กล่าวขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบพระคุณเจ้าค่ะคุณหนู กำไลวงนี้ ข้าจะรักษามันด้วยชีวิต”
จางเหนียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “อีกไม่นานต้องเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้แล้ว ในเมื่อผ่านพิธีปักปิ่น ทรงผมก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ และข้าจะเปลี่ยนลายฮวาเตี้ยนด้วย”
“เรื่องชุดจะทำเช่นไรดีเจ้าคะคุณหนู ในเมื่อชุดใหม่ที่สั่งตัดมา ท่านได้ให้คุณหนูสามยืมไปแล้ว”
“ในหีบมีชุดตั้งมากมายมิใช่หรือ” นางกล่าวเสียงเรียบเรื่อย ดูไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจเป็นพิเศษ
งานฉลองวันเกิดในค่ำคืนนี้เป็นงานภายใน มีเพียงญาติมิตรและผู้ที่เกี่ยวดอง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพยายามทำตัวเองให้งดงามโดดเด่นเท่ากับงานพิธีในช่วงเช้า
แต่ในงานนี้คงมีคุณชายตระกูลเถาซึ่งเป็นญาติกับฮูหยินเจ็ดมาร่วมด้วย และหากนางจำไม่ผิด...คนจากตระกูลซี ตระกูลท่านตาของนางก็คงจะมาร่วมอวยพรวันเกิดนางเช่นกัน
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันนานมาก จางเหนียนจึงหลงลืมรายละเอียดบางอย่างไปบ้าง และนอกจากชีวิตที่สี่ที่นางไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวฝั่งมารดา หญิงสาวก็ไม่ได้สนิทสนมกับฝ่ายนั้นจึงไม่ได้เก็บมาจดจำ
ผู้เป็นเจ้าของวันเกิดจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวันนี้ญาติฝ่ายมารดาส่งผู้ใดมาเป็นตัวแทนมอบของขวัญและอวยพรตน
ในใจจางเหนียนครุ่นคิดเรื่อยเปื่อยอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อพบว่าสาวใช้ของตนเอาแต่ยืนนิ่งเป็นตอไม้ “ชิวชิว ยืนนิ่งอยู่ทำไม”
“คุณหนูรอง...” แม้ฮูหยินรองกับคุณหนูสามจะไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยง ทว่าก็ยังมีฮูหยินกับคุณหนูคุณชายคนอื่นๆ หากพวกเขามองออกว่าหญิงสาวใส่ชุดเก่าในงานเลี้ยงวันเกิดของตนเองแล้วพากันดูถูกจะทำอย่างไร
ชิวชิวไม่ต้องการให้จางเหนียนถูกผู้อื่นติฉินนินทา แต่เวลานี้ถ้าจะไปหาซื้อชุดใหม่ก็คงไม่ทันแล้ว
คุณหนูรองของคฤหาสน์เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของชิวชิวก็ทอดถอนหายใจ หยัดกายยืนขึ้นเต็มความสูงพลางเกี่ยวผมยาวทัดเข้าหลังใบหู “เจ้าช่วยข้ารื้อชุดเก่าๆ ออกมาจากหีบ นำกรรไกร เข็มและด้ายมาด้วย”
“คุณหนูจะเอาไปทำอันใดหรือเจ้าคะ”
“ข้าจะดัดแปลงชุดเดิมให้กลายเป็นชุดใหม่”
“ทะ...ท่านแน่ใจรึเจ้าคะ” ผู้เป็นสาวใช้ถามกลับอย่างลังเล แม้ฝีมือการเย็บปักของจางเหนียนจะดีขึ้น ทว่าการตัดเย็บชุดจำเป็นต้องอาศัยความชำนาญเป็นอย่างมาก
จางเหนียนยักไหล่น้อยๆ เดินไปเปิดหีบผ้าตรงมุมห้องด้วยตนเอง “ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้วมิใช่หรือ”