bc

ย้อนเวลามาเป็นมารดาสุดยอดนักปั้น

book_age18+
824
FOLLOW
5.6K
READ
HE
time-travel
blue collar
lighthearted
addiction
like
intro-logo
Blurb

เมื่อสาวประเภทสองนักปั้นดารามือทองระดับประเทศของไทยได้สิ้นใจลง วิญญาณของเธอได้ข้ามมิติของเวลาย้อนไปในอดีตแห่งยุคจีนโบราณเพื่อทำภาระกิจ ‘ปั้น’ เด็กน้อยสองคนที่เป็นกำพร้ามารดาและถูกบิดาแท้ๆทอดทิ้ง มาช่วยกันลุ้นว่าการปั้นครั้งนี้จะยากหรือจะง่าย จะเหมือนกับการปั้น ‘ซุปตาร์’ หรือไม่

********************

ลืมตาตื่นขึ้นมาก็ดันมีสามีและลูกน้อยตั้งสองคน กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเจ๊ฝูเฟยเมี่ยวก็ถูกสามีทิ้งไปซะแล้ว ฮึ! แต่ผู้ใดจะง้อเล่า คนเก่ง มากความสามารถอย่างนักปั้นดาราระดับประเทศ สามีเฮงซวยแห่งชาติพันธุ์นั้นเจ๊ไม่อยากได้หรอก คนสวยและรวยมากอย่างเจ๊ต้องมีสามีที่ดีเท่านั้น เพราะสามีที่ดี = สามีใหม่ ( ที่หล่อ รวย ชาติตระกูลดีกว่านะสิ)

อัครพล หรือ ชื่อที่คนในวงการเรียกว่าเจ๊ฝูเฟยเมี่ยว สาวประเภทสองที่เป็นนักปั้นดารามือทองระดับประเทศของเมืองไทยออกกำลังกายอย่างหนักและหักโหมหวังจะรีดน้ำหนักแต่จู่ๆกลับวูบล้มหัวฟาดฟื้นตายคาฟิตเนส มันน่าเสียดายจริงๆ งานกำลังรุ่ง ชีวิตกำลังพุ่งในวัย 50 ปี แต่กลับต้องมาม้วยชีวีเพราะความอยากผอม ( อย่างแรง)

เพราะสวรรค์มีใจหรืออย่างไรก็มิทราบ ความเป็นนักปั้นของนางได้เข้าตากรรมการให้นางได้กลับมาเกิดใหม่ในร่างของสตรีโชคร้ายร่างกายผ่ายผอมและอ่อนแอที่เพิ่งถูกสามีทิ้ง ( หลังจากที่ส่งเสียสามีให้ได้ดิบได้ดี สอบเข้าเป็นขุนนางขั้นเล็กๆได้) เรื่องอะไรนางจะแคร์ เดินหน้าทำมาหากินเพื่อความรวยพร้อมๆกับการปั้นลูกน้อยสองคนให้เจิดจรัสเป็น ดาวแห่งแคว้นต้าเฉิงซะให้เข็ด แล้วคอยดูนะ บิดาบังเกิดเกล้าจะว่าไง

*** คำเตือน***

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่เกิดจากการจินตนาการของผู้เขียนให้มีกลิ่นอายและอรรถรสคล้ายกับจีนยุคโบราณ บุคคล สถานที่ต่างๆล้วนไม่มีอยู่จริง บางสิ่งบางอย่างหรือหลายสิ่งหลายอย่างอาจจะไม่สมเหตุสมผล และเหนือความคาดหมาย แบบว่าไรท์ชอบความ ‘mix and match’ แมงสะดิ้ง จิ้งหรีด จี้ป่มก็มา แมงกินูนก็มี แมงกุดจี่ก็ขอแจม ฟังดูท่าจะมันส์

มาจ้า…มาช่วยกันลุ้นและเป็นกำลังใจให้กับเจ๊ฝูเฟยเมี่ยวและ ‘ซุปตาร์’ แห่งต้าเฉิงทั้งสอง

‘จากอดีตกรรมกรก่อสร้าง สู่นักปั้นดารามือทอง’ นั่นคือแคปชั่นที่นักข่าวมักกล่าวถึงนาง

ฝูเฟยเมี่ยวไม่ใช่อัจฉริยะ ไม่ได้เก่งกาจฉลาดล้ำกว่าใคร แต่เป็นเพียงคนธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้ ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา ถือคติที่ว่า ‘ตราบใดที่เราไม่ยอมล้มเลิก เราก็จะไม่ล้มเหลว’ ‘ ตราบใดที่เรายังไม่ยอมหยุดก้าวเดิน เรายังมีโอกาสชนะ’ ‘ตราบใดที่เราไม่ยอมแพ้ เราก็จะไม่แพ้’

เพราะในสังคมที่เราอยู่นั้น จะมีอัจฉริยะ หรือคนที่ฉลาดเก่งกาจเกินมนุษย์มนาสักกี่คนกัน และเราก็คงไม่กล้าฝันใหญ่ที่จะเป็นใครคนนั้น แต่…ถ้าคนธรรมดาคนหนึ่ง สามารถสร้างความสำเร็จขึ้นมาได้ ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้มีอะไรที่เหนือกว่าคนอื่น มีเพียงหัวใจที่แข็งแกร่ง เขาก็คือผู้ที่สำเร็จยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน ซึ่งมีให้เห็นดาษดื่นในเวลานี้ในสังคมของเรา ความตั้งใจของไรท์คือ อยากจะให้นิยายเรื่องนี้เป็น inspiration ให้กับทุกๆคน

chap-preview
Free preview
ตอนที่1 เกิดใหม่อีกทีดันมีสามีและลูกพร้อม (1)
อัครพล หรือ ชื่อที่คนในวงการเรียกว่าเจ๊ฝูเฟยเมี่ยว สาวประเภทสองที่เป็นนักปั้นดารามือทองระดับประเทศของเมืองไทยออกกำลังกายอย่างหนักและหักโหมหวังจะรีดน้ำหนักแต่กลับวูบล้มหัวฟาดฟื้นตายคาฟิตเนส มันน่าเสียดายจริงๆ งานกำลังรุ่ง ชีวิตกำลังพุ่งในวัย 50 ปี แต่กลับต้องมาม้วยชีวีเพราะความอยากผอม (อย่างแรง) คราแรกฝูเฟยเมี่ยวก็นึกไม่ออกหรอกนะว่าหลังตายนี่มันจะเป็นอย่างไร (ก็ใครจะนึกออกล่ะ และที่สำคัญคือไม่มีใครอยากจะนึกด้วย เพราะคงไม่มีใครอยากตาย) แต่พอหลังจากได้ลืมตาขึ้นมาหลังจากความตายก็พบว่าอันที่จริงความตายมันก็ไม่ได้น่ากลัวสักเท่าไหร่ ชีวิตใหม่ที่ได้มามันก็เหมือนเป็นการผจญภัยนั่นแหละ “อาเมี่ยว อาเมี่ยว นี่เจ้ายังหายใจอยู่หรือไม่ เจ้าอย่าเพิ่งด่วนจากไปเช่นนี้เลย ลูกเล็กๆ อีกตั้งสองคนจะอยู่อย่างไร สามีเจ้าก็ไม่อยู่แล้ว” เสียงร่ำไห้ปนสะอื้นนั้นฟังดูให้รู้สึกรันทดยิ่งนัก ฝูเฟยเมี่ยวพยายามขยับเปลือกตาที่หนักอึ้งเพื่อที่จะลืมตาขึ้นมามองดูว่าตอนนี้เป็นละครเรื่องอะไร แน่นอนว่าละครทุกเรื่องของเด็กในสังกัดนางต้องติดตามดูให้ครบ ฝูเฟยเมี่ยวปรือตาขึ้นได้เพียงเล็กน้อยก็ต้องรีบหลับตาลงเพราะแสงที่ส่องทะลุฝาบ้านเข้ามาแยงตาจนเจ้าตัวต้องรีบยกมือขึ้นมาขยี้ตา “นั่น อาเมี่ยว เจ้าฟื้นแล้ว เจ้ายังไม่ตาย ใช่ เจ้ายังไม่ตายจริงๆ ด้วย” น้ำเสียงที่แหบแห้งนั้นฟังดูดีใจไม่น้อย “อุแว๊ๆๆๆ” ฝูเฟยเมี่ยวขยับตัวพยายามจะลุกขึ้น นางอยากรู้ว่าเสียงพูดที่ฟังดูคล้ายเป็นเสียงของสตรีสูงวัยนั้นเป็นผู้ใด และยังมีเสียงเด็กทารกร้องนั่นอีก “อาเมี่ยว ค่อยๆ นะ มา เดี๋ยวข้าช่วย” หญิงชราหน้าตาซีดเซียวขยับเข้ามาช่วยพยุงฝูเฟยเมี่ยวให้ลุกขึ้นนั่ง คราวนี้เองที่ดวงตาของนางได้มองเห็นสิ่งต่างๆ ตรงหน้าได้ชัดเจนมากขึ้น หญิงชราหน้าตาซีดเซียว ผมเผ้าดูกระเซอะกระเซิง เสื้อผ้าดูผิดแผก แปลกประหลาด สถานที่ที่นางอยู่ตอนนี้มีกลิ่นอายของความจนยาก ผนังทำจากไม้กระดานเก่าๆ ผุๆ เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไปก็เห็นหลังคาที่ทำจากใบหญ้าคาแห้ง หน้าต่างก็ทำจากหญ้าคา เอ…หรือว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งฉากของละครที่เด็กในสังกัดของนางคนใดคนหนึ่งกำลังถ่ายทำอยู่กันนะ? “อุแว๊ๆๆๆ” เสียงเด็กทารกที่ดังขึ้นมาอีกครั้งทำให้ฝูเฟยเมี่ยวต้องหันไปจ้อง “นะ…นี่ นี่ลูกใคร?” นางถามออกมา ใบหน้าฉงน หญิงชรามุ่นหัวคิ้ว “อาเมี่ยว นี่ลูกของเจ้าอย่างไรล่ะ ข้าเพิ่งจะทำคลอดให้เจ้าเสร็จ พอเด็กคลอดเจ้าก็สลบไปเลย นานกว่าหนึ่งชั่วยามถึงได้ตื่นขึ้นมา ใจข้ายังนึกหวั่นๆ ว่าเจ้าจะ อะ…เอ่อ…” หญิงชราอ้ำๆ อึ้งๆ “ลูก ลูกของ…” ฝูเฟยเมี่ยวชี้มือเข้าหาตนเองสลับกับจ้องมองทารกน้อยในห่อผ้าขี้ริ้วเก่าๆ ขาดๆ นั่น พลัน…นางก็มีอาการปวดหัวและวิงเวียนคล้ายลมหมุน ความทรงจำแปลกๆ เรื่องราวอันประหลาดเหมือนพล็อตละครน้ำเน่านั่นหลั่งไหลเข้ามาสู่หัวของนาง นี่มันอะไรกัน หรือว่า… ละครและภาพยนตร์ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการย้อนเวลา การตายแล้วเกิดใหม่หรือแม้แต่การข้ามภพข้ามชาตินั้นมีให้เห็นดาษดื่น ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า…เป็นไปไม่ได้ และแล้วก็มีเสียงๆ หนึ่งดังใกล้ๆ กับหูของนาง “อัครพล เอ่อ…อื้ม…ฝูเฟยเมี่ยว อันที่จริงตัวของเจ้านั้นได้ตายไปแล้ว แต่เพราะเจ้ามีชื่อเดียวกับเจ้าของร่างนี้และจิตวิญญาณของการเป็นนักปั้นของเจ้าทำให้เจ้าได้ย้อนเวลามาในอดีตเพื่อมาทำภารกิจในการดูแลเด็กน้อยที่น่าสงสารสองคนนี้ เพราะสวรรค์มีตา เชื่อว่าเจ้ามีจิตวิญญาณของการเป็นผู้ให้จึงได้นำพาดวงวิญญาณของเจ้ามาที่นี่ ขอจงใช้ชีวิตที่ได้รับมาใหม่อย่างมีความสุขเถิด” หา…นี่มันอะไรกัน มาแต่เสียงไม่เห็นตัว ฝูเฟยเมี่ยวส่ายหน้าแรงๆ พลางกระพริบตาถี่ๆ รัวๆ สิ่งที่เห็นก็ยังคงเป็นสภาพแวดล้อมเช่นเดิม บ้านไม้เก่าๆ ผนังผุๆ พังๆ หลังคาทำจากหญ้าคา หน้าต่างทั้งสี่ด้านก็ทำจากหญ้าคาเช่นกัน และ…สตรีสูงวัยตรงหน้ากำลังส่งเด็กทารกให้นางพลางยิ้มกว้าง “เด็กคงหิวนมแล้ว ดูสิ เป็นเด็กผู้ชายซะด้วย ท่าทางแข็งแรง ตอนคลอดนี่ร้องเสียงดังเชียว น่าเสียดายที่…” หญิงชราที่มีใบหน้ายิ้มแย้มพอพูดมาถึงตอนท้ายประโยคสีหน้ากลับเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองเอาซะอย่างนั้น ฝูเฟยเมี่ยวรับเด็กทารกมาอย่างเก้ๆ กังๆ พอเริ่มตั้งสติได้นางก็ปล่อยให้หญิงชราช่วยนางให้เด็กทารกนั้นได้กินนมจากเต้า เต้า…ที่ชาติที่แล้วนางไม่มี ต้องไปผ่าตัดเสริมจึงมีเหมือนของสตรีทั่วๆ ไป “อ๊ะ!” ฝูเฟยเมี่ยวทำท่าตกใจเมื่อโดนเด็กทารกนั้นกระซวกดูดเต้านม “อย่าเกร็งไปสิ เจ้าเองก็เคยมีลูกมาแล้วคนนึง เด็กมันยังไม่หิวมากหรอก เพิ่งคลอด คงจะอยากดูดเฉยๆ เฮ้อ…นี่อาซวนจะรู้หรือไม่นะว่าเขาได้ลูกชาย” หญิงชราพูดไปก็ถอนหายใจไป ดะ…เดี๋ยว นี่มันเรื่องอะไร ยังไงกัน เวลานี้ฝูเฟยเมี่ยวทำหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด นางค่อยๆ ตั้งสติในขณะที่ปล่อยให้เด็กทารกนั้นดูดนมของตน “ป้า อะ…เอ่อ ท่านป้า ท่านช่วยเล่าให้ข้าฟังซิว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง พอหลับไปตื่นขึ้นมาข้าจำอะไรไม่ได้เลย” ฝูเฟยเมี่ยวแสร้งทำเป็นเอ่ยถาม จากความทรงจำที่นางได้รับมา สามีของร่างนี้ชื่อฉีห่าวซวน เขาเพิ่งจะสอบเข้ารับราชการได้และวันนี้ก่อนที่นางจะคลอดลูกเขาก็ได้เดินทางกลับมาที่บ้านเกิดเพื่อแจ้งข่าวดีกับพี่สาวทั้งสองของเขา พร้อมกับแจ้งข่าวร้ายให้กับเจ้าของร่างได้รับรู้ว่า ต่อไปเขาอาจจะไม่ได้กลับมาอีก แต่จะพยายามฝากคนนำเงินมาให้สำหรับเป็นใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรทั้งสอง หมายความว่า… “อาเมี่ยว ข้าเสียใจกับเจ้าด้วย สามีของเจ้าเขาไปได้ดีแล้ว เขาคงไม่กลับมาแล้วล่ะ แต่อย่างไรอาซวนเขาก็สัญญานะว่าจะฝากให้คนนำเงินมาให้เจ้าเลี้ยงดูลูกทั้งสอง เจ้าทำใจเสียเถอะ อย่างน้อยเจ้าก็ยังมีอาหรงและ เอ้อ…แล้ว…เจ้าเด็กคนนี้เจ้าจะตั้งชื่อว่าอะไร?” ‘ยังมีเด็กอีกคนหรือ ใช่แล้ว จากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม นางมีลูกสาวอายุ 3 ขวบอีกหนึ่งคนชื่อ ฉีฟางหรง เช่นนั้นเด็กคนนี้จะชื่ออะไรดีนะ เอาเป็นชื่อเฟยหลงละกัน’ ฝูเฟยเมี่ยวทำหน้านิ่งพลางครุ่นคิด “ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะท่านป้า เรื่องผู้ชายทิ้งลูกทิ้งเมียเมื่อยามตัวเองได้ดิบได้ดีแล้วมีอยู่เกลื่อนไป แค่นี้ไม่ทำให้ข้าสะเทือนหรอก ฮึ!” พูดจบฝูเฟยเมี่ยวก็ทำท่าเบ้ปาก

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook